Group Blog
 
All blogs
 

+++++สู่ดินแดนเหนือสุดแห่งสยามประเทศ+++++

วันที่ 29 มกราคม 2548
ณ เคาน์เตอร์ของร้านประจำ เวลา 23.30 น.

..........เป็นเรื่องแย่มาก และค่อนข้างคิดผิดไปนิด ที่ดันไปนั่งจิบเบียร์ หลังจากที่ตรากตรำกับการเดินทางมากว่า 16 ชั่วโมงเต็ม ตั้งแต่หกโมงเช้า ถึง สี่ทุ่ม โดยไม่ได้งีบหลับสักกะแอะ แต่ เป็นปกติของผมไปแล้วมั้งที่ปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็น ทำให้ต้องมานั่งหาวไป จิบเบียร์ไปอย่างนี้

....ตื่นนอนตั้งแต่หกโมงเช้า อาบน้ำ อาบท่า และแวะไปทำธุระระหว่างทาง ก่อนที่จะไปที่นัดหมายขึ้นรถไปเชียงรายกันตอนแปดโมง (ผมมันเด็กบ้านนอกน่ะ ต้องตื่นไวหน่อย ทางมันไกล) แวะดื่มกาแฟ กินไข่ลวกตอนเช้า ๆ นี่ มันได้บรรยากาศของความบริสุทธิ์จริงๆ โดยเฉพาะ แถบรอบนอกของเชียงใหม่นี่ อากาศดีกว่าในเมืองเยอะ ทำให้รู้สึกถึงข้อดีอีกข้อหนึ่งที่เราเป็นคนบ้านนอก

ขึ้นประจำรถกันได้ดิบดี ก็นั่งกันยาวตั้งแต่แปดโมงครึ่ง แวะพักเข้าห้องน้ำระหว่างทาง ที่ปั๊มคอสโมของแม่สรวย อันเนื่องมาจากกระผม เนวิเกเตอร์นำทาง ทนปวดไม่ไหวแล้ว และท่านอื่นๆ ที่แกล้งหลับไม่พูดไม่จา สอบถามกันอีกที ก็เพราะปวดจนไม่อยากพูด ยอมรับจริงๆ ครับว่า ปั๊มระหว่างทางเชียงใหม่ - เชียงราย บางที่ สะอาดมาก ดูเผินๆ ก็เหมือนปั๊มน้ำมันธรรมดาๆ ตามเส้นทางเชียงใหม่ - ลำปางครับ แต่ห้องน้ำสะอาดมาก ไม่ค่อยมีกลิ่นเลย

เข้าเชียงรายแล้ว ก็สอบถามทางไปงานศพของพ่อเพื่อนที่ทำงาน อยู่ในอำเภอเมืองครับ แต่ลักษณะอำเภอเมืองที่นี่ ก็พอ ๆ กันกับอำเภอเมืองลำพูนเลย คือ บางที่ยังค่อนข้างชนบทอยู่ แต่ ผมชอบเป็นการส่วนตัวนะ เพราะมันยังแสดงให้เห็นว่า ในบางครั้ง ชีวิตง่ายๆ ก็หาได้ในตัวเมือง แต่ก่อนที่จะไปที่งาน ก็ได้เวียนไปที่วัดร่องขุ่นกันก่อน เนื่องจาก บางท่านยังไม่เคยเห็นมาก่อน ยังคงความงดงามตามแบบพุทธศิลป์ สไตล์ เฉลิมชัย ไว้ได้อย่างสวยงามครับ ตอนที่ไป คนเยอะมากครับ ร่วม ๆ สามร้อยคนได้ ทำให้พื้นที่วัดแคบไปถนัดใจทีเดียว แวะเวียนได้สักสิบนาทีก็ไปยังงานศพต่อครับ

ถึงบ้านเพื่อนที่ทำงานก็ราวๆ สิบเอ็ดโมง เสร็จสรรพถึงเวลาปลงอนิจจัง ส่งพ่อเพื่อนเข้าสู่เมรุ มองนาฬิกาก็เวลาบ่ายสองครึ่ง จึงได้ร่ำลาเพื่อนที่ยังคงโศกสลดอยู่กับการจากไปของผู้เป็นพ่อ

...... เพื่อนเอ๋ย อย่าเสียใจเลย อีกไม่ช้าก็เร็ว ก็คงมีอีกหลายๆ คน ที่ต้องสูญเสียบุพการีไป มนุษย์ฝืนอะไร ฝืนได้ แต่ไม่มีทางที่จะฝืนสังขารและเวลาแห่งความชราไปได้เลย วันนี้ ผมไปไว้อาลัยให้แก่คุณพ่อของคุณ วันข้างหน้า ไม่ช้าก็เร็ว สถานภาพของเราจะกลับกันเอง ...........

หายจากอาการโศกเศร้ากันไปได้สักพัก นึกขึ้นได้ว่า ต้องเอาน้ำส้มป่อยมาล้างมือและพรมหัว เพื่อเป็นการไล่ความโศกเศร้าหรือความไม่ดี (ตามความเชื่อของชาวเหนือ) ออกจากตัว หลังจากส่งผู้วายชนม์เข้าสู่จิตกาธานแล้ว พรมน้ำแล้วค่อยสดชื่นหน่อย หลังจากเพื่อนผองน้องพี่ พรมน้ำส้มป่อยแล้ว จึงได้เกิดคำถามต่อว่า

"ไปแม่สายกันไหม"

และคำตอบที่ได้ .....................
แน่นอนครับ ปล่อยเสือเข้าป่าแล้วนี่ มีเหรอจะไม่ไปกัน ขาเที่ยวกันเสียทุกท่านอย่างนั้น

ระหว่างทางก็ได้แวะพักกันก่อน และอยากจะบอกจริงๆ ครับว่า
สาวเชียงราย หน้าตาดีถึงดีมาก ดีกว่าเชียงใหม่บ้านผมอีกหลายเท่านัก ให้ตายเหอะ .....

........ นอกเรื่องไปเรื่องสาว ๆ มากไปหน่อย หุหุ

ถึงแม่สายราว ๆ สามโมงครึ่งครับ ก็ไปแวะช๊อปปิ้งกันตามประสาคนท่องเที่ยว ผมกับคนขับรถไม่ข้ามไปฝั่งพม่าครับ เนื่องมาจากขี้เกียจ อีกอย่าง โดยส่วนตัว ผมไม่รู้จะซื้ออะไรทางฝั่งโน้น และ เคยผิดหวังกับการซื้อของจากแม่สายมานักต่อนักแล้ว เลยเดินเลือกซื้อขนมมาฝากสาว ๆ ที่ทำงานจะดีกว่าข้ามฟากไปครับ และตรงนี้เอง ที่ทำให้ผมชื่นชม(ในทางลบ) กับเด็กพม่ามากครับ เพราะระหว่างที่เรากำลังซื้อขนมกันอยู่นั้น

คนขับรถ : "เอ้า ขนมแพ๊คนี้เท่าไหร่เนี่ย"
เด็กพม่า : "หนึ่งร้อยบาทค่ะ"
คนขับรถ : "เอ้า เอาอันนี้แหละ"
ผม : เลือกอันที่ใหม่กว่าและพูดตัดไป " เอาอันนี้ดีกว่าพี่ อันนั้นมันคงโดนมาหลายมือแล้ว เอ้าน้อง ใส่ถุงครับ"
เด็กพม่า : พูดแบบแผ่วเบา กับคนขายอีกคนที่เป็นพี่สาว แต่พอได้ยิน ว่า "ไอ้รู้ดี เรื่องมาก!"

.........เกือบเตะเด็กจริงๆ พับผ่า ดีที่พี่สาวของเขาด่าซะไม่มีดีเสียก่อน พอให้อภัยกันได้ ก็จ่ายเงินไป
มีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อครับ ที่ปราบปรามกันเสียพันทิพกระจาย กับ mp3 ตัวดี ที่แม่สายครับ มาแนวใหม่ ไม่วางขายในร้านครับ แต่มาเงียบ ๆ เหมือนโป๊มั้ยพี่ทุกประการครับผม นั่นคือ direct sale ถึงตัวผู้บริโภค เปิดย่ามมา mp3 ร่วมร้อยแผ่น มีให้เลือกสรร แถมล่าสุด รวมเพลง tsunami และเพลงใหม่มากที่เปิดกันกระจายตามวิทยุตอนนี้ สามแผ่น หนึ่งร้อยบาท (กรรม ซื้อในไทยแผ่นละร้อยยี่สิบ ซื้อแม่สาย สามแผ่นร้อย)
กว่าจะรวมพลกันได้ ก็ราวๆ หกโมงเย็นครับ เหน็ดเหนื่อยกันทีเดียว เพราะต่างคนต่างก็เพลียจากงานศพแล้ว ยังต้องมาเดินช้อปปิ้งกันอีก ไม่ต้องพูดถึงครับ หลับเป็นตายกันเรียบ เหลือแต่ผมกับคนขับรถ นั่ง
หน้าสลอนหน้ารถตู้แบบตาแข็ง ๆ กันสองคน

แวะทานอาหารเย็น ตอนสองทุ่ม ที่ปั๊มเชลล์ในอำเภอเวียงป่าเป้าครับ กับข้าวอร่อย (สังเกตให้ดี จะเป็นปั๊มเชลล์ที่มีร้าน black canyon อยู่ครับ แต่ร้านอาหารจะอยู่ด้านหลัง ราคาถูก อร่อย และสะอาดมากครับ) คนขายน่ารักมาก คนเชียงรายอีกแล้ว วุ้ย อยากมีภรรยาเป็นคนเชียงรายซะงั้น

แล้วก็เดินทางกันต่อตอนสามทุ่มครับ ระยะทางที่เดินทาง ประมาณแปดสิบกิโลเมตร ซึ่งถ้าเป็นทางธรรมดาตรงๆ ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ แต่นี่อยู่บนดอยนางแก้ว เป็นเรื่องธรรมดาครับที่ระยะเวลาในการเดินทาง ต้องเนิ่นนานออกไปอีก กว่าจะถึงจุดหมายกันก็ราวๆ สี่ทุ่มครึ่ง

คนอื่น ยังคงไม่เท่าไหร่ครับ แต่ไอ้เกล้ากระผมนี่สิ ต้องขับรถกลับบ้านต่ออีกราว ๆ ยี่สิบกิโล แถมระหว่งทาง ยังมีโทรศัพท์ตามตัวไปนั่งจิบเบียร์กันต่ออีก ตอนขับกลับบ้าน ยังไม่ค่อยรู้สึกครับว่าเหนื่อย แต่พอลงไปนั่งจิบแก้วแรกเท่านั้นแหละครับ หึหึ ความง่วงมันมาจากไหนเนี่ย เหนื่อยและเพลียอย่างมากครับ

.........................สุดท้าย ทนฝืนไม่ได้ครับ จำเป็นต้องขอตัวมานอนก่อน แต่การเดินทางครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งการเดินทาง ที่ผมค่อนข้างมีความสุขกับการเดินทาง ได้พบสิ่งสวยๆ งาม ๆ และประสบการณ์(น่าเตะ) อีกครั้งหนึ่ง คงเป็นอย่างที่เขาว่าครับว่า

"ถ้าไม่ออกเดิน ก็ไม่รู้หรอกว่ามีอะไรอีกมากมายที่เราไม่รู้"


เสียอย่างเดียว ไม่ได้เอากล้องดิจิตอลไปด้วย ไม่อย่างนั้น คงได้ถ่ายรูปมาให้ชมกันหลายใบทีเดียว




 

Create Date : 31 มกราคม 2548    
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 13:09:12 น.
Counter : 529 Pageviews.  


ดาราวิปลาส
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนเหนือโดยกำเนิดครับ

บล็อคผม คงไม่เน้นการดีไซน์สวยนะครับ
ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกับชาวบ้าน เน้นอ่านง่าย เนื้อหาสไตล์เบา ๆ

เอาเป็นว่าจะพยายามแต่ง ๆ เอาก็แล้วกันครับถ้ามีเวลาและวัตถุิดิบพร้อม ๆ ซึ่งตอนนี้ ก็ค่อย ๆ ขยับขยายการเรียนรู้ให้มากขึ้นอยู่ครับ
Friends' blogs
[Add ดาราวิปลาส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.