-=- Manthanee Clinic -=- Aesthetic & Laser Clinic -=- มัณฑนีคลินิก -=- คลินิกผิวพรรณ เลเซอร์ ลดน้ำหนัก เส้นผม โดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ซอยถนนรางน้ำ พญาไท ใกล้กับ BTS อนุสาวรีย์ชัย -=-
Group Blog
 
All blogs
 

CO2 LASER (เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์)

CO2 LASER หรือเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ จัดเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ใช้ในการรักษาโรคทางผิวหนังหลายชนิด โดยเลเซอร์ชนิดนี้ มีความยาวคลื่นช่วงอินฟราเรด 10,600 nm. จะถูกดูดซับได้ดี โดยน้ำซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงสามารถตัดและทำลายเนื้อเยื่อนั้นๆ โดยไม่ทำให้มีเลือดออกได้

ประโยชน์ของ CO2 LASER ที่สามารถ นำมาใช้รักษาปัญหาผิวพรรณและความงาม ได้แก่

1.กระเนื้อ ( Seborraic Keratosis )
2.ไฝ, ไฝนูน ( Nevus, Compound Nevus )
3.ขี้แมลงวัน ( Lentigine )
4.ติ่งเนื้องอกบริเวณรอบคอ ลำตัว รักแร้ ( Skin Tags )
5.เนื้องอกของต่อมไขมัน ( Sebaceous Gland Hyperplasia)
6.เนื้องอกของต่อมเหงื่อ (Syringoma )
7.สิวอุดตันหัวปิด ( Closed comedone )
8.สิวข้าวสาร ( Epidermal Cyst )
9.หูด ( Verruca Vulgaris )


ขั้นตอนในการรักษาด้วย CO2 Laser
1.ทำความสะอาด บริเวณที่ต้องการจะรักษาด้วย CO2 LASER
2. ทาครีมยาชา ทิ้งไว้ 30-45 นาที หรือ ฉีดยาชาบริเวณนั้นๆ
3. ทำการผ่าตัดรักษาด้วยเลเซอร์ ในตำแหน่งรอยโรค ใช้เวลาประมาณ 2-5 นาที
4. ทำความสะอาดแผลด้วย น้ำเกลือสะอาด
5. ทายาฆ่าเชื้อ แปะแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ
6. หลังจากนั้นเปิดแผล ล้างหน้าได้ตามปกติ
7. นัดดูแผล 1-2 อาทิตย์หลังทำการรักษาด้วยเลเซอร์


คำแนะนำการดูแลผิวหลังการทำเลเซอร์
1.ควรดูแลผิวหลังการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและครีมบำรุงชนิดอ่อนโยนต่อผิว เพื่อช่วยให้บริเวณที่ทำการรักษาไม่เกิดการระคายเคือง
2.หากแผลลึก หรือมีปริมาณมาก แพทย์อาจให้ทานยาปฎิชีวนะร่วมด้วย 1 สัปดาห์
3.หากมีสะเก็ดเกิดขึ้น ไม่ควรแกะเกา ควรปล่อยให้หลุดลอกออกเองตามธรรมชาติ
4.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองต่อผิว เช่น กรดผลไม้ AHA ยาทาสิว ยาลดรอยดำ เป็นต้น
5.ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และความร้อน เพราะอาจทำให้แผลหายช้า และเกิดรอยดำตามมาได้
6.ควรทายาจากแพทย์ที่ทำการรักษาอย่างสม่ำเสมอติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์หรือตามแพทย์แนะนำ
7.เมื่อแผลเริ่มแห้งดี สามารถทาครีมบำรุง และทาครีมกันแดดทับบริเวณรอยแผลได้


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-6424527, 084-1250700

//www.manthaneeclinic.com

//www.facebook.com/ManthaneeClinic




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 18:24:50 น.
Counter : 1131 Pageviews.  

Laser Hair Removal เลเซอร์กำจัดขนถาวร

เส้นขนบนผิวหนัง เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในแต่ละคนจะมีปริมาณมาก น้อย แตกต่างกัน ขึ้นกับลักษณะทางพันธุกรรม บางครั้งการมีเส้นขนมากจนเกินไป อาจทำให้มีผลเสียต่อด้านจิตใจ และบุคลิกภาพ เช่นขาดความมั่นใจได้

การรักษาในปัจจุบัน สามารถกำจัดขนถาวรได้โดยการทำเลเซอร์ โดยครื่องเลเซอร์จะสามารถทำลายต่อมที่รากขน ซึ่งผลิตเม็ดสีเมลานินที่สามารถดูดซับแสงเลเซอร์ และเปลี่ยนเป็นความร้อนทำลายต่อมรากขนได้

เลเซอร์ปัจจุบันมีหลากหลายชนิด ตามความเห็นของแพทย์ แนะนำให้กำจัดโดยเลเซอร์ชนิด Long-Pulse Nd-Yag 1064 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง

การทำเลเซอร์ ต้องทำหลายครั้งต่อเนื่องกัน อย่างน้อย 3-5ครั้ง เนื่องจาก เส้นขนมีทั้งระยะเจริญ และระยะพักตัว บางคนอาจมีระยะพักตัวค่อนข้างนาน จึงทำให้ขนลดลงชั่วขณะ แล้วมีเกิดใหม่ได้ในภายหลัง

ผลลัพธ์จากการทำเลเซอร์ในแต่ละคนก็ยังแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณเส้นขน ปัจจัยด้านฮอร์โมน รวมทั้งความถี่ในการรักษา และพลังงานที่เลือกใช้อีกด้วย


ขั้นตอนในการรักษา

- เตรียมผิวโดยทำการเล็มหรือโกนขนให้เหลือความยาวประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร

- ใช้ เครื่อง Air Cooling เป่าพ่นความเย็นประมาณ 8-10 วินาที ก่อนทำการยิงเลเซอร์ เพื่อให้ความเย็นที่ผิว และลดอาการข้างเคียง หรือdelay burning

- แพทย์จะทำการ ตั้งค่าพลังงาน โดยขึ้นกับขนาดของขน และสีผิว จากนั้นจะเริ่มทำการเลเซอร์ พร้อมๆกับพ่นเครื่องทำความเย็นเพื่อปกป้องผิวชั้นบนจากการburn และช่วยไม่ให้เจ็บขณะทำ โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการยิงกำจัดขนแตกต่างกัน ขึ้นกับขนาดพื้นที่บริเวณที่ต้องการทำ เช่น กำจัดขนบริเวณหนวด ใช้เวลา 1-2 นาที , รักแร้ 5 - 10 นาที, ขนแขน 30 นาที, ขนหน้าแข้ง 40 -60 นาที เป็นต้น

-หลังเลเซอร์ จะมีจุดแดงรอบรูขุมขน บวมแดงเล็กน้อย มักหายได้เองภายใน 1-2 วันหลังทำเลเซอร์ ควรทายาลดการอักเสบและครีมบำรุงผิว 3-7 วันหรือตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-6424527, 084-1250700

//www.manthaneeclinic.com

//www.facebook.com/ManthaneeClinic




 

Create Date : 12 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 18:25:08 น.
Counter : 553 Pageviews.  

Axilla Whitening Treatment รักษาปัญหารอยคล้ำใต้วงแขน

ทรีทเมนต์รักษารอยคล้ำใต้วงแขนด้วยเลเซอร์ Q-Switch Nd Yag เพื่อสลายเม็ดสีเมลานิน ร่วมกับการทำทรีทเมนต์ไอออนโตโฟริซิส เพื่อผลักประจุยาลดการสร้างเม็ดสี

Promotion

ราคาปกติ ครั้งละ 2,000 บาท
เมื่อซื้อคอร์ส 5 ครั้ง 9,500 บาท แถมเพิ่มฟรี อีก 2 ครั้ง


รักแร้ดำ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
1. การระคายเคือง เช่น จากสารเคมี แอลกอฮอล์ น้ำหอมที่ผสมในโรลออนดับกลิ่น การแว็กซ์ การเสียดสีของผิวหนัง เป็นต้น
2. การโกนและถอนขนบ่อยๆ จนเกิดการอักเสบกลายเป็นแผลดำ นูน ไม่เรียบ
3. พันธุกรรม มักเป็นในคนผิวคล้ำ จะสังเกตุได้ว่าคล้ำมากบริเวณรอยพับ ตามจุดต่างๆของร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขน คอ เป็นต้น ซึ่งเกิดจากมีเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติตรงผิวที่มีรอยย่น
4. โรคผิวหนังบางชนิด เช่น Acanthosis nigricans ลักษณะผิวจะเป็นรอยดำ ขรุขระคล้ายกำมะหยี่ ตามรอยพับ บริเวณคอ รักแร้ ขาหนีบ พบในคนอ้วน ผิวดำ ร่วมกับมีสาเหตุจากโรคต่อมไร้ท่อ เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ หรือมะเร็งบางชนิด เป็นต้น

การรักษา
1. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ เช่น ใช้โรลลอนที่ไม่มีน้ำหอม งดการแว็กซ์ การถอนการโกน
2. งดการรบกวนผิวหนังจากการถอนขน โดยการกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ ซึ่งทำให้ผิวเรียบขึ้นอย่างชัดเจน
3. เลเซอร์ลบรอยคล้ำ และทำทรีทเมนต์ไอออนโตควบคู่กันเพื่อลดรอยดำ
4. ทายากลุ่ม whitening เพื่อลดรอยดำ แต่ควรระวังการระคายเคือง หากใช้ติดต่อกันนานๆ


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-6424527, 084-1250700

//www.manthaneeclinic.com

//www.facebook.com/ManthaneeClinic




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 18:26:10 น.
Counter : 809 Pageviews.  

Brightening Eye Treatment

นวัตกรรม ลดเลือนริ้วรอย หมองคล้ำ ใต้ดวงตา ด้วยเลเซอร์ Q-switch Nd-Yag ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงเห็นผลได้ทันทีตั้งแต่การรักษาในครั้งแรก ร่วมกับทรีทเมนต์ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง ( Radio Freqeuncy ) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง จึงช่วยลดริ้วรอยและอาการบวมใต้ตาได้เป็นอย่างดี


Promotion
ปกติ ราคา ครั้งละ 1,500 บาท พิเศษ เมื่อซื้อคอร์ส 5 ครั้ง 6,500 บาท แถมเพิ่มฟรีอีก 2 ครั้ง


สาเหตุของรอยคล้ำใต้ตาที่มักพบได้บ่อย
1. การระคายเคือง เนื่องจากผิวแห้ง บอบบาง ใช้ตัวล้างหน้าแรง เช็ดถูรอบดวงตาแรง
2. ตาแดง คัน จากอาการภูมิแพ้ ทำให้เกิดรอยดำ หลังการอักเสบ
3. การขยี้ตาบ่อยๆ
4. การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
5. พันธุกรรม จากการมีเม็ดสีมากบริเวณใต้ตา เช่น คนเชื้อสายแขก
6. โครงสร้างผิวหนังใต้ตามีชั้นไขมันน้อย จึงเห็นเส้นเลือดชัดเจน หรืออาจมาจาก การลดน้ำหนัก ร่างกายผอม ทำให้เห็นนส้นเลือดชัด


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-6424527, 084-1250700

//www.manthaneeclinic.com

//www.facebook.com/ManthaneeClinic




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 18:26:39 น.
Counter : 397 Pageviews.  

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับสารโบท็อก

**Botox คืออะไร

Botox เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ซึ่งสกัดได้จาก Botulinum Toxin Type A มีประสิทธิภาพในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ
โดย Botox จะออกฤทธิ์ ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดริ้วรอยคลายตัว อันได้แก่ ริ้วรอยหางตา หรือตีนกา, ริ้วรอยหน้าผาก, ขมวดคิ้ว นอกจากนั้น ยังช่วยลดรอยย่น บริเวณด้านข้างของสันจมูก, ลดขนาดปีกจมูกลง, ลดริ้วรอย สันมุมปาก, รอยย่น บริเวณลำคอ, ปรับความโค้งของคิ้วให้ยกขึ้น ตาโตขึ้นได้


**ปรับหน้าเรียวสวยด้วยโบท็อก
ปัจจุบันพบว่ามีความนิยม ปรับแต่งรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้น สไตล์เกาหลี สารนี้จะออกฤทธิ์ คลายกล้ามเนื้อ เรียกว่า ‘Masseter’ ซึ่งอยู่บริเวณขากรรไกร สาเหตุของการมีกรามขนาดใหญ่ อาจเกิดจากพันธุกรรมที่มีโครงหน้าเหลี่ยม หรือเกิดจากพฤติกรรม การรับประทานอาหาร เช่น ชอบเคี้ยวอาหารที่มีความเหนียวเป็นประจำ เช่น หมากฝรั่ง จนทำให้กล้ามเนื้อดังกล่าว มีขนาดโตขึ้น

การฉีดโบท็อกนั้น สามารถทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามบางลงได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่า งของกระดูกกรามได้ ดังนั้นวิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าเหลี่ยม หรือกว้างจากกล้ามเนื้อ ทดสอบโดยการกัดฟัน จะพบกล้ามเนื้อชนิดนี้ นูนแข็งขึ้น

การฉีดโบท็อก ทำให้เกิดการคลายกล้ามเนื้อ และลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ความหนานูนของกล้ามเนื้อ บริเวณมุมกรามจึงลดลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวได้ Botox จะเริ่มออกฤทธิ์หลังฉีดไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง 2-3 เดือนหลังฉีด ซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะอยู่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคน

นอกจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามแล้ว โบท็อกยังนิยมนำมาฉีดเพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อน่อง “medial gartrocnemius” ทำให้น่องเรียวลง อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด

เทคนิคใหม่ล่าสุดคือการฉีด mesolifting โดยใช้โบท็อกผสมให้เจือจางลงเพื่อฉีดในชั้นผิวหนัง ( Dermis ) คล้ายการทำเมโส หลังจากฉีดจะพบว่าใบหน้าดูยกกระชับตึงขึ้น ผิวเนียนเรียบ รูขุมขนเล็กลงอย่างชัดเจน แต่การฉีดวิธีนี้ มีข้อเสียคือ จะเห็นผลระยะสั้นๆ เพียง 2 - 3 เดือน เท่านั้น





 

Create Date : 21 กันยายน 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2554 8:18:02 น.
Counter : 945 Pageviews.  

1  2  

Aesthetic_doctor
Location :
ซอยถนนรางน้ำ พญาไท Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




users online