โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

กลั่น 4 แรงบันดาลใจ ‘หล่อลื่น’ ธุรกิจไม่ติดขัด

วรนุช เจียมรจนานนท์

“ในยามที่ชีวิตพบกับความสำเร็จ แรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้น
ในยามที่ชีวิตไม่สมหวังหรือผิดพลาด แรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการยึดเหนี่ยว ความผูกพัน ความรับผิดชอบ พลังแห่งการลุกขึ้นมาต่อสู้”




ถ้าเปรียบแรงบันดาลใจเหมือนการพุ่งไปข้างหน้าของเครื่องยนต์ ขณะที่น้ำมันช่วยเติมเต็มทุนให้เต็มถัง แรงบันดาลใจคงไม่ต่างอะไรกับน้ำมันหล่อลื่น ทำให้เครื่องยนต์เดินเงียบ เร็วแรง ไม่มีสะดุด

กลั่นประสบการณ์จาก 4 แรงบันดาลใจ ของ 4 ธุรกิจต่างอุตสาหกรรม 4 กลไกแห่งการสร้างสรรค์ ไม่ฉุดรั้งธุรกิจให้ต้องติด…ด…ด…ด ขัด ตั้งแต่ไม่ทันสตาร์ท

"โตโยต้า"

Inspiration by Goal

โตโยต้า ประเทศไทย มีแรงบันดาลใจจากเป้าหมายที่แข็งแรงมั่นคงเหมือนรถยนต์ทุกคันที่วิ่งออกจากโรงงาน ด้วยวิสัยทัศน์ชัดเจนต้องการเป็นหนึ่งในบริษัทแกนนำของเครือข่ายโตโยต้าทั่วโลก ขณะเดียวกันก็ต้องการเป็นบริษัทรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับและยกย่องที่สุดในประเทศไทย

การจะเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นได้ จะต้องปรับปรุงทุกภาคส่วนเพื่อให้พร้อมทุกการแข่งขัน

แรงบันดาลใจโตโยต้าไม่ได้มาโดดๆ แต่ไปด้วยกันพร้อมทั้งองค์กร ผู้บริหาร และพนักงาน โดยยึด 5 หลักการด้วยกันคือ หนึ่ง มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยการท้าทายและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ไม่ว่าทำได้ดีเพียงใดแล้วก็ตาม บริษัทจะทำให้ "ดียิ่งขึ้น" ตลอดเวลา ดังนั้น โตโยต้าจะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยการท้าทายสถานการณ์ ปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ

สอง ยอมรับผู้คนและรับฟังความต้องการ ทุ่มเทความพยายามในการเสริมสร้างความไว้วางใจกัน ความพึงพอใจ ความกลมกลืน และการทำงานเป็นทีม ใส่ใจต่อผลประโยชน์ระยะยาวของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ลูกค้า ผู้ร่วมงาน หุ้นส่วนทางธุรกิจ (ผู้แทนจำหน่ายและผู้จัดหาชิ้นส่วน) ชุมชน และผู้ถือหุ้น

สาม ยึดหลักความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยความตระหนักว่าลูกค้าเป็นหัวใจของความสำเร็จ โตโยต้าไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังคำนึงถึงความต้องการในอนาคตของลูกค้า

สี่ ทุ่มเทเพื่อมาตรฐานสูงสุด ไม่เพียงแต่บรรลุมาตรฐานระดับสูงในปัจจุบัน โตโยต้ากำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี ความสามารถ และความรับผิดชอบ ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ทำให้ลูกค้าพอใจเหนือกว่าระดับที่คาดหวัง

ห้า ปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม มุ่งที่จะส่งเสริมสนับสนุนต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีจริยธรรม พร้อมทั้งรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด

ทั้ง 5 แนวทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีโตโยต้า หรือ Toyota Way ซึ่งเปรียบเสมือนคัมภีร์องค์กร มีรากฐานจากความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจที่จะ moving forward ไม่ให้ธุรกิจตกเฟรม

"รัชดานิรมิต"

Inspiration by Role Model

รัชดานิรมิตผู้บริหาร “สยามนิรมิตและดรีมเวิลด์” ใช้แรงบันดาลใจจากต้นแบบของสวนสนุกต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงดิสนีย์แลนด์ แดนดินแห่งความมหัศจรรย์ และก็คาดหวังว่าความตื่นตาตื่นใจไม่รู้จบเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเมืองไทยบ้าง

“ในขณะที่เราไม่สามารถทำสวนสนุกระดับโลกได้ เราสามารถทำโชว์ระดับโลกได้”

แต่เบื้องหลังสวนสนุกหรือโชว์แสนสนุกกลับมีข้อเสียที่แก้ไม่ได้คือ “ลำบาก... จนไม่มีใครอยากมาแข่งด้วย” ถึงกระนั้นแรงบันดาลใจก็ทำให้ทุกอย่างเดินต่อไปได้ ทั้งๆ ที่กำลังใจลดงวดลงเป็นระยะๆ ตามจำนวนขึ้นๆ ลงๆ ของที่นั่งโชว์

ความคิดของสยามนิรมิตคือ รู้ว่าจะทำโชว์ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร? และรู้ต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้โชว์สนุก? ก็ต้องเน้น 5 กระบวนการให้ฝันเป็นจริงคือ หนึ่ง ต้องการความยิ่งใหญ่ทั้งมิติของความกว้างและลึก สอง มีความสวยงาม สาม มหัศจรรย์ ตะลึงพรึงเพริด สี่ ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมทั้งประยุกต์หรือดั้งเดิม และ ห้า สนุกสนาน

ประเด็นทางวัฒนธรรมข้อที่สี่ เป็นอุปสรรคที่ทำให้ต้องแก้งานแล้วแก้งานอีกจนงบประมาณบานปลาย “ถึงจุดหนึ่งคุ้มค่า แต่สูญเสียความเชื่อมั่นพอควร”

ทุกวันนี้สยามนิรมิตยังต้องฝ่าฟันกับพฤติกรรมคนไทยบางกลุ่ม ที่ยังมองไม่เห็นคุณค่าจากการแสดงโชว์ทางด้านวัฒนธรรม มองว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าจากการดูฟรีมากกว่ามีคุณค่าจากการลงทุน(ซื้อตั๋ว) ซึ่งผิดกับโชว์ต่างประเทศที่แห่มาขุดทองเมืองไทย

สยามนิรมิตพูดติดตลกว่า “ทำธุรกิจโชว์นึกว่าเหมือนไดเร็คเซล มาดู 10 คน บอกต่อ 100” เอาเข้าจริงกลับคล้ายโฮลด์เซลส์ มาดู 10 คน ขอแถมอีก 100 นอกจากต้องพึ่งแรงบันดาลใจเป็นน้ำมันหล่อลื่นแล้ว ยังต้องเติมน้ำมันเป็นเงินสดหลายฟ่อนอัดฉีดอีกแรง ธุรกิจจะได้ไม่เสียศูนย์การเติบโต

"แสนสิริ"

Inspiration by Happiness

แสนสิริอยากให้ทุก module ที่เกี่ยวข้องมีความสุข จึงปรับแปรไปสู่แรงบันดาลใจได้ไม่ยาก

คนเราเมื่อทำธุรกิจ ก็ต้องการความสุข ก็อยากไปให้ถึงจุดที่ทำให้ลูกค้ามีความสุข อาจมองว่าเป็นเรื่องน้ำเน่า แต่ความพอใจ ความสุขของลูกค้าสำคัญที่สุด

แสนสิริต่างจากรายอื่นตรงที่ไม่ได้โฆษณาอย่างเดียวว่า บ้านแสนสิริสวยที่สุด "ใครจะเชื่อถ้าบริษัทไม่เคยทำสิ่งเหล่านั้น"

กระบวนการที่จะไปให้ถึงที่ตรงนั้น แสนสิริเริ่มตั้งแต่ผู้ออกแบบ ต้องให้แรงบันดาลใจแก่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่สั่งว่าจะเอาแบบนั้น แบบนี้ ขณะที่บริษัทโฆษณา ก็ต้องให้อิสระในการคิดสร้างสรรค์เต็มที่ จนผลิดอกออกผลทำให้เลย์เอาท์ภาพถ่ายของแสนสิริ ออกมาไม่เหมือนใคร

"เราเป็นเจ้าแรกที่ถ่ายภาพบ้านตอนกลางคืน ตอนนี้ 1 ใน 3 ของโฆษณาบ้านกลายเป็นภาพบ้านตอนกลางคืนไปเสียแล้ว"

การเลือกมีเดียช่องทางใหม่ๆ ก็สำคัญ ไม่ใช่แค่แอดปกหลังหนังสือพิมพ์ แต่วิธีการของแสนสิริเน้นครบ loop ทั้งเวบไซต์ ไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง สปอนเซอร์ อีเวนท์มาร์เก็ตติ้ง ซีอาร์เอ็ม หรือการจัดงานแจ๊ซ คอนเสิร์ต ซึ่งสมัยก่อนไม่มีคนทำแบบนี้มากนัก เอเยนซีได้ออกไอเดีย ได้ฟุ้งกันสนุก เป็นเหตุผลที่ทำให้ "เอเยนซีอยากทำงานกับแสนสิริมากกว่าเจ้าอื่น"

นอกจากความสุขของลูกค้า เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งแรงบันดาลใจของธุรกิจแล้ว แสนสิริบอกว่า คู่แข่งก็เป็นแรงบันดาลใจได้ดีเหมือนกัน "เพราะถึงจะก๊อบทุกอย่าง สร้างแรงแค้นพอเอาอยู่ แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่า คู่แข่งก๊อบ เพราะชื่นชม"

ความสุขในการแข่งขันกับคู่แข่งก็สนุก ความสุขที่ได้ยินลูกค้าพร่ำบ่นน้อยหน่อยก็ยิ่งสนุก

"อมตะคอร์ปอเรชั่น"

Inspiration by Dynamic

ชื่อว่า "อมตะ" แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะอยู่กัลปาวสาน ถ้านิ่งดูดายปราศจากการขับเคลื่อน อมตะสร้างแรงบันดาลใจ โดยเริ่มต้นจากหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคมคือ ทำความเข้าใจตัวเอง และขยายวงใหญ่กว้างใหญ่ไพศาลคือ รู้จักและเข้าใจโลก ตีแตกแต่ละช่วงจังหวะของชีวิต ว่าอะไรที่จะส่งผลและมีอิทธิพลในช่วงเวลานั้นๆ

ทำไมคนสิงคโปร์ถึงเก่งกว่าใครในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือเพราะเหตุใด? ซัมซุงถึงโค่นแชมป์สิบสมัยอย่างโซนี่ได้?

ถ้ามองและสังเคราะห์แบบอมตะคำตอบที่ได้คือ เป็นเพราะคุณภาพการศึกษาที่ทำให้คนสิงคโปร์ก้าวล้ำกว่าหลายประเทศไปหลายก้าว และสิ่งที่ซัมซุงคว่ำยักษ์ล้มได้ เพราะแรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้งซัมซุงที่เชื่อสุดใจว่า "คนทุกคนบนโลกนี้คือลูกค้าของเรา"

คิดแบบนี้แล้วใครจะรอดเงื้อมมือดาวรุ่งซัมซุงพ้นกันล่ะ?

อมตะมองว่าคนไทยเก่งมากเรื่องชอปปิง แต่อ่อนเดียงสาขยันหาวิจัยและพัฒนา ทำต้นทุนสินค้าให้ถูกมีคุณภาพดี ถ้าคนไทยหัดมองโลกใบนี้ให้เป็นและคิดได้อย่างซัมซุง มีเหตุและผล ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ต่อว่ารัฐบาล รอแต่วันฟูมฟักเหมือนไข่ในหิน โอกาสที่จะเข้าใจตัวเอง เข้าใจโลก เข้าใจความต้องการก็จะมีมากขึ้น

รู้ว่าอีกไม่นานอาหารจะสำคัญกว่าน้ำมัน จนมหาอำนาจอาจวิ่งมาไทยขอแลกน้ำมันกับข้าว รู้ว่าอยากมีชีวิตอมตะต้องวิ่งมาเมืองไทย เพราะเป็นศูนย์รวมสมุนไพรและธุรกิจสุขภาพที่ช่วยต่อลมหายใจให้ยืนยาว ฯลฯ

ถ้าไม่อยากตกยุคก็ต้องตื่นรู้เสมออย่างอมตะ มองภาพรวมเป็น ขยันคิดขยันวางแผน ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครฝันแล้วต้องเสียสตางค์

ที่มา : //www.bangkokbizweek.com / Bschool 17-11-2549


Create Date : 27 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2549 15:29:29 น. 0 comments
Counter : 495 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]