อีกมุมมองว่าด้วยมาตรา 309 : เหตุผลที่แตะไม่ได้?
คอลัมน์:โต๊ะกลมระดมความคิด จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้
เรื่องของมาตรา 309 กลายเป็นมาตราที่อาถรรพ์ มันถูกต่อต้านในน้ำหนักซึ่งไม่แตกต่างไปจากมาตรา 237 หรืออาจมากกว่า
ดังเห็นจากการที่ "พันธมิตรฯ" ได้ออกมาเคลื่อนไหวและคัดค้านชนิดหัวชนฝา แม้จนกระทั่งกลุ่มนักวิชาการ ที่เป็นนักกฎหมาย ในจำพวก rule by Law เป็นนิติบริกรในลักษณะตีความกฎหมาย โดยยึดติดกับถ้อยคำที่บัญญัติเอาไว้ชนิดเคร่งครัดและเข้มข้น
ส่วนใหญ่ จะเป็นนักตีความกฎหมายที่มักจะมองข้ามข้อเท็จจริง และความถูกต้องยุติธรรม ซึ่งอยู่เบื้องหลังถ้อยคำ นอกจากนั้น ก็ค่อนข้างจะไม่เข้าใจหลักการของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตลอดจนเจตนารมณ์ที่เป็นความประสงค์สำหรับกฎหมายที่ร่างขึ้นมา อาจบอกว่าเบือนบิดไปก็คงได้?
มีกลุ่มนักกฎหมายซึ่งยึดถือหลักการ rule of Law อย่างเคร่งครัด และมีเหตุมีผล... พวกเขาอธิบายว่า เรื่องของรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่อะไรที่ยากเย็นในการทำความเข้าใจ เพราะหลักการหรือเจตนารมณ์นั้น ก็เพื่อสนองตอบผลประโยชน์และสิทธิเสรีภาพของประชาชนส่วนใหญ่...
ด้วยมุมมองเช่นนี้ ในแต่ละมาตราของกฎหมายรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องตอบสนองตามเจตนารมณ์ หลักการของระบอบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย โดยหลักการกับเจตนารมณ์ต่างๆ ภายใต้ระบอบการปกครองของประชาธิปไตยทั่วโลก เขาจึงยึดโยง ตอบสนอง และไม่ให้กระทบกระเทือนต่อผลประโยชน์และสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างใดทั้งสิ้น?...
ถ้ามาตราใด หรือกฎหมายใด ไปขัดขวางหรือทำลายเจตนารมณ์ดังกล่าว ก็คงต้องแก้ไข ปรับเปลี่ยนตัวบทกฎหมายเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง สอดคล้องกับผลประโยชน์ สิทธิและเสรีภาพ ซึ่งเป็นหลักค้ำประกันสำคัญของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย!
เราย้อนกลับมาพิจารณาดู มาตรา 309 ในรัฐธรรมนูญ 2550 จะพิจารณาในแง่ไหนก็ตาม มาตรานี้ก็ถือว่าเป็นการร่างหรือบัญญัติขึ้นมา โดยปราศจากความชอบธรรมในหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นไปอย่างที่ทราบกันดี เป็นมาตราที่ห้ามการเอาผิดย้อนหลัง ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต่างรู้กันดีว่า คมช.ได้ผลักดันการบัญญัติมาตรา 309 ขึ้นมา เพื่อเป็นเซฟตี้ให้แก่กลุ่มคณะตัวเอง
มาตรา 309 ได้เขียนเอาไว้ให้บรรดาพฤติกรรมและการกระทำใดๆ ซึ่งรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ...
อ่านรัฐธรรมนูญแบบง่ายๆ ไม่ต้องแปลความให้ลึกซึ้งอะไรทั้งสิ้น ทุกคนที่มีใจเป็นธรรม มีเหตุมีผล ก็คงสามารถตระหนักรู้ได้ทั้งสิ้นว่า กฎหมายที่ไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรมซึ่งเขียนเอาไว้อย่างนี้ มันไม่มีประเทศใดในโลกเขาร่างข้อบังคับ หรือกฎหมาย ที่เป็นไปเช่นนี้ออกมาบังคับใช้กันหรอก?
มาตรา 309 จึงเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากเครื่องมือป้องกัน "การเอาผิดย้อนหลัง" มิใช่เฉพาะ คมช.เท่านั้น แต่ยังรวมทั่วถึงทุกองคาพยพที่แต่งตั้ง หรือสร้างขึ้นมาจากอำนาจของคณะรัฐประหาร หรือรัฐบาลรักษาการ ที่ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นมาจาก คมช.เช่นเดียวกัน...
ในช่วงที่ คมช.ครองอำนาจอยู่ในบ้านเมือง ทำให้เป็นที่สงสัยว่า ได้มีการใช้อำนาจหน้าที่ไปอย่างสับสนและคลุมเครือเพียงใด?
มิใช่เพียงการตั้งคำถามกับคณะรัฐประหารหรือรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังต้องโยงใยไปถึงการใช้อำนาจของ กกต., คตส. และอีกหลายกลไกที่ขับเคลื่อนไป ภายใต้อำนาจของคณะรัฐบาล ความถูกผิดของการใช้อำนาจหน้าที่นั้น เป็นพื้นฐานที่เชื่อถือได้ว่า "น่าจะมีความตกหล่นและบกพร่อง หรืออาจเป็นไปได้ที่จะมีการละเมิดตัวบทกฎหมายในบางโอกาส..."
เรื่องราวตรงนี้ก็คงมีความเป็นไปได้ ที่เกิดความเกรงหรือกลัวจะมีใครขุดคุ้ยและเอาความผิดย้อนหลัง!
อาจจะมีประเด็นที่สามารถสร้างเป็นสมมุติฐานอย่างชัดเจนได้เหมือนกันว่า คมช. รวมทั้งบรรดาองค์กรที่เป็นเรือโยงและเรือลากจูงทั้งหลาย สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขและอำนาจของคณะรัฐประหาร มันมีความชอบธรรมเพียงใด?
เราอาจจะยกตัวอย่างขององค์กร คตส. มุมมองและการพิจารณาต่อองค์กรนี้ ย่อมเป็นไปได้หลายทาง และเหตุผล ตั้งแต่การมองว่า "คตส.เป็นองค์กรที่ขาดความชอบธรรมในด้านกฎหมายรองรับ สำหรับการจัดตั้งขึ้นมา" ถ้าไม่อคติจนเกินไปคงจะต้องยอมรับว่าการตั้งคำถามเช่นนี้ขึ้นมา มันเป็นเรื่องมีเหตุผลและไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใด?
นั่นเป็นเหตุผลและมุมมองของฝ่ายหนึ่ง แต่ถ้าถามอีกบางกลุ่มบางคณะ เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตลอดจนพวกที่อ้างถึงวาทกรรมต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นอีกแนวความคิดสุดขั้วในสังคมไทย กลุ่มเหล่านี้ก็จะโต้แย้งทันทีว่า การแก้ไขมาตรา 309 ถือเป็นรายการ "ฟอกความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
กลุ่มดังกล่าวจึงต่อต้านสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ...เพราะคิดว่าเมื่อ คตส.ปราศจากความชอบธรรม ในการจัดตั้ง ก็เท่ากับไร้ความถูกต้องชอบธรรม ในการมีบทบาทไปด้วย พวกเขาจึงสรุปว่า การแก้ไขมาตรา 309 เท่ากับเป็นการช่วยเหลือคดีความต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปโดยอัตโนมัติ...พวกนี้จึงยอมไม่ได้!
อย่างไรก็ตาม เหตุผลและมุมมองก็เป็นไปได้หลายทาง ยังมีพวกที่พยายามประสานทั้ง 2 ฝ่ายเข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าจะเรียกให้เป็นพวก "เป็นกลาง" ได้หรือไม่?
กรณีของพรรคชาติไทย ที่พยายามประนีประนอมไม่ให้แก้ไขมาตรา 309 เราอาจฟังเสียงได้จากนายอรรคพล สรสุชาติ ที่ออกมาพูดแทนสมาชิกพรรคชาติไทยทุกๆ คนเกี่ยวกับมาตรา 309 โดยเขากล่าวว่า
"สมาชิกพรรคชาติไทยเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แตะต้องมาตรา 309 ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เพราะหวั่นว่าจะมีปัญหาตามมา ส่วนมาตรา 237 ทางพรรคไม่ได้ติดใจในเรื่องของการยุบพรรค แต่อยากให้มีการปรับปรุงให้มีความชัดเจนมากขึ้น เช่น อยากให้ผู้ที่กระทำผิดอย่างแท้จริงได้รับโทษโดยตรง แต่เราไม่ได้บอกว่าไม่ต้องมีการยุบพรรค หากปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า มีกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ เข้าไปมีส่วนร่วมในการทุจริต ก็สามารถโยงไปสู่การยุบพรรคได้"
การที่มีความพยายาม ไม่อยากแตะต้องมาตรา 309 เพราะหวั่นว่า จะมีปัญหาติดตามมา ตรงนั้นคือปัญหาอะไร? เป็นปัญหาที่จะฟอกความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ล้มล้าง คตส.หรือเป็นไป เพราะการแก้ไขมาตรา 309 นั้น จะมีโอกาสเกิดรายการขุมนรกแตก เพราะในบริบทการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 มันมีกลุ่มคณะจำนวนมากมาย ที่ได้กระทำผิดในหลายๆ แง่ ต่างกรรมและต่างวาระ ละเมิดอำนาจกฎหมายต่างๆ เป็นการใช้อำนาจไปตามชอบใจ ละเลยหลักการนิติรัฐ และนิติธรรม
กลุ่มเหล่านี้ จึงต้องรักษามาตรา 309 กันเอาไว้อย่างสุดจิตสุดใจ...หากมีการแก้ไข หรือยกเลิกมาตรานี้เมื่อไหร่ รับรองเกรงจะมีใครหลายคน ต้องเข้าไปนอนในคุกตอนวัยชรา... ก็เพราะกลัวความผิดเช่นนั้นเอง จึงต้องพร้อมต่อต้านทุกรูปแบบ ไม่ให้มาตรานี้ต้องถูกแก้ไขหรือยกเลิก... เผาเมืองก็ยังยอม!
Create Date : 17 เมษายน 2551 | | |
Last Update : 17 เมษายน 2551 16:59:52 น. |
Counter : 561 Pageviews. |
| |
|
|
|