โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

ไต่บันไดฝัน-นักลงทุนสติเฟื่อง ว่าที่คุณหมอ'ศุภชัย ปาจริยานนท์'

Bangkok Biz&Money 03/05/47

ถ้า 'ศุภชัย ปาจริยานนท์' หยุดความฝันของเขาเพียงแค่ 'อาชีพหมอ' หนุ่มวัยใสผู้นี้ก็คงไม่มีเรื่องราวในอีกแง่มุมหนึ่ง เก็บไว้เป็นโบนัสชิ้นเอกของชีวิต
แต่สำหรับศุภชัย เขาเป็นนิสิตแพทย์ที่พยายามไต่บันไดฝันไปสู่จุดหมายปลายทางในฐานะ 'นักลงทุน' และ 'นักธุรกิจ' ที่ประสบความสำเร็จ
จากผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 1,500 คน ที่เข้าร่วมชิงความเป็นหนึ่งเยาวชนสมองใสด้านการเงินส่วนบุคคล (Money Management Ambassador) ในโครงการ 'Money Management Award' (MM Award) ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา
ศุภชัย คือ 'The Winner' เจ้าของรางวัลชนะเลิศการบริหารเงินส่วนบุคคล กับวัยเพียง 20 ปีเศษ และกำลังศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 5 ศิริราชพยาบาล
นอกจากจะเป็นว่าที่ 'คุณหมอ' ที่มีอนาคตในอีกหนึ่งปีข้างหน้าแล้ว เขายังเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และเป็นเจ้าของธุรกิจเขียนโปรแกรมหุ้นบนมือถือรายแรกของเมืองไทยที่มีทุนจดทะเบียนสูงถึง 200 ล้านบาทอีกด้วย
*******************************************************
คนซึ่งไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไรในชีวิต หรือไม่สามารถวาดภาพอนาคตของตัวเองคนเหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้ยาก เปรียบเสมือนเรือที่ขาดหางเสือกลางทะเลกว้าง
'ศุภชัย ปาจริยานนท์' เด็กหนุ่มสติเฟื่อง เขาใช้สติปัญญาที่ฟ้าได้ประทานมาให้ มุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
'ศุภชัย' เกิดและเติบโตในครอบครัวที่มีพ่อและแม่เป็นสัตวแพทย์ทั้งคู่ ชีวิตในวัยเด็กเขาได้รับการปลูกฝังให้รู้จักการออมเงินและบริหารเงินแต่เล็กๆ
จุดเริ่มต้นของการออมเงินของเขาเกิดจากความคิดที่ว่าเงินค่าขนมวันละ 5 บาท ที่พ่อแม่ให้ไม่พอใช้ จึงคิดว่าจะทำอย่างไร? ถึงจะมีเงินมากขึ้น ก็ใช้วิธีหาเงินด้วยการเอาของเล็กๆ น้อยๆ ไปขายเพื่อให้ได้รับเงินค่าขนมเพิ่มขึ้นมา
'ผมสนใจเรื่องเงินๆ ทองๆ ตอนอย่างเข้าอายุ 11-12 ขวบ ตอนไปเปิดบัญชีออมทรัพย์และเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคารต่ำมาก จึงเกิดการเปรียบเทียบดอกเบี้ยเงินฝากของแต่ละแบงก์ จากนั้นจึงทำให้สนใจเรื่องการเงิน การลงทุนเรื่อยมา โดยการติดตามข่าวสารด้านการลงทุนมาตลอด เริ่มอ่านตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนปี 1 จนมหาวิทยาลัยก็สนใจและหาความรู้มากขึ้นเรื่อยๆ'
แม้จะเป็นนิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 5 ศิริราชพยาบาล แต่ศุภชัยก็ให้ความสนใจทางด้านบริหารธุรกิจไปพร้อมๆ กัน โดยกำลังเรียนคณะบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงควบคู่กันไป และใกล้จะสำเร็จการศึกษาในเร็ววันนี้
'เหตุผลที่เลือกเรียนหมอ ก็เพราะผมคิดว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและได้ช่วยเหลือคนอื่น และก็ทำให้เรารู้ว่าการดำเนินการตรวจโรคเป็นอย่างไร เป็นโรคอะไร เกิดจากอะไร ซึ่งเป็นวิชาที่น่าสนใจมาก แต่ที่เรียนบริหารธุรกิจอีกสาขาหนึ่งก็เพราะต้องการให้ตัวเองมีความรู้ด้านการเงินและธุรกิจเพิ่มเติมอีกปริญญาหนึ่ง'
ศุภชัย เริ่มกระโดดเข้าสู่ตลาดหุ้นตั้งแต่เรียนชั้นปีที่ 1 ศิริราชพยาบาล แต่เขาจะลงทุนไปทีละสเต็ป โดยเริ่มจากการศึกษาและลงทุนในกองทุนรวมก่อนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นในตลาดหุ้น
'กองทุนจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า จึงลองลงทุน แต่การลงทุนเป็นเรื่องของ High Risk High Return ถ้าเรารับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นได้ เราก็จะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นด้วย ผมก็เลยคิดเล่นหุ้นด้วยตัวเอง จึงปรึกษาคุณพ่อ ซึ่งเขาเคยเล่นหุ้นและเจ็บตัวมาก่อน เลยกลัวไม่กล้าเล่น แต่ผมก็คิดว่ามันคงไม่ใช่กับทุกคน หลังจากลงทุนในกองทุนพักหนึ่ง ก็คิดว่ามันน่าจะได้รับผลตอบแทนที่ทำได้ดีกว่านั้น'
ศุภชัย บอกว่า แม้เล่นหุ้นจะมีความเสี่ยง แต่ถ้าเราจำกัดความเสี่ยงได้ เราก็จะได้ผลตอบแทนที่สูง เหมือนกับหลักการลงทุนที่บอกว่า ?อย่าเอาไข่ไปใส่ในตะกร้าใบเดียวกัน? จึงทำให้เรากระจายความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง และทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นเป็นลำดับ
หลังจากนั้นจึงตัดสินใจแบ่งเงินลงทุน โดยโยกเงินลงทุนส่วนใหญ่ 80% ลงในหุ้น ส่วนอีก 20% ฝากเป็นเงินออม
'การแบ่งเงินลงทุนของผม จะเทียบกับอายุ ซึ่งผมลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่สูง ก็เพราะผมอายุยังน้อย จึงสามารถรับความเสี่ยงได้มาก'
ปัจจุบันแม้เงินลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นของครอบครัวซึ่งประกอบด้วยพ่อแม่ เขาและน้องสาว แต่พอร์ตการลงทุนก็เติบโตขึ้นต่อเนื่องและค่อนข้างมากจากฝีมือการบริหารของศุภชัย ซึ่งเขาบอกว่า จากเงินก้อนเล็กๆ พอหลายปีก็ขยับเติบโตเป็นก้อนใหญ่ขึ้นในวันนี้
'ผลตอบแทนของพอร์ตลงทุนอยู่ประมาณ 15-20% ต่อปี คิดว่าใช้ได้ทีเดียว แม้ผลตอบแทนที่ได้รับจะดีเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ซึ่งจะได้ผลตอบแทนที่สูงมาก หุ้นบางตัวได้กำไรสูงถึง 100% แต่เฉลี่ยพอร์ตปีที่แล้วราว 90%'
คนที่ได้รับการยกย่องจากคนอื่น ย่อมมีจุดเริ่มต้นจากการยกย่องใครสักคน แต่ผู้ที่จะประสบความสำเร็จย่อมประยุกต์ใช้กฎเกณฑ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ โดยเฉพาะวิธีคิดแบบ'คนส่วนน้อย'ในตลาดหุ้น
ศุภชัยยึดแบบอย่างจาก ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ปารมาจารย์ด้าน Value Investor ของเมืองไทย เมื่อก่อนจะเล่นหุ้นตามคน 'ส่วนใหญ่' ในลักษณะซื้อๆ ขายๆ ทุกวัน เข้าเร็วออกเร็ว แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้กำไรทุกครั้ง
แต่หลังจากเปลี่ยนวิธีการลงทุนเป็นระยะยาว เมื่อหุ้นขึ้นจะได้รับผลตอบแทนเต็มๆ และที่สำคัญยังสบายใจไร้กังวลอีกด้วย
ปัจจุบันพอร์ตลงทุนของศุภชัย จะมีหุ้นเพียง 2-3 ตัวเท่านั้น เพราะเขายึดหลักว่า แม้ลงทุนหลายตัวจะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี แต่หากไม่มีเวลาดูแลหุ้นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป
'ผมว่าลงทุนในหุ้น 2-3 ตัวพอแล้ว โดยจะเลือกหุ้นตามลักษณะธุรกิจว่า เขาทำอะไร บริษัทมีกำไรหรือไม่ อนาคตจะเป็นอย่างไร มีหนี้สินหรือไม่ คือจะคิดตามหลักลงทุนแบบปัจจัยพื้นฐาน ดูปันผลด้วย ก็จะมีหุ้นแบงก์ ไฟแนนซ์ และพลังงานอย่างละตัว ซึ่งผมจะเลือกหุ้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มากและราคาไม่สูงเกินไป'
ชนะรางวัล 'MM Award'
ทูตการเงินส่วนบุคคลแนวใหม่
ด้วยอุปนิสัยที่ชื่นชอบความท้าทายและการแข่งขันเป็นทุนเดิม หลังจากศุภชัยได้อ่านประกาศเชิญชวนให้เข้าร่วมลงแข่งขันชิงรางวัล 'MM Award' เมื่อปีที่ผ่านมา ภายในคอนเซปต์ที่ว่า 'หัวคิดดีมีสิทธิรวย' ก็ทำให้เขาเกิดความสนใจในทันที
จากผู้สมัครเกือบ 1,500 คน ทดสอบด่านแรก มีเพียง 309 คน ที่ผ่านการทดสอบสู่ด่านที่ 2 ซึ่งผู้แข่งขันจะต้องทดสอบการวิเคราะห์และประยุกต์ทฤษฎีการบริหารเงินกับชีวิตประจำวัน โดย 100 คนแรก ที่ทำได้คะแนนสูงสุด ได้เร็วที่สุดจะได้เข้ารอบถัดไป
'เมื่อได้ผู้เข้าแข่งขัน 300 คนแล้ว ก็จะมาแข่งขันตอบคำถามในเกมโชว์ ซึ่งจะมีคำถามปรากฏขึ้นมาบนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีคำถามต้องตอบ 30 ข้อ ให้เวลาประมาณ 15 นาที ใครทำข้อสอบถูกมากที่สุดในเวลาน้อยที่สุด 100 คนแรก จะได้เข้ารอบ'
การแข่งขันรอบที่ 3 เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 20 คน โดยเป็นการสอบข้อเขียน และเสนอข้อมูลโดยการบันทึกเทปแสดงความคิดเห็นหน้ากล้องโทรทัศน์ ซึ่งคำถามจะเป็นเรื่องการลงทุน การบริหารเงินส่วนบุคคล
การแข่งขันด่านที่ 4 จะคัดผู้เข้ารอบเหลือ 10 คนสุดท้าย จากการประลองคำถามความรู้รอบตัวด้านการเงิน และข่าวเศรษฐกิจ ตอบคำถามสดบนเวที ในงาน Set in the City เมื่อปลายเดือนพ.ย.2546
ด่านสุดท้ายทั้ง 10 คน ต้องไปออกทีวีช่อง 5 และช่อง 9 ตอบคำถามจากกรรมการ เพื่อคัดเลือกผู้ที่ทำคะแนนสูงสุด 5 คนแรก และคัดผู้ชนะเลิศอันดับ 1-2-3
ในที่สุดแล้วชื่อของ 'ศุภชัย' ก็ได้เป็นผู้ชนะและได้รับรางวัลชนะเลิศการบริหารเงินส่วนบุคคลแห่งปี 2546
หน้าที่หลักของศุภชัยในฐานะผู้ชนะเลิศ MM Award ก็คือ จะต้องเป็นผู้เผยแพร่ความรู้ในการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป ตลอดจนชี้แนะทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมให้แต่ละบุคคลต่อไป
ตั้งบริษัทข้อมูลหุ้นบนมือถือ รายแรก
แม้จะประสบความสำเร็จกับรางวัลชนะเลิศด้านการเงินส่วนบุคคล แต่ก่อนหน้านั้น ศุภชัย ได้ผ่านสนามประลองมาหลายแห่ง จนเป็นที่มาของการเป็นเจ้าของธุรกิจให้ข้อมูลหุ้นบนมือถือในปัจจุบัน
'จริงๆ แล้วก่อนหน้านั้นผมเป็นคนชอบการแข่งขัน เพื่อที่ตัวเองจะได้ความรู้และเปิดความคิดให้กว้างมากขึ้น จึงทำให้ได้พบกับคนที่คิดและชอบอะไรที่เหมือนๆ กัน'
ในปี 2545 ศุภชัย ได้เข้าร่วมการแข่งขันเขียนโปรแกรมดูข้อมูลหุ้นผ่านมือถือในโครงการ 'Djuice DOT Award' ครั้งที่ 1 ที่จัดโดยบริษัทดีแทค โนเกีย และจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ซึ่งได้รับรางวัล 'Best 5 Award' และในปีถัดมาก็แข่งขันรายการเดียวกันนี้อีกครั้ง ก็ได้รางวัลเดียวกันอีกเป็นปีที่ 2
นอกจากนั้น ยังได้รางวัลการแข่งขันเขียนแผนการตลาด (BrandAge Final Award:Marketing Plan (IMC))จัดโดยหนังสือแบรนด์ เอจ ได้เข้ารอบสุดท้าย และล่าสุดได้รางวัลการแข่งขันกับโครงการ MM Award
จุดเริ่มต้นทางธุรกิจของศุภชัย มาจากความคิดที่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้เงินทำงานให้เราเพื่อไปถึงอิสระทางการเงิน เขาจึงนำความรู้ด้านการลงทุน มาบวกกับความสนใจเทคโนโลยีที่มีมาแต่เด็ก จนกลายมาเป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลหุ้นบนมือถือรายแรกของเมืองไทย
ศุภชัยได้ร่วมกับเพื่อนจัดตั้งบริษัท 'First Vision Advantage' ทำธุรกิจด้านการวางระบบข้อมูลหุ้นผ่านมือถือและพัฒนาเวบไซต์ โดยร่วมกับบริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม ในการพัฒนาบริการ mobiSET
'บริษัทนี้เกิดขึ้นจากการรวมตัวของผู้แข่งขันโครงการ Djuice DOT Award เมื่อปี 2545 ซึ่งคิดว่าเป็นธุรกิจที่ไปได้ จึงจัดตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา เพื่อทำธุรกิจเขียนโปรแกรมข้อมูลหุ้นผ่านมือถืออย่างจริงจัง โดยร่วมกับเพื่อนรวมกัน 5 คน ด้วยทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 200 ล้านบาท ซึ่งผู้ร่วมทุนจะเก่งทางด้านเทคนิคมาก เพราะเขาจบจากคณะวิศวะจุฬาฯด้านคอมพิวเตอร์'
ด้านการบริหารของบริษัท ศุภชัย จะเป็นคนจัดทีมงานเองว่า แต่ละคนมีความถนัดหรือเหมาะกับอะไรก็ให้ทำตรงนั้น
'อย่างเพื่อนเก่งด้านเทคนิค ผมถนัดด้านการดีไซน์โปรแกรมและการตลาด เพราะผมเล่นหุ้นด้วย ทำให้รู้ว่านักลงทุนอยากได้อะไรก็จะเอาอย่างนั้นมาพัฒนา'
คนส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะยอมแพ้เร็วเกินไปเมื่อพบกับอุปสรรคเพียงครั้งแรกแต่ไม่ใช่ศุภชัย
'ตอนเริ่มทำมีปัญหาเยอะมาก เพราะเราไม่มีประสบการณ์และผู้ใหญ่ในวงการก็เอารัดเอาเปรียบ จึงโดนโกงมาแล้วเป็นล้านๆบาท'
ศุภชัย บอกว่า การพัฒนาโปรแกรมข้อมูลหุ้นผ่านมือถือของบริษัทผู้ใช้บริการสามารถดูข้อมูลซื้อขายหุ้นผ่านมือถือ และกราฟได้เป็นรายแรก แต่ก่อนที่จะได้ร่วมกับบริษัทเซ็ทเทรดก็ไปคุยกับโบรกเกอร์และบริษัทต่างๆ ร่วม 20 บริษัทมาแล้ว
เขาบอกว่าปัจจุบันมีคนใช้บริการข้อมูลหุ้นผ่านมือถือกับบริษัทเซ็ทเทรด 5 พันราย จากที่ตั้งเป้าครั้งแรกไว้เพียง 1 พันราย ถือว่าเกินเป้าหมายมาก และปีนี้คิดว่าจะปรับอะไรอีกมาก ซึ่งจะเห็นได้ในงาน Money Expo ที่จะจัดขึ้นในเดือนพ.ค.นี้
สำหรับธุรกิจการให้บริการของบริษัท First Vision Advantage ครอบคลุม 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจพัฒนาโปรแกรมข้อมูลด้านบริการการเงิน การลงทุน ซึ่งในปีนี้จะขยายสินค้าไปสู่เกมตลาดหุ้นจำลองบนมือถือ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษา
2.ธุรกิจรับออกแบบเวบไซต์และสิ่งพิมพ์ ให้กับบริษัทหลักทรัพย์
3.ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารและเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า เพราะจะให้บริการครบวงจร สำหรับคนที่ต้องการซื้อมือถือและโปรแกรม
ศุภชัยบอกว่าในปีที่ผ่านมารายได้ของบริษัทเติบโตถึง 300-400% และปีนี้รายได้น่าจะเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขหลักสิบล้านบาท
แต่จุดอ่อนของบริษัทก็มี โดยเฉพาะด้านประสบการณ์ของผู้ร่วมธุรกิจยังน้อย แต่ก็จะเน้นการคิดใหม่ ทำใหม่ โดยพัฒนาโปรแกรมให้ก้าวไกลกว่าคนอื่นตลอดเวลา
?ทุนขนาด 200 ล้านบาท คิดว่าจะทำธุรกิจนี้ได้ ส่วนโปรแกรมเราต้องพัฒนาได้นำคู่แข่งอีกสเต็ปหนึ่งเสมอ แม้เงินทุนและประสบการณ์จะสู้คู่แข่งรายใหญ่ได้ยาก แต่ตัวโพรดักท์และอินโนเวชั่นของเราจะทันตลาด และเป็นจุดเด่นของเรา?
ทุกวันนี้ศุภชัยไม่เคยหยุดคิดที่จะไต่บันไดฝันของตัวเอง เขาคือนักลงทุนพันธุ์ใหม่ที่กล้าคิด และกล้าท้าทายความฝันด้วยการลงมือทำ
ด้วยแรงใจที่แกร่งกล้า และหัวใจที่เกิน 100% ว่าที่คุณหมอหนุ่ม 'สติเฟื่อง' กับฝันที่ยังอีกยาวไกล?.


Create Date : 15 กันยายน 2548
Last Update : 15 กันยายน 2548 15:27:29 น. 0 comments
Counter : 1961 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]