ก้าวที่ไม่ท้อ เดิมพันด้วยชีวิต

ธรรมะ ที่เพิ่มขึ้น





  นานมากที่ไม่ได้เขียน มีเรื่องลี้ลับ อะไรเยอะแยะ แต่ก็ ไม่ได้ติดใจ สนใจ

เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา เปิด youtube ฟังธรรมะหลากหลาย
หลักๆ ผมก็ติดตาม 

พระครูเกษมธรรมทัต(สุรศักดิ์ เขมรํสี)

หลวงพ่อเยื้อน หลวงปู่ไม หลวงพ่อสิริ
และได้มาอ่าน และติดตาม อาจารย์สุภีร์ ทุมทอง

ช่วงแรกของการศึกษา หาความรู้ ก็สนใจเรื่องสมาธิ และวิปัสสนา
ก็อ่าน วนไปเรื่อย หาข้อมูล ฟัง ไปเรื่อย วนไป อยากรู้ว่าที่เราฝึกที่เราปฏิบัติ
มันถึงระดับไหน ทำไปแล้ว ก็ดี ภูมิใจที่ได้ทำ ได้ทำได้ ก็ติดอดีตไป
ได้เรียนรู้หลักว่าที่ฝึก ที่ปฏิบัติ มันก็ไม่หลงทาง ได้อะไรติดตัวได้หลักการ ได้กำลังใจ
ก็ว่ากันไป
เพราะสิ่งที่ฝึก คือ แนวพอง ยุบ แนวทางการดูกายเป็นหลัก
ต่อมาก็เริ่ม ศึกษาเรื่อง จิต ก็ฝึกเรื่องจิต นานทีเดียว ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
ก็เอามาฝึกบ่อยๆ อ่านมากขึ้น และอ่านแนวทางที่ลูกศิษย์สายปฏิบัติดูจิต ที่ท่าน
ได้การรับรองแล้วว่าสามารถออกมาสอนคนทั่วไปได้
 ได้ประสบการณ์อะไรเกิดขึ้น และแนวทางที่ท่านทำกันคืออะไร

อย่างหนึ่งที่ผมพยายามทำ คือ ทำบ่อยๆ ทำตามแนวทางที่ท่านแนะนำ แนวทางที่เราถนัด
และสามารถทำได้ เข้าใจได้ ทำแล้วไม่เครียด ทำได้ต่อเนื่อง
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้คือ เมื่อทำบ่อยๆ ก็จะชิน และจดจำสภาวะได้ 
และสิ่งที่อาจารย์แต่ละท่านสอน ก็เป็น แนวทางหลักที่ท่านถนัด เราผู้เรียน ก็ต้องดูตัวเอง
ว่าเราทำได้มากน้อยแค่ไหน พยายามแล้วได้มั๊ย 

ก็จริงอย่างหนึ่ง คือ ส่วนตัวที่ผ่านมา เข้าคอร์สปฏิบัติ แล้วสามารถเข้าสมาธิได้ลึก และมีสติรู้อยู่ตลอด ก็สงสัยสภาวะ และพยายามหาคำตอบมาเรื่อย เพราะสภาวะที่เราเจอ ไม่ใช่เจอครั้งเดียวแต่ทุกครั้งที่เข้าคอร์สปฏิบัติหลายๆวัน ก็จะเจออย่างนี้ ก็ได้อ่านหนังสือ ส่องสภาวะธรรม ของวัดท่ามะโอ ก็ทำให้เข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น และเมื่อได้ปฏิบัติตามหลักการแนวทางที่ถูกต้อง มีอาจารย์แนะนำ ความก้าวหน้าก็เกิดได้เร็ว

ต่อมา เมื่อหลักการปฏิบัติแนวดูจิต แพร่หลาย เราก็พยายามหัดดูสภาวะ ไม่เผลอไป เผลอแล้วรู้ รู้ปัจจุบัน ดูทั้งกาย ดูทั้งจิต และเราก็หาอ่านอะไรเพิ่มมาขึ้่น 

ก็ได้อ่านหนังสือของอาจารย์สุภีร์ อ่านนานมากกว่าจะเข้าใจ ยอมรับว่านาน เพราะอยากจะเข้าใจเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท พยายาม ค่อยๆเริ่มอ่าน ค่อยๆเพิ่มเวลาในการฟัง มากขึ้น อ่านบ่อยๆ ฟังบ่อยๆ

      เพราะคิดว่าในชีวิตประจำวันที่ได้เพียงแต่ดูอิริยาบทย่อย เก็บเล็กผสมน้อย สะสมไปเรื่อย คงได้ไม่เต็มที่ ก็ขอให้ได้เข้าใจธรรมะอะไรที่เพิ่มมากขึ้น ที่ไม่วนซ้ำเรื่องเก่าๆเดิมๆ (เรื่องผี จิตวิญญาณ เรื่องสมาธิ นรก สวรรค์ ตายแล้วฟื้น) รวมๆแล้วการได้ศึกษาเพิ่มมากขึ้น และการอธิบายของอาจารย์สุภีร์ก็อ่านได้ง่าย เข้าใจด้วยการยกตัวอย่างประกอบหลากหลาย (ยอมรับเลยว่า เมื่อก่อนไม่เข้าใจเลย และไม่รู้เรื่อง เวลาใครอ่าน หนังสือ ท่านพุทธทาสภิกขุ เรื่อง อิทัปปัจจยตา
      ยอมรับเลย ว่าคนที่อ่านเข้าใจนี่เก่งมาก)
     แม้ตอนนี้ จะพอเริ่มมองภาพรวมๆกว้างๆ ออก แต่ก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่อย่างน่อย ก็ได้กำลังใจเพิ่มขึ้นคือได้ รู้ และ เข้าใจ หลักมากขึ้น มองออกว่า อะไรเป็นอะไร และทำไม ความก้าวหน้าในธรรมะ หรือวิธีการที่จะทำให้ ญาณปัญณาเพิ่มมากขึ้่นควรทำอย่างไร 




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2560   
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2560 16:27:36 น.   
Counter : 398 Pageviews.  

เมื่อได้อ่านประสบการณ์ของผู้หาหนทาง ปฏิบัติธรรม

หลังจากได้ปฏิบัติธรรม ตอนบวช 2553 ก็ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติได้เรียนรู้หลักการต่างๆใหม่ๆ และได้รู้อะไรหลายอย่างมากมาย จนเกิดความเข้าใจ เพราะมีหลวงพ่อ หลวงพี่ ที่เก่งการปฏิบัติ เก่งในหลักการคอยชี้แนะ

แต่เดิมก็ไม่ได้เปิดกว้างทางความคิดในการอ่านหนังสือเท่าใดนัก เนื่องจากหนังสือมีเยอะ จึงค่อยๆเลือกอ่าน แต่เมื่อได้อ่านได้ฟัง ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ ศรัทธาจนเกือบหมด และได้ทดลองปฏิบัติตามไปด้วย ก็เริ่มหันมาอ่านหนังสือจากทั้งครูบาอาจารย์ที่ไม่รู้จัก และฆารวาส ผู้ปฏิบัติธรรม จุดนี้เองทำให้เราได้รู้อะไรที่ไม่รู้เพิ่มขึ้นมาอีก จนทำให้ได้รู้ว่า จริงๆแล้วทางขึ้นเขามีหลายทางและสุดท้ายเราก็ไปเจอกันบนยอดเขาเหมือนกัน

ตรงนี้ที่ทำให้ได้รู้จักแนวทางปฏิบัติสายอื่นๆ กรรมฐานต่างๆมากขึ้น ได้เข้าใจจริต การปฏิบัติ ของแต่ละบุคคล แยกแยะได้บ้างตามกลุ่ม แม้พระใหม่ที่เราพึ่งรู้จัก แต่พออ่านประวัติท่านทั้งหลาย ก็ทำให้รู้ว่าเบื้องหลังการปฏิบัติของท่านที่ผ่านมา เอาจริง และปฏิบัติจริงมาแล้วจึงได้ออกมาเขียน มาเล่าสู่ประสบการณ์ต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้และเดินตาม ตรงนี้เองที่ทำให้เรา ยิ่งสนใจหนังสือของพระใหม่ๆ (เนื่องจากคำว่าพระใหม่นี่คืออายุพรรษาท่านไม่มาก เพราะแต่เดิมศึกษาแต่ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น และครูบาอาจารย์ที่มรณภาพไปแล้ว แม้ฆารวาส ส่วนใหญ่ก็ที่บรรลุแล้ว) จึงทำให้เริ่มอ่านมากขึ้น และเก็บรายละเอียด แนวทางการปฏิบัติมากขึ้น

อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ก็ได้ออกมาเขียนหนังสือบอกเทคนิค วิธีที่ท่านได้ปฏิบัติมา และที่ผมประทับใจมากคือ สิ่งสำคัญในการเรียนรู้เรื่องหนทาง (พระธรรมที่นำไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า.......การรู้จักหนทางหรือวิธีไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า ถ้าเราศึกษาและนำไปปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง)

หนังสือดีๆ ใน เว็บ kanlayanatam และอีกหลายๆที่ ทำให้เราได้เดินทางได้ไวขึ้นจริงๆ การได้กัลญาณธรรมที่ดี ก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างที่ว่าไว้ คอยดึงคอยเตือน บอกว่าทางไหนทางที่ดีลัดสั้น ซึ่งกลุ่มที่ว่าไว้ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่ม ของ managerroom

คำกล่าวที่ว่า เมื่อรู้สึกตัวก็ได้ต้นทางแห่งการปฏิบัติ
ถ้านำการปฏิบัติธรรมมา ปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวันได้ ก็ได้ชื่อว่าปฏิบัติธรรม
ซึ่งแต่เดิมเราแบ่งว่าตอนนี้ปฏิบัติ ตอนนี้พัก ซึ่งเป็นจริงๆ แต่เมื่อได้ศึกษาได้ทดลอง พยายาม นำเข้ามาปฏิบัติให้มาก เอาการปฏิบัติเข้ามาในกิจวัติประจำวัน มันก็เริ่มๆเพิ่มชั่วโมงบินให้กับเรา เริ่มเป็นชีวิตของเรา ซึ่งต้องอดทน และยอมรับความจริงหลายๆอย่าง เพราะทำอย่างนี้จึงได้ผลอย่างนี้ เมื่อหมดอยากเมื่อใดได้เมื่อนั้นแหล่ะผลมันจึงจะดี ถ้าไม่คิดว่าอยากทำก่อนจะต้องใช้วิธีใด ก็ได้บางอ้อคือใช้สติ ใช้ปัญญาแทนความอยาก มันมีอะไรหลายๆอย่างจริงๆที่ทำให้เราได้เรียนรู้

รวมถึงความรู้ที่ได้จากการฟังคุณดังตฤณ หรือการตามอ่านหนังสือ ธรรมะใกล้ตัว ซึ่งทำให้ได้รู้หลักปฏิบัติ สำหรับคนเราๆ คนทั่วๆไป ที่พยายามหาทางออกจากความทุกข์ หาแนวทางปฏิบัติ ที่ไม่เพ่ง และไม่หลง ทุกอย่างมันต้องลองปฏิบัติกันก่อน เมื่อรู้ที่ผิดก็ทำให้รู้ว่า อะไรแท้จริงแล้วคือถูกทาง เป็นกลาง เป็นการรู้สึกตัว เป็นสติ เราได้เห็นคนเก่งๆที่ออกมาสอน ต้องยอมรับผู้ที่ออกมาสอนจริงๆว่าท่านรู้ และเก่งจริงๆ ที่สามารถบรรยายสภาวะ ที่สอนหลักการของพระพุทธองค์ได้ ท่านเหล่านั้นรู้ลึก รู้จริง ผ่านการปฏิบัติ ได้พบครูบาอาจารย์ และได้ชี้แนวทางได้ เปิดใจยอมรับความจริงความต่างของธรรมะ รวมถึงอะไรหลายๆอย่างมากมาย ที่ทำให้ท่านกล้าที่จะออกมาสอนสั่งผู้ไม่รู้

มันเป็นความจริงแท้ที่ว่า อ่านและฟังมากเท่าใด ถ้าไม่นำมาปฏิบัติ ก็เหมือนยังไม่จบกิจ (แม้จะสนุกกะการอ่านการได้รู้ก็ตาม) เริ่มแรกก็หาแรงบันดาลใจในการอ่านก่อน เพราะจริงๆ เราไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือ แรงบันดาลใจคงมาจาก "มงคลชีวิต" เพราะอยากได้ดี เค้าว่าอ่านธรรมะแล้วได้บุญ ศึกษาแล้วจบ ศึกษาแล้วไม่ทุกข์ ก็อดทนนะ อ่านๆ หาที่อ่านที่ฟังแล้วสนุกก่อนเลยในช่วงแรกๆ ก็เลยชอบ ปาฏิหารย์ ฤทธิ์ ก็จะออกๆไปทางนี้ซะเยอะ แล้วก็วกๆกลับมาหาแนวทางปฏิบัติ คือสมาธิ เรียนรู้วิธีการหลักการ แต่ก็ไม่เข้าใจ เพราะอ่านไม่เป็นหมวดหมู่ อ่านข้ามไปมา จับหลักการไม่ถูก ก็เลยต้องปฏิบัติ พยายามทำก่อนแล้วมาอ่านตามเอาทีหลัง เทียบเคียงแนวทางการปฏิบัติว่าถูกทางหรือไม่และออกนอกทางไปหรือป่าว

ธรรมะที่ฟังมาตลอดก็ของ ดร สนอง วรอุไร ซึ่งเราก็ตามฟัง และเอามาพิจารณาตลอด หลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งได้สอนวิชาคลำกระดูก ซึ่งเราก็จะเปิดเสียงหลวงปู่แล้วก็ปฏิบัติตาม ซึ่งนานๆถึงจะมีเวลาทำเพราะปฏิบัติแต่ละครั้งใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่วิชานี้ก็เหมือนถูกจริตกับเราอยู่คือฟังตามและทำได้ ก็พอเป็นวาสนาบารมีกับเค้าอยู่บ้างที่ทำตามได้แม้ไม่ได้ไปเรียนแต่ก็ download เสียงการสอนของหลวงปู่มาฟัง แม้จะไม่ได้ละเอียดแต่ก็เก็บเล็กผสมน้อยตามไปเรื่อยๆ พยายามหาภาพโครงกระดูกมาศึกษา มาดู เพื่อการพิจารณาจะได้ละเอียดและถูกต้องมากขึ้น ส่วนในวิชาอื่นก็มีแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่พยายามฝึกตามทุกวิธีเพราะคิดว่าเป็นทาง ที่ทำให้เกิดประโยชน์ก็ต้องเอาใส่ตัวไว้บ้าง (ในการปฏิบัติวิชาต่างๆ ที่ทำให้ผมเข้าใจก็เพราะหลวงปู่พุทธะอิสระ คอยสอนคอยบอกหลัก เคล็ดวิธี ทำให้ผมสามารถทำได้ถูกต้อง และเห็นผลของการปฏิบัติตาม)

บางครั้งนึกย้อนไปในอดีต ก็รู้สึกว่า กว่าจะมาถึงตรงนี้ มันยากจริงๆ การจะสอนจะบอกใครนี่ยากเหลือเกิน เพราะเราเป็นคนเข้าใจอะไรยาก เวลาไปคุยกะใครก็ได้แต่เงียบฟัง อธิบายคุยก็ใช้ภาษาที่เราเข้าใจ พยายามคุยเพื่อขอความรู้กับเพื่อนๆ เพื่อนำไปปรับแก้ไข




 

Create Date : 22 กันยายน 2553   
Last Update : 22 กันยายน 2553 10:50:36 น.   
Counter : 270 Pageviews.  

เดินทางหาประสบการณ์

สวัสดีครับ การเดินทางธรรม ของเรา ตอนนี้ก็พยายามลุยป่าเพื่อออกหาเส้นทางที่ถูกที่ตรงลัดสั้น แต่ก็ไม่ได้ท้อแท้อะไรแล้ว เพราะลุยป่ามาก็นาน ได้เห็นได้พักผ่อน(หรือว่าได้ทำอะไรตามใจตัวเอง มั้ง) แทนที่จะรีบเดินนะ เดือนเมษายน 2552 จนถึง พฤษภาคม ช่วงเดือนนี้เราได้เข้าเวปไซน์ //larndham.net/index.php?showforum=17 และได้อ่านหัวข้อบรรยายของคุณ ดังตฤณ ในหลายๆหัวข้อ และเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 52 ช่วงบ่ายเราก็ได้เข้า youtube และก็ได้ฟังการตอบคำถาม การบรรยาย การเปิดตัวหนังสือของคุณดังตฤณ ทำให้เราได้ความรู้เพิ่มเติม จากที่เคยสงสัยอะไรต่างๆมานานทำให้ย้ำความแน่ใจ ต่างๆให้กับตัวเองมากขึ้น ในหลายๆคำตอบที่เราได้ฟังอาจเป็นคำถามที่หลายๆคนสงสัยซึ่งหลายๆคำถามมักเป็นคำถามที่ ตอบยากลึกซึ้ง สรุปใจความบางอย่างคือ กรรม เป็นเหตุปัจจัยหลัก ทางแก้ไขมันกว้างระบุคำตอบตายตัวไม่ได้แน่นอน แต่ยึดหลักของพระพุทธเจ้าไว้จะดีที่สุด
แม้แต่ในเรื่องคู่ครองที่เป็นประเด็นที่มีการถามบ่อยๆ ในเรื่องความเสมอศรัทธา ศีล เหล่านี้ล้วนแต่ยากที่จะตอบแต่ก็มีทางออกในทุกคำถามที่คุณดังตฤณได้ให้แนวทางแก้ไข รวมไปถึงหลายๆคำถามที่มักได้คำตอบที่ดีทีเดียว ที่ทำให้เราสามารถนำไปอธิบายให้กับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี ช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาเราก็ได้ฟัง บรรยาย ของ //www.kanlayanatam.com ของ หลวงปู่พุทธะอิสระ หลวงปู่เณรคำ และ ดร. สนอง ซึ่งก็ฟัง 2 – 3 รอบแล้วก็ยังได้แง่คิดหลายๆอย่างเพิ่มมากขึ้น รวมถึงฟัง พระอาจารย์ปราโมทย์ ด้วยซึ่งทำให้เรามีแรงจูงใจในการปฏิบัติมากขึ้น จิตใจทดสอบมองหาหลักยึด มองดูใจตัวเองว่าปฏิบัติถูกตรงมากน้อยเพียงใด พลาดไปในส่วนใด พยายามตรวจสอบใจตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
1. บางทีก็ผ่อนคลายด้วยการ ดูหัวข้ออื่นๆที่สนุก แปลก เช่น การเข้าพิธีไหว้ครู ของคนที่ทำการสักยันต์แล้วมีอาการเหมือนของขึ้น ซึ่งก็มีการถ่ายทำทั้งคนไทย และคนต่างประเทศ ดูแล้วก็แปลกไปอีกแบบ บางส่วนที่ได้ดูคือ สักๆไปแล้วเหมือนของจะขึ้นทันที คือ ออกท่าทางตอนสักเลย อีกเรื่องที่ได้ดูคือการส่งวิญญาณ ที่ออกรายการ คุณวิทวัส คือวิญญาณมาเข้าแทรกร่างหญิงคนหนึ่งทำให้มีอาการปวดท้อง เพราะวิญญาณนั้นถูกรถทับตัวขาดครึ่ง หญิงที่ถูกวิญญาณแทรกจะมีอาการปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ แม้ทางการแพทย์ก็ระบุได้ยาก แต่เมื่อทำการส่งวิญญาณแล้วก็หายไม่มีอาการอะไรอีกเลย
2. เรื่องของบ้านผีสิง ที่ คุณป๋องไปพิสูจน์บ้านล้าง หรือที่เฮี้ยนๆ 5 อันดับ ตรงนี้ก็สนุกไปอีกแบบ
3. การสัมภาษณ์คนที่สนใจเรื่องลี้ลับของดีเจหัวฟูๆ ชื่อไรน้า จำไม่ได้ ก็ได้เล่าให้ฟังว่า เคยบวช 3 พรรษา ได้เห็นและรู้เรื่องวิญญาณ วัตถุมงคล คาถาอาคม ตรงนี้ก็สนุกดี
คือจริงๆก็สนใจเรื่องพวกนี้มานาน แต่ไม่ค่อยได้ติดตามอ่านหรือว่าได้ดูทางทีวี เพราะนอนไวอะนะ ก็ได้มารู้จัก youtube นี่แหล่ะทำให้ได้ย้อนดูรายการที่น่าสนใจได้เยอะ ประหยัดเวลาไปได้มากเลย ก็ถือว่าผ่อนคลายนอนฟัง เพลินๆไป
ช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้ไปไหนไกล คือไม่ได้ไปไหว้พระตามจังหวัดต่างๆ แต่ก็ได้ไปทำบุญสังฆทาน ปล่อยตะพาบตัวเล็กๆ 3 ตัว 50 บาท ก็เมื่อมีโอกาสก็จะรีบทำ
หลายเรื่องที่ได้อ่านได้ฟัง ได้ดู จากผู้มีประสบการณ์มาบอกมาเล่าให้ฟังทำให้รู้วิธีการทำบุญการส่งผลบุญ ได้ชัดเจนมากขึ้น แม้แต่การติดต่อกับวิญญาณที่อยู่ๆมาเข้าร่างคนได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกที่นานๆจะมีคนออกมาเปิดเผยกัน แม้แต่การทำบุญแต่ละครั้งเมื่อส่งผลบุญไปให้กับวิญญาณต่างๆก็ต้องมีการระบุชื่อหรือนึกถึงผู้รับบุญด้วย (แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล) ตรงนี้เค้าก็ได้พูดไว้ชัดเจน เมื่อวิญญาณนั้นไม่ได้เคยทำบุญหรือว่าฝึกจิต แม้มาเข้าร่างคนแล้วเมื่อพูดคุยก็ไม่สามารถโต้ตอบได้ แต่เมื่อทำบุญส่งให้แล้วเหมือนวิญญาณนั้นมีกำลังพอที่จะเขียนหนังสือเพื่อบอกว่าเป็นใครจะไปไหน และต้องทำอย่างไรเพื่อให้วิญญาณไปต่อได้ (แปลกดี) เนื่องจากทางรายการที่นำเสนอมีข้อมูลมีการเก็บหลักฐาน และไปตรวจสอบสถานที่ๆได้กล่าวอ้างไว้ ก็ทำให้การพิสูจน์ได้ชัดเจนมากขึ้น
ซึ่งในเรื่องของหลักฐานการติดต่อวิญญาณหรือว่าการเห็นวิญญาณ ก็มีระบุในหนังสือของหลวงพ่อจรัญ เยอะมากสำหรับผู้ที่สนใจอ่านก็หาอ่านได้เยอะครับ อีกท่านหนึ่งคือแม่ชีทศพร ก็มีหลักฐาน มีการเขียน หนังสือไว้หลายเล่มเหมือนกัน ปัจุบันเรื่องเหล่านี้มีการเปิดเผย มีการพูดคุยกันเป็นวงกว้างมากขึ้นก็ดีเหมือนกันสำหรับผู้ที่สนใจ อยากรู้( รวมถึงเราด้วยนิ ) เรื่องการถ่ายภาพติดก็เป็นการยืนยัน แต่ก็ต้องหาคนพิสูจน์เยอะนะ
เรื่องหลายๆเรื่องก็ผ่านมาให้ได้เห็นให้ได้พิสูจน์ แต่ก็ไม่ได้ให้ยึดติดเสียเวลากับการปฏิบัติ เพราะว่าเรามาอยู่เมือง เมืองที่ไม่เคยหลับ เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เหนื่อยกับการเดินทาง แต่ก็ได้อะไรมากมายจากเมือง จากห้องสมุดดีๆหลายที่ ที่ได้ให้ความรู้
มีอีกหลายเรื่องที่ รู้กันเฉพาะในกลุ่มไม่ได้เปิดเผย ออกมา อีกก็เยอะ แต่ก็ไปแอบๆฟังมาเหมือนกันนิ ก็ได้รู้ได้เห็นกับตา ก็หวังว่า และก็คิดไว้ว่าเมื่อมีโอกาส ก็จะไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ อีกซักครั้ง




 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2552   
Last Update : 18 พฤษภาคม 2552 11:17:55 น.   
Counter : 189 Pageviews.  


spacebrain
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เดินทางมาไกลแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ว่า
ตอนนี้ยังไม่ถึงเป้าหมายก็แล้วกัน

ตอนนี้ไม่มีคำว่าท้อ
มีแต่ เดินๆๆๆๆๆๆ เรื่อยๆ จนกว่าจะถึง เนอะ
[Add spacebrain's blog to your web]