Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
นานาสาระ
แม่และเด็ก & ครอบครัว
ดูแลผิวพรรณ Skincare
ขำขัน
Inspirational Quotes - Love ความรัก
Inspirational Quotes - Life and Religion ชีวิตและศาสนา
Jokes - ภาพฮา ๆ
ศาลาธรรม
English Songs - เพลงสากล
Inspirational Quotes - Proverbs สุภาษิตนานาชาติ
Thai Songs - เพลงไทย
Inspirational Quotes - Miscellaneous หลากหลายข้อคิด
All blogs
คำอธิบายเกี่ยวกับบุพเพสันนิวาส, เนื้อคู่, คู่ครอง, คู่กรรม และเหตุที่ผิดหวังในความรัก
เรื่องเล่าน่าคิด...หมาไล่งับเนื้อ
พยานบุญ-พยานบาปที่สำนักท่านพระยายมราช
วิธีอยู่เหนือดวงชะตา (ดวงตก)
เทวดา กับการสวดมนต์
บทสวดมนต์ชัยมงคลคาถา
การค้นพบพระชัยมงคลคาถา
ฟังบทสวดพาหุง มหาการุณิโก
ฟังบทสวดคาถาชินบัญชร
พระสร้างถนน 57 ก.ม.-ไม่ง้องบจากรัฐ
คติธรรมคำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ผู้ใดมีพรหมวิหาร4 ผู้นั้นมีเสน่ห์ และมีใจสงบเย็น
ธรรมสบายๆ ของหลวงปู่
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
ผู้ใดมีพรหมวิหาร4 ผู้นั้นมีเสน่ห์ และมีใจสงบเย็น
พรหมวิหาร4
1.เมตตา
รู้สึกสงสารผู้อื่น เอ็นดูผู้อื่นอยู่เสมอ แม้ใครจะด่าจะว่า หรือใครจะมาทำร้าย ก็ยังนึกเอ็นดูสงสารในคนเหล่านั้น หากมีศัตรู ก็คิดกับศัตรูดั่งมนุษย์ที่น่าสงสารคนนึงที่ยังเวียนว่ายตายเกิดหาที่สุดไม่ได้
มองศัตรูด้วยสายตาที่เอ็นดูดั่งสายตาของมารดาแลดูบุตร สิ่งนี้จะทำให้ท่านมีแววตาเป็นประกายดั่งแก้วใส และมีพลังทำให้คนที่คิดร้ายหรือศัตรูต่างๆเปลี่ยนใจมาคิดดีต่อเรา ไปที่ไหนคนก็รักใคร่ อยากใกล้ชิด แม้ว่าจะเพิ่งรู้จักกันก็ตาม เพราะกระแสพลังของความเมตตา มีพลังมากที่สุดในโลกใบนี้ เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
2.กรุณา
ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบทุกข์ ช่วยเหลือแม้กระทั่งศัตรู ช่วยแม้กระทั่งไม่ทำให้ศัตรูโกรธเรา ช่วยไม่ให้เค้าเผลอก่อกรรมกับเรา เค้าด่ามาก็ไม่ด่าตอบ เพื่อช่วยให้เค้าไม่มีเวรกับเรา เห็นขอทาน หรือคนที่เดือดร้อนก็ช่วยเหลือแบบไม่ต้องตระหนี่
พระพุทธองค์สอนให้ทำทาน เพื่อลดความตระหนี่ในตัว และเผื่อแผ่ช่วยเหลือกันและกัน เป็นการทำบุญซึ่งถือว่าเป็นอริยทรัพย์ตามติดไปภพหน้าได้ทุกภพ
ท่านจะดูมีสง่าราศี แม้แต่หมายังไม่กล้ากัด มีแต่เดินตามกระดิกหาง หรือคนเจอหน้าก็รักใคร่ ไปที่ไหนคนก็อยากเสวนาด้วย
3.มุทิตา
ยินดีในสิ่งที่ผู้อื่นมี ยินดีในสิ่งที่ผู้อื่นเป็น ใครจะได้ดีกว่าเราก็ยินดีกับเค้า เค้าทำความดีเราก็อนุโมทนา ไม่อิจฉาริษยา ไม่ไปนินทาให้ร้ายเค้า ไม่หมันไส้หรือน้อยเนื้อต่ำใจใดๆ
ใครด่าว่าเราก็ยินดีในเสียงที่ด่าเข้ามา เสียงนินทาเราก็ยินดีที่เค้าได้นินทาเราไป เพราะแสดงว่าเราได้เคยทำกรรมกับเขามาก่อน เราจึงต้องมาโดนด่าในวันนี้ ส่วนที่เราต้องยินดี นั่นก็เพราะว่าเราได้มีโอกาสได้ชดใช้กรรมแล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสชดใช้กรรมให้หมดไปโดยไม่เกิดการจองเวรกัน และได้บุญเพิ่มขึ้นอีกอย่างนึง คือ อภัยทาน นี่เป็นการทำให้เรายินดีน้อมรับแม้แต่คำด่าคำติฉินนินทา
ยินดีที่ผู้อื่นดีกว่าเรา ยินดีที่เราไม่มีวันจะเก่งเหมือนใคร พอใจที่เกิดมาแบบนี้ แล้วท่านจะมีเสน่ห์มาก จะมีความมั่นใจในตัวเอง และสีหน้าสว่างไสว ความหมองจะไม่มี
4.อุเบกขา
ระลึกเสมอว่า ไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตนอย่างแท้จริง เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเลวหรือดี เขาก็ยังเวียนว่ายตายเกิดเหมือนเรา เขาทำอะไรมา ท่านก็วางเฉย อย่าไปเอามาเก็บจนปั่นป่วนใจ
มีใจเป็นกลาง ใครมาพูดอะไรกระทบใจ ก็ทำใจเฉยๆไว้ เหมือนสายลมโชยที่พัดคลอใบหู ไม่มีแก่นสารใดๆให้มาทำร้ายใจเราได้
ใครทำอะไรมาก็วางเฉย เพราะเชื่อในกรรมว่า กรรมจะจัดสรรผลกรรมได้ยุติธรรมที่สุด ความทุกข์ที่แท้จริงคือทุกข์ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้น ดังนั้นแค่ใครด่าว่าเรามันเป็นเรื่องจิ๊บๆ ขำๆ ให้วางเฉยซะ
ความทุกข์เล็กๆน้อยๆจะทำอะไรเราไม่ได้เลย มองความทุกข์พวกนั้น ให้เล็กน้อยเหมือนสายลมโชยผ่านสลายไป เรื่องที่ต้องทำคือเรื่องตัวเอง ว่าทำยังไง ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องคนอื่นไม่ต้องไปแก้นิสัยใคร ไม่ต้องไปเก็บคำพูดหรือการกระทำคนอื่นมาจ้องจับผิดหรือตีโพยตีพาย หรือเอามาใส่ใจจนเจ็บข้ามวันข้ามคืน แล้วท่านจะมีเสน่ห์มาก ใครเห็นใครรัก เวลาดวงตกก็จะไม่หนักเหมือนคนอื่น นี่คือพลังของอุเบกขา
Create Date : 14 เมษายน 2550
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 5:03:23 น.
8 comments
Counter : 506 Pageviews.
Share
Tweet
เห็นด้วยค่ะ
เคยร้อนรนเพราะคนเคยใกล้ตัว
เคยโกรธเกลียด คนเคยใกล้ตัว
เมื่อมีเวลาให้กับตัวเอง
คิดว่า โกรธไปไยเล่า เผาใจตัวเองเปล่า ๆ
เกลียดไปไยเล่า เกลียดแล้วได้อะไรขึ้นมา
นิ่ง ๆ เฉย ๆ สบายใจกว่าค่ะ
โดย:
Big Spender
วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:11:08:26 น.
อ่านจบแล้วก็สงบเย็นค่ะ
ขอบคุณและอนุโมทนา
โดย:
หน้าม้าแถวบ้าน
วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:12:47:24 น.
very good
โดย:
someone like me
วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:13:27:40 น.
1. เมตตา : ความปราถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้
และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น
2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกาย
ไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
- ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และ
ความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์
- ทุกข์จรหรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุก
3. มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิดความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกงของเพื่อนนักเรียนคนนั้นให้สกปรกเลอะเทอะ เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง
4. อุเบกขา : การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
โดย: L IP: 203.150.100.126 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:19:21:03 น.
ทำยังไงก็วางอุเบกขาไม่ได้สักที
เห็นใจมันร้อนรุ่มขึ้นมาเชียว
อยากช่วยๆแต่ไม่รู้จะทำไงดี
โดย: เฮ้อ.... IP: 118.174.200.88 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:59:56 น.
โดย: จิรา IP: 124.120.163.132 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:21:26 น.
เป็นบทความ ที่อ่านแล้วได้ประโยชน์มากเลยครับ
โดย: ลูกชิด IP: 58.9.228.218 วันที่: 8 มิถุนายน 2551 เวลา:11:46:58 น.
เป็นบทความที่หากมนุษย์เราสามารถยึดถือปฆิบัติได้
สังคมไทยก็จะมีแต่รอยยิ้ม ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ที่นำมาเผยแพร่ให้ตาสว่างขึ้นค่ะ
โดย: ธนพร IP: 203.80.56.47 วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:8:04:04 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Sunny Shiny Day
Location :
WA United States
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
"โลกสอนมนุษย์ว่าทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่โลกก็กลับสอนให้มนุษย์ผูกพัน"
โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต
Custom Search
Free Blog Content
Forecast
Radar
Cameras
Photos
Forecast
Satellite
Photos
Food Blogs
ปูขาเก เซมารู
นางฟ้าของชาลี
natharee
ladyfoo
patchchoy
Triny
swiss-jukky
Beebie
Maesalim
Bigsize
Bonbini
Tiara
Baked by PonG
ART@US
Satomajung
about Weblogs
ป้ามด
Kobutazila
พลอยสีรุ้ง
Nilz
Plaze
Uggie
Beautyswan
เนยสีฟ้า
รำเพย
Rayasuree
Fakeplasticgirl
แพรวขวัญ
fluffyboy
lozocat
Music Blogs
ชาเขียว
เซ็นเซอร์
Blueballoon
สาว 17
ประกายดาว
vistapa
Education Blogs
สดายุ
thaihypn
amatuertranslator
travelaround
Beauty Blogs
Phoebe
vamos_ferrero
alwaysfluke
oop*ib
napassawan
Cinnamongal
Friends' blogs
KungGuenter
สาวตรังใจกว้าง
Quel
Webmaster - BlogGang
[Add Sunny Shiny Day's blog to your web]
Links
เรื่องเล่า...ครั้งผมครองเพศบรรพชิต
Beauty Comes True
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เห็นด้วยค่ะ
เคยร้อนรนเพราะคนเคยใกล้ตัว
เคยโกรธเกลียด คนเคยใกล้ตัว
เมื่อมีเวลาให้กับตัวเอง
คิดว่า โกรธไปไยเล่า เผาใจตัวเองเปล่า ๆ
เกลียดไปไยเล่า เกลียดแล้วได้อะไรขึ้นมา
นิ่ง ๆ เฉย ๆ สบายใจกว่าค่ะ