โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

Boy : "ยุคแห่งความรู้"

ยุคนี้คือ "ยุคแห่งความรู้" อย่างแท้จริง
ความรู้ในโรงเรียนกำลังถูกท้าทาย
และคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
กำลังถูกทิ้งห่างออกไปทุกทีๆ
เพราะเราอยู่ในยุคที่ผมอยากจะเรียกมันว่า
"ยุคศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง"

ทุกวันนี้ถ้าเราอยากรู้อะไรสักเรื่อง
เรามีทั้งอาจารย์กู (เกิ้ล) อาจารย์ยู (ทูบ) อาจารย์วิ (กิพีเดีย)
ความรู้แทบจะทะลักทลายเป็นเขื่อนแตก
เด็กฝรั่งนั้น สามารถเรียนสิ่งที่อาจารย์สอนทุกระดับชั้นจากโรงเรียนและมหาลัยดังๆ ผ่าน app ที่ชื่อ iTunes U

ผมเจอวิดีโอความรู้ดีๆ ในยูทูบที่ดูทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด
ผมค้นหาคำความรู้ที่ต้องการ แล้วก็เจอกับเว็บไซต์เข้าท่ามหาศาล
หรือถ้าอยากได้หนังสือฝรั่งสักเล่ม ก็ไม่ต้องเดินออกไปซื้อ
แค่คลิกเดียว ไฟล์หนังสือก็มาอยู่ตรงหน้า

พูดตรงๆ ยุคนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่ถูกสอนไว้
ขอเพียงแต่เรารู้ว่าเราอยากรู้เรื่องอะไรเท่านั้นเอง

แต่ทั้งหมดที่ว่ามา
ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่าฟังหรืออ่านภาษาอังกฤษออกนะครับ
ผมถึงบอกว่าคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
คุณกำลังแย่แบบไม่รู้ตัว
เพราะคนทั้งโลกกำลังเรียนรู้ด้วยตนเอง
และมีคนจิตกุศลมากมายที่พร้อมจะแบ่งปันความรู้แบบฟรีๆ

คนที่ห้องสมุดใหญ่กว่า ยังไงก็มีโอกาสชนะสูง

ส่วนความรู้ในโรงเรียนบ้านเรานั้น
ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงยังล้าหลัง
ผมงงมากที่ลูกสาวผม 8 ขวบ
ยังต้องเรียนภาษาไทยจากหนังสือ "ดรุณศึกษา"
ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว มันไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับเด็กเลย

ยังไม่นับที่โรงเรียนนั้นสอนนักเรียนให้กลัวครู
จึงไม่มีใครกล้าถาม
ผมยังจำประโยคที่พี่โจ้ คอมเมนเตเตอร์เดอะสตาร์
ผู้เป็นคุณครูของนักเรียนมาหลายสิบปี ได้ดี
พี่โจ้เล่าให้ผมฟังว่า
"ครูบางคนหลบซ่อนความไม่เก่งของเค้าไว้ในความดุ"
ผมว่ามีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย

ผมจึงสอนลูกเสมอว่าความรู้อยู่นอกห้องเรียน
ในห้องเรียน เรียนให้พอผ่าน
แต่นอกห้อง ความรู้เราต้องค้นหา
และภาษาอังกฤษสำคัญมาก

สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ท่านๆ
โลกนี้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
แต่คนที่ไม่รู้ตัว
ก็จะไม่รู้ตัวต่อไปว่าวันนี้เรากำลังแข่งกับคนทั้งโลก
ไม่ใช่แค่คนไทย

เขื่อนความรู้กำลังแตกทะลัก
และ "ความรู้" ก็คือ "ทุน" ของยุคนี้
อย่างผมเองไม่มีปัญญาจะไปซื้อคอนโดหรูเป็นสิบๆ ห้อง
แต่ทุกวันนี้ผมก็มี passive income
เทียบเท่ากับคนที่มีคอนโดหรูให้เช่าเป็นสิบๆ ห้อง
เพราะผมมีทุนคือ "ความรู้" นั่นเอง

ย้ำอีกทีว่าเรากำลังอยู่ใน
"ยุคศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง"
ใครหยุดศึกษาหาความรู้
ไม่นานจะถูกทิ้งไว้จนไม่เห็นฝุ่น
หรือไม่ก็กลายเป็นแรงงานราคาถูก

ความรู้ที่เรียนในโรงเรียนมันอายุสั้นครับ
โลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน วันละหลายครั้งด้วย
อย่าให้หนังสือเล่มสุดท้ายที่อ่านคือวิชาสุดท้ายที่สอบตอนปี 4
เพราะความรู้นั้นมันล้าหลังไปนานแล้วครับ





Create Date : 12 ธันวาคม 2556
Last Update : 31 ธันวาคม 2556 16:09:00 น. 0 comments
Counter : 535 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]