GUNDAM 00 Second Season : episode 17
- เมื่อ 14 ปีก่อน การตัดสินใจถอนกำลังทหารเพื่อให้มารวมตัวป้องกันแนวรับสุดท้ายของ ลิฟท์อวกาศของเซอร์เกย์ ส่งผลให้กองทหารที่ 4 ที่มีมอลลี่ภรรยาของเขาประจำการอยู่ด้วย นั้นถูกทำลายจนย่อยยับ เป็นสาเหตุให้อังเดรไม่ยอมพูดคุยกับเซอร์เกย์อีกเลยนับแต่นั้น เพราะ เขายึดถือว่าเซอร์เกย์ได้ทำการฆ่ามอลลี่ในการปฏิบัติตามคำสั่งทหารครั้งนั้น - หลังจากได้รับภาพยืนยันของเมเมนโต โมริฐานที่ 2 ทุกคนในเซเลสเทียล บีอิ้งต่างตกใจ กับภาพที่ได้เห็นนี้ เคธี่เองก็โมโหกับการตัดสินใจนี้ของผู้บังคับบัญชาของเธอ แต่บิลลี่กลับแสดง ความเห็นว่าทางเบื้องบนจะสั่งยิงอาวุธดาวเทียมลงมาใส่ลิฟท์อวกาศอยู่ดี เพราะบุคคลเหล่า นั้นพร้อมที่จะแบกรับบาปอันใหญ่หลวงเพื่อสันติภาพชั่วนิรันดร์ ซึ่งโฮเมอร์เองก็กำลังคิดถึงเรื่อง นี้โดยเขาเห็นว่ามนุษย์ควรตระหนักถึงความโหดร้ายของความตายเพื่อจะได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของ สันติภาพอย่างแท้จริง ทางด้านฝ่ายกบฏนั้น แฮงค์สั่งให้รีบอพยพตัวประกันและทหารทั้งหมดลง ไปสู่โลกโดยเร็ว เขายอมรับว่าตัวเขาเองนั้นคิดการอะไรอ่อนหัดไปจริงๆ เพราะนับตั้งแต่ วินาทีที่ประชาชนในสถานีนี้ถูกจับเป็นตัวประกัน ทางสหพันธ์ก็ตัดสินใจเหมารวมประชาชนเหล่า นี้เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไปแล้ว ริบบอนส์ที่ติดตามเหตุการณ์นี้อยู่จึงเอ่ยออกมาว่านับตั้งแต่มนุษย์ ได้ทำการปฏิรูปอุตสาหกรรมและขานรับเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มนุษย์ก็ยัง ไม่พ้นจะนำความเจริญเหล่านี้มาใช้ห้ำหั่นทำลายล้างกันเอง ยุคของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ยืนยาว เพราะอายุขัยของพวกเขาเอง ไม่ช้าโลกก็กลับเข้าสู่กลียุคอีกครั้ง มนุษย์ไม่เคยได้เรียนรู้ จากอดีตของตัวเองเลย รีเจเน่จึงเสริมว่าเพราะเหตุนั้นอิโอเลีย เชนเบิร์คจึงได้สร้างพวก เขาเหล่าอินโนเวเตอร์ขึ้นมา กลุ่มบุคคลที่ไม่ใช่มนุษย์ ไม่แก่เฒ่าเหมือนมนุษย์ จะเป็นผู้นำ มนุษย์ก้าวพ้นจุดจบแห่งการทำลายล้างของมนุษย์กันเอง มีแต่พวกเขาอินโนเวเตอร์เท่านั้นที่ สามารถทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ ริบบอนส์จึงเอ่ยขึ้นมาต่อว่ารีเจเน่ลืมไปแล้วรึเปล่าพวกรีเจ เน่นั้นถูกสร้างขี้นมาโดยตัวเขาเอง มนุษย์จะไม่ได้ถูกชี้นำโดยอินโนเวเตอร์หรอก แต่จะถูก ชี้นำโดยเขา ริบบอนส์ อัลมาร์กต่างหาก - เมื่อมีหุ่นของทางคาตารอนลำหนึ่งบินหนีออกมาจากลิฟท์อวกาศ ทางกองทัพสหพันธ์จึงเริ่ม เปิดฉากยิงใส่กองกำลังของคาตารอนแล้วการปะทะก็เริ่มต้นขึ้น ไลล์ที่ทนเห็นสภาพนี้ไม่ไหว จึงรีบรุดหน้าเข้าไปต่อสู้กับฝ่ายสหพันธ์โดยไม่สนคำเตือนของเธียเรียและอัลเลลูย่า อีกด้าน บนยานปโตเลมิออสนั้น สุเมรากิต้องการจะนำยานขึ้นไปสู่อวกาศเพื่อทำลายอาวุธดาวเทียม ก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อผู้คนเบื้องล่าง เซ็ตซึนะที่ฝืนร่างกายเดิน เข้ามาในโกดังเก็บหุ่น จึงบอกว่าเขาจะออกไปยังอวกาศด้วย 00 ไรเซอร์เอง พร้อมเสนอ ว่าถ้าเป็นระบบ Trans-Am Raiser ก็จะสามารถทำลายอาวุธดาวเทียมได้ เมื่อเอียนถาม ถึงคนขับเครื่อง 0 ไรเซอร์ เซ๊ตซึนะจึงหันมาบอกให้ซาจิขึ้นไปบังคับยานนั้น พร้อมบอกต่อ ด้วยว่าชีวิตคนกว่า 60,000 กำลังตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะออกไปปกป้องประชาชน เหล่านั้น ซาจิที่นึกไปถึงความสูญเสียของคาตารอนที่เขาเคยเป็นต้นเหตุ เซ็ตซึนะจึงเสริมต่อ อีกว่าโอกาสสำเร็จนั้นมีน้อย แต่ว่าเขาไม่อยากจะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำภารกิจ เอียนจึง นำชุดอวกาศมาให้กับซาจิพร้อมฝากให้ซาจิปกป้องประชาชนบนนั้นให้ได้ ซาจิจึงตกปากรับคำ ปโตเลมีที่บินขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่เครื่องยนต์จะขึ้นไหวก็ทำการปล่อย 00 กับ 0 ไรเซอร์ออกไป เมื่อทั้งสองเครื่องรวมร่างกันแล้ว 00 ไรเซอร์จึงไต่ระดับขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศต่อ - เมื่อทุกคนได้อพยพออกจากสถานีไปแล้ว แฮงค์จึงบอกให้เซอร์เกย์รีบออกไปซะโดยเขา จะอยู่เป็นคนสุดท้ายเองในฐานะของหัวหน้ากลุ่มกบฏ แฮงค์ยังฝากฝังให้เซอร์เกย์นำความ จริงที่ได้เห็นนี้ไปถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไปรับทราบด้วย เซอร์เกย์จึงจับคอเสื้อของแฮงค์มาพูด ให้ฟังตรงๆว่าถ้าแฮงค์เป็นทหารก็ต้องปกป้องประชาชน จงพยายามปกป้องพวกเขาให้ได้เพิ่ม อีกซักคนก็ยังดี จากนั้นจะไปตายที่ไหนก็ไป เมื่อเห็นภาพอาวุธดาวเทียมเตรียมจะยิงแล้ว เซอร์เกย์จึงรีบวิ่งออกไปจากห้อง ส่วนแฮงค์ที่สำนึกในหน้าที่ของตนเองได้ก็รีบวิ่งตามเซอร์ เกย์ออกไปด้วยเช่นกัน เมื่อ 00 ไรเซอร์ขึ้นมาถึงจุดปฏิบัติการณ์แล้ว เซ็ตซึนะก็สั่งให้ซาจิ เปิดระบบไรเซอร์เพื่อชาร์จอนุภาคขึ้นมา ทันใดนั้นเอ็มเพรสของดิไวน์ก็บุกเข้ามาโจมตี 00 ไรเซอร์ เอ็มเพรสสามารถยึดล็อคตัวหุ่น 00 ไรเซเอร์แล้วปล่อยไฟฟ้าเข้าเล่นงานนักบินได้ แต่ 00 ไรเซอร์ที่ชาร์จอนุภาคจนเต็มแล้วก็ปล่อยระบบ Tran-Am Raiser ออกมาเป็น ลำแสงขนาดใหญ่ทะลวงเอ็มเพรสได้ในพริบตา ลำแสงนี้ยังคงยิงยาวออกต่อไปจนพุ่งเฉี่ยว ฐานเมเมนโต โมริไปแบบฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันที่อาร์เธอร์ที่บัญชาการอยู่บนเมเมนโต โมริ จะได้อุ่นใจ เขาก็พบว่าแท้จริงแล้วลำแสงที่ออกมาจาก 00 ไรเซอร์นั้นเป็นดาบลำแสงขนาด มหึมา เซ็ตซึนะบังคับวาดดาบลงมาฟันทำลายเมเมนโต โมริได้ แต่ก็ไม่เพียงพอจะหยุดการยิง ของเมเมนโต โมริที่เอียงจากเป้าหมายเบื้องล่างมายิงใส่โคนลิฟท์บนชั้นอวกาศแทน ผลลัพธ์ ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยของตัวลิฟท์ทำการปลดปล่อยกำแพงภายนอกทั้งหมดออกโดย เริ่มไล่มาจากข้างบน สุเมรากิมองว่ากำแพงที่อยู่นอกชั้นบรรยากาศจะถูกเผาผลาญหมดไป เองแต่กำแพงที่อยู่จากชั้นบรรยากาศลงมาทั้งหมดจะตกลงสู่โลก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ การต่อสู่เบื้องล่างต้องหยุดชะงัก สุเมรากิจึงออกอากาศไปยังหุ่นรบทั้งหมดในแถบนี้ อธิบาย สถานการณ์ให้ฟังและขอให้ทุกคนช่วยกันปกป้องชีวิตคนนับล้านที่อยู่เบื้องล่างเขตลิฟท์อวกาศ กันดั้มจึงขานรับคำสั่งนี้ก่อนใครโดยบินออกไปประจำตำแหน่งอยู่บนเขตตัวเมืองเพื่อดักยิงทำ ลายซากกำแพงที่ร่วงหล่นลงมาเป็นปริมาณมหาศาล เมื่ออาริออสไม่สามารถรับมือกับซาก กำแพงจำนวนมหาศาลได้ละพลาดปล่อยให้ซากกำแพงชิ้นหนึ่งหลุดลงไปยังเขตตัวเมืองเบื้อง ล่าง ทันใดนั้นก็ปรากฏหุ่นกังอาร์เชอร์ที่บังคับโดยมารีออกมาช่วยเขาไว้ โดยเธอบอกเขาว่า นี่ไม่ช่การต่อสู้ แต่เป็นการช่วยชีวิตผู้คน กองทัพของคาตารอนและสหพันธ์ฝ่ายกบฏเองก็ขาน รับการนี้ โดยทุกคนช่วยกันยิงซากกำแพงที่ร่วงหล่นลงมา กระทั่งกองทัพสหพันธ์เองก็เข้าร่วม การทำลายซากกำแพงนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งลัสเซ่เองก็แสดงความรู้สึกว่าแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ทันใดนั้นก็ปรากฏกองกำลัง A-Laws รุกเข้ามา มิเลน่าเสนอว่าให้ถอนตัวกันดั้มกลับมาแต่ สุเมรากิสั่งให้ทุกคนช่วกันทำลายซากกำแพงต่อไป โดยเธอเชื่อว่าถ้าเคธี่เป็นผู้บังคับบัญชาอยู่ A-Laws จะต้องเข้ามาช่วยเหลือปฏิบัติการนี้ด้วยแน่ ซึ่งก็เป็นจริงเมื่อหุ่นของ A-Laws บิน ผ่านกันดั้มขึ้นไปช่วยยิงทำลายซากกำแพงที่เหลืออยู่ จังหวะต่อมาเมื่อมารีเห็นภาพหุ่นของ เซอร์เกย์ เธอจึงบินเข้าไปช่วยเหลือพร้อมแนะนำตัวเธอให้กับเขา ส่วนอังเดรที่ได้รับราย งานจากหลุยส์ว่าเธอพบหุ่นทะลุออกมาจากในเสาลิฟท์ เขาก็คิดว่านั่นอาจจะเป็นหัวหน้าของ กลุ่มกบฏก็ได้ เมื่อเขาเข้าไปใกล้ก็ได้รู้ว่าหัวหน้ากลุ่มกบฏนั้นคือแฮงค์นั่นเอง เขาจึงเล็งปืน ไปทางหุ่นของแฮงค์ก่อนจะรู้ตัวว่ามีซากกำแพงขนาดใหญ่กำลังร่วงมาทางพวกเขา ปืนของหุ่น ธรรมดาไม่สามารถเจาะทะลุซากนี้ได้ เซราวีจึงรุดขึ้นหน้าใช้ Trans-Am ยิงหักครึ่งเศษ ซากชิ้นนี้ ผสานกับ 00 ไรเซอร์ที่บินลงมาช่วยยิงซากที่เหลือและเชอรูเดียมกับอาริออส ทั้ง หมดจึงสามารถป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นไว้ได้ - ตกเย็นหลังจากซากกำแพงของเสาลิฟท์อวกาศถูกปลดออกมาหมดแล้ว เซอร์เกย์ที่บินดู สภาพโดยรอบก็เขามาดูอาการของแฮงค์ เมื่อแฮงค์กำลังทรมานกับภาพที่เขาได้เห็นอยู่ ก็มี กระสุนปืนยิงมาทำลายหุ่นของแฮงค์ไปต่อหน้าต่อตาของเซอร์เกย์ อังเดรที่เป็นคนยิงรีบรุด เข้ามาหมายจะทำลายหุ่นของเซอร์เกย์เพราะเชื่อว่าพวกนี้เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้ง นี้ พอรู้ว่านักบินที่เขากำลังปะทะด้วยคือเซอร์เกย์พ่อของเขาเอง เขาจึงปล่อยอารมณ์โกรธ แค้นที่เซอร์เกย์เป็นคนทำให้แม่ของเขาตายเพราะปฏิบัติตามคำสั่งทหารและการเข้าร่วมกับ กลุ่มกบฏด้วยการไล่โจมตีเซอร์เกย์อย่างหนักหน่วง แม้มารีจะพยายามเข้ามาช่วยแต่หลุยส์ก็ ขัดขวางเธอไว้ อังเดรจึงแทงดาบทะลุเข้าใส่หุ่นของเซอร์เกย์ เซอร์เกย์ในสภาพปางตาย นึกไปคำที่มอลลี่เคยฝากฝังอังเดรไว้กับเขาถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ เซอร์เกย์จึงขอโทษ อังเดรที่ตัวเขาไม่สามารถหาวิธีที่จะเปิดใจของอังเดรที่ปิดตายเอาไว้ได้ เขานึกภาพของ มอลลี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่หุ่นของเซอร์เกย์จะระเบิดไป ทิ้งให้มารีที่เห็นภาพนี้อยู่ร้องตะโกน เรียกชื่อของเขาด้วยความทรมาน
ฟู่... ก่อนอื่นขอพูดถึงบาปอันใหญ่หลวงที่อังเดรได้ก่อขึ้นในตอนนี้ก่อนเลยละกันครับ อังเดร ได้ทำการสังหารพ่อและเพื่อนพ่อที่เขารู้จักเป็นอย่างดีด้วยแรงแค้นที่ฝังมานานของตัวเอง ผมคิดว่าเจ้าตัวเองก็คงไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเท่าใดหรอก เพียงแต่ความโกรธที่ เห็นพ่อของตัวเองทำผิดในฐานะของทหารอย่างซ้ำซากทำให้อังเดรลืมตัวกระทำการนี้ลงไป ผมจะไม่พูดว่าความเชื่อของใครจะถูก แต่งานนี้อังเดรผิดเต็มๆที่ทำตัวเป็นศาลเตี้ยจัดการ พ่อและคนรู้จักของตัวเองแบบนี้ ผมสนใจว่าในตอนต่อๆไปอังเดรจะรู้สึกสำนึกผิดได้มากแค่ ไหน เพราะถ้าไม่รู้สึกตัวบ้างเลย ผมคงจะรู้สึกกระอักกระอ่วนตอนเห็นอังเดรโผล่มาในจอ เป็นแน่ แต่อย่างน้อยเรื่องนี้ก็คงจะเป็นชนวนให้มารีกลับมาสู่สนามรบแบบเต็มตัวเพื่อล้างแค้น ให้กับเซอร์เกย์เป็นแน่ แบบนี้ก็อย่าหวังครับว่าสันติภาพที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นได้ อีกด้านหนึ่ง เนื้อหาในตอนนี้แสดงให้เห็นว่าเมื่อถึงเวลาที่มนุษย์เผชิญภัยภิบัติที่ยิ่งใหญ่กว่าตัว ของพวกเขาเอง มนุษย์ก็จะหันมาร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขวิกฤตนั้นให้ผ่านไปได้ก่อน มนุษย์เรา ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ พอไม่ต้องเผชิญวิกฤตที่ใหญ่กว่าตัวเอง สุดท้ายก็กลับมารบกันเองต่อ แต่ ในตอนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าโอกาสที่มนุษย์จะหันมาจับมือร่วมแรงกันเพื่อต่อต้านวิกฤตที่จะ เกิดจากความทะเยอทะยานของอินโนเวเตอร์ในช่วงท้ายของซีรีย์นี้นั้นมีสูง ยิ่งริบบอนส์ออก มาแสดงความต้องการเป็นทรราชย์แบบสมบูรณ์เช่นนี้แล้วด้วย รู้มั้ยว่าคุณพี่น่ะทำตัวได้เหมือน มนุษย์ที่คุณพี่จะทำการชี้นำมากเลยนะครับ และจุดจบของทรราชย์ไม่เคยมีดีซักรายครับ ผมจะ รอดูวินาทีที่ริบบอนส์ถูกดึงลงมาสู่ความพ่ายแพ้ว่าจะเป็นยังไง อย่างน้อยเนื้อเรื่องส่วนต่อไปที่ จะเริ่มในตอนหน้าคงจะเข้าใกล้สงครามครั้งใหญ่ของยุคนี้แล้วล่ะครับ
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 13:50:46 น. |
|
4 comments
|
Counter : 387 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kotami IP: 114.128.63.168 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:57:18 น. |
|
|
|
โดย: Rajid IP: 203.158.4.115 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:43:19 น. |
|
|
|
โดย: interview IP: 58.97.41.130 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:03:30 น. |
|
|
|
โดย: interview IP: 58.97.41.130 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:41:14 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ตัวเรานั้นเป็นเพียงเศษละอองแห่งดวงดาว... เล็กกระจิ๋วเมื่อเทียบกับสากลโลก... แต่เศษละอองนี้จะเปลี่ยนแปลงโลกได้... ด้วยศรัทธา...
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ว่าแต่หายไปหลายวันเลยนะคะ^^
สู้สู้ค่ะ