Bloggang.com : สักวันเราคงจะรู้จักกัน

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Group Blog

All blogs

real greenbull

ความเห็นส่วนตัวเช่นกัน ... หุ้นที่ควรจะเก็บน่าจะเป็น หุ้นที่พวกกองทุยหลอกกดเก็บจากรายย่อย โดยเฉพาะตัวที่มีพื้นฐานแน่น( ดูแล้ว บริษัทคงไม่เจ้งง่ายๆ )อนาคตดี( ซื้อหุ้น ซื้ออนาคต ) และจ่ายปันผลงาม ( กระแสเงินสดเยอะดี หนี้น้อย ) ... ไม่ใช่หุ้นที่ต่างชาติถือ เพราะ Mrk.Cap.ใหญ่ ราคาไม่ค่อยลง หรือลงก็ไม่มาก เพราะพวกกองทุยเองก็ไม่ค่อยเข้าไปยุ่งมากนัก เนื่องจากต่างชาติถืออยู่ หลอกยาก ใช้เงินลงทุนในการ short สูง เผลอๆอาจเจ็บตัว ส่วนมากจึงขายตัวใหญ่ เพียงเพื่อกด SET ซึ่งจะทำให้รายย่อย คายหุ้นที่พวกกองทุยต้องการออกมา ... ตอนนี้ หุ้นดีๆ หลายๆตัวในตลาด ถูกทำราคาลงมาให้พวกกองทุยด้วยกันเก็บ แค่เงินปันผล เมื่อเทียบกับเงินลงทุนและระยะเวลาที่ถือ ก็คุ้มกว่าฝากเงินกินดอกเบี้ยที่ไหนๆ ที่สำคัญ Capital Gain หรือส่วนต่างของราคามีสูง เพราะถูก Discount ลงมามาก ... การ short จะมีประสิทธิภาพ ต้องใช้เงินในการทำราคาหุ้นลงมาไม่สูง จึงหลอกเอาจากรายย่อย น่าจะง่ายกว่า และที่สำคัญ จะต้องมีเม็ดเงินใหม่ ใส่ลงไปด้วย ยิ่งเป็นฐาน ยิ่งต้องใส่เยอะ ดังนั้นจึงควรมีเงินสดรอใส่ที่จุดนั้นๆ เหมือนอย่างกองทุยที่มีเม็ดเงินเข้ามาอยู่เป็น ระยะๆ ด้วยการจัดงานหาเงินจากรายย่อยที่มาซื้อหน่วยลงทุน ดังที่ทราบกันอยู่
อาจสงสัยว่าทำไม ต้องมีเงินใส่ จริงๆแล้วเคยยกตัวอย่างไปแล้ว คือ
หุ้น x เดิมราคา 10 บาท ถูกกดลงมาที่ 5 บาท ... จะเห็นว่ามูลค่าหายไป 50%
และ หุ้น x ตัวเดิม ถูกทำราคาจากที่ลงมา 5 บาท กลับไปที่ 10 บาท ... จะเห็นว่ามูลค่าเพิ่มขึ้น 100%
ถ้าคุณถือหุ้นไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไรเลย จนหุ้นกลับมาที่เดิม ... จะเห็นว่าคุณไม่ได้อะไรเลย หรือ เป็นศูนย์
จากตัวอย่างข้างต้น ตอนหุ้นถูกกดลงมา มูลค่าจะหายไป 50% แต่ตอน ทำราคากลับขึ้นไป มูลค่าจะเพิ่มขึ้น 100% มันต่างกันมาก ดังนั้น คุณควรจะมีเงินสด รอใส่ตรงที่ราคาถูก short ลงมา ไม่ต้องใส่เข้าไปหมด เพราะถ้าเขาทำราคาลงมาอีก ก็จะได้มีเงินใส่อีก มันอาจจะไม่ใช่จุดซื้อที่ดีที่สุด แต่ก็ทำให้ต้นทุนของคุณไม่สูงจนเกินไป จำไว้ว่าต้องมีเงินสดเหลือทุกครั้ง เพราะโอกาสมีให้คุณเสมอ ไม่ใช่หุ้นตัวนี้ ก็มีหุ้นตัวอื่นๆ ที่หมุนเวียนกันมา ตามตลาดของกลุ่ม
ส่วนคุณจะขายหุ้นออกมาตอนที่เขา short หรือไม่ นั้น ต้องดูภาวะตลาดขณะนั้น ประกอบกับปัจจัยพื้นฐาน อนาคตของหุ้น และปัจจัยทางเทคนิคที่ใช้เล่นกินกันกับพวกชอบเล่น
สุดท้าย เลือกให้ถูกตัว เข้า-ออก ให้ถูกจังหวะ และ มีสติ

ตอบกลับโดย : real

Posts : 11
Replies : 143

« Reply #3 เมื่อ 23/07/2005 , 16:57:04 »
--------------------------------------------------------------------------------
อ้อ แล้วอย่าลืมมองหุ้น กลุ่มหลักทรัพย์ นะครับ เพราะราคาถูกกดลงมามาก ... บางคนอาจจะแย้งว่า ราคาผันผวนน่ากลัว ... นั้นแหละ เป็นเหตุให้ ราคาจึงถูกกดลงมาอย่างมาก เพื่อจะได้ปลอดภัยในการถือของคนที่ทำราคา ... ซื้อหุ้น ซื้ออนาคต ... ถ้าหากรอบใหญ่มา รวมถึงการนำหุ้น EGAT เข้าตลาด ห้นกลุ่มนี้ น่าจะได้ประโยชน์อย่างเด่นชัด ... ในเมื่อลงมามาก ส่วนต่างราคาก็มาก ... หุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ เหมือนหุ้น x ที่ยกตัวอย่าง ข้างต้น ปัจจัยทางเทคนิค จริงๆก็ทำไว้แล้ว แต่สถานการณ์ไม่เอื้อ จึงถูกถ่วงเวลาไว้ และก็หลอกกินคนที่เล่นเทคนิคด้วย ... หุ้นดีหรือไม่ อย่าเอาเงื่อนไขที่เขาบอก แล้วมาหลอกตัวเอง ... อย่าง หุ้น KBANK ถามว่า ดีไหม บอกว่าดี แต่ถ้าราคาเกิน 60 บาท ก็ไม่น่าซื้อ ถ้าเทียบกับผลประกอบการปัจจุบัน และเงินปันผล เพราะมีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า แต่ในอนาคตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ... แต่ถ้าราคาต่ำกว่า 50 บาท ก็น่ามอง .... ในทำนองเดียวกัน หุ้นตัวอื่นๆ ที่ราคาถูกกดลงมาจน เป็นราคาที่เสี่ยงต่ำแล้ว เมื่อเทียบกับผลตอบแทน ก็จัดเป็นหุ้นที่ดีได้ ในภาวะนั้นๆ เพียงแต่ต้องมีอนาคตที่ดี

Create Date : 24 กรกฎาคม 2548

Last Update : 24 กรกฎาคม 2548 14:18:48 น.

1 comments

Counter : 378 Pageviews.