ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง

ผ่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๑๒-๑๓/๒๕๕๑ (กรณีการจัดรายการโทรทัศน์ของนายสมัคร สุนทรเวช)

โดย พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย (อ.ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.อัสสัมชัญ)
ที่มา เวบไซต์ pub-law
29 กันยายน 2551

....... ภายหลังจากที่ผู้เขียนได้ศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้โดยละเอียดแล้ว ผู้เขียนเห็นว่า ในความเป็นจริง ประเด็นปัญหาหลักของคำวินิจฉัยคดีนี้ มิได้เป็นเรื่องของการตีความเฉพาะแต่คำว่า “ลูกจ้าง” ที่กว้างจนเกินไปอย่างที่หลายๆ คนได้วิพากษ์วิจารณ์กันโดยทั่วไป เพราะประเด็นดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นเพียงประเด็นปลีกย่อยเท่านั้น หากแต่ ปัญหาหลักที่สะท้อนให้เห็นจากคำวินิจฉัยคดีนี้ กลับเป็นตรรกะของการตีความรัฐธรรมนูญตามหลักนิติวิธี (Juristic Method) โดยรวม และความเข้าใจอย่างถ่องแท้กับความหมายของคำว่า “การกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์” ของศาลรัฐธรรมนูญที่ผิดพลาด ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เป็นอย่างมากจนนำไปสู่ผลของคำวินิจฉัยอันแปลกประหลาด ซึ่งกลายเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญไปโดยปริยาย (De Facto Amendment) ทั้งนี้เนื่องจากว่า การตีความของศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการทำให้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญซึ่งมีลักษณะที่มีการบังคับใช้แบบ นามธรรม กลายเป็นบทบัญญัติที่มีการบังคับใช้แบบรูปธรรม และผูกพันให้องค์กรหลักที่ใช้อำนาจอธิปไตยและองค์กรอื่นๆ ของรัฐ ต้องกระทำตามนั่นเอง ....

...... ในคดีของนายสมัครนี้ ปรากฎว่าทางฝ่ายผู้ถูกร้อง(นายสมัคร)ได้มีการหยิบยกเอาตัวบทกฎหมายอื่นๆ อย่างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยตีความคำว่า “ลูกจ้าง” ที่ปรากฎอยู่ในมาตรา ๒๖๗ ของรัฐธรรมนูญว่า มีความหมายอย่างไร ซึ่ง ณ ที่นี้ ผู้เขียนจะไม่ขอเข้าไปวิเคราะห์วิจารณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวจำเป็นและเป็นประโยชน์หรือไม่ในการตีความ แต่การที่ศาลรัฐธรรมนูญปฏิเสธที่จะรับฟังการกล่าวอ้างถึงกฎหมายเหล่านี้เสีย แล้วกลับกล่าวอ้างเพียงแต่ตัวพจนานุกรม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ลูกจ้าง” ที่ปรากฎในรัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยหาได้ตรวจสอบจากตัวบทกฎหมายอื่นๆ หรือแม้กระทั่งตัวบริบทแห่งรัฐธรรมนูญในมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยไม่นั้น เป็นการผิดหลักการตีความกฎหมายที่สากลประเทศเขาปฏิบัติกัน กล่าวคือ ศาลรัฐธรรมนูญได้ยึดพจนานุกรมเป็นสรณะในการตีความรัฐธรรมนูญนั่นเอง ....

....... ด้วยความเคารพต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีมติเอกฉันท์ให้นายสมัคร สิ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยการต้องด้วยตัวบทรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๖๗ อันถือได้ว่า เป็นการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ทั้งนี้ เนื่องจากผู้เขียนเห็นว่า แม้นายสมัครจะมีการรับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรูปของตัวเงินจริง แต่การกระทำดังกล่าว ก็หาได้เป็นการกระทำอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์โดยแท้แต่อย่างใด ....

......... ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับเหตุผลและวิธีการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นำมาใช้ เพื่อตีความรัฐธรรมนูญ อันนำไปสู่การทำคำวินิจฉัยในท้ายที่สุด โดยคำวินิจฉัยนี้ หาได้เป็นคำวินิจฉัยที่ดีเพียงพอที่จะเป็นบรรทัดฐานสำหรับกรณี “การกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์” ต่อไปในภายภาคหน้าได้ เพราะเป็นการวินิจฉัยคดีที่มิได้เป็นไปตามหลักสากล ว่าด้วยการตีความและการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ที่แท้จริง อันส่งผลเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง แทน ที่คำวินิจฉัย จะเป็นการสร้างและกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นการทำลายระบบต่างๆ ในองค์รวมให้หมดไป ....

....... ศาลรัฐธรรมนูญอาจต้องกลับมาพิจารณาและตรึกตรอง ในคำวินิจฉัยคดีของนายสมัครว่า มีความผิดพลาดมากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักการของการตีความรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมครั้งนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้รับการยอมรับในหมู่ประชาชน และนักวิชาการอย่างกว้างขวาง ผู้เขียนเห็นว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีการตีความที่ถูกต้อง ไม่เล่นถ้อยคำภาษาจนเกินไป และกลับมาคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอันแท้จริง ความสมเหตุสมผล และตระหนักถึงความรู้สึกนึกคิดของคนโดยทั่วไปแล้ว การตีความอันนำไปสู่ผลที่แปลกประหลาดก็จะไม่เกิดขึ้น อีกทั้ง ก็จะไม่ประสบกับภาวะความไม่เชื่อถือต่อองค์กรตุลาการทั้งในระดับภายในประเทศ และในระดับระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้พัฒนาการของกฎหมายมหาชนในประเทศไทย ถูกบั่นทอน และส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งระบบในระยะยาวต่อไปอีกด้วย .....

( หมายเหตุ อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ ได้จาก //www.pub-law.net/publaw/View.asp?publawIDs=1280 )




 

Create Date : 30 กันยายน 2551    
Last Update : 30 กันยายน 2551 0:20:11 น.
Counter : 461 Pageviews.  

วอชิงตันโพสต์: วิกฤตใหม่การเมืองไทยเพราะพวกนิยมเจ้าและขุนนาง

บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
วันที่ 6 กันยายน 2008
แปลโดย freethai

วิกฤตใหม่ของประเทศไทย: เมื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่อ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตยได้ประสพความสำเร็จ อย่างยอดเยี่ยมในการทำลายประชาธิปไตยของไทย

ข่าวดีเกี่ยว กับระบอบประชาธิปไตยก็คือ ในขณะที่จำนวนของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้เพิ่มมากขึ้น และหยั่งรากลึกไปในประเทศต่างๆทั่วโลกตลอดระยะเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมา คนยากจนและคนพื้นเมืองส่วนน้อยที่ถูกละเลยในหลายๆประเทศเริ่มมีอำนาจมากขึ้น ในประเทศอย่างบราซิล อินโดเนเชียและเมกซิโก รัฐบาลได้หันมายอมรับนโยบายที่ให้ความช่วยเหลือกับชนกลุ่มนี้มากขึ้น และมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนเหล่านี้ก็ดีขึ้น

แต่ข้อเสียก็คือ การขยายตัวของระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยแบบนี้ในบางประเทศ ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องของวัฒนธรรม หรือมาตรฐานทางชนชั้น ซึ่งที่ผ่านมาได้บดบังเสรีภาพของประชาชน ในบางประเทศเช่น เวเนซูเอลา และโบลิเวีย ผู้ใช้นโยบายประชานิยมเพื่อช่วยเหลือคนจนหรือคนพื้นเมืองที่ด้อยโอกาศที่ เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทส สามารถชนะการเลือกตั้งได้ หลังจากนั้น ก็มีการใช้อำนาจเพื่อสร้างอำนาจให้กลุ่มของตนและกำจัดการแข่งขันจากกลุ่มชน ชั้นสูงหัวเก่า เรามีความเห็นมากมายว่า ฮิวโก้ ชาเวซแห่งเวเนซูเอลา และ อีโว โมราเลสแห่งโบลิเวียได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศของพวกเขามากน้อยแค่ไหน

แต่ อันตรายที่คู่ขนานกันไปก็มาจากกลุ่มชนชั้นสูงที่ตอบโต้การแสวงหาสิทธิและ อำนาจทางการเมืองของชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่มนอดีตที่ผ่านมาถูกกีดกันจากอำนาจทางการเมือง โดยใช้วิธีการตรวจสอบความเป็นประชาธิปไตยที่คนส่วนใหญ่ของประเทศค่องการ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตุรกี เมื่อกลุ่มอำนาจชั้นสูงที่ครองอำนาจมานาน ได้พยายามใช้ทั้งกำลังทหารและผู้พิพากษาในการยกเลิกและไม่ยอมรับชัยชนะจาก การเลือกตั้งที่พรรคอิสลามิค เอเค ได้รับคะแนนเสียง และเรื่องราวที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากก็กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยซึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศต้องประสพภาวะชะงักงันเพราะวิกฤตทางการเมืองเป็นครั้งที่สอง ภายในเวลาไม่ถึงสองปี

ศูนย์กลางของความขัดแย้งของประเทศไทยเป็นผลมา จาก กระบวนการทางการเมืองที่เริ่มต้นด้วยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อดีตอภิมหาเศรษฐี ที่หันมาเป็นนักการเมืองผู้ได้รับความนิยมจากประชาชน เขาชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายถึงสองครั้งเพราะนโยบายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือคนยากจนในชนบท ถ้ากล่าวแบบกว้างๆ ทักษิณ สามารถสร้างผลงานได้ตามนโยบายที่เสนอไว้ตอนหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นโครงการประกันสุขภาพราคาถูก โครงการสินเชื่อสำหรับชาวนา แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เข้มงวดกับสื่อมวลชน และปล่อยให้กองทัพและตำรวจทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อสองปีที่แล้ว มีขบวนการต่อต้านทักษิณที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองเก่าแก่โดยอ้าง ว่าเป็นกระบวนการเพื่อปกป้องประชาธิปไตย กรุงเทพต้องเป็นอัมพาตเพราะการประท้วง และในที่สุด การประท้วงก็นำไปสู่การรัฐประหาร และเป็นไปตามที่คาด บรรดานายพลทั้งหลายก็พบว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะบริหารประเทศ และเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ต้องยอมให้มีการเลือกตั้ง และก็เป็นไปดังที่คาดการณ์กัน พรรคการเมืองของทักษิณที่มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ และมีผู้นำพรรคคนใหม่ ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง

และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชนชั้นสูง ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพได้พยายามจะล้มรัฐบาลโดยการใช้กำลัง คนนับพันเข้าไปยึดที่ทำการรัฐบาล ก่อการปะทะอย่างรุนแรงอันส่งผลให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ต้องประกาศสภาวะฉุกเฉิน พวกก่อความไม่สงบนี้กลับเรียกตัวเองว่าเป็น “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” แต่คราวนี้สิ่งที่ผู้นำบางคนของกระบวนการนี้เรียกร้องกลับเป็นสิ่งที่ตรง ข้ามกับประชาธิปไตย นั่นก็คือการกลับสู่การเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชเต็มรูปแบบ หรือมิฉนั้นก็เป็นการปกครองแบบเผด็จการทหารที่ได้รับการสนับสนุนโดยข้า ราชการชั้นสูง ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันกระบวนการทางการเมืองของทักษิณให้พ้นจากอำนาจ

เป็น เรื่องโชคดีที่ผู้นำกองทัพของไทยดูเหมือนจะได้เรียนรู้บางอย่างจากความล้ม เหลวในการทำรัฐประหารคราวที่แล้ว ผู้นำกองทัพคนปัจจุบัยปฏิเสธที่จะทำการรัฐประหาร แม้ว่าในเวลาเดียวกัน เขาก็ปฏิเสธที่จะใช้อำนาจตามกฏหมายเรื่องสภาวะฉุกเฉิน และไม่ยอมสลายการชุมนุม สมัครได้ยืนยันท่ามกลางกระแสกดดันที่จะไม่ลาออก แต่ในขณะเดียวกัน กลับจะเสนอให้มีการลงประชามติทั่วประเทศว่าเขาควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ ดังนั้น แปลว่าหน้าที่ในการยุติวิกฤตการณ์นี้ตกเป็นภาระของฝ่ายค้าน คนที่อยู่ในฝ่ายค้านที่มีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงจะ ต้องแสดงออกเท่าๆกับสมาชิกของกลุ่มที่กำเนินการเพื่อการทำลายล้างระบอบ ประชาธิปไตยอยู่




 

Create Date : 09 กันยายน 2551    
Last Update : 9 กันยายน 2551 16:57:27 น.
Counter : 454 Pageviews.  

ยึดเมืองรอบใหม่

นักข่าวถามขาใหญ่พันธมิตรฯ ว่า จะยุติการเคลื่อนไหวเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ คำตอบคือ ต้องมาพูดคุยกันก่อน ต้องมีเงื่อนไข ไม่อย่างนั้นก็จะชุมนุมขับไล่อีก ไม่รู้ "ประชาธิปัตย์" ฟังแล้วหนาวหรือไม่ หรือไม่รู้ร้อนรู้หนาวเพราะขยิบตาให้

ทั้ง สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ ส.ส.สอบตกหลายคน ไปร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ยังไงก็พูดกันรู้เรื่อง แต่แน่ใจแล้วหรือ ???

เพราะคำตอบนี้เท่ากับ ถึงประชาชนจะเลือกใครเข้ามาด้วยเสียงข้างมากขนาดไหนก็ตาม ถ้าพันธมิตรฯ ไม่เห็นชอบก็ยากที่จะอยู่สุขได้ ในเมื่อกลุ่มนี้ได้แปรสภาพเป็น อำนาจนอกระบบ ที่ใหญ่กว่า อำนาจอธิปไตย ในมือของประชาชนไปแล้ว

ไม่ได้ดั่งใจเมื่อไหร่ก็ต้องเจอชะตากรรมอย่างที่ สมัคร สุนทรเวช กำลังโดนอยู่นี่แหละ

ก็เพราะพรรคพลังประชาชนที่แปลงร่างจากไทยรักไทยดันได้ ส.ส. ถึง 233 เสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม 5 พรรค 316 เสียงสำเร็จ แต่ทำงานได้ไม่ถึง 3 เดือน พันธมิตรฯ ก็ ก่อม็อบขับไล่อย่างรุนแรงแล้ว ใช้ "เอเอสทีวี" ซึ่งเป็นเคเบิลทีวีปลุกระดม ใส่ข้อมูล (ด้านเดียว) จริงบ้างเท็จบ้าง ตลอดวันตลอดคืน

ถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง ยิ่งกว่า "เรีย ลิตี้โชว์" การปราศรัยล้วนใช้ถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง ด่าทอคนเป็นสารพัดสัตว์ ไม่ต้องเซ็นเซอร์ อย่าว่าแต่คนที่ไม่ชอบรัฐบาลจะสะใจเลย พวกกลาง ๆ ดูแล้วก็ยังเป็นสาวกเอาง่าย ๆ

ยอมรับลีลาและฝีปากที่สรรหามาแต่ ละคนสุดยอด กว่ารัฐบาลจะรู้ว่า "เอเอสทีวี" มีอิทธิพลครอบงำคนดูจนแกะไม่ออก หันมาทำ รายการ "ความจริงวันนี้" ทางช่อง 11 บ้างก็สายเสียแล้ว

ล่าสุด 26 ส.ค. ก็คือปฏิบัติการไทยคู่ฟ้า สั่งพลพรรคบุกยึดทำเนียบรัฐบาล เอ็นบีที และสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง มีสหภาพรัฐวิสาหกิจโดดเข้าร่วม จับประชาชนเป็นตัวประกัน หยุดเดินรถ ปิดสนามบิน สร้างความเดือดร้อนและเสียหายแก่เศรษฐกิจไปทั่ว

บีบนายสมัคร สุนทรเวช ให้ลาออก หรือยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หากพรรคพลังประชาชนที่จะแปลงร่างเป็นพรรคอะไรอีกไม่รู้ มาเป็นรัฐบาล อีก ปัญหาจะหยุดแค่นั้นจริงหรือ ???

พิภพ ธงไชย แกนนำ 1 ใน 5 ยืนยันว่า ถึงสมัครลาออกก็ไม่หยุดจนกว่าจะเกิดการ เปลี่ยนแปลงระบบการเมืองใหม่ ซึ่งการเมืองใหม่ ที่ว่าไม่ได้ทำให้ประชาธิปไตยก้าวหน้าไปไหนเลย พาถอยหลังลงเหวแท้ ๆ

สูตร อ้อย น้ำตาล 70 ต่อ 30 ให้ ส.ส.มาจากการลากตั้ง 70% และมาจากเลือกตั้ง 30%

ลากตั้ง 70% ที่ว่าก็เดาล่วงหน้าได้เลย ไม่พ้นข้าราชการประจำสายตุลาการ ทหาร ตำรวจ ปลัดกระทรวง ทบวงกรม ต่าง ๆ เหล่า "อำมาตย ธิปไตย" ดั้งเดิมนี่ล่ะ รวมทั้งแน่นอนคนที่เคลื่อนไหวอยู่กับพันธมิตรฯ เด็กในคาถา นักธุรกิจ นักวิชาการในเครือ

ไม่ต่างจากปฏิวัติ 19 กันยา 49 ที่ "พันธมิตรฯ" ปูทางให้ คมช.ยึดอำนาจสำเร็จ หลังจากนั้นก็มีการปูนบำเหน็จให้พวกพ้องเป็น สนช., ส.ส.ร. และตำแหน่งทางการเมืองอีกเพียบ เรื่อยมาถึง ส.ว. ลากตั้งหลายคนขณะนี้

เหนืออื่นใดสูตรนี้เปิดโอกาสให้คนที่จะเป็นนายกฯ ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. เป็น "คนนอก" ใครก็ได้ น่าจะเป็นเป้าหมายสูงสุดด้วยซ้ำ หมายความว่า ต่อไปใครจะเป็นนายกฯ ถ้า "พันธมิตรฯ" ไม่โอเคก็ อย่าหวัง

การโค่น นายสมัคร สุนทรเวช จึงแค่ ลับ ลวง พราง เพื่อเปลี่ยนฉากไปสู่การเมืองใหม่ ที่พันธมิตรฯ ต้องการ และเอาไปเอามาทั้งหมดที่ เกิดขึ้นก็เหมือน การปฏิวัติรอบใหม่ โดยไม่ต้องใช้รถถัง

หากพันธมิตรฯยึดเมืองครั้งนี้สำเร็จ ขณะที่ประชาธิปไตยต้องถอยหลังลงเหว !!!.

ดาวประกายพรึก

/////////////////////

คอลัมน์:ฝ่าเปลวแดด...จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 03/09/2551




 

Create Date : 03 กันยายน 2551    
Last Update : 3 กันยายน 2551 19:14:29 น.
Counter : 407 Pageviews.  

สื่ออิตาลีวิจารณ์พันธมิตร "การสร้างปัญหาให้โลกสไตล์รัสเซียแต่ในแบบไทยๆ"

แปลและเรียบเรียงโดย freethai
ที่มาต้นฉบับ lastampa
30 August 2008

หนังสือพิมพ์ LA Stampa ลาสตัมป้าของอิตาลี วันที่ 28 สิงหาคม 2008
การสร้างปัญหาให้โลกสไตล์รัสเซียแต่ในแบบไทย ๆ


ขบวน การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเทพได้สร้างความอื้อฉาวไปทั่วโลก – ก่อความตึงเครียดในขณะที่ทั้งโลกควรมุ่งไปที่รัสเซีย โดยฟรานเซสโก ซิสซิ กรุงปักกิ่ง

เมื่อ 8 สิงหาคมที่ผ่านมารัฐเล็กๆ ที่ชื่อจอร์เจียได้บุกเข้าโจมตียักษ์ใหญ่มหาอำนาจอย่างรัสเซีย รัสเซียรุกกลับและถล่มจอร์เจียในห้าวัน และหลังจากการพักรบชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้มหกรรมกีฬาโลกอย่างโอลิมปิคผ่าน ไป ความตึงเครียดของโลกเสรีก็ทวีขึ้น

ก่อนหน้าที่จะเกิดศึกครั้งนี้ ไม่กี่วัน รัฐบาลสหรัฐที่วอชิงตันดีซียังมั่นใจว่ากระบวนการลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์กับ เกาหลีเหนือจะผ่านไปด้วยดี และเมื่อ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาเมื่อตอนที่ประธานาธิบดีบุชมาเยือนกรุงเทพก็ได้รับการยืน ยันจากบรรดานายพลและพระเจ้าแผ่นดินว่าจะมีการคัดค้านการทำรัฐประหารอย่างแน่ นอน และในวันที่ 26 สิงหาคม ทันทีที่การแข่งขันโอลิมปิคจบลง และขณะที่โลกกำลังกังวลว่ารัสเซียกำลังมีแผนการในอนาคตกับรัฐจอร์เจียอย่าง ไร รัฐบาลเกาหลีเหนือก็ประกาศยุติการเจรจาสัญญาเพื่อการลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์ และในเวลาเดียวกันนั้นเองที่กรุงเทพ ฝูงม็อบก็กลับเข้ายึดถนนเพื่อปลุกระดมให้มีการจลาจล

เป็นที่ชัดเจน ว่าเกาหลีเหนือพยายามยื่นข้อเสนอให้รัสเซีย การที่เกาหลีเหนือถอนการสนับสนุนข้อตกลงเพื่อการลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์คือ การยื่นข้อแลกเปลี่ยนกับทางรัสเซียว่า ถ้ารัสเซียสนับสนุนเกาหลีเหนือคือให้เงินสนับสนุนรัฐบาลให้ผ่านพ้นฤดูหนาว อันทารุณของปีนี้ไปได้ เกาหลีจะเล่นไม้แข็งกับอเมริกาและประเทศคู่เจรจาข้อตกลงฯ ดังกล่าวอีกหกประเทศ และถ้ารัสเซียเลือกที่จะรับข้อเสนอของเกาหลีเหนือ แปลว่าความหวังต่าง ๆ ของโลกเสรีคงหยุดลง เราจะกลับไปสู่สงครามเย็นอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้ารัสเซียไม่เล่นด้วยกับเกาหลี คราวนี้เกาหลีเหนือจะเป็นฝ่ายจนมุม และในที่สุดก็ต้องยอมแพ้

ในวัน ที่ 27 สิงหาคม โฆษกทำเนียบขาวประกาศด้วยความมั่นใจว่ารัสเซียจะไม่สนับสนุนเกาหลีเหนือ โฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์ว่า “เราไม่ได้รับแจ้งว่ามีการลดระดับความสำคัญของการเจรจาความร่วมมือหกฝ่ายใน เรื่องนี้” และยังอ้างว่าทั้งจีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ต่างก็มีส่วนร่วมกับสหรัฐฯในการเจรจาลดอาวุธกับเปียงยาง

ไม่ว่าจะ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาหลายวัน และน่าจะนานเป็นหลายสัปดาห์ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายและอาจต้องใช้เวลา นานกว่านั้น สำหรับรัสเซียและอเมริกาในการที่จะประเมินสถานการณ์ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและ ควรจะไปทางไหนต่อ

แต่โอกาสที่อารมณ์ร่วมของสังคมจะพลิกเปลี่ยน สามารถเกิดได้ทุกวินาทีตลอดเวลาที่เฝ้ามองสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นใน ประเทศไทย ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องดีกว่า สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ PAD ได้ทำเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมด้วยการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์สร้างความเสียหายให้กับกระทรวง ทบวง กรม หลายแห่ง แล้วก็ยกขบวนไปปักหลักอยู่ที่สนามหญ้าหน้าที่ทำการรัฐบาล คือการปลุกปั่นเพื่อให้เกิดการจลาจลดี ๆ นี่เอง แต่ ณ เวลานี้ การจลาจลจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ยังไม่รู้ชัดถ้านายกรัฐมนตรีผู้มาจากการ เลือกตั้งรู้สึกว่าไม่มีอำนาจในการบริหารงานและตัดสินใจลาออก ผู้ก่อการจลาจลก็จะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าผู้นำพันธมิตรฯ ถูกจับกุมและการเรียกร้องการรัฐประหารล้มเลิกลงไป ฝ่ายต้องการการรัฐประหารเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ถ้าเรื่องไม่ได้ออกมาว่าฝ่ายจลาจลแพ้แล้ว คือถ้ามีการประนีประนอมรัฐบาลก็คงจะอยู่ต่อไปได้ แต่ไม่มีปัญญาจะควบคุมหรือกำกับดูแลอะไร เหมือนร่างคนป่วยที่เชื่อมต่อด้วยเครื่องช่วยหายใจ และเฝ้ารอเวลาที่จะถูกกลุ่มพันธมิตรโจมตีอีกครั้ง

การทำรัฐประหารใน ไทยเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แม้ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นปกติ เพราะการรัฐประหารในไทยจะส่งผลลบอย่างร้ายแรงต่อกระบวนการประชาธิปไตยใน ภูมิภาคนี้ และจะกลายเป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาผู้นำทหารในฟิลิปปินส์และอินโดเนเชียต่าง คว้าปืนใช้รถถังเข้ามายึดกุมอำนาจรัฐ

แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การก่อการจลาจลเช่นนี้ยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก การก่อการจลาจลในไทยครั้งนี้จะเพิ่มความตึงเครียดเข้าไปในสังคมโลกที่กำลัง หาความมั่นคงและสันติภาพ และเป็นการเริ่มต้นแนวรบใหม่ในขณะที่เรากำลังพยายามยุติสงครามเย็นกับรัส เซีย

สังคมโลกต้องช่วยกันยุติการจลาจลในไทยในปี 1981 เพียงไม่กี่ปีหลังการล่มสลายของจอมเผด็จการสเปนอย่างนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก และประเทศสเปน เพิ่งเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย กองทัพก็ทำการยึดอำนาจ รายการทีวีถ่ายทอดภาพผู้พันอันโตนิโอ เทเฮโรยืนถือปืนหน้าที่ทำการสภาผู้แทนราษฎรพร้อมประกาศกร้าวว่าเขาทำการยึด อำนาจเพื่อพระราชา ในสมัยนั้นแม้การก่อการจลาจลแบบนี้เป็นสิ่งที่พอจะยอมรับได้ แต่พระเจ้าแผ่นดินสเปนก็กลับประกาศว่าพระองค์ไม่สนับสนุนการทำรัฐประหาร และในที่สุดผู้พันเทเฮโรก็ถูกจับ

ณ เวลานี้ พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะระงับการจลาจลครั้งนี้ได้หรือไม่ กลุ่มพันธมิตรได้ดึงเอาพระเจ้าแผ่นดินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยผู้นำของกลุ่มพากันอ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายที่มีความจงรักภักดีและพากันใส่ เสื้อสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะลอยตัวอยู่เหนือการเมืองได้อย่างไร พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะปฏิเสธคนที่อ้างว่าเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีได้ อย่างไร นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรยังอ้างว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีมีแผนการจะล้มล้างราชวงศ์และสถาปนาสาธารณรัฐขึ้น สมัครปฏิเสธว่าไม่จริง พันธมิตรฯ ไม่เชื่อแล้วความจริงคืออะไร

ถ้าจะ ว่าไปแล้ว ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นทุกคนทุกฝ่ายย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ ถ้านายกรัฐมนตรีต้องการให้ประเทศมีการปกครองแบบสาธารณรัฐจริงก็ประกาศออกมา เลย แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้นก็แปลโดยตัวของมันเองว่าเขายังต้องการการปกครอง ภายใต้พระเจ้าแผ่นดิน การที่พันธมิตรฯ อ้างว่าเป็นกลุ่มผู้จงรักภักดี และในเวลาเดียวกันก็กล่าวหาศัตรูทางการเมืองว่าเป็นพวก “นิยมสาธารณรัฐ” แต่ความจริงแล้ว ผู้ที่จะตัดสินได้อย่างแท้จริงว่าใครเป็นผู้จงรักภักดี และใครไม่จงรักภักดีก็คือพระเจ้าแผ่นดินไม่ใช่หรือ อะไรเป็นเหตุที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำมาอ้างในการตั้งยี่ห้อ “ไม่จงรักภักดี” ให้กับศัตรูทางการเมืองของตนได้ ความจริงก็คือพฤติการณ์แบบนี้เป็นเรื่องเก่าและได้ทำกันมาช้านาน กลุ่มเผด็จการฟาสซิสต์ของอิตาลีในยุค 1920 ก็อ้างว่ารักษาผลประโยชน์ของประเทศ และกล่าวร้ายศัตรูทางการเมืองว่าทรยศต่อแผ่นดินแม่ กลุ่มเผด็จการฟาสซิสต์พวกนี้นี่เองที่ทำให้อิตาลีล่มจม และราชวงศ์อิตาลีล่มสลาย

สถานการณ์ในวันนี้ของประเทศยิ่งเลวร้ายกว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพิ่งเข้าทำหน้าที่ได้ 7 เดือน ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่า 70% ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงและยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ต่อกลุ่ม พันธมิตรก็ไม่ได้มีท่าทีอ่อนลงกลับประกาศจุดยืนด้วยข้อเสนอที่กร้าวและเป็น เผด็จการว่าประชาชนควรมีสิทธิเลือกผู้แทนเพียง 30% ที่เหลือให้มาจากการแต่งตั้ง

แม้ว่ากรุงเทพอาจจะมีประเพณีที่แตกต่าง แต่ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะรับคิวต่อจากพระ เจ้าแผ่นดินของสเปน นั่นคือการที่จะต้องเข้ามาแสดงบทบาทและยุติการทำรัฐประหารครั้งนี้ในทันที ถ้าพระองค์ทำด้วยความชัดเจนและด้วยความมุ่งมั่น พระองค์จะทรงสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตของประเทศไทย และจะทำให้ไม่มีใครกล้าแอบอ้างพระนามไปใช้โดยไม่ชอบธรรมอีกต่อไป และจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้ และในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกบังคับให้ลาออก สถานการณ์ก็จะมีแต่แย่ลง จะเป็นการก่อจลาจลของไทยครั้งที่สองภายในเวลาเพียง 2 ปี ตลาดหุ้นของไทยก็ตกลงไปแล้วกว่า 25% และค่าเงินบาทก็อ่อนตัวลงเรื่อยๆ ความมั่นใจทางธุรกิจลดลงจนต่ำสุด และในไม่ช้าการท่องเที่ยวของไทยก็จะได้รับผลกระทบ ประเทศไทยก็จะกลายเป็นผู้ป่วยคนใหม่ของเอเชีย...และพวกเราก็ต้องรอรับผลที่ ตามมา

Note : แปลออกมาแล้วหมิ่นเหม่เอาการอยู่นะเนี่ย




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2551    
Last Update : 31 สิงหาคม 2551 16:48:49 น.
Counter : 449 Pageviews.  

คนรักทักษิณจริงหรือ?โดยประดาบ(สาวกศาสดาลิ้มหลายคนอาจพอใจกับบทความนี้))

ผมไม่กล้าอวดตัวว่าเป็นคนรักทักษิณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่คนรักทักษิณทั้งหลาย กำลังทำให้สถานการณ์ของทักษิณ ย่ำแย่ลงเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้

คนรักทักษิณ ที่อยู่ในพรรคพลังประชาชน แตกแยกกันเป็นหลายก๊ก หลายเหล่า ก็เพราะพวกเขารักทักษิณ

คนรักทักษิณ ที่อยู่ในรัฐบาล พูดจากันคนละภาษา มองหน้ากันไม่ติด สบตากันไม่สนิทใจ ก็เพราะพวกเขารักทักษิณ

คนรักทักษิณ ที่มีอำนาจอยู่ในมือ มีสถานะทางการเมือง กำลังแสดงความรักที่มีต่อทักษิณ อย่างเอาเป็นเอาตาย

คนรักทักษิณ ที่พลาดหวังจากตำแหน่ง ไม่สมประโยชน์ทางการเมือง อกหักจากการปรับคณะรัฐมนตรี กำลังแสดงความรักที่มีต่อทักษิณ อย่างคลุ้มคลั่ง


คนรักทักษิณ เหล่านี้ มีความรักต่อทักษิณ เพราะพวกเขาล้วนแต่รักตัวเอง

คนรักทักษิณ จำพวกนี้ แสดงความห่วงใยต่อทักษิณ เพราะพวกเขาห่วงใยอนาคตของตัวเอง

คนรักทักษิณ เหล่านี้ ปรารถนาให้ทักษิณ อยู่รอดปลอดภัย เพราะพวกเขาปรารถนาที่จะพึ่งใบบุญของทักษิณ ยังหวังที่จะหาประโยชน์จาก "ทักษิณ" มิใช่ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ทักษิณ

เพราะคนรักทักษิณ จำนวนมากเป็นกันเช่นนี้

ผมจึงไม่กล้าอวดตัวว่าผมเป็นคนรักทักษิณ

เนื่องจากความรักที่มีต่อทักษิณของผม...

เป็นความรักที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนเหมือนพวกเขา

เป็นความรักที่ไม่ได้คำนึงตัวเองเหมือนพวกเขา

เป็นความรักที่ไม่ต้องการตำแหน่งทางการเมือง

เป็นความรักที่ไม่เคยทำให้พวกเดียวกันต้องแตกแยก และ ต้องแตกหัก

เป็นความรักที่ไม่เคยเสียใจและอาละวาดจนขาดสติเมื่อพบกับความผิดหวัง

คนรักทักษิณ อย่าง ศักดา คงเพชร และ ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ที่ถ่มน้ำลายใส่รัฐบาล และ พรรคพลังประชาชน จนเหม็นโฉ่ไปทั่วบ้านทั่วเมือง เพียงเพราะอกหักจากการไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี มารองก้น

คนรักทักษิณ อย่าง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ เฉลิม อยู่บำรุง ที่อยู่เบื้องหลังการตอกลิ่มใส่พรรคพลังประชาชน จนแตกแยกเป็นหลายเสี่ยง เพียงเพราะผิดหวังจากการปรับคณะรัฐมนตรี ที่ไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีสมดังใจ

คนรักทักษิณ อย่าง ยงยุทธ ติยะไพรัช และ พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ที่จุดไฟเผาพรรคพลังประชาชน เพื่อกวาดต้อนสมาชิก ไปอยู่พรรคเพื่อไทย ส่งผลให้พรรคพลังประชาชน กลายเป็นอกแตก เช่นทุกวันนี้ เพียงเพราะไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปชี้นิ้ว มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล ได้

คนรักทักษิณ อย่าง สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ เนวิน ชิดชอบ ที่ไม่ยอมปริปากพูด ไม่ยอมไขปริศนา "จริงคือลวง" และ "ลวงคือจริง" อะไรจริง และ อะไรลวง แต่กลับแบกรับทุกคำกล่าวหา ไม่ว่าหนักหนาสาหัสแค่ไหนไว้กับตัว จนกระทั่งความสัตย์ดูขมุกขมัว ในขณะที่ความน่ากลัวคืบคลานเข้าครอบคลุม

จริงอยู่ การแสดงความรักที่มีต่อทักษิณ แสดงออกได้หลายแบบ

ทุกคน ทุกชื่อที่เอ่ยถึง ต่างยืนยันว่าทำไปด้วยความรักที่มีต่อทักษิณ

แต่..ความรักที่แท้จริง ไม่น่าจะเป็นความรักที่เป้าประสงค์เพื่อการทำลายล้าง และไม่น่าจะเป็นความรักที่ทำให้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต้องขาดสะบั้น ความสัมพันธ์อันดีต้องพังทลาย กระทั่งเป้าหมายของทักษิณ ต้องสูญสลายไปด้วย

ความรักที่มีเต็มไปด้วยการชิงดีชิงเด่น ล้นพ้นด้วยความอิจฉาริษยา อบอวลด้วยความอาฆาตแค้น และผูกพยาบาทต่อกันเพราะผิดหวัง ไม่สมประโยชน์ส่วนตน ไม่น่าจะเป็นความรักอันบริสุทธิ์ และ ไม่น่าจะเป็นความรักที่มีพลังมากพอที่จะโอบอุ้มคนที่เรารัก ให้รอดพ้นปลอดภัยจากภัยอันตรายที่กำลังรุกล้ำกล้ำกรายใกล้ตัวทุกวินาที

คงเป็นเพราะผมไม่ลึกซึ้งกับความรักแบบที่พวกเขาเป็นกันและเป็นอยู่


ผมจึงไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขารักทักษิณ

ผมจึงไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขาต้องแสดงออกว่าพวกเขารักทักษิณ อย่างบ้าคลั่ง และต้องทำลายล้างอีกฝ่ายหนึ่งที่รักทักษิณ เหมือนพวกเขา เพียงเพราะการแสดงออกซึ่งความรักแตกต่างกัน

ผมจึงไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขาต้องทำลายรัฐบาลและพรรคการเมือง ที่ทักษิณ มีส่วนร่วมสร้าง

ผมจึงไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขาจึงต้องโค่นล้มนายกรัฐมนตรีที่หวังดีและปกป้องทักษิณ

ผมจึงไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขาจึงต้องขับไล่หัวหน้าพรรคพลังประชาชน คนที่ทักษิณขอร้องให้มาเป็นผู้ถือธงนำอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ที่ยังรวมใจอยู่ด้วยกัน

ผมจึงไม่รู้ว่า ทำไมพวกเขาจึงต้องทำให้ประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคพลังประชาชน และ สร้างรัฐบาลนี้ขึ้นมา ต้องอยู่ในภาวะสับสัน อึมครึม และต้องลำบากใจที่จะเลือกข้างใดข้างหนึ่งระหว่างคนรักทักษิณ ด้วยกันเอง

ผมจึงไม่รู้ว่าความรักที่พวกเขาที่มีต่อทักษิณ เป็นความรักแบบใด

ผมจึงไม่รู้ว่าเหตุใด พวกเขายิ่งรักทักษิณ ทักษิณยิ่งทุกข์ร้อนมากขึ้น

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าในขณะที่พวกเขารักทักษิณ ตามแบบฉบับของเขา นั้น ..

ทักษิณ จะรู้ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงรักทักษิณ

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าทำไมพวกเขาต้องบีบบังคับให้ทักษิณ เลือกหนึ่ง และ เลิกหนึ่ง

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าทำไมพวกเขาต้องการเป็นหนึ่งที่ได้รับการประกาศจากทักษิณว่า"แท้" เพื่อที่จะตราหน้าอีกฝ่ายว่า "เทียม"

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าทักษิณ จะได้ประโยชน์อะไรจากความแตกแยกของพรรคพลังประชาชน


ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าทักษิณ จะได้ประโยชน์อะไรจากการย่อยสลายความเป็นเอกภาพของคนรักทักษิณ ที่เคยรวมกันเป็นหนึ่ง จนแตกสลายเป็นหลายก๊กหลายเหล่า และ ทุกก๊ก ทุกเหล่ากำลังเข่นฆ่ากันเอง เพื่อชิงความเป็นคนรักทักษิณเพียงหนึ่งเดียว ในสายตาของประชาชน

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าทักษิณ จะได้ประโยชน์อะไร จากการทำลายพรรคการเมืองหนึ่งที่เข้มแข็ง แล้วไปสร้างพรรคการเมืองใหม่ที่อ่อนแอกว่า

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าทักษิณ จะได้ประโยชน์อะไรจากการบอกว่ากลุ่มหนึ่ง "แท้" และ กลุ่มหนึ่ง "เทียม" ในขณะที่ทั้งสองกลุ่มต่างเป็นคนรักทักษิณ และมารวมตัวกันเพราะความรักทักษิณ เป็นแม่เหล็กดูดให้มารวมกัน

ผมเพียงแต่อยากรู้ว่าความรักที่ที่พวกเขามีต่อทักษิณ เป็นความรักแบบใด

รักทักษิณ เพื่อตัวเอง หรือ รักทักษิณ เพื่อทักษิณ

คงเป็นเพราะผมไม่ลึกซึ้งกับความรักแบบที่พวกเขาเป็นกันและเป็นอยู่


ผมจึงไม่กล้าอวดอ้างว่าผมเป็นคนรักทักษิณ ทั้งๆ ที่ ผมแน่ใจว่าผมเป็นคนรักทักษิณ

ผมไม่กล้ากระทั่งจะเงยหน้าสบตาพวกเขา ที่กำลังแสดงความรักทักษิณ ผ่านจอโทรทัศน์

เพราะผมกลัวว่าผมจะเห็น "ความไม่จริง" ที่ซ่อนเร้นอยู่ในแววตาของคนรักทักษิณ ของพวกเขา
นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่ ผมไม่กล้าบอกว่าผมเป็นคนรักทักษิณ

แล้วคุณล่ะ ... คุณรักทักษิณแบบไหน

แสดงความรักทักษิณ ของคุณ ด้วยการสร้างสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ให้ทักษิณ แทนการทำลายรัฐบาล และ พรรคการเมือง ที่เกิดขึ้นมาจากพลังแห่งความรักของคนรักทักษิณ ตัวจริง อันได้แก่ ประชาชนมากกว่าสิบสี่ล้านคนทั่วประเทศ ได้หรือไม่

อย่าลืมว่า ความรักที่มีต่อทักษิณ จึงทำให้เกิดพรรคพลังประชาชน ขึ้นมา

อย่าลืมว่า ความรักที่มีต่อทักษิณ จึงทำให้ สมัคร สุนทรเวช รับเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ตามคำร้องขอของทักษิณ

อย่าลืมว่า ความรักที่มีต่อทักษิณ จึงทำให้พรรคพลังประชาชน ชนะเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาล

ดังนั้น พลังประชาชน ก็คือ พลังแห่งความรักของประชาชนที่มีต่อทักษิณ นั่นเอง

การทำลายพลังประชาชน ก็คือ การทำลายความรักที่ประชาชนมีต่อทักษิณ


ผมจึงไม่อยากเชื่อว่า บัดนี้ ผู้คนที่กำลังทำลายพรรคพลังประชาชน พรรคการเมืองที่ประชาชนสร้างขึ้นมาด้วยความรักที่มีต่อทักษิณ ก็คือ ผู้คนที่ประกาศว่าเป็นคนรักทักษิณ นั่นเอง

ผมไม่กล้าอวดตัวว่าผมเป็นคนรักทักษิณ แต่ผมจะไม่เลิกรักทักษิณ ตลอดไป

โดยประดาบ

Note : ส่วนตัวผมแล้วผมเฉยๆ(หรืออาจจะทั้งรักและเกลียดปนกัน เพราะมนุษย์ไม่ได้ดีหรือชั่ว100%)กับทักษิณ(อุเบกขา 1ใน4หัวข้อพรหมวิหาร4) ผมเพียงแค่มองเห็นความไม่เป็นธรรม การเลือกปฏิบัติและสองมาตรฐานที่เกิดขึ้นมาอย่างโจ่งแจ้งจากคนที่อ้างว่ามีคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งทำให้ผมเกลียดคนพวกนี้มากกว่าทักษิณหลายเท่า




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2551    
Last Update : 25 สิงหาคม 2551 2:36:43 น.
Counter : 515 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.