สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
starter
เรื่องเล็ก
ระหว่างทาง
somebody
insprie
coffee or tea
ห้องรับแขก
this is a book
What When Where Why
a day in a
life
project paris
ชั้น5
All Blogs
เพราะอะไร
ใครสักคน
ธนา เธียรอัจฉริยะ
มากกว่าจังหวะและโอกาส
บิ๊กไอบีเอ็ม กับ work life integration กุญแจความสำเร็จ
ถอดรหัสรวย "เถ้าแก่น้อย-ปัญญ์ปุริ"
"วิกฤต=โอกาส"ศุภชัย เจียรวนนท์
คมคำคมคิด ธนินท์ เจียรวนนท์
We will never be perfect "ซิกเว่ เบรกเก้ "
"ศุภจี สุธรรมพันธุ์"ผู้หญิงของยักษ์สีฟ้า
ใช้หัวใจปั้นธุรกิจExteen-Bloggang
ปฎิบัติการ Fear Factor ลูกบ้าเที่ยวล่าสุดของมวยรอง
"วิไลลักษณ์ คอนเน็คชั่น"
หนัง สารคดี ชีวิต "สันติ แต้พานิช"
"บุญชัย"กับความสุขที่แท้
"วันฉัตร ผดุงรัตน์" pantip dot com
"วิไลลักษณ์ คอนเน็คชั่น"
เขียนไว้ตั้งกะต้นปี (2550) หลังกลับจากเขมร ไปเยี่ยมนครวัด นครธม และพิพิธภัณฑ์ Angkor National Musuem ประมาณพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเขมร แต่ทำโดยคนไทยแท้ๆ (อ่ะไม่ดิมีเชื้อสายจีน)
กลุ่มสามารถนั่นเอง
ที่เห็นในรูปเป็นพี่น้อง"วิไลลักษณ์" เจริญรัฐ-วัฒน์ชัย ถ่ายรูปคู่กันหน้าพิพิธภัณฑ์ สีเหลืองแจ๋น พี่ใหญ่"เจริญรัฐ"บอกว่าไม่ค่อยถูกใจสีเท่าไร เห็นว่ากะลังจะเปลี่ยน เปลี่ยนเป็นสีไร ไม่รู้เหมือนกัน
เคล็ดลับธุรกิจ และเทคนิคบริหาร คอนเน็คชั่น
เจริญรัฐ-วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับจังหวะก้าวของตระกูล วิไลลักษณ์เจ้าของ กลุ่มสามารถอีก 1 เสือธุรกิจในสมรภูมิสื่อสารโทรคมนาคมไทย
หลายปีก่อน กลุ่มสามารถเคยเป็นดาวจรัสแสงในแวดวงธุรกิจ ขนาดขยับขยายอาณาจักรเข้าสู่ธุรกิจมือถือ
แต่อนาคตที่สดใสก็พลันดับวูบลงเช่นเดียวกับยักษ์สื่อสารรายอื่น หลังวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 จนต้องตัดใจขายบริษัทมือถือให้ตระกูลชินวัตรเพื่อรักษาตัวรอด
เราบาดเจ็บจากวิกฤตครั้งนั้นมากจริงๆ แต่ก็ได้บทเรียนสำคัญว่าจะไม่ทำอะไรเกินตัววัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ เผยความในใจเมื่อหันกลับไปมองอดีตที่ผ่านมา
แม้กลุ่มสามารถจะลดขนาดความฝันของตนเองลง แต่ก็ยังไม่หยุดฝัน และมีเรี่ยวแรงที่จะบุกเบิกการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ อีกครั้ง
เมื่อลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคงแข็งแรงแล้ว ณ วันนี้
ถึงกระนั้น ประสบการณ์จากวิกฤตเศรษฐกิจ เป็นบทเรียนราคาแพง ที่พี่น้องตระกูล วิไลลักษณ์ใช้เตือนสติตนเองอยู่เสมอ
นั่นทำให้จังหวะก้าวของกลุ่มสามารถเปลี่ยนแปลงไปหลายด้านด้วยกัน เริ่มจากการปรับแนวคิดการดำเนินธุรกิจ และการลงทุนใหม่หมด โดยจะไม่ผูกขาอยู่แค่ในธุรกิจโทรคมนาคมอีกต่อไป
แต่ยังคงเกี่ยวพันอยู่กับเรื่องของเทคโนโลยีตามความถนัด
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคอนเท้นท์,การวางระบบไอที,การสร้างมือถือแบรนด์ไทย ไอ-โมบาย
หรือธุรกิจใหม่ๆ เช่น ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ และโรงไฟฟ้าขนาดเล็กในกัมพูชา,ธุรกิจบริหารระบบจัดการขยะที่สนามบินสุวรรณภูมิ, ธุรกิจให้บริการระบบรักษาความปลอดภัย และระบบสื่อสาร เป็นต้น
ทุกธุรกิจยืนอยู่บนพื้นฐานของความรู้ความสามารถ และกำลังทรัพย์ที่ตนเองมีเป็นหลัก
และเปิดเกมรุกไปในอีกหลายประเทศแถบเอเชีย ทั้งกัมพูชา, เวียดนาม,อินโดนีเซีย, อินเดีย, ลาว และมาเลเซีย เป็นต้น
โดยกอดคอไปกับ"เทเลคอม มาเลเซีย"พันธมิตร และผู้ถือหุ้นหลักของกลุ่มสามารถ
นอกเหนือไปจากฝีไม้ลายมือในการบริหารธุรกิจ และการมองเห็นลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ อยู่เสมอ
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน กลุ่มสามารถภายใต้การนำของ 2 พี่น้อง เจริญรัฐ-วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ยังครบเครื่องเรื่องการบริหารสายสัมพันธ์ทั้งกับขั้วอำนาจทางการเมือง และการทหารได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่ว่าใครจะขาขึ้นหรือขาลง ตระกูลวิไลลักษณ์ ยืนอยู่บนยอดคลื่นได้เสมอ
กับอดีตผู้นำประเทศ และอดีตเจ้าของกลุ่มชินคอร์ปตระกูล ชินวัตรใครๆ ก็รู้ว่าทั้งสองตระกูลมีความสนิทสนมแนบแน่นกันแค่ไหน
2-3 ปีก่อนในงานครบรอบ 50 ปีของกลุ่มสามารถ ทักษิณ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเดินทางมาเป็นประธานในงานด้วยตนเอง พร้อมคุณหญิงพจมานภรรยา
ในวันนั้น อดีตนายกฯถึงกับออกปากว่า ปกติไม่เคยไปงานลักษณะนี้ที่ไหน แต่ของครอบครัววิไลลักษณ์ต้องมา เพราะช่วยเหลือกันมานาน ทั้งบอกด้วยว่าเห็น
2พี่น้องเจริญรัฐ-วัฒน์ชัยเหมือนน้องชาย มีอะไรก็ตักเตือนกันได้
กับรัฐบาลชุดปัจจุบันว่ากันว่า คอนเน็คชั่นก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่เช่นนั้นคงโดนจัดอยู่ในกลุ่มทุนของขั้วอำนาจเดิม
และไม่เช่นนั้น คงไม่ปรากฏชื่อในฐานะนักลงทุนไทยที่สนใจเข้าซื้อกิจการดาวเทียม ไทยคม ในช่วงที่กระแสทวงคืนสมบัติชาติคุรุ่นเป็นอย่างยิ่ง
ใครจะขาลง แต่สำหรับ"กลุ่มสามารถ"จึงต่างออกไป
เมื่อถามถึงเรื่องนี้ วัฒน์ชัยบอกว่า เราไม่เคยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวไปในทางที่ผิด กับครอบครัวอดีตนายกฯและครอบครัวผม ก็รู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ก็นับถือกัน แต่ในเชิงธุรกิจต้องยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก
เราทำทุกอย่าง อย่างถูกต้อง ไม่งั้นป่านนี้คงโดนเช็คบิลเละไปแล้ว
กับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง กัมพูชาคอนเน็คชั่นของวิไลลักษณ์ก็ไม่ธรรมดา
ไม่งั้นคงไม่สามารถเข้าไปลงทุนสร้างพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ Angkor National Museum ที่จังหวัดเสียมเรียบ ที่ตั้งนครวัด-นครธม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์อันดับโลกได้เป็นแน่
ไม่ใช่เป็นคนไทยคนแรก แต่เป็นต่างชาติรายแรกที่เข้าไปทำพิพิธภัณฑ์แห่งชาติให้ประเทศกัมพูชา
โดยได้รับสัมปทานนานถึง 30 ปี
วัฒน์ชัยพูดถึงความสำเร็จของกลุ่มสามารถว่า เกิดจากความยืดหยุ่น และการกล้าตัดสินใจ
ตอนเข้ามาทำธุรกิจมือถือในกัมพูชาใหม่ๆ เมื่อ 15 ปีที่แล้วต้องพกปืนมาด้วยเลยนะ เพราะสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศเขายังไม่ปลอดภัยจึงต้องอาศัยความกล้ามากๆวัฒน์ชัยกล่าว
เจริญรัฐเสริมว่า การลงทุนของกลุ่มสามารถมองถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจเป็นอันดับแรก แต่ความสำเร็จมาจากความตั้งใจจริง และทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
การเข้ามาทำธุรกิจในเขมร ปีนี้เป็นปีที่ 15 แล้ว ลงทุนไปทั้งหมด ร่วมๆ 3 พันล้านบาท เริ่มจากขอสัมปทานมือถือ ซึ่งขายให้เทเลคอมมาเลเซียไปแล้ว ที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีแอร์แทรฟฟิก คอนโทรล ,โรงไฟฟ้า และล่าสุดพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เสียมเรียบ
เจริญรัฐเล่าว่า เข้ามาทำ แอร์แทรฟฟิกคอนโทรล เพราะต้องการหาธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำจึงใช้วิธีหันไปดูว่า รัฐวิสาหกิจไทยที่ทำแล้วกำไรในระดับA+มีอะไรบ้าง
ธุรกิจวิทยุการบินคือคำตอบ
สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เสียมเรียบเกิดจากความชอบส่วนตัวของ เจริญรัฐ พี่ใหญ่แห่งตระกูลวิไลลักษณ์
ผมชอบประวัติศาสตร์ และศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมขอมโบราณ ผมไปเที่ยวมาแล้วทั่วโลก เมื่อได้ไปนครวัดก็คิดว่าเขาโปรโมตว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก แต่มาดูแล้วใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มาก
นอกเหนือจากความรักความชอบ และความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ เจริญรัฐยังมองว่า การเข้ามาทำพิพิธภัณฑ์ในกัมพูชายังช่วยให้ศิลปะ และวัตถุโบราณของเขมรได้รับการดูแล และเก็บรักษาที่ดีด้วย
การทำธุรกิจไม่ว่าที่เขมร หรือที่ไหน ไม่มีอะไรง่าย เพราะยิ่งเป็นธุรกิจที่ผูกขาด ยิ่งเป็นโปรเจ็คที่ดี ก็ยิ่งมีคนอื่นอยากทำ พิพิธภัณฑ์ที่เสียมเรียบก็เช่นกัน เมื่อเราเข้ามา ก็มีคนอื่นสนใจทำบ้าง แต่เราได้สัมปทาน มาแล้ว 30 ปี เชื่อว่าน่าจะไปได้ดีมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่นี่เพิ่มขึ้นทุกปี
เจริญรัฐบอกว่า กัมพูชาเปรียบได้กับบ้านหลังที่สองของกลุ่มสามารถ เพราะลงทุนเยอะที่สุดรองจากเมืองไทย
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อังกอร์จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจล่าสุดของตระกูลวิไลลักษณ์ในกัมพูชา ที่ผสมผสานระหว่างสายสัมพันธ์-ธุรกิจ และความรักความชอบได้อย่างลงตัว และน่าทึ่งจริงๆ
Create Date : 29 สิงหาคม 2550
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 20:03:46 น.
1 comments
Counter : 4103 Pageviews.
Share
Tweet
เรียน ผู้บริหาร บ.สามารถ ครับ
ตอนนี้ พนักงานขาย ของ ไอ โมบาย ลำบากมากครับ เพราะ บ. PP&T ไม่ยอมจ่ายเงินเดือน มา2 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ ค่า คอม ก็ไม่จ่ายมา 7 เดือน แล้ว ทุกตนก็ยอมทน เพราะไม่อยากไปหางานใหม่ หวังว่าจะได้ค่า คอม ในเดือนถัดไป
ทนจน 2 เดือนที่ผ่านมา เงินเดือนไม่ออก ติดต่อไปทาง SAlE. ก็ไม่มีคำตอบ ตอนนี้พนักงานไม่มีแม้ เงินจะซื้อของกิน ครับ
รบกวนช่วยประสานงานให้ด้วยครับ จะขอบพระคุณมากครับ
โดย: rayingyong@bigc.co.th IP: 180.183.133.35 วันที่: 5 มีนาคม 2559 เวลา:16:46:24 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
cherydnk
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
swin
Webmaster - Bloggang
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
ประชาชาติธุรกิจ
มติชน
คนชายขอบ
wired
หนังสือมือสอง-ปะกิต
su booksมือสอง
มหาลัยเที่ยงคืน
ค้นคำจากหนัง
faylicity
ดูหนังอย่างคนป่วย
room2521
อิ่มอร่อยทำเองได้
นิ้วกลมๆ
เช้านี้ยังมีเธอ
คุณใหม่
พี่กรัปป้า
chery's another home
บ้านhi5
กาแฟlover
อยู่ญี่ปุ่น
คนติดเที่ยว
น้องนิด
เท็ดดี้บล็อก(coffeelover)
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ตอนนี้ พนักงานขาย ของ ไอ โมบาย ลำบากมากครับ เพราะ บ. PP&T ไม่ยอมจ่ายเงินเดือน มา2 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ ค่า คอม ก็ไม่จ่ายมา 7 เดือน แล้ว ทุกตนก็ยอมทน เพราะไม่อยากไปหางานใหม่ หวังว่าจะได้ค่า คอม ในเดือนถัดไป
ทนจน 2 เดือนที่ผ่านมา เงินเดือนไม่ออก ติดต่อไปทาง SAlE. ก็ไม่มีคำตอบ ตอนนี้พนักงานไม่มีแม้ เงินจะซื้อของกิน ครับ
รบกวนช่วยประสานงานให้ด้วยครับ จะขอบพระคุณมากครับ