Bloggang.com : Sunny Shiny Day - ปฐมบทเกี่ยวกับ Skincare

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Group Blog

All blogs

ปฐมบทเกี่ยวกับ Skincare

ปฐมบทเกี่ยวกับ Skincare

เกิดเป็นผู้หญิงก็คงไม่พ้นเรื่องความสวยความงาม ดูแลผิวพรรณ แต่งหน้าแต่งตัว บางคนชอบแต่งหน้า บางคนชอบแต่งตัว สำหรับดิฉันชอบเรื่องดูแลผิวพรรณ Skincare เพราะอยากให้ใบหน้าเราสะอาด ผ่องใส ไร้ร่องรอย ถ้าเรามีผิวหน้าดีก็ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าให้หนาเตอะ แต่งบาง ๆ ก็พอเพราะเราจะโชว์ผิวหน้าใส ๆ ธรรมชาติ ดิฉันเคยเห็นผู้หญิงคนหนึ่งบนรถไฟฟ้า หน้าใสมากกกกกก ใสแบบต้องขอจ้อง เธอไม่ได้แต่งหน้าเลย แต่เพราะหน้านวลผ่องสะอาดสะอ้านทำให้ดิฉันแอบมองอยู่หลายที เห็นเธอถือถุง Biotherm อยู่ในมือเลยขอเดาว่าเธอคงใช้ผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้หน้าจึงสดใสเปล่งปลั่ง ไม่ได้การเราคงต้องหันมาดูแลผิวหน้าอย่างจริงจังซะที

การดูแลผิวหน้าควรจะเริ่มแต่เนิ่น ๆ ประมาณเข้ามหาวิทยาลัยหรืออายุ 17-18 ปี ริ้วรอยต่าง ๆ จะได้มาช้า พื้นฐานการทำความสะอาดใบหน้ามี 3 ขั้นตอนคือ ล้างหน้า เช็ดหน้า ทาหน้า คือล้างหน้าให้สะอาด เสร็จแล้วเช็ดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้า สุดท้ายคือให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันริ้วรอย สิ่งที่ต้องใช้มี 3 อย่างคือ Cleanser, Toner หรือ Softener แล้วแต่แต่ละยี่ห้อจะเรียก และ Moisterizer นอกจากนั้นอาจใช้ Scrub, Mask เป็นตัวเสริม

ข้อแนะนำสำหรับการเลือกใช้ Skincare แบบง่าย ๆ คือ

1. ลองใช้ผลิตภัณฑ์และตัดสินใจด้วยตัวเอง

ผลิตภัณฑ์บางอย่างเหมาะกับบางคน ได้ผลดีกับบางคนแต่ไม่ใช่ทุกคน มีพี่ที่รู้จักคนหนึ่งเป็นแฟน Clinique ใช้คลีนิคทั้งล้างหน้า แต่งหน้า เราก็เห็นว่าหน้าพี่เขาใสดี ดูอ่อนวัยมาก ยี่ห้อนี่คงใช้ดี เลยลองซื้อมาใช้บ้าง โอ้โฮ...เกือบแย่ ใช้แล้วหน้ามันมาก สิวขึ้นเพียบ ต้องบอกลาแบบถาวร เป็นบทเรียนว่าอย่าเชื่อคนอื่น ต้องทดลองใช้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย อย่างตัวเองตามหลักการเป็นคนผิวผสมค่อนข้างมัน เวลาซื้อ Skincare ก็จะเลือกสำหรับผิวผสม ปัญหาคือหน้ายังมันอยู่ สุดท้ายเลยต้องเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันแทน หน้าหายมันไปเยอะทีเดียว

2. ลองหมุนเวียนเปลี่ยนผลิตภัณฑ์

หากใช้ผลิตภัณฑ์เดิม ๆ ไม่เปลี่ยน ผิวจะเริ่มอยู่ตัว ทำให้ไม่ค่อยเห็นผลแตกต่าง ให้ลองเปลี่ยนหมุนเวียนใช้ผลิตภัณฑ์อื่นยี่ห้ออื่นบ้าง ให้ผิวได้ลองอะไรใหม่ ๆ ตัวดิฉันเองจะใช้ Lancome กับ Shiseido เป็นหลัก สลับกันใช้ พอใช้ลังโคมหมด ครั้งหน้าก็ใช้ชิเชโด แต่บางครั้งเบื่อก็เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น ๆ ลองของใหม่ บางทีก็ทำให้เราพบว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นก็ให้ผลดีกว่าหรือดีไม่ต่างกัน แถมราคาถูกกว่าด้วย

3. อย่าใช้ของราคาเกินตัว

ใช้ของที่ทั้งสบายใจและสบายกระเป๋า บางทีของราคาแพงก็ไม่แตกต่างจากของราคาธรรมดา มันล้วนแต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดให้เราจ่ายแพงขึ้น คุณรู้หรือเปล่าว่า

Lancome, Biotherm, Shu Uemura, Helena Rubinstein, Loreal, Garnier.....มาจากบริษัทเดียวกันคือ Loreal

Estee Lauder, Clinique, La Mer, MAC, Bobbi Brown, Origins.....ก็มาจากบริษัทเดียวกันคือ Estee Lauder

ส่วนผสมในสินค้าก็คล้าย ๆ กันต่างกันที่ความเข้มข้นเท่านั้นเอง เช่น ส่วนผสมในลอลีอัลก็จะเจือจางกว่าลังโคม หรือ ส่วนผสมในคลีนิคไม่มีน้ำหอมและเจือจางว่าเอสเต้ เอาเป็นว่าแล้วแต่ความสบายใจและสบายกระเป๋าของแต่ละคนล่ะกันนะคะ

4. เลือกซื้อช่วงที่มีของแถม

ในเมื่อเราซื้อของเขาใช้อยู่แล้วก็เลือกช่วงที่เขาแจกของแถมมาด้วยดีกว่า เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นอกจากได้ของใช้แล้วยังได้ตัวอย่างครีมต่าง ๆ มาลองหรือบางทีได้เซ็ตแต่งหน้ามาใช้ฟรี

ที่เมืองไทยจะมีของแถมทุกเดือนเช่น ซื้อครบทุก 5,000 บาทหรือ 8,000 บาทแถมกระเป๋าพร้อม travel set แต่ที่อเมริกาไม่ได้มีทุกเดือน มีทุก 2 หรือ 3 เดือน อย่างชิเซโด้นี่รอกันแทบ 5 เดือน ฉะนั้นพอมีของแถมออกมาต้องรีบซื้อเก็บไว้

จริง ๆ การรักษาผิวพรรณควรดูแลจากภายใน เช่น ทานผัก ผลไม้ น้ำเปล่ามาก ๆ นอนหลับให้เพียงพอ แต่ฉันทำไม่ด้ายยยยย...เมื่อวานนี้ยังนั่งทานไอศครีม มันฝรั่งทอด เป๊ปซี่อยู่เลย ดูแลจากภายในไม่ได้ก็ต้องหันมาดูแลภายนอก เสียเงินมากมายอย่างนี้แหล่ะน้าาาา