เมื่อเกิดมาแล้ว พบสิ่งประเสริฐ ไม่ศึกษาเพื่อเข้าถึง น่าเสียดายมาก
บันทึกธรรม - หน้า 6

- สติ รู้การเคลื่อนไหวของจิต รู้การหยุดนิ่งของจิต
- รู้กิเลสที่กำลังมีอิทธิพลเหนือเรา
- ไม่ต่อต้าน ไม่คล้อยตาม รู้ตามเป็นจริง
- เป็นกลาง ไม่ใช่อยู่ตรงกลาง จิตอยู่นอกๆ รู้ว่าอยู่นอกๆ ก็เป็นกลางตรงนั้น
- จิตมีหน้าที่คิด ไม่ใช่จิตพระอรหันต์ไม่คิด แต่ท่านไม่ยึดถือ
- กายมีอยู่รู้ว่ามีอยู่ จิตมีอยู่รู้ว่ามีอยู่
- รู้อย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อยากให้มันดี
- ทำมากไป จะไม่มีความสุข พอมีความสุขมากไป ก็พร้อมจะหลง
- ขั้นแรก รู้ตัว ขั้นสองรู้กายรู้ใจ ขั้นสามเห็นไตรลักษณ์
- สักว่ารู้ สักว่าเห็น จริงๆ ต้องขั้นสังขารุเบกขาญาน
- กายเสพอาหาร, จิตเสพอารมณ์ เพื่อ Serve อัตตาตัวตน
- พระอรหันต์คิด ไม่มี Image คิดจากความว่าง ไม่สร้างอะไรเกินจากความคิด ไม่มีรูปไม่มีนาม
- มีสติเนื่องๆ เห็นรูปนามโดยความเป็นไตรลักษณ์ ถอดถอนความเป็นตัวตน
- จิตมีธรรมชาติปรุงแต่ง แล้วเราก็ไปช่วยมันปรุงแต่ง เลยยุ่งเหยิงไม่หมด ต้องขว้างทิ้งมันไปซะไม่ต้องไปแก้
- เวลาขาด ไม่ใช่ไปขาดที่อนุสัย แต่ไปขาดที่อาสวะ  อาสวะเป็นกิเลสที่ย้อมใจ ทำให้กิเลสไหลเข้าสู่จิตไม่ได้ เหมือนตัวเชื่อมต่อ Interface ระหว่างกิเลสกับจิต
- เมื่อรู้โดยไม่ปรุง โลกธาตุจะราบเป็นหน้ากลอง บางคนถึงตรงนี้บรรลุอริยมรรค สัมมาสมาธิจริงๆอยู่ตรงนี้ ตรงนี้สูงสุดที่ ปุถุชนจะเข้าถึงได้ เป็นจุดแยกของพุทธภูมิกับสาวกภูมิ
- ถ้าเรารู้ด้วยจิตที่เป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นภพนรก หรือสวรรค์ มันเท่าเทียมกันหมด
- ถ้าเราหวั่นไหวกับความเสื่อม เราจะอยู่กับความเสื่อมตลอดไป
- อย่า อยากบรรลุธรรม ถ้าอยาก จะไม่บรรลุ ไม่ปฏิบัติเพื่อเอาอะไร ให้ปฏิบัติเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า
- ถ้ามีโมหะจะไม่รู้สภาวะ ฉะนั้นเมื่อไหร่รู้สึกไม่รู้อะไร ให้รู้ว่านั่นแหละมีโมหะ
- สติบ่อยดี สติกล้าแข็งไม่ดี คมกริชไปหมด ขาดความอ่อนโยนนุ่มนวล อาจเกิดวิปัสสนูกิเลสได้ จะเกิดตรงที่จิตขึ้นวิปัสสนาอ่อนๆ
- วิปัสสนาแท้ๆ เห็นได้ 2 อัน อันแรก เห็นสันตติ (ความสืบเนื่อง) ขาด, อันสองเห็นฆน (กลุ่มก้อน) แตก
- ถ้าบรรลุจริง ไม่หิวธรรมะ ไม่ทุรนทุรายอยากสอน ต้องช่างสังเกต อะไรเกิดขึ้นไม่เชื่อง่ายๆ
- จิตที่ตั้งมั่น เห็นสิ่งที่ปรากฏเป็นสิ่งที่ถูกรู้ถูกดู จะรู้สึกว่าสิ่งนั้นไม่ใช่เรา
- ถ้ายังคิดจะเอาอยู่ เช่น จะเอาความว่าง เจออะไรก็เหวี่ยงทิ้ง ยังไม่ใช่ของจริง
- ฝึกจนไม่ฝึก
- ความเป็นกลางจะมาเอง ไม่จงใจให้เป็นกลาง
- เมื่อเกิดกิเลสแรงๆ จิตจะหม่นๆ ตรงนี้เป็นวิบาก ไม่หาย ถ้าจิตยอมจำนนเพราะหลังชนกำแพง ไม่ใช่พยายามยอมจำนน ความทุกข์จะกระเด็นออกไป
- สุขของโลก สุขสกปรก ใจจะเปียกๆ
- ดูจิต ถ้าไม่นำหน้าด้วย ตัณหา มานะ ทิฐิ ทำเพราะน่าสนใจ จะได้ผลเร็ว




Create Date : 15 เมษายน 2554
Last Update : 17 เมษายน 2554 1:03:49 น. 3 comments
Counter : 431 Pageviews.

 
สาธุค่ะ


โดย: แม่อุ่น วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:8:35:46 น.  

 
อนุโมทนาบุญครับ


โดย: กัปตัน (chaichoti ) วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:15:19:47 น.  

 
ขอบพระคุณ คุณแม่อุ่น กับคุณกัปตัน ด้วยครับ
บันทึกไว้เกือบ 20 หน้า จะทยอยลงไปจนกว่าจะหมดครับ


โดย: โอม37 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:5:18:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

โอม37
Location :
Florida United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มนุษย์คนหนึ่ง ชั่วดีมีปน หลง-วนตายเกิด พบรถด่วนขบวนสุดท้าย กำลังเข้าคิวตีตั๋ว
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add โอม37's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.