ก้าวที่ไม่ท้อ เดิมพันด้วยชีวิต

เมื่อได้อ่านประสบการณ์ของผู้หาหนทาง ปฏิบัติธรรม

หลังจากได้ปฏิบัติธรรม ตอนบวช 2553 ก็ทำให้ได้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติได้เรียนรู้หลักการต่างๆใหม่ๆ และได้รู้อะไรหลายอย่างมากมาย จนเกิดความเข้าใจ เพราะมีหลวงพ่อ หลวงพี่ ที่เก่งการปฏิบัติ เก่งในหลักการคอยชี้แนะ

แต่เดิมก็ไม่ได้เปิดกว้างทางความคิดในการอ่านหนังสือเท่าใดนัก เนื่องจากหนังสือมีเยอะ จึงค่อยๆเลือกอ่าน แต่เมื่อได้อ่านได้ฟัง ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ ศรัทธาจนเกือบหมด และได้ทดลองปฏิบัติตามไปด้วย ก็เริ่มหันมาอ่านหนังสือจากทั้งครูบาอาจารย์ที่ไม่รู้จัก และฆารวาส ผู้ปฏิบัติธรรม จุดนี้เองทำให้เราได้รู้อะไรที่ไม่รู้เพิ่มขึ้นมาอีก จนทำให้ได้รู้ว่า จริงๆแล้วทางขึ้นเขามีหลายทางและสุดท้ายเราก็ไปเจอกันบนยอดเขาเหมือนกัน

ตรงนี้ที่ทำให้ได้รู้จักแนวทางปฏิบัติสายอื่นๆ กรรมฐานต่างๆมากขึ้น ได้เข้าใจจริต การปฏิบัติ ของแต่ละบุคคล แยกแยะได้บ้างตามกลุ่ม แม้พระใหม่ที่เราพึ่งรู้จัก แต่พออ่านประวัติท่านทั้งหลาย ก็ทำให้รู้ว่าเบื้องหลังการปฏิบัติของท่านที่ผ่านมา เอาจริง และปฏิบัติจริงมาแล้วจึงได้ออกมาเขียน มาเล่าสู่ประสบการณ์ต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้และเดินตาม ตรงนี้เองที่ทำให้เรา ยิ่งสนใจหนังสือของพระใหม่ๆ (เนื่องจากคำว่าพระใหม่นี่คืออายุพรรษาท่านไม่มาก เพราะแต่เดิมศึกษาแต่ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น และครูบาอาจารย์ที่มรณภาพไปแล้ว แม้ฆารวาส ส่วนใหญ่ก็ที่บรรลุแล้ว) จึงทำให้เริ่มอ่านมากขึ้น และเก็บรายละเอียด แนวทางการปฏิบัติมากขึ้น

อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ก็ได้ออกมาเขียนหนังสือบอกเทคนิค วิธีที่ท่านได้ปฏิบัติมา และที่ผมประทับใจมากคือ สิ่งสำคัญในการเรียนรู้เรื่องหนทาง (พระธรรมที่นำไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า.......การรู้จักหนทางหรือวิธีไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า ถ้าเราศึกษาและนำไปปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง)

หนังสือดีๆ ใน เว็บ kanlayanatam และอีกหลายๆที่ ทำให้เราได้เดินทางได้ไวขึ้นจริงๆ การได้กัลญาณธรรมที่ดี ก็เป็นสิ่งที่ดี อย่างที่ว่าไว้ คอยดึงคอยเตือน บอกว่าทางไหนทางที่ดีลัดสั้น ซึ่งกลุ่มที่ว่าไว้ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่ม ของ managerroom

คำกล่าวที่ว่า เมื่อรู้สึกตัวก็ได้ต้นทางแห่งการปฏิบัติ
ถ้านำการปฏิบัติธรรมมา ปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวันได้ ก็ได้ชื่อว่าปฏิบัติธรรม
ซึ่งแต่เดิมเราแบ่งว่าตอนนี้ปฏิบัติ ตอนนี้พัก ซึ่งเป็นจริงๆ แต่เมื่อได้ศึกษาได้ทดลอง พยายาม นำเข้ามาปฏิบัติให้มาก เอาการปฏิบัติเข้ามาในกิจวัติประจำวัน มันก็เริ่มๆเพิ่มชั่วโมงบินให้กับเรา เริ่มเป็นชีวิตของเรา ซึ่งต้องอดทน และยอมรับความจริงหลายๆอย่าง เพราะทำอย่างนี้จึงได้ผลอย่างนี้ เมื่อหมดอยากเมื่อใดได้เมื่อนั้นแหล่ะผลมันจึงจะดี ถ้าไม่คิดว่าอยากทำก่อนจะต้องใช้วิธีใด ก็ได้บางอ้อคือใช้สติ ใช้ปัญญาแทนความอยาก มันมีอะไรหลายๆอย่างจริงๆที่ทำให้เราได้เรียนรู้

รวมถึงความรู้ที่ได้จากการฟังคุณดังตฤณ หรือการตามอ่านหนังสือ ธรรมะใกล้ตัว ซึ่งทำให้ได้รู้หลักปฏิบัติ สำหรับคนเราๆ คนทั่วๆไป ที่พยายามหาทางออกจากความทุกข์ หาแนวทางปฏิบัติ ที่ไม่เพ่ง และไม่หลง ทุกอย่างมันต้องลองปฏิบัติกันก่อน เมื่อรู้ที่ผิดก็ทำให้รู้ว่า อะไรแท้จริงแล้วคือถูกทาง เป็นกลาง เป็นการรู้สึกตัว เป็นสติ เราได้เห็นคนเก่งๆที่ออกมาสอน ต้องยอมรับผู้ที่ออกมาสอนจริงๆว่าท่านรู้ และเก่งจริงๆ ที่สามารถบรรยายสภาวะ ที่สอนหลักการของพระพุทธองค์ได้ ท่านเหล่านั้นรู้ลึก รู้จริง ผ่านการปฏิบัติ ได้พบครูบาอาจารย์ และได้ชี้แนวทางได้ เปิดใจยอมรับความจริงความต่างของธรรมะ รวมถึงอะไรหลายๆอย่างมากมาย ที่ทำให้ท่านกล้าที่จะออกมาสอนสั่งผู้ไม่รู้

มันเป็นความจริงแท้ที่ว่า อ่านและฟังมากเท่าใด ถ้าไม่นำมาปฏิบัติ ก็เหมือนยังไม่จบกิจ (แม้จะสนุกกะการอ่านการได้รู้ก็ตาม) เริ่มแรกก็หาแรงบันดาลใจในการอ่านก่อน เพราะจริงๆ เราไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือ แรงบันดาลใจคงมาจาก "มงคลชีวิต" เพราะอยากได้ดี เค้าว่าอ่านธรรมะแล้วได้บุญ ศึกษาแล้วจบ ศึกษาแล้วไม่ทุกข์ ก็อดทนนะ อ่านๆ หาที่อ่านที่ฟังแล้วสนุกก่อนเลยในช่วงแรกๆ ก็เลยชอบ ปาฏิหารย์ ฤทธิ์ ก็จะออกๆไปทางนี้ซะเยอะ แล้วก็วกๆกลับมาหาแนวทางปฏิบัติ คือสมาธิ เรียนรู้วิธีการหลักการ แต่ก็ไม่เข้าใจ เพราะอ่านไม่เป็นหมวดหมู่ อ่านข้ามไปมา จับหลักการไม่ถูก ก็เลยต้องปฏิบัติ พยายามทำก่อนแล้วมาอ่านตามเอาทีหลัง เทียบเคียงแนวทางการปฏิบัติว่าถูกทางหรือไม่และออกนอกทางไปหรือป่าว

ธรรมะที่ฟังมาตลอดก็ของ ดร สนอง วรอุไร ซึ่งเราก็ตามฟัง และเอามาพิจารณาตลอด หลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งได้สอนวิชาคลำกระดูก ซึ่งเราก็จะเปิดเสียงหลวงปู่แล้วก็ปฏิบัติตาม ซึ่งนานๆถึงจะมีเวลาทำเพราะปฏิบัติแต่ละครั้งใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่วิชานี้ก็เหมือนถูกจริตกับเราอยู่คือฟังตามและทำได้ ก็พอเป็นวาสนาบารมีกับเค้าอยู่บ้างที่ทำตามได้แม้ไม่ได้ไปเรียนแต่ก็ download เสียงการสอนของหลวงปู่มาฟัง แม้จะไม่ได้ละเอียดแต่ก็เก็บเล็กผสมน้อยตามไปเรื่อยๆ พยายามหาภาพโครงกระดูกมาศึกษา มาดู เพื่อการพิจารณาจะได้ละเอียดและถูกต้องมากขึ้น ส่วนในวิชาอื่นก็มีแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่พยายามฝึกตามทุกวิธีเพราะคิดว่าเป็นทาง ที่ทำให้เกิดประโยชน์ก็ต้องเอาใส่ตัวไว้บ้าง (ในการปฏิบัติวิชาต่างๆ ที่ทำให้ผมเข้าใจก็เพราะหลวงปู่พุทธะอิสระ คอยสอนคอยบอกหลัก เคล็ดวิธี ทำให้ผมสามารถทำได้ถูกต้อง และเห็นผลของการปฏิบัติตาม)

บางครั้งนึกย้อนไปในอดีต ก็รู้สึกว่า กว่าจะมาถึงตรงนี้ มันยากจริงๆ การจะสอนจะบอกใครนี่ยากเหลือเกิน เพราะเราเป็นคนเข้าใจอะไรยาก เวลาไปคุยกะใครก็ได้แต่เงียบฟัง อธิบายคุยก็ใช้ภาษาที่เราเข้าใจ พยายามคุยเพื่อขอความรู้กับเพื่อนๆ เพื่อนำไปปรับแก้ไข



Create Date : 22 กันยายน 2553
Last Update : 22 กันยายน 2553 10:50:36 น. 0 comments
Counter : 270 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

spacebrain
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เดินทางมาไกลแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ว่า
ตอนนี้ยังไม่ถึงเป้าหมายก็แล้วกัน

ตอนนี้ไม่มีคำว่าท้อ
มีแต่ เดินๆๆๆๆๆๆ เรื่อยๆ จนกว่าจะถึง เนอะ
[Add spacebrain's blog to your web]