Bloggang.com : : cherydnk - ใช้หัวใจปั้นธุรกิจExteen-Bloggang

สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ

Group Blog

All Blogs

ใช้หัวใจปั้นธุรกิจExteen-Bloggang

"Exteen-Bloggang.com"

บล็อกพันธุ์ไทย ใช้ “หัวใจ”ปั้นธุรกิจ
ปรากฎการณ์ทางสังคมยุคไซเบอร์มาเนีย

ปีสองปีมานี้ชุมชนในโลกไซเบอร์เมืองไทยขยับขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีกลุ่มวัยรุ่น อายุระหว่าง 10-19 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9.4 ล้านคน หรือ 15% ของประชากรทั้งประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ

เพราะคนวัยนี้ไม่เพียงเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ แล้วยังคุ้นเคยกับโลก"อินเทอร์เน็ต"เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากเว็บไซต์ และเว็บบอร์ด ไม่ว่าจะเป็น"พันทิปดอตคอม-กะปุก
ดอตคอม และเด็กดีดอตคอม"

อีกปรากฎการณ์ที่น่าจับตาและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นจะเป็นชุมชน"บล็อก"หรือเว็บล็อก

บล็อกเป็นเครือข่ายทางสังคม (Social Networking) ที่มีพลังไม่แพ้การติดต่อสื่อสารผ่านโปรแกรมแชทของ"เอ็มเอสเอ็น"(MSN), Facebook หรือ hi5

ว่ากันว่าในบ้านเราเวลานี้มี"บล็อกเกอร์"หลายแสนคน และนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"บล็อก"ไม่ใช่แค่พื้นที่หรือเวทีแสดงตัวตนของคนรุ่นใหม่ยุคไซเบอร์มาเนียเท่านั้น แต่ยังอีกช่องทางที่เจ้าของสินค้า และบริการต่างๆ จับจ้องด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

เจ้าของสินค้าและบริการหลายราย ทั้งค่ายมือถือ"เอไอเอส-ดีแทค" ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกอย่างโซนี่, ไนกี้ และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากต่างตบเท้าเข้ามาให้การสนับสนุน

โดยชิมลางลงโฆษณาโปรโมตสินค้าของตนเองผ่านบล็อกด้วยความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ไม่นับที่ลงทุนสร้างบล็อกเพื่อใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารและทำกิจกรรมกับคนรุ่นใหม่

เจ้าของบล็อกที่โด่งดังในหมู่วัยรุ่นไทยปัจจุบันยังไม่ใช่บริษัทใหญ่ที่มีหน้าตักเป็นกระตั๊ก แต่เป็นเด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ที่เริ่มต้นธุรกิจของตนเองตั้งแต่ยังเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย

"น้องแชมป์-ทีปกร วุฒิพิทยามงคล"เจ้าของบล็อกพันธุ์ไทย"Exteen.com"ที่มีสมาชิกมากถึง 2 แสนรายเล่าว่าเริ่มต้นทำบล็อกตอนเรียนปี 3 ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

"ผมเห็นนักศึกษารุ่นพี่ใช้ Blogger.com ของต่างประเทศ จึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าทำไมถึงไม่มีเว็บล็อกที่เป็นของคนไทยเลยจึงเริ่มพัฒนาเว็บล็อกขึ้นมาเอง โดยเขียนเป็นโปรแกรมง่ายๆ ใช้เวลาทำแค่ 3 วัน ทำเสร็จก็เปิดให้เพื่อนๆ ในคณะวิศวฯใช้งาน จากนั้นก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มา จาก 5 พันคนเพิ่มเป็น 2 หมื่นและ2แสนคนในปัจจุบัน เมื่อเรียนจบก็ตั้งบริษัทร่วมกับเพื่อนที่ทำบล็อกด้วยกัน ชื่อบริษัทเอทเซทโตเพื่อดูแลบล็อกเป็นเรื่องเป็นราว"

ปัจจุบันมีรายได้จากค่าโฆษณาหลักแสนบาทต่อเดือน ซึ่ง"แชมป์"บอกว่าแค่พออยู่ได้

"ผมมาทำตรงนี้มองในเชิงธุรกิจแค่ 30% เท่านั้น ที่เหลือเป็นเรื่องของใจรักมากกว่าอะไรทั้งหมด เพราะถ้ามองเป็นเรื่องธุรกิจ 100% ก็คงติดโฆษณาในหน้าเว็บเพจของสมาชิกด้วย ซึ่งจะทำให้มีรายได้หลักล้านต่อเดือนได้สบายๆ"

สมาชิกส่วนใหญ่ของ Exteen.com เป็นกลุ่มวัยรุ่น ตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยจนถึงกลุ่มเริ่มต้นทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่เนื้อหาที่บล็อกเกอร์ให้ความสนใจเป็นพิเศษก็เช่น เรื่องท่องเที่ยว, กีฬา, หนังเกาหลี

มีบ้างที่มีคุณครูยุคใหม่สั่งให้นักเรียนทำการบ้านบนบล็อก ดังนั้นในช่วงเปิดเทอมจึงเห็นการบ้านภาษาไทย และอังกฤษเกลื่อนเว็บไซต์เลยทีเดียว

"ผมว่ารูปแบบของคนไทยเมื่อก่อนเราก็เขียนลงในไดอารี่ ซึ่งเก็บไว้อ่านได้คนเดียวหรือให้เพื่อนดูก็ได้ไม่กี่คน พอมีเว็บบล็อกเกิดขึ้นก็เหมือนเป็นไดอารี่ออนไลน์ที่เปิดให้คนอื่นเข้ามาอ่าน และแสดงความเห็นได้ด้วย ทำให้ได้เขียนแสดงความรู้สึกกันมากขึ้นจึงเป็นที่นิยม"

ทำไม Exteen.com จึงฮอตฮิตมากกว่าบล็อกอื่นๆ

"แชมป์"มองว่าขึ้นอยู่กับการวางโพสิชั่น และคอนเซ็ปต์ของแต่ละเว็บมากกว่าว่าต้องการเป็นบล็อกแนวไหน อย่าง Exteen.com เน้นให้เป็นบล็อกแนววัยรุ่นๆ สบายๆ จึงใช้งานง่าย และมีสีสันมีลูกเล่นสนุกๆ ให้เล่นเยอะ คนที่มาเล่นก็เป็นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก

"บล็อก OKnation.net เน้นเรื่องของนักข่าวอาสา หรือ Bloggang.com ของพันทิปก็จะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่โตขึ้นมาหน่อย อีกปัจจัยคือกระแสเว็บ 2.0 หรือเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้ใช้สร้างคอนเทนต์ได้เองเป็นของเว็บไซต์ต่างประเทศแต่ก็ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยคุ้นเคยกับการใช้บล็อกมากขึ้น"

สำหรับบล็อกแก๊งค์ (Bloggang) เป็นอีกรูปแบบบริการของเว็บไซต์"พันทิปดอตคอม" ชุมชนไซเบอร์ที่เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเน็ตคนไทย

โดยเริ่มให้บริการครบ 3 ปี ในเดือนธ.ค.นี้ มีสมาชิก ประมาณ 6 หมื่นคน

เป้าหมายของบล็อกแก๊งค์ก็ไม่ต่างไปจากเว็บบอร์ด"พันทิป" คือเน้นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับ"ต้นไม้"เหมือนที่"วันฉัตร ผดุงรัตน์"ผู้ก่อตั้ง และเจ้าของพันทิปดอตคอมบอกว่าตนเองเปรียบดั่ง"คนสวน"ที่คอยรดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้เติบโตไปตามธรรมชาติจึงไม่ได้มอง"รายได้"เป็นตัวตั้ง

"รัตนา ตั้งสินพูลเพิ่ม"ผู้ดูแลบล็อกแก๊งค์ (Bloggang.com) ของเว็บไซต์พันทิปดอตคอมเล่าว่าเจ้าของสินค้า และเอเจนซี่หันมาให้ความสำคัญบล็อกมากขึ้น เพราะระยะหลังบางบริษัทปฏิเสธการโฆษณา"แบนเบอร์"ในเว็บไซต์ เนื่องจากคิดว่าไม่ได้ผลจึงเริ่มมองหารูปแบบใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ดูเป็นการยัดเยียดมากเกินไป สินค้าบางตัวจึงใช้บล็อกเป็นสื่อโฆษณา

"ผู้ให้บริการบล็อกจริงๆ ในเมืองไทยยังมีไม่เยอะมาก เช่น เอ็กซทีน, บล็อกแก๊ง และโอเคเนชั่น ที่อื่นๆ บล็อกเป็นบริการเสริมมากกว่าอย่างของกะปุก แต่ต้องยอมรับว่าบล็อกกำลังได้รับความนิยมมาก ถ้าเทียบกับไดอะรี่ออนไลน์สมัยก่อนก็ฮิต แต่เมื่อมีบล็อกก็ซาไป โดยส่วนตัวมองว่าที่บล็อกเป็นที่นิยมเพราะแต่ละคนเหมือนมีพื้นที่ส่วนตัวที่ควบคุมได้เอง มีความเป็นเจ้าของ มีอิสระ และเป็นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กกิ้งด้วย มีการเชื่อมโยงในกลุ่มคนที่สนใจอะไรเหมือนกัน"

"รัตนา"เล่าต่อว่าสมาชิกบล็อกแก๊งค์หลายรายทำบล็อกจนดัง และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะเจ้าของสินค้าเข้ามาสนับสนุนเป็นเรื่องเป็นราว

"มีบล็อกหนึ่ง เจ้าของบล็อกกำลังจะมีลูก และสนใจเรียนภาษามือจึงศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองแล้วเข้ามาเขียนเรื่องลงบล็อก ล่าสุดมีสำนักพิมพ์ติดต่อไปรวมเล่ม อีกบล็อกเขียนเรื่องการแต่งหน้า ก็ได้รับความนิยมมาก จนไปเปิดเว็บของตัวเองเป็นเรื่องเป็นราว หนังสือหลายเล่มที่ตีพิมพ์โดยหยิบเนื้อหาจากบล็อกก็มีเป็นจำนวนมาก"

หากประเมินจากข้อมูลที่ค้นหาบนโลกไซเบอร์ในปัจจุบันจะพบว่า ไม่ได้มาจากเว็บไซต์เหมือนในอดีต แต่มาจาก"บล็อก"

"บล็อก"จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และเติบโตรวดเร็วมากเช่นเดียวกับที่เป็นมีเดีย หรือสื่อใหม่ที่กำลังมาแรง

ว่ากันว่าถ้าผู้ให้บริการบล็อกอย่าง"เอ็กซทีน"อยู่อเมริกา คงมีโอกาสรวยมาก ระดับ"กูเกิ้ลน้อย"ก็น่าจะได้

อาจกล่าวได้ว่า"บล็อก"เป็นคลื่นลูกใหม่ของโลกอินเทอร์เน็ต แม้กลุ่มคนใช้งานในเมืองไทยจะไม่ใหญ่โตเหมือนในต่างประเทศ แต่ก็ถือเป็นปรากฎการณ์ทางสังคมยุคไซเบอร์มาเนียที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

จากมติชนสุดสัปดาห์