เปิดข้อเท็จจริง“SMS”เพื่อชาติของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและพรรคประชาธิปัตย์
ปรากฏการณ์ของ SMS เชิญชวนให้คนไทยที่มีเครื่องมือถือในทุกระบบ ได้รับข้อความและเสียงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งถึงเพื่อร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ อีกทั้งให้ประชาชนส่ง SMS กลับมาที่หมายเลขตามรหัสไปรษณีย์ที่กำหนดในวันที่ 17-18 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ทำให้ผู้ใช้บริการของทุกระบบต่างเกิดข้อสงสัย ถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร !
จากการตรวจสอบพบว่าจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ทีมงานของนายกรณ์ จาติกวณิช ได้ประสานงานมายังทุกโอเปอเรเตอร์ ว่าจะนัดพบเพื่อเจรจาในวันรุ่งขึ้น (16 ธันวาคม) ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น เวลา 09.30 น. ซึ่งทุกโอเปอเรเตอร์ต่างสงสัยแต่จำต้องส่งตัวแทนเข้าร่วม โดยได้พบกับ นายกรณ์ จาติกวณิช และมีการเจรจาขอความร่วมมือกัน แต่การนัดหมายดังกล่าวล่วงรู้ถึงสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ซึ่งได้พากันไปเพื่อหวังทำรายงานข่าว ทำให้นายกรณ์ จาติกวณิช ต้องแอบหนีสื่อมวลชนออกไปจากโรงแรมอย่างทุลักทุเลกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์
ต่อมา นายกรณ์ จาติกวณิช ได้ออกมาให้ข่าวกับสำนักข่าว INN ยอมรับว่าได้มีนัดแต่ขอเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม ด้วยเหตุผลเพราะเขาอยู่ในสถานะของแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
จากนั้น ช่วงบ่ายวันที่ 16 ธันวาคม ทางทีมงานนายกรณ์ จาติกวณิช ได้ส่งอีเมล์แจ้งกลับมายังทุกโอเปอเรเตอร์ดังนี้
เรียน.........ที่เคารพ ผมขออนุญาตส่ง (!) ความต้องการของระบบ SMS (!!) ข้อความ SMS ของคุณอภิสิทธิ์ และ (!!!) เสียงของคุณอภิสิทธ์ (MAC file) ตามที่ท่านได้คุยกับคุณกรณ์ จาติกวณิช ไว้เมื่อเช้า มาให้ท่านพิจารณา
ด้วยความเคารพอย่างสูง ลงชื่อผู้ประสานงาน
หมายเหตุ: 1. ส่ง SMS ไปยังลูกค้าวันพุธที่ 17 ธันวาคม - 18 ธันวาคม เวลา 08.00-18.00 น. ข้อความดังนี้ “ผมอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครับ ผมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ/สนใจมาร่วมกันกับผมกรุณาส่ง รหัสไปรษณีย์ของท่านมาที่เบอร์นี้ (3บ/ครั้ง)”
2. ประชาชนผู้สนใจส่ง SMS กลับมาที่หมายเลข (ของแต่ละโอเปอเรเตอร์) ที่กำหนดไว้เป็นรหัสไปรษณีย์
3. ฝ่าย SMS ส่ง Data เบอร์โทรศัพท์ที่ประชาชนส่งกลับมาให้ฝ่าย IVR/Voice Page เพื่อส่งข้อความเสียงของคุณอภิสิทธิ์ ความยาวประมาณ 40 วินาที ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
ทั้งหมดข้างต้นนี้คือเบื้องหลังขั้นตอนปฏิบัติการ “นำประเทศไทยออกจากวิกฤติ” ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกรณ์ จาติกวณิช ที่ต้องถูกตั้งคำถามและตอบกับสังคมให้ได้ว่า
1. พรรคประชาธิปัตย์และท่านทั้งสองได้ใช้ “ตำแหน่งและสถานะภาพ” เช่นใดมาสั่งดำเนินการกับทุกโอเปอเรเตอร์ในสิ่งที่ต้องการ
2. พรรคประชาธิปัตย์และท่านทั้งสองได้ใช้ “อำนาจ” เช่นใดมาล่วงละเมิดสิทธิของประชาชนผู้ใช้บริการของทุกโอเปอเรเตอร์ ที่กำหนดขึ้นตามต้องการ
3. ณ ห้วงระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคม “สถานะภาพทางการเมือง” ของพรรคประชาธิปัตย์ และท่านทั้งสองยังถือว่าไม่ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี/คณะรัฐมนตรี” อย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะกล่าวอ้างความเป็น “รัฐบาล” ล่วงหน้าเพื่อขอความร่วมมือจากทุกโอเปอเรเตอร์ก็คงเป็นเรื่องที่ “ไม่ถูกต้อง” และชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง
4. หากลูกค้าผู้ใช้บริการจากทุกโอเปอเรเตอร์ ยื่นเรื่องร้องเรียนการละเมิดสิทธิผ่านหน่วยงาน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ต้องร่วมรับผิดชอบหรือไม่
5. กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะนำประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา ถึงการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เพราะขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงการรณรงค์การเลือกตั้งซ่อมจากพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ที่มา เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน 18 ธันวาคม 2551
ประชาธิปัตย์เตรียมการส่ง SMS หาผู้ใช้ทั้งประเทศ
พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช ได้ส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือสามค่ายใหญ่คือ เอไอเอส, ดีแทค, และทรูมูฟ เข้าประชุมเพื่อขอความร่วมมือในการส่ง SMS ที่มีข้อความดังนี้
ผม นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ สนใจได้รับการติดต่อจากผม กรุณาตอบ 1 มาที่เบอร์ 9191 (3 บ.)
หากผู้ใช้ทำตามข้อความใน SMS จะมีเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า
ผม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผมทราบดีกว่า พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน เครียด ผมจึงตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะทุ่มเทใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือ บ้านเมือง แต่ผมคงจะทำไม่สำเร็จหากคนไทยไม่สามัคคีกัน จึงอยากขอโอกาสจากทุกคน
การประชุมเพื่อขอความร่วมมือนี้เกิดขึ้นในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม
ผมเชื่อว่าถ้าความร่วมมือนี้สำเร็จ นี่จะเป็นสแปม (ข้อความขยะ) จากรัฐบาลครั้งแรกๆ ในโลก
ที่มา ไทยรัฐ
คบท. ชี้ 'SMS นายกฯ' ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล [18 ธ.ค. 51 - 15:00]
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (18 ธ.ค.) ว่า จากกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการมือถือทุกค่ายทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เข้าพบเพื่อขอความร่วมมือในการส่งข้อความสั้น (SMS) ไปถึงผู้ใช้บริการในเครือข่าย ที่เชิญชวนรับฟังข้อความจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยมีข้อความว่า “ผมนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติสนใจ ได้รับการติดต่อจากผม กรุณาตอบ 1 มาที่เบอร์ 9191 (3บ.)” นั้น
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง หนึ่งในกรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (คบท.) กล่าวว่า คบท.ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุ ใดทางพรรคประชาธิปัตย์จึงเลือกใช้ช่องทางสื่อสารด้วยการส่งเอสเอ็มเอส ที่เข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นช่องทางการสื่อสารส่วนบุคคลเจ้าของจึงควร เป็นผู้มีสิทธิเลือกใช้ ไม่ควรถูกรุกล้ำในลักษณะมัดมือชก
“การส่งเอสเอ็มเอส เป็นเหมือนการเคาะประตูบ้าน บุกเข้าถึงตัวผู้รับ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หากเจ้าของมิได้ให้ความยินยอม” กรรมการ คบท.กล่าว
กรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 12 ระบุว่า ผู้ให้บริการจะนำข้อมูลที่ได้มาจากการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการนั้นไปใช้ เพื่อประโยชน์อย่างอื่นโดยมิได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการ มิได้ เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนี้ วิธีการที่เปิดให้กดรับข้อความเสียงยังก่อให้เกิดภาระกับประชาชน ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อฟังเสียงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ดังนั้นจึงเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ ควรใช้ช่องทางอื่นที่ไม่สร้างภาระและไม่เป็นการละเมิดสิทธิประชาชน
“ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวีที่มีอยู่หลายช่อง หรือระบบสื่อสารสาธารณะต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล ไม่อยากให้รัฐบาลใหม่กลายเป็นผู้ละเมิดสิทธิของประชาชนเสียเอง” นางสาวสารีกล่าว
ที่มา ไทยรัฐ
ค่ายมือถือโวยการเมืองจุ้น มาร์คทำเท่ดึงคนไทยส่งเอสเอ็มเอส [18 ธ.ค. 51 - 04:59]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่ รมว.คลัง พรรค ประชาธิปัตย์ ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการมือถือทุกค่ายอันประกอบด้วยบริษัทเอไอเอส, ดีแทค และทรูมูฟ เข้าพบที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เพื่อขอความร่วมมือในการส่งข้อความสั้น (SMS) ไปถึงผู้ใช้บริการในเครือข่าย เชิญชวนรับฟังข้อความจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใน วันที่ 18 ธ.ค.นี้
โดยค่ายมือถือถูกขอให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลในการส่งข้อความเสียงของนายอภิสิทธิ์เชิญชวนให้เข้าไปฟังนโยบายของรัฐบาล โดยข้อความมีใจความว่า ผม นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ สนใจได้รับการติดต่อจากผม กรุณาตอบ 1 มาที่เบอร์ 9191 (3 บ.) หากผู้ใช้บริการตอบ 1 ก็จะได้รับฟังเสียงจากระบบตอบรับอัตโนมัติ (IVR) ซึ่งเป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์ มีข้อความโดยสรุปดังต่อไปนี้คือ ผม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผมทราบดีกว่า พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน เครียด ผมจึงตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะทุ่มเทใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือ บ้านเมือง แต่ผมคงจะทำไม่สำเร็จหากคนไทยไม่สามัคคีกัน จึงอยากขอโอกาสจากทุกคน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ให้ บริการส่วนใหญ่ต่างมีคำถามว่า การกระทำดังกล่าวจะเป็นการดึงค่ายมือถือให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์การ เมืองหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาหลายค่ายถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองจนเข็ดหลาบไปตามๆกัน เพราะต่างได้รับผลกระทบในการดำเนินธุรกิจ ถูกต่อต้านและปฏิเสธการใช้บริการมาแล้ว
ด้านนายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสยินดีสนองนโยบายของรัฐบาล แต่ต้องเป็นที่ชัดเจนว่าเป็นนโยบายจากรัฐบาล ไม่ใช่นโยบายของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลให้แก่พรรคใดพรรคหนึ่งมาก่อน อย่างไรก็ตาม ระบบของเอไอเอสทั้งหมดถูกทำขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าที่มีอยู่ 27 ล้านคนก่อน อีกทั้งระบบ IVR ก็ถูกออกแบบเพื่อตอบรับลูกค้าที่โทรเข้ามายังคอลล์เซ็นเตอร์เป็นหลักด้วย
ส่วน นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคไม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด แต่หากเป็นคำขอร้องจากทางรัฐบาลก็ยินดีดำเนินการให้ แต่ต้องทำในฐานะสมาชิกหนึ่งในอุตสาหกรรมมือถือ อย่างไรก็ตาม ต่อกรณีดังกล่าวดีแทคอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยอาจร่วมอนุมัติและรับรู้เรื่องดังกล่าวด้วย เพราะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมงานของนายกรณ์ได้ขอความร่วมมือค่ายมือถือส่งข้อความตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. เป็นต้นไป โดยเริ่มต้นจากลูกค้าระบบจดทะเบียน (โพสต์เพด) ก่อน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 5 ล้านเลขหมาย ซึ่งค่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายจะส่งเอสเอ็มเอสไปยังลูกค้า ส่วนระบบ IVR นั้นเป็นการอาสาทำจากค่ายทรูมูฟ ซึ่งระบุว่าสามารถทำระบบดังกล่าวให้แก่รัฐบาลได้.
ที่มา ไทยรัฐ
3ค่ายมือถือเซ็งSMSแผนพีอาร์"อภิสิทธ์"
แฉ SMS "มาร์ค"ขอส่งหาประชาชนฟรี ไม่ให้ค่ายมือถือเรียกเก็บค่าบริการ ทั้งที่ต้นทุนข้อความไม่ต่ำกว่า 1 บาท ชี้ค่ายมือถือต้องไปหารายได้เอาเอง จากประชาชนที่ตอบกลับมา AIS อ่วมต้นทุนเยอะสุด จากลูกค้าในระบบมีมากถึง 26 ล้านบาทด้าน TRUE แจงไม่มีผลทำให้รายได้บริการเสริมสูงขึ้น เพราะจำกัดวงแคบ
แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม เปิดเผยถึง กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความสั้น(SMS)ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยระบุว่าข้อความดังกล่าวส่งมาจากYour PM. และมีเนื้อหาว่า "ผมนายกรัฐมนตรีใหม่ ขอเชิญท่านร่วมนำประเทศไทยออกจากวิกฤติ / สนใจได้รับการติดต่อจากผมกรุณาส่งรหัสไปรษณีย์ 5 หลัก ของท่านมาที่เบอร์ 9191 คิดค่าบริการ 3 บาท
โดยจากกรณีดังกล่าว รัฐบาลได้ขอความร่วมมือมายังค่ายมือถือทั้ง 3 ราย ทั้งบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ TRUE บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ
DTAC เพื่อส่ง SMS ไปทักทายประชาชน แต่ขอให้ค่ายมือถือไม่เรียกเก็บค่าบริการจากรัฐบาล ซึ่งได้ระบุมาในเอกสารอย่างเป็นทางการว่าขอความร่วมมือ
แหล่งข่าว กล่าวว่าในส่วนนี้ถือว่าค่ายมือถือทั้ง 3 ราย ต้องรับภาระในการส่ง SMS ไปยังลูกค้าในระบบของตัวเอง รวมทั้งหมดในประเทศกว่า 56 ล้านบาท โดยต้นทุนการส่ง SMS อยู่ที่ราว 1-2 บาทต่อข้อความ ขึ้นอยู่กับการใช้โครงข่ายของแต่ละราย โดยในกรณีนี้ถือว่า ADVANC มีต้นทุนมาก เพราะมีฐานลูกค้าในระบบ 26 ล้านบาท
"รัฐบาลขอมาว่า จะติดต่อกับประชาชน โดยข้อความจากนายกฯ ขอเป็นการบริการฟรี แต่ให้ค่ายมือถือสามารถคิดค่าบริการตอบกลับจาก SMS ที่ส่งตอบกลับมา ข้อความละ 3 บาท แต่ก็ไม่ใช่ว่า คนที่ได้รับ SMS จากนายกฯ จะส่ง SMS ตอบกลับมาทุกคน แต่ในขณะที่ต้นทุนมันตายตัวอยู่กับทุกโอเปอเรเตอร์แล้ว และหากในอนาคต นายกฯต้องการจะส่ง SMS ไปหาประชาชนแบบฟรีๆ อีก ก็ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย"
นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการสายงานบริการมัลติมีเดีย TRUE กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้เกรียติ ให้บริการส่งSMS ผ่านเครือข่ายทรูมูฟ ไปยังลูกค้าในระบบจำนวน12 ล้านคน ซึ่งในความเห็นส่วนตัวนั้น ตนก็อยากให้การรับส่งข้อความระหว่างประชาชนกับนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นทั้ง อุตสาหกรรม
โดยขั้นตอนต่อจากนี้ตนกำลังรอนโยบายจากผู้บริหารระดับสูงของ TRUE ก่อนว่าแนวทางในการดำเนินจะเป็นลักษณะใด เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าทรูมูฟ เลือกเข้าข้างพรรคใดพรรคหนึ่ง สำหรับการรับส่ง SMS ของทรูมูฟจากกรณีดังกล่าวนี้ ไม่น่ามีผลทำให้รายได้ในด้านบริการเสริม (นอนวอยซ์) มากขึ้น เพราะถือว่ายังจำกัดอยู่ในวงแคบ อีกทั้งในปัจจุบันรายได้บริการเสริม ก็มีอัตราส่วนที่เติบโตขึ้นมากทุกๆปี แต่ส่วนใหญ่จะมาจากบริการด้านดาต้า เช่น การรับส่งข้อมูลผ่านเทคโนโลยีเอดจ์ และ จีพีอาร์เอสมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า TRUE ตั้งเป้าหมายในส่วนของบริการเสริมไว้ที่2,200-2,500ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,000 ล้านบาท โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดรวม ที่คาดว่าจะขยายตัว 10-15% จากปี 2550 โดยมูลค่าตลาดรวมนอนวอยซ์ของไทยอยู่ที่ประมาณ 11-12% ของรายได้รวมผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือ
ด้านนายปรัธนา ลีลพนัง ผู้อำนวการสำนักบริการเสริม ADVANC กล่าวว่า ในวันนี้ (18 ธ.ค.) ลูกค้าของค่ายมือถือทั้ง 3 ระบบจะได้รับ SMS เหมือนกันหมด เพียงแต่ว่าลูกค้าทรูมูฟ จะได้รับก่อน ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขในการตกลงกับรัฐบาลได้ก่อน รวมทั้งทรูมูฟก็มีฐานลูกค้าน้อยที่สุดในตลาดด้วย ส่วนของเอไอเอสเอง หลังจากได้รับหนังสือขอความร่วมมือจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการในกรณีดังกล่าว ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าจะได้รับSMS ในช่วงเย็นของวันนี้
อย่างไรก็ตาม เอไอเอสยืนยันว่า ยินดีสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งจะต้องเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวมของประเทศ แต่หากเป็นนโยบาย ที่ใช้เพื่อหวังผลประโยชน์จากประชาชนของพรรคใดพรรคหนึ่ง เอไอเอสเองก็มีนโยบายไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด ในส่วนของค่าบริการ SMS ที่ส่งกลับมายังนายกรัฐบาล คงอยู่ในราคาเดียวกันทั้งหมด คือ 3 บาท ซึ่งก็จะถือเป็นรายได้ของผู้ประกอบการแต่ละราย แต่ก็ต้องต้นทุนด้วย ซึ่งไม่ถือเป็นการช่วยสร้างรายได้บริการเสริมเลย
----------------------------- วันที่ 19 ธ.ค. 2551
ที่มา ข่าวหุ้น
Create Date : 19 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 19 ธันวาคม 2551 12:21:44 น. |
|
13 comments
|
Counter : 572 Pageviews. |
|
|
|