Bloggang.com : weblog for you and your gang
STAND UP PLEASE ! ลำแข้งเค้ามีไว้ให้ยืน !
Group Blog
ขนมโตเกียว
นิยายก็แล้วกัน
อุทาหรณ์สอนใคร
ขนมจีนไร้น้ำยา
การ์ตูน นอกตำรา ภาษาญี่ปุ่น เดือนละคำ
Yatai
All blogs
8.9 ริกเตอร์ ที่สั่นสะเทือน (หัวใจ) ไปทั้งโลก : ขนมโตเกียว ช่วงพิเศษ
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 28 : เมกุ และ Smlile
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 27 : เมนูแนะนำประจำวันนี้ ข้าวญี่ปุ่นคลุกวาซาบิราดซอสโชวยุ แค่ชื่อก็หรูแล้ว
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 26 : จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน พักเดี๋ยวนึงสิคร้าบบบบบ
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 25 : อุเอโนะสีเขียว
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 24 : โคโระ โคโระ อุปกรณ์กำจัดขนไม่ถาวร
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 23 : แล้วก็...แล้วก็... กับเจซี
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 22 : ราเมนเปลือกส้ม
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 21 : เออ กูรู้ กูรู้
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 20 : เรื่อง เอียน เอียน
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 19 : เข้าคุก
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 18 : ความผูกพัน ทำให้เราอ่อนแอ ?
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 17 : กระดาษทิชชู่ และหนังบู๊สำหรับผู้ใหญ่ !
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 16 : อูมามิ !
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 15 : ของ หมู หมู
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 14 : ยังอยู่ใช่ไหม ?
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 13 : Make Laugh Not War
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 12 : เสียงหัวเราะบนถนนสายที่ 6
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 11 : กินเบียร์ดีกว่า ไม่ต้องเคี้ยว
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 10 : เธอเป็นนักมวยที่ชอบเขียนหนังสือ
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 9 : Cheezzzzzzzzzzzzzzzzzzzz...........zu !
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 8 : อร่อยมั๊ย ?
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 7 : 10 rules To Be Cleaning Staff !
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 6 : ATM
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 5 : สามปีต่อมาของคุณอ้วน
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 4: ไม่ใช่ขี้ ขี้ !
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 3 : ไม่เป็นก็ต้องเป็น
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 2 : เลขที่ออก...
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 1 : ทำไมมาคนเดียว ?
ขนมโตเกียว ช่วงที่ 12 : เสียงหัวเราะบนถนนสายที่ 6
หลังจากเมามันกันมาพอสมควร
เมา (เบียร์) มัน (ไส้หมู)
ก็ได้เวลาเดินให้กระเพาะย่อย
ทาคาโกะบอกว่าไม่ใช่แต่ตัววัดเซนโซจิที่น่าสนใจ
แต่แถวๆ วัดก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
.....
ทาคาโกะชวนไปเดินเล่นแถวๆ ถนน Asakusa Rokku หรือ Asaskusa Sixth
ถนนสายนี้เป็นเหมือนบรอดเวย์แห่งความบันเทิงของชาวโตเกียวในยุคแรกเริ่ม
ในยุคที่โตเกียวยังไม่เป็นโตเกียว
(ก่อนจะเข้าสู่ยุคเมจิ ตอนนั้นโตเกียวยังใช้ชื่อเอโดะอยู่)
ครั้งหนึ่งในยุคสมัยที่เอโดะ (หรือโตเกียวในปัจจุบัน) ยังถูกปกครองโดยโชกุนในตระกูล Tokugawa ถนนสายบรอดเวย์แห่งนี้ ยังเต็มไปด้วยโรงละครคาบุกิ ในยุคนั้นกลุ่มขุนนางในตระกูล Tokugawa มองว่าศูนย์รวมความบันเทิงของชนชั้นสามัญในแทบนี้เป็นเรื่องไร้สาระ ไร้อารยะ ขัดต่อศีลธรรม และภาพลักษณ์อันดีงามของสังคมและประเทศ
คล้ายๆ กับที่ครั้งหนึ่ง คนไทยเคยมองบรรดานักแสดงที่ขายความบันเทิงเหล่านี้ว่าเป็นพวกเต้นกินรำกินอะไรประมาณนั้น
ในช่วงปี ค.ศ. 1841 บรรดาขุนนางที่เคร่งครัดในกฎระเบียบแห่งตระกูล Tokugawa จึงได้มีความพยายามที่จะขจัดโรงละครและกิจกรรมบันเทิงใน
แทบนี้ไปให้พ้นเมืองเอโดะเสีย
......
ในหนังเรื่อง Warai No Daigaku หนังปี 2004 ของผู้กำกับ Mamoru Hoshi
พ่วงมาด้วยผู้กำกับคนโปรดของเราคือน้า Koki Mitani
^^!
เรื่องนี้แกไม่ได้กำกับ แต่แกเขียนบทให้
ใครที่เคยดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง Warai No Daigaku
หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า University of Laugh
น่าจะพอเห็นภาพของการจำกัดเสรีภาพ ริดลอนสิทธิ และวิจารณญาณของชาวญี่ปุ่นยุคหนึ่งได้ชัดเจนพอสมควร
เป็นเสรีภาพแห่งความบันเทิงและเสียงหัวเราะ !
......
เนื้อเรื่องจะว่าด้วยเรื่องของเจ้าหน้าที่ ที่ทำหน้าที่คอยตรวจตรางานเขียนทุกประเภท ก่อนที่จะมีการนำออกเผยแพร่ทุกรูปแบบ
เรียกง่ายๆ ว่ากองเซ็นเซอร์ !
(ไม่รู้จะเรียกว่าไงดี ขอเรียกแบบนี้แล้วกัน) ^^!
คุณพี่กองเซ็นเซอร์คนนี้ (รับบทโดย Kochi Yakusho) แกจะทำหน้านิ่วคิ้ว
ขมวดทั้งวัน คอยทำหน้าที่ตรวจตรางานทุกชิ้น ทุกประเภท และทุกรูปแบบ
ในทุกตัวอักษร !
บรรทัดไหนที่ไม่ผ่านมาตรฐานของพี่คนนี้ แกก็จะเอาปากกาสีแดงขีดฆ่าเอาไว้ แล้วให้เจ้าของงานไปแก้ไขมาใหม่
ซึ่งงานส่วนใหญ่ที่ผ่านสายตาแกไปมักจะไม่ผ่าน และจะต้องนำไปแก้ไขหากต้องการที่จะนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ไม่ใช่ให้แก้แค่ครั้งเดียว แต่ให้แก้หลายครั้งหลายครา จนทำเอาหลายคนถอดใจไป
ผ่านมาถึงหนุ่มคนหนึ่ง ที่เป็นนักเขียนบทละครตลกให้คณะตลกแห่งหนึ่ง
และการมาถึงของหนุ่มคนนี้ ก็ทำให้ความรู้สึกของคุณพี่กองเซ็นเซอร์คนนี้ที่มีต่อศิลปะบันเทิงได้เปลี่ยนแปลงไป
ขออนุญาตไม่สปอยด์ เผื่อว่าใครอยากไปหามาดู
ฟังดูเผินๆ เหมือนเป็นหนังเครียด แต่แท้จริงแล้ว
มันคือหนังตลก !
......
Warai No Daigaku หรือ University of Laugh
หนังปี 2004 ของผู้กำกับ Mamoru Hoshi
พ่วงมาด้วยผู้กำกับคนโปรดของเรา น้า Koki Mitani ^^!
แต่เรื่องนี้น้าแกไม่ได้กำกับเอง แกแค่เขียนบทให้
......
ความเจ๋งอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ก็คือ การใช้นักแสดงหลักเพียง 2 คนในการดำเนินเรื่อง
และกว่า 90% ของเนื้อเรื่อง เกิดขึ้นภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ
ที่มีเพียงโต๊ะกับเก้าอี้แค่ 2 ตัว !
......
แต่ตัวหนังกลับทำได้สนุกมากมาย ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้มือเขียนบทเรื่องนี้ คือคุณน้า Koki Mitani ไปเต็มๆ
เราดูหนังของแกมาทุกเรื่องเท่าที่จะหาได้ ขอบอกว่ายังไม่เจอเรื่องไหนที่ไม่
สนุก
เรื่องดังๆ ของแกก็อย่าง Rajio No Jikan หนังปี 1997 หนังเรื่องแรกที่น้าแกกำกับ
ว่าด้วยเรื่องวายป่วงของเบื้องหลังละครวิทยุในห้องส่งแห่งหนึ่ง
หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Welcome Back, Mr.McDonold
คุ้นๆ กันไหม
.....
แนะนำว่าควรดู สำหรับใครที่ชอบหนังในตระกูล Feel Good !
แล้วจะรู้ว่าเสียงหัวเราะ
.
มันสวยงามอย่างไร
.
......
แต่อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดถนนบรอดเวย์สายคาบุกิแห่งนี้ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังจากที่ระบอบการปกครองในระบอบศักดินาและโชกุนใน
ตระกูล Tokugawa ถูกล้มล้างไป พร้อมๆ กับยุคสมัยแห่งเอโดะ
ตั้งแต่นั้นญี่ปุ่นก็เข้าสู่ยุคการปกครองโดยมีสมเด็จพระจักรพรรดิทรงเป็นประมุข พร้อมๆ กับการสถาปนาเมืองหลวงขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1869
จาก เอโดะ (Edo) ก็กลายเป็น โตเกียว (Tokyo)
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
......
นิทานเอโดะก็จบลงเพียงเท่านั้น
ส่วนที่ยังไม่จบคือนิทานแห่งถนนสายบรอดเวย์ Asakusa Rokku
ความบันเทิงของจริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้ !
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 1 ธันวาคม 2553 21:13:13 น.
1 comments
Counter : 1088 Pageviews.
Share
Tweet
ตามมาเก็บเกี่ยวความรู้ต่อค่าาาา
ได้แหล่งกินใหม่ๆ ได้ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณค่าา
โดย:
kizuna_Ai
วันที่: 15 มกราคม 2554 เวลา:22:19:43 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
standupplease
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ยินดีที่ได้รู้จัก ตามสบายนะ ขอโทษที ห้องรกไปหน่อย เชิญนั่งก่อนดีกว่า หิวมั้ย กินอะไรมารึยัง
New Comments
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add standupplease's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ได้แหล่งกินใหม่ๆ ได้ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณค่าา