ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

มาร์เวล เขียนสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นใหม่ ผิวสี-ส่อเป็นเกย์

Spider-Man

Spider-Man


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก marvel.com

ใครที่จำภาพของสไปเดอร์แมนว่าเป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หนุ่มอเมริกันผิวขาว จนชินตาไปแล้วล่ะก็ เตรียมตัวจดจำภาพลักษณ์ใหม่ของไอ้แมงมุมใหม่ได้เลย เพราะล่าสุด หนังสือการ์ตูนค่ายมาร์เวล ผู้สร้างสไปเดอร์แมนให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนั้น ได้เขียนตอนใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า "อัลติเมท ฟอลเอาท์ 4" (Ultimate Fallout 4) ขึ้นมา ซึ่งผิดจากที่เราเคยเห็นกันไปโดยสิ้นเชิง !!

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ ได้เปิดเผยถึงความแตกต่างของสไปเดอร์แมนในเวอร์ชั่นใหม่นี้ว่า จากปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่เรารู้จักกันนั้น มาร์เวลได้ดำเนินเนื้อเรื่องขึ้นใหม่ ใช้ชื่อตัวละครนี้ใหม่เป็น ไมล์ส โมราเลส (Miles Morales) หนุ่มวัยรุ่นผิวสีลูกครึ่งลาติน - แอฟริกัน เป็นการเรียกน้ำย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกว่าทางมาร์เวลจะออกตอนใหม่นี้แบบเต็ม ๆ อย่างเป็นทางการในช่วงเดือนหน้า

ในส่วนของเนื้อเรื่องแบบคร่าว ๆ ทางมาร์เวลเปิดเผยว่าในตอนใหม่นี้ เป็นเรื่องราวที่สืบเนื่องมาจากการจากไปของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หลังจากพลาดท่าถูก "กรีน ก็อบลิน" (Green Doblin) ฆ่าตาย ซึ่งนี่เองจึงเป็นแรงจูงใจสำคัญให้ โมราเลส เลือกเดินตามรอยปาร์คเกอร์ ในการช่วยปกป้องโลกต่อไป โดยเขาได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นสไปเดอร์แมน ทั้งการไปขอคำปรึกษากับครอบครัวปาร์คเกอร์ให้ช่วยพลักดันและสอนเขา รวมถึงเรียนรู้ความสามารถพิเศษในการพ่นใยแมงมุม จนกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ได้ในที่สุด

อย่างไรก็ดี นอกจากจะเปิดเผยให้รู้ว่า ไอ้แมงมุมคนใหม่เป็นคนผิวสีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างเซอร์ไพรส์ในการเปิดตัวครั้งนี้ ซึ่งอาจจะทำให้แฟนคลับผู้คลั่งไคล้สไปเดอร์แมนหลาย ๆ คน อาจจะทำใจยากกันสักหน่อย นั่นก็คือ อาจจะมีการเขียนเรื่องให้โมราเลสเป็นเกย์ รักและชื่นชอบไม้ป่าเดียวกันก็เป็นได้

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ซาร่า พิเชลลี่ นักวาดการ์ตูนชาวอิตาเลี่ยน ผู้วาดสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นโมราเลสนี้ กล่าวว่า "ไม่แน่ว่าในเร็ววันนี้ เรื่องของผิวสี การเป็นเกย์ หรืออาจจะทั่งสองอย่างนั้น จะเป็นเหมือนเรื่องปกติอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งเหล่าฮีโร่ทั้งหลายก็สามารถจะเป็นกันได้ ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด"

ได้รู้แบบนี้แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบรรดาแฟนคลับไอ้แมงมุม จะยอมรับกับเรื่องนี้ได้มากน้อยขนาดไหน แล้วคุณล่ะครับมีความคิดเห็นเกี่ยวเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างเอ่ย ?




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2554   
Last Update : 5 สิงหาคม 2554 8:10:01 น.   
Counter : 2190 Pageviews.  

เรื่องย่อ บางกอกกังฟู






บางกอกกังฟู (ฟิล์ม อาร์ อัส)

กำหนดฉาย : 1 กันยายน 2554
แนว : แอ็คชั่น / ดราม่า
นำแสดง : เป้- อารักษ์ อมรศุภศิริ, โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ, แบงค์ - อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม, โทโมะ - วิศว ไทยานนท์, แก้ว - จริญญา ศิริมงคลสกุล
กำกับ : ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค

เรื่องย่อ บางกอกกังฟู


โป้ง, ชิ, กา และ นา กลุ่มเด็กน้อย 4 คน ที่ถูกแก๊งค์ค้ามนุษย์ลักพาตัวไปเพื่อบังคับให้เป็นขอทาน พร้อมทั้งถูกทารุณกรรม โป้ง (เป้) ถูกตัดลิ้นด้วยมีดตัดต้นไม้จนพูดไม่ได้ ชิ (แบงค์) ถูกแทงจนตาบอดทั้งสองข้างด้วยไม้เสียบลูกชิ้น กา (โทโมะ) ถูกตบบ้องหูจนหนวก และ นา (มาริโอ้) ถูกทุบหัวจนกลายเป็นคนสติเลอะเลือนไม่เต็มเต็ง พวกเขาถูกแกงก์ค้ามนุษย์ร่อนเร่ขอทานไปตามจังหวัดต่าง ๆ จนมาถึงกรุงเทพฯ ที่นั่นพวกเขาได้พบกับชายชราจีนที่มีชื่อว่า อึ้งเสี่ยวหงษ์ อาจารย์ผู้ทรงวิทยายุทธ์ผู้สืบทอดคนสุดท้ายแห่งพรรคจันทรา กับเด็กผู้หญิงชื่อ กอหญ้า (แก้ว) ซึ่งชายชราได้ช่วยเหลือทั้งสี่คนออกมาจากพวกแก๊งค์ค้ามนุษย์ และนั้นคือ วันแรกที่เด็กทั้งสี่ได้รู้ว่า "สุดยอดวิชากำลังภายในนั้นมันมีอยู่จริง"

เวลาผ่านไปสิบห้าปี โป้ง ชิ และ กา ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์จากชายจีนแก่ ซึ่งพวกเขาเรียกว่า อาจารย์ พวกเขารวมตัวกันเป็นทีมนักฆ่า รับจ้างฆ่าคน และเพื่อการกลับมาล้างแค้นมาเฟียขอทาน ที่ลักพาตัวพวกเขามา ผ่านช่วงของเวลาล่วงเลยไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ กอหญ้าคิดในใจว่า โป้งชอบตน เนื่องจากกล่องลูกแก้วที่โป้งมอบให้ไว้แทนใจ แต่โป้งมิได้เอ่ยปาก หรือแสดงปฏิกิริยาต่อเธอแต่อย่างใด กอหญ้าไม่สามารถเก็บความในใจไว้ได้อีกต่อไปแล้ว และต้องการรู้ความจริงจากปากของโป้ง แต่โป้งกลับปฏิเสธว่า "กล่องลูกแก้วนั้นไม่ใช่ของตน!"

ในขณะเดียวกันโป้งได้รับว่าจ้างฆ่าน้องชายของพรรคสุริยัน เป็นสาเหตุให้หัวหน้าพรรคโกรธมาก และเมื่อสืบรู้ว่าคนที่ฆ่าน้องชายของตนคือ คนของพรรคจันทรา พรรคคู่อริที่เขาตามหามานานย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยนั่นเอง ศึกการล้างแค้นครั้งยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้น แต่แล้วในที่สุด อาจารย์ และนาเพื่อนรักของพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการลอบทำร้ายของพรรคมาร หน้าที่ในการปกป้องอาจารย์ และนา จึงตกเป็นของ โป้ง ชิ กา และกอหญ้า ทุกคนต่อสู้กับพรรคมารสุดชีวิต หมู่บ้านเล็ก ๆ อันแสนสงบกลายเป็นสนามประลองยุทธ์

เหตุการณ์ทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ใครจะเป็นกุญแจสำคัญที่ไขปริศนา กล่องลูกแก้ว ของ "กอหญ้า" การแก้แค้นอันสุดหฤโหดของพวกเขาจะสำเร็จหรือไม่ ฤาอธรรมจะเป็นฝ่ายที่กำชัยชนะบนโลกใบนี้!!

ร่วมสัมผัสความมันส์ของหนังรักร่วมสมัย ผสมกลิ่นอายของหนังจีนกำลังภายใน และค้นหาคำตอบที่ยังค้างคาใจกับพวกเขาได้ ใน บางกอกกังฟู ปรากฏการณ์รูปแบบใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทย เต็มรูปแบบ ที่ไม่เหมือนใคร 1 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์


นักแสดงนำ







เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ รับบท โป้ง

เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ หนุ่มหล่อมาดเซอร์ ขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ ที่มีผลงานมากมาย ทั้งถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา งานเพลง งานหนัง และงานละคร ล่าสุดตัดสินใจขอพลิกบทบาท ของตัวเอง ก้าวเข้าสู่สำนักเส้าหลิน ฝึกกลยุทธ์วิชากังฟู พร้อมกับผองเพื่อนอีก 3 คน เพื่อกลับมาล้างแค้นแก็งค์ค้ามนุษย์สุดเดือดที่เป็นต้นเหตุทำให้ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ผมรับบทเป็น "โป้ง" เป็นเด็กกำพร้า เด็กใบ้หัวเเข็งที่มีความสามารถมากที่สุดในกลุ่ม เเต่เป็นคนที่มีจิตใจบอบช้ำที่สุด วิทยายุทธที่มีคือ "วิชาหัตย์มัจจุราช" ไม่ว่าสิ่งของใดที่หยิบจับได้ เมื่อขว้างออกไป มันจะกลายเป็นอาวุธร้ายขึ้นมาทันที โป้งเป็นนักฆ่าจริงจัง ในแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ซ่อนไว้จากเบื้องหลังชีวิตในวัยเด็กของเขา จากเด็กที่เคยรู้ว่า การพูดเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีเพื่อนร่วมชีวิต กลับกลายเป็นเด็กที่ไม่พูดอีกเลย เนื่องจากพวกอันธพาลได้ตัดลิ้นเค้าไป บทจะแตกต่างไปจากบทคนอื่น ๆ ก็คือ ผมเล่นเป็นบทคนใบ้ พูดเป็นเสียง "อ๋า อ๋า" ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกัน แต่ "พี่ต้อม" บอกว่า เค้าทำแบบคอมมาดี้ เค้าไม่ได้กะเอาเหมือนคนใบ้จริงๆ ก็คือ พูดให้เหมือนไม่ชัดไป ประมาณนั้น

ภาพยนตร์ บางกอกกังฟู ถือเป็นการกลับมาร่วมงานกับอีกครั้งของ หนุ่มเป้ กับ ผู้กำกับ ต้อม ยุทธเลิศ "ผมมีโอกาสได้เล่นหนังกับพี่ต้อมมาก่อน พอมาถึงเรื่องนี้ พี่ต้อมบอกว่า "มาเล่นเรื่องนี้หน่อย เป็นกังฟู" ผมก็บอกว่า ไม่เคยเล่นแบบนี้เหมือนกันนะ ผมไม่เคยเล่นแบบกังฟูมาก่อนเลย แล้วก็ไม่เคยเล่นบู้แบบเต็มขั้น และด้วยคาเรคเตอร์ที่ได้รับเป็นคนใบ้ด้วย แต่ความใบ้ของพี่ต้อมก็ไม่ได้ใบ้แบบจริงจัง เหมือนใบ้แบบตลก ๆ ซึ่งมันก็จริง ก็สนุกดีครับ

ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 แบบเต็มตัวที่มีโอกาสได้เล่นหนังกับพี่ต้อม พอมาเล่นหนังแอ็คชั่นแน่นอนต้องมีหลุดคิว ผมก็มีหลุดคิวล้ม มีกลิ้งผิดคิวนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ผมคิดว่า เป็นเรื่องปกติของฉากแอ็คชั่น ที่ต้องมีผิดคิวกันบ้าง แต่สนุกครับ"






มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท นา

พูดได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก หนุ่มสุดฮอตงานชุกข้ามปีผู้นี้ มาริโอ้ เมาเร่อ กับผลงาน และข่าว ที่มีให้เห็นผ่านตาตลอดเวลาไม่ขาดสาย แต่หนุ่มโอ้ก็ยังมีเวลา สะเดอะกลอน เปิดประตูเข้าสำนักเส้าหลิน ฝึกวิชากังฟู พร้อมรับศึกหนัก ในภาพยนตร์ แอ็คชั่นเต็มรูปแบบ บางกอกกังฟู

โอ้ รับบทเป็น นา เด็กสติไม่เต็มเต็งผู้อ่อนเเอที่สุดเเต่สุดท้าย กลับกลายเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุด วิทยายุทธที่มีคือ "ฝ่ามือจันทรา" สุดยอดวิชาเเห่งพรรคจันทราที่ไม่มีใครผู้ใดสามารถต้านทาน คาเรคเตอร์ที่ได้รับจะแตกต่างจากทุกเรื่องที่ผ่านมา เป็นเด็กหนุ่มที่มีชีวิตที่สดใส เฉลียวฉลาดแต่ต้องกลับกลายเป็นคนที่ไร้แม้กระทั่ง…สติ…ของตัวเอง เขาถูกแก็งค์ค้ามนุษย์จับตัว มาอยู่รวมกับเพื่อน ๆ อีก 3 คน นาถูกทุบตีที่หัวอย่างหนัก จนกระทั่งสมองของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ภายนอกดูเหมือนปกติดี แต่ภายในเลอะ ๆ เลือน ๆ โชคดีที่มีคนมาช่วย มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในสำนักเส้าหลิน ได้ฝึกกังฟู คือในเรื่องต้องมีบทกังฟู แอ็คชั่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ตอนแรกก็เครียดเลยครับ เพราะบทมันค่อนข้างยาก แล้วก็เป็นอะไรที่เราไม่เคยลองสัมผัสมาก่อน แต่พอลองแล้ว ติดใจ ชอบครับ

นอกจากนั้นก็ยังมีโอกาสได้ไปเรียนกังฟูเพิ่มเติมด้วย ไปฝึกซ้อมที่สำนักเส้าหลิน เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายความสามารถ และที่สำคัญไปกว่านั้นยังทำให้ โอ้ เห็นใจ และเข้าใจเด็กพิการมากขึ้น...

พอมีโอกาสได้มารับบทนี้ก็รู้สึกว่า เด็กเหล่านี้เป็นเด็กพิเศษครับ คือเค้ามีความสามารถพิเศษ เรียกว่าเป็นคนพิเศษจริง ๆ บางคนอาจจะเห็นเค้าเหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่จริงๆ เค้าจะรู้อะไรทุกอย่าง อาจจะเป็น Genius เลยก็ได้ครับ ก็รู้สึกเห็นใจเค้ามากๆ ครับ รู้สึกว่าสงสารเค้า พอหันมามองกับตัวเอง เราโชคดีที่เราเกิดมาเราครบ 32 เพราะะนั้นถ้ามีโอกาสได้ไปช่วยเหลือ หรือทำอะไรให้กับเด็กที่เป็นเด็กพิเศษ หรือว่าใครที่ลำบากกว่าเรา ผมก็อยากจะช่วย เพราะผมรู้ว่ามันเป็นอะไรที่เราเลือกเกิดไม่ได้

ก็อยากฝากให้ดูกันนะครับ เพราะว่าเป็นหนังที่ผมว่าน่าสนใจ คาเรคเตอร์โอ้ก็เปลี่ยนไปเยอะเลย ก็อยากให้ติดตามกันด้วย ทุกคนเต็มที่มาก ๆ ครับ ที่สำคัญเป็นหนังที่แหวกแนว ยังไม่เคยมีมาก่อน เพราะว่ามุมมองของพี่ต้อม เค้าเป็นอาร์ตติส ผมว่า งานของพี่ต้อมออกมายังไงก็น่าดู







แบงค์ - อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม รับบท ชิ

ฝากผลงานไว้ไม่น้อยทีเดียว ทั้งงานเพลง และงานละคร สำหรับนักร้อง-นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ แบงค์ - อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม หรือ แบงค์ แบล็ค วานิลลา ครั้งนี้ตัดสินใจพลิกบทบาทของตัวเอง ก้าวเท้าเข้าสำนักเส้าหลิน ฝึกวิชากังฟู เตรียมประลองยุทธ์ พร้อมประเดิมเล่นหนังครั้งแรกในชีวิตของเขา

โดยบทและคาเรคเตอร์ของผม เล่นเป็น ชิ เด็กตาบอดเเต่ชอบเป็นผู้นำ บงการชี้นิ้วกับทุกคนแม้กระทั่งชีวิตของกา น้องของตัวเอง วิทยายุทธที่มีคือ "วิชาดรรชนี ปิดสวรรค์" สัมผัสเบา ๆ บนร่างด้วยนิ้วชี้เพียงสี่จุด ร่างกายผู้นั้นจะเเข็งทื่อดั่งเป็นอัมพาต ไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป

ชิ เป็นเด็กหนุ่มที่มีเหตุผล หนักแน่น กล้าที่จะได้ และพร้อมที่จะเสีย ชิ โดนจับมาเป็นขอทานตั้งแต่เด็กๆ พร้อมกับน้องของเขาคือ กา เขาถูกแก็งค์ค้ามนุษย์ทำลาย ชีวิตของเขา ด้วยการทำให้ เขาตาบอด แต่ท้ายที่สุดก็หนีออกมาจากแก็งค์ได้สำเร็จ เพราะมีอาจารย์จีนคนหนึ่งช่วย และเก็บไปเลี้ยง ฝึกวิชากังฟูให้ พอโตมาก็เลยเป็นคนตาบอดที่มีวิชากังฟูติดตัว

ก็ยากเหมือนกันเพราะว่า นอกจากจะต้องเล่นบทเป็นคนตาบอดในเรื่องแรกแล้ว ยังต้องมาเล่นบทแอ็คชั่นด้วย แถมเรื่องนี้ยังแอบเป็นคอมมาดี้อีกต่างหากด้วย เรียกว่ารวมทุกอย่างที่ยากไว้รวมกัน ที่สำคัญคือ ผมก็เป็นน้องใหม่ด้วย ก็พยายามแบบเต็มที่ พยายามฟัง พี่ต้อม เพราะว่าพี่ต้อมค่อนข้างที่จะบอกอะไรผมตลอดเวลา

ไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิดไว้ หลังจากได้เข้ามาสวมบทบาทคนพิการตาบอด ทำให้รู้ซึ้งเลยว่า การเดินโดยใช้ไม้เท้านำทาง นั้นยากเพียงใด...

ในตัวบทของผมต้องถือไม้เท้าอยู่ตลอดเวลา ก็มีปัญหากับสิ่งนี้พอสมควร โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใช้ไม้เท้าเป็นอาวุธในฉากแอ็คชั่น ต้องใช้หมุน ใช้เวี่ยง หรือแม้กระทั่งเวลาเดินก็ต้องใช้ไม้เท้านำทาง รู้สึกเห็นใจและเข้าใจถึงคนที่พิการ ตาบอดอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคนเกิดมาเคยเห็นความสดใสของโลก แล้วเพิ่งจะมาพิการตาบอด เหมือนกับตัวละคร ชิ ที่ผมรับบทในหนังเรื่องนี้






โทโมะ - วิศวะ ไทยานนท์ รับบท กา

แม้จะเป็นน้องใหม่แกะกล่องของวงการ แต่มากไปด้วยความสามารถและคุณภาพล้นตัว สำหรับ โทโมะ - วิศวะ ไทยานนท์ หรือ โทโมะ K-Otic จนผู้กำกับมือฉมังอย่าง "ต้อม ยุทธเลิศ" ชักชวนเข้าสู่วงการ เรียนวิชากังฟูขั้นเทพ เตรียมปฏิบัติการสุดโหด กับภาพยนตร์เรื่องแรกของหนุ่มโทโมะใน บางกอกกังฟู

โทโมะ รับบทเป็น กา เด็กหูหนวกที่เดินตามหลังพี่ชาย ที่คิดเอาเเต่จะล้างแค้นโดยไม่สนใจใคร วิทยายุทธที่มีคือ "ฝ่ามือเปิดนรก" วิชาฝ่ามือที่รวบรวมอากาศรอบตัวก่อนจะกระเเทกออกไปเป็นพลังทำลายที่รุนเเรงยิงกว่าลูกกระสุนปืนใหญ่ คาเรคเตอร์จะเป็นคนนิ่ง ๆ ค่อนข้างเงียบขรึม แต่ภายในจิตใจเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง กา ถูกจับตัวไปพร้อมกับพี่ชาย แล้วเขาก็ถูกทำให้พิการหูหนวก

เจองานแสดงครั้งแรก ทำให้ โทโมะ ต้องเข้าไปฝึกซ้อมการแสดงเป็นอย่างหนัก เพื่อให้แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะปกติจะติดอยู่กับการเต้นเป็นส่วนใหญ่…

ตอนแรกก็แกร็งนึดนึง สำหรับงานแสดงครั้งแรก มีฉากที่ต้องพูดด้วยคือ ผมชินกับการถ่าย MV มาบ่อย การเคลื่อนไหวของตัว กลายเป็นแบบเต้นไปหมดเลยดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ก็ต้องไปเรียนแอ็คติ้งค่อนข้างเยอะ ที่ยากที่สุดคือ ในฉากแอ็คชั่น ผมต้องออกเสียงแอ็คชั่น ต่อสู้ออกมา โดยปกติผมเป็นคนที่เงียบๆ อยู่แล้ว เป็นคนที่ไม่ค่อยออกเสียงดัง ๆ ก็ต้องฝึกมากพอสมควร เพื่อให้ออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด คือเวลาออกเสียงต่อสู้ ต้องออกเสียงให้เต็มที่เหมือนกับใช้พลังจากภายในออกมา ตรงนั้นก็ยากนิดหนึ่ง ก็ต้องเต็มที่ครับ ต้องใส่อารมณ์เข้าไปเหมือนกับตัวเองมีกำลังภายในจริงๆ แต่ก็สนุกดีครับ

ไม่เคยคิดว่าจะได้เล่นหนังครับ ช็อคมาก ดีใจมาก ๆ เลย อึ้งมากด้วยซ้ำ ได้โอกาสนี้มาถือว่า สุดยอดแล้วครับ ตอนแรกก็กดดัน แล้วก็กังวลนึดนึง ด้วยความที่ผมเป็นนักแสดงหน้าใหม่ด้วย กลัวว่า เราจะทำหนังเค้าเสียหรือเปล่า

ก็อยากฝากให้ทุกคนลองดูกันนะครับ เพราะว่ามันเป็นหนังที่แปลกใหม่ ไม่เคยมีหนังแนวแบบนี้มาก่อน แอ็คชั่น ผสมดราม่าครับ ในเรื่องก็จะมีทั้งความรัก มีทั้งแอ็คชั่น มันมีอะไรให้น่าตื่นเต้นเยอะมาก อยากให้ทุกคนลองดูครับ






แก้ว - จริญญา ศิริมงคลสกุล รับบท กอหญ้า

แก้ว - จริญญา ศิริมงคลสกุล หรือ แก้ว - เฟย์ ฟาง แก้ว นักร้องสาวเสียงใส สาวน้อยเพียงคนเดียวที่ ต้อม ยุทธเลิศ มองเห็นกึ๋น จับโยนเข้าสำนักเส้าหลิน ฝึกวิชากังฟู พร้อมร่วมปฏิบัติการมันส์ฮา กับ แก็งค์ 4 หนุ่ม เป้, โอ้, แบงค์ และ โทโมะ ใน บางกอกกังฟู

แก้ว รับบทเป็น กอหญ้า เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มผู้มีความรักอันบริสุทธ์ เเละความฝันอันสดใส กอหญ้าเหมือนดวงดาวดวงเล็กๆ ที่ส่องประกายสดใสในท่ามกลางค่ำคืนอันมืดบอด วิทยายุทธที่มีคือ "วิชาตัวเบา" กอหญ้าไม่ชอบการต่อสู้ เเต่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ คาเรคเตอร์จะเป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นธรรมดา ๆ แต่แอบซ่อนความแข็งแกร่งไว้ข้างใน กอหญ้ากำพร้าพ่อ แม่ ตั้งแต่เด็ก แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากชายจีนแก่ ซึ่งเป็นอาจารย์ กอหญ้าได้รับการถ่ายทอดวิชากังฟูให้ ก็เลยมีวิชากังฟูติดตัว

เล่นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต ก็เจอกับบทหินเลยทีเดียว สำหรับ "แก้ว" ซึ่งนอกจากจะต้องเจอกับบทบู๊แล้ว ยังต้องถ่ายทอดอารมณ์แบบสุด ๆ ในบทดราม่า...

ในคาเรคเตอร์ของกอหญ้าต้องมีบทบู๊ด้วย แต่ไม่ได้บู้มากมาย ก็ค่อนข้างที่จะยาก เพราะว่าเล่นเรื่องแรกก็บู้เลย แถมยังมีบทดราม่าด้วย แต่ก็ได้พี่ ๆ เค้าช่วยสอน มีฉากนึง พี่ต้อมบอกว่าขอร้องไห้จริงได้ไหม ก็คิดหนักเหมือนกันว่าจะทำได้ไหม แต่พอมาเล่นเข้าจริงๆ ทุกอย่าง ณ ตอนนั้น ทั้งฉาก บท แล้วก็พี่ ๆ ทุกคน ก็เล่นแบบอินไปกับบท บรรยากาศดูสมจริงมาก ๆ ก็เลยร้องออกมาเองเลย ร้องไห้แบบฟูมฟายมาก พี่เค้าแต่ละคน มืออาชีพทั้งนั้นเลยค่ะ

ต้องขอบคุณ "พี่ต้อม" ก่อนเลยที่เลือกแก้วให้มาเล่นหนังเรื่องนี้ เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี แล้วก็เป็นครั้งแรกด้วย เหมือนกับได้ลองอะไรใหม่ ๆ รู้สึกท้าทายดีค่ะ ตื่นเต้น แล้วก็ตกใจเหมือนกัน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะมีโอกาสได้มาเล่นหนัง ตอนแรกก็กลัวว่าจะเป็นตัวถ่วงเค้าหรือเปล่า แต่พี่ๆ เค้าใจดี ช่วยสอนในบทต่าง ๆ ให้ ก็รู้สึกสบายใจค่ะ





 

Create Date : 04 สิงหาคม 2554   
Last Update : 4 สิงหาคม 2554 8:13:57 น.   
Counter : 1794 Pageviews.  

กำเนิดพิภพวานร (20th Century Fox)

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes




กำเนิดพิภพวานร (20th Century Fox)

กำหนดฉาย : 4 สิงหาคม 2554
แนว : Action, Adventure, Sci-Fi
นำแสดง : James Franco, Freida Pinto, John Lithgow, Brian Cox, Tom Felton, and Andy Serkis
กำกับ
: Rupert Wyatt
เขียน : Rick Jaffa & Amanda Silver
จัดทำ : Peter Chernin, Dylan Clark, Rick Jaffa, Amanda Silver

ภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) เป็นการผสมผสานของการบอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการกับการก้าวกระโดดของวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ขั้นต่อไปสำหรับภาพยนตร์ประสบการณ์ของภาพยนตร์ที่มีอารมณ์ความรู้สึกและฉากแอ็คชั่นที่ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อน โดยเป็นการเริ่มต้นจากความถือดีของมนุษย์ซึ่งเป็นชนวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่นำไปสู่ความฉลาดของฝูงวานร และเป็นการท้าทายแห่งดินแดนของเราซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอำนาจในการครองโลก ซีซ่าเป็นวานรอัจฉริยะตัวแรกที่ถูกมนุษย์ล่อลวง และลุกขึ้นมานำเผ่าพันธุ์ของเขาเพื่อแข่งขันกับอิสรภาพอย่างน่าตื่นเต้น และเผชิญหน้ากับมนุษยชาติในท้ายที่สุด

สำหรับตัวละครซีซ่าร์ บริษัท WETA ทีมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง Avatar ที่คว้ารางวัล Oscar ได้สร้างวานรขึ้นมาด้วยเทคนิค CGI ทำให้เกิดการแสดงอารมณ์และความฉลาดที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes


ภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) เป็นภาพยนตร์ไลฟ์-แอ็คชั่นเรื่องแรกในวงการภาพยนตร์เพื่อแสดงและถ่ายทอดเรื่องราวจากมุมมองของสัตว์ที่มีการรับรู้ความรู้สึก ซึ่งเป็นตัวละครที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ สามารถวางแผนจัดการและนำการปฏิวัติในท้ายที่สุดได้ ซึ่งเป็นตัวละครที่ผู้ชมจะเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างแท้จริง ภาพยนตร์ไม่สามารถสร้างให้สำเร็จได้ จนกระทั่งมีเทคโนโลยีที่ใช้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Avatar ขึ้นมา และตอนนี้ได้ก้าวขยับมาสู่มิติใหม่ จนเข้าถึงไอเดียที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แล้ว

ผลงานชิ้นนี้สำเร็จออกมาอย่างโดดเด่นและสมบูรณ์แบบได้โดย แอนดี้ เซอร์คิส นักแสดงผู้มีฝีมือในยุทธวิธีจับการเคลื่อนไหวในการแสดงระดับโลก ผู้ปลุกปั้นให้ซีซาร์มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย มีจิตวิญญาณ ความคิดและความรู้สึก

นี่เป็นความสำเร็จอีกครั้งในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ ที่มีการใช้วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์และจับภาพจากลักษณะการแสดงภายนอกสถานที่จริงของสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุมด้วยรั้วล้อมรอบ ทำให้การจับภาพการแสดงมีการผสมผสานกับการแสดงการแสดงจริงอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถือเป็นการทำลายข้อจำกัดระหว่างวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์และไลฟ์แอ็คชั่นออกไปได้

นอกจากการนำเสนอเหล่าวานรที่มีการสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกด้วยภาพที่ดูสมจริงแล้ว ฉากของภาพยนตร์ยังเป็นที่จดจำและเข้าถึงได้อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) เป็นเรื่องราวต้นกำเนิดในรูปลักษณ์แห่งความรู้สึกที่สมจริงที่สุด ซึ่งเป็นฉากที่ซานฟรานซิสโก ณ ปัจจุบัน ภาพยนตร์อ้างอิงมาจากความเป็นจริงผสมกับข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์แนวไซไฟ เกี่ยวกับการทดลองมนุษย์กับพันธุวิศวกรรมที่นะไปสู่วิวัฒนาการความฉลาดของเหล่าวานร และจุดกำเนิดของสงครามมหาอำนาจ

"นี่เป็นมุมมองปัจจุบันของตำนาน Planet of the Apes" ไดแลน คลาร์ก ผู้อำนวยการสร้างกล่าว "มันเป็นหนังเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่สำคัญที่ให้ความสำคัญกับลักษณะการถ่ายทอดเรื่องราว การแสดงอารมณ์และความลึกซึ้งของตัวละคร ส่วนสำคัญของเรื่องราวคือตัวละครที่ขับเคลื่อนเนื้อเรื่องไป"

อารมณ์ความรู้สึกที่สำคัญของหนังเป็นสิ่งที่สร้างความสนใจให้นักแสดง ซึ่งนั่นรวมถึง จอห์น ลิธโกว์ "มันเป็นเรื่องไม่ธรรมดาจริง ๆ ที่สร้างหนังไซไฟฟอร์มยักษ์บนความรู้สึกและความขัดแย้งของมนุษย์" นักแสดงผู้เข้าชิงรางวัล Oscar กล่าว "ผมรู้สึกแปลกใจกับอารมณ์ความรู้สึกที่สมจริงของบท หนังเรื่องนี้จะนำความคาดหวังของผู้ชมและปลูกฝังเข้าไปในความคิดอย่างสมบูรณ์"

เนื้อหาส่วนใหญ่ของเรื่องเหมือนกับเรื่องราวดั้งเดิมอย่าง Planet of the Apes ภาคต้นฉบับ ภาพยนตร์ภาคใหม่ใช้ความเป็นไซไฟมาสำรวจโลกและแง่คิดที่มีความยิ่งใหญ่มากขึ้น ภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเจริญของเราที่มาถึงทางตันแล้ว รูเพิร์ท ไวแอตต์ ผู้กำกับกล่าวว่า "เหตุการณ์ต่าง ๆ ตีแผ่ผ่านมุมมองของ ซีซาร์ ลิงชิมแปนซีที่ฉลาดเป็นกรด ตั้งแต่เล็กมันมองมนุษย์ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างสรรค์แต่สิ่งมหัศจรรย์ เช่น งานศิลปะและการใช้เหตุผล จากนั้นมันเริ่มเห็นด้านมืดของมนุษย์ เช่น การกดขี่ การดื้อรั้น และการขับไล่สิ่งของหรือคนที่เราไม่ยอมรับ"

ประเด็นสำคัญอื่นคือความเย่อหยิ่งของมวลมนุษยชาติ การถือตัวของเราที่คิดว่าเราสามารถพลิก พยายาม โกงหรือหลีกเลี่ยงกฏของธรรมชาติได้โดยไม่มีผลสืบเนื่องตามมา "ในภาพยนตร์เรื่อง Planet of the Apes ภาคต้นฉบับ ความหยิ่งของมนุษย์ได้หล่อหลอมตัวละครของผู้พัน เทย์เลอร์ [แสดงโดย ชาร์ลตัน เฮสตัน] ที่ชายหาดนั้น เพื่อพบกับรูปปั้นเทพีเสรีภาพและเรื่องจริงที่น่าประหลาดของชะตากรรมมนุษย์" ริค แจฟฟ่า ผู้เขียน-ผู้อำนวยการสร้างชี้ชัดว่า "มันไม่ใช่การพลิกชะตากรรมหรือการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติหรอกที่นำไปสู่โลกที่กลับตัลปัตร" เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องRise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) ที่ล่อมนุษย์ให้มาต่อสู้กับธรรมชาติและต่อสู้กับตัวเอง จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เรามองว่ามนุษย์และเหล่าวานรอยู่บนทางเดินที่เราจะพาพวกเขาไปสู่ระบอบโลกแบบใหม่ที่น่าสะเทือนขวัญ

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes





 

Create Date : 02 สิงหาคม 2554   
Last Update : 2 สิงหาคม 2554 8:36:23 น.   
Counter : 2600 Pageviews.  

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด





ตัวอย่าง ก้านคอกัด




โจอี้ บอย นำทีม ก้านคอฯ บวงสรวง ก้านคอกัด (พระนครฟิลม์)

กำหนดฉาย : 28 กรกฎาคม 2554
นำแสดง : โจอี้บอย, บุดด้า เบลส, สิงห์ เหนือเสือใต้, อุ้ม ลักขณา, อะตอม ภัครจิรา และนักแสดงอีกคับคั่ง
กำกับ : โจอี้บอย

เรื่องย่อ

หลังหนีตายจากผีจ้างคอนเสิร์ตที่ป่าคำชะโนดมาหมาด ๆ แปดหนุ่มฮิปฮอปสุดจี๊ดในนามก้านคอคลับต้องมารับภารกิจใหม่ นั่นคือการลงเรือไปถ่ายแฟชั่นกับบรรดานางแบบสาวสุดเซ็กซี่จากนิตยสารปลุกใจเสือป่าชั้นนำ แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เมื่อเรือดันมาดับอับปางเอาที่เกาะร้างห่างรักและห่างไกลผู้คน ความสนุกสนานดำเนินไปได้แค่เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แล้วปาร์ตี้ก็ต้องเลิก เมื่อบรรดาชาวเกาะจอมโหดออกมาไล่ฆ่าผู้คนเป็นผักปลา เท่านั้นยังไม่พอ...ในยามที่ฝนลงเม็ด ยังมีผีดิบจากท้องทะเลโผล่ขึ้นมาสร้างความสยดสยองให้กับเกาะนี้อีกมากขึ้นเป็นทวีคูณ



ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด

ก้านคอกัด




 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 31 กรกฎาคม 2554 12:00:23 น.   
Counter : 3246 Pageviews.  

เผย กำเนิดพิภพวานร ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนามาจาก Avatar

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes

Rise of the Planet of the Apes


Rise of the Planet of the Apes ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนามาจาก Avatar เพื่อสร้างซีซาร์ให้มีชีวิตเหมือนจริง (20th Century Fox)

สำหรับการสร้างซีซาร์และโลกที่เขาอาศัยอยู่เป็นการควบคุมของ Weta Digital เช่นเดียวกับเรื่อง Avatar และ Lord of the Rings ไตรภาค ที่พาผู้ชมสู่โลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยผู้ควบคุมอาวุโสด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ของภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) โจ เล็ทเทอรี่ เจ้าของรางวัล Oscar 4 สมัยอธิบายว่า "สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Avatar จิม คาเมรอน ได้สร้างโลกในจินตนาการที่มีความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีใครเคยสัมผัสได้มาก่อน การท้าทายในเรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) ต่างจากเรื่องนั้นมาก มันน่ากังวลกว่าในบางประการ เราประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบางอย่างที่เราพัฒนามาจากเรื่อง Avatar เพื่อสร้างโลกที่สมจริง เข้าใจได้ ดูเป็นซานฟรานซิสโกในยุคปัจจุบัน ทุก ๆ อย่างตั้งแต่เหล่าวานร สถานที่ ต้องรู้สึกสมจริง เพราะเรากำลังสืบค้นเรื่องราวที่สร้างขึ้นจากความจริง ไม่มุ่งไปที่แนวไซไฟนัก"

เล็ทเทอรี่ยกความดีความชอบให้แก่รูเพิร์ท ไวแอ็ตต์ สำหรับการนำความคิดด้านเนื้อเรื่องที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงและเอ็ฟเฟ็กต์ ทั้งหลาย "รูเพิร์ทค่อย ๆ ซึมซับไอเดียทั้งหมดของพวกเราที่เรานำลิงชิมแปนซีให้มีการผสมผสานที่ดู เหมือนจริง เราจึงเริ่มจากศูนย์ มันเป็นการถ่ายทำแบบใหม่กับภาพยนตร์ชุด Planet of the Apes เรากำลังนำเสนอสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแบบที่พวกเรารู้จัก เรากำลังทำให้มันมีความฉลาดเพิ่มขึ้นและมีนิสัยเจ้าเล่ห์เหมือนมนุษย์"

เมื่อ Weta Digital ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์อันทันสมัยเพื่อเร็นเดอร์ภาพเหล่าวานรให้ดูสมจริง ทีมงานได้จับภาพการแสดงของนักแสดงชายแอนดี้ เซอร์คิส ผู้มีฝีมือระดับโลกเข้ามาใส่ในโปรเจ็กต์ เพื่อทำให้ซีซาร์มีความแตกต่างเพียงน้อยนิด มีอารมณ์ ชีวิตจิตใจ ความฉลาดและความรู้สึก ความช่วยเหลือของเซอร์คิสในภาพยนตร์เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) ไม่อาจประเมิณค่าได้ ไวแอ็ตต์กล่าวว่า "แอ นดี้ เซอร์คิสคือชาร์ลี แชปลิน ในยุคของเรา ซึ่งนั่นผมหมายถึงเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงรอบตัวเราเพียงไม่กี่คน ที่สามารถใช้เทคโนโลยีวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ได้ เพราะเขาเข้าใจถึงศักยภาพของสิ่งที่ผมสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ผมคิดว่านักแสดงบางคนถูกวิธีการจับภาพการแสดงมาข่มขวัญ เพราะพวกเขาคิดว่ามันต่างจากการแสดงจริง ๆ ของพวกเขาในภาพยนตร์ที่ความเป็นจริงนั้นอยู่ตรงกันข้ามกัน แอนดี้เข้าใจดีว่าความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ทุกลมหายใจ ทุกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อที่เขาแสดงต่อหน้ากล้องเป็นการอธิบายจากการมอง เห็น ภาพยนตร์คือสื่อกลางที่ใช้การมองเป็นส่วนสำคัญ และหากเราทำให้ตัวละครของเราบอกเล่าเรื่องราวได้ด้วยถ้อยคำที่น้อยที่สุด นั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุด"

บทบาทที่ต้องใช้ร่างกายอย่างเข้มงวด แสดงให้เห็นถึงการเดินทางที่แตกต่างออกไป ความแม่นยำในการฝึกซ้อมและการโฟกัสคือสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการจับภาพการ เคลื่อนไหวของวานรที่สมจริง ผู้ควบคุมสตั๊นท์ เทอร์รี่ โนทารี่ อดีตผู้ชำนาญการที่ Cirque du Soleil มีส่วนช่วยเหลือในการจับภาพการแสดงของเหล่านักแสดงที่ต้องสร้างบทบาทของพวก เขาขึ้นมา โนทารี่ยังมีส่วนช่วยเหลือที่สำคัญในการจับภาพการแสดงของตัวละครวานรอื่น ๆ ที่สำคัญอีกด้วย

เมื่อการจับภาพการเคลื่อนไหวของแสดงของเหล่านักแสดงได้สร้างปรากฏการณ์ ใหม่ ในการแสดงอารมณ์และท่าทางในบทบาทของพวกเขาแล้ว เช่นเดียวกับ Weta Digital ที่ต้องขยายผลงานที่สร้างสรรค์ในภาพยนตร์เรื่อง Avatar สำหรับเรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) เป็นครั้งแรกที่ Weta Digital ถ่ายทำวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่สถานที่จริงภายนอกการควบคุมสภาพแวดล้อมของฉากที่มี การกั้นรั้ว ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Volume

เล็ทเทอรี่อธิบายว่า "ที่ เราเคยทำในเรื่อง Avatar คือเราใช้ชุดจับการเคลื่อนไหวและใช้เฮดเกียร์เพื่อจับการแสดงออกทางใบหน้า ของนักแสดง เพื่อให้ได้การแสดงของพวกเขาที่ครอบคลุมอย่างสมบูรณ์แบบ แต่สำหรับเรื่องนี้เป็นครั้งแกรที่เราใช้การจับภาพการแสดงแบบผสมผสานการแสดง ไลฟ์แอ็คชั่นอย่างเต็มตัว การทำงานในเรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) กลายเป็นการแสดงที่เหล่านักแสดงทั้งหมดต้องแสดงร่วมกับคนอื่น ๆ และเราค่อยกลับมาให้ความสนใจเรื่องวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่สมจริงทีหลัง"

Weta Digital ได้ออกแบบฐานเคลื่อนที่เพื่อใช้ในการจับต้องการเคลื่อนไหวของการแสดง ที่สามารถจัดตั้งในหลายๆ สถานที่และเป็นครั้งแรก ผู้ควบคุมเอ็ฟเฟ็กต์ด้านภาพ แดน เล็มมอน กล่าวว่า "ที่เราจะมีการเคลื่อนไหวภายใต้แสงแดดโดยตรง"

ความท้าทายของ Weta Digital และการผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำจุดสำคัญของภาพยนตร์ ที่ทุกอย่างปรากฏให้เห็นจากทั้งด้านบนและด้านข้างและด้านใต้สะพาน Golden Gate (การถ่ายทำสร้างฉากขนาดยักษ์ที่ด้านนอกแวนคูเวอร์ขึ้นมา) ฉากนั้นบรรยายถึงการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วย นม มีความละเอียดซับซ้อนของฉากต่อสู้ เปลวไฟ ระเบิด เฮลิคอปเตอร์ รถนับร้อยคัน เหล่านักแสดงนมทบ และเมฆหมอกในบรรยากาศของซานฟรานซิสโก เช่นเดียวกับปฏิสัมพันธ์ขั้นสูงสุดของฉากดราม่า อารมณ์ความรู้สึกและตัวละครทั้งหมด

ฉากนี้และฉากใหญ่อื่นๆ ของภาพยนตร์อยู่ในการช่วยเหลือของโครงเรื่องที่สะท้อนถึงแกนความรู้สึก แอนดี้ เซอร์คิส กล่าวเสริมว่า "ภาพยนตร์ เรื่อง Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์ที่เดินหน้าไปด้วยฉากวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ มันรู้สึกเหมือนเนื้อเรื่องที่มีอานุภาพ พร้อมด้วยฉากหลังที่มีขนาดใหญ่ ฉากแอ็คชั่นและภาพที่น่าตื่นเต้นสร้างเข้ากับเรื่องราวได้อย่างประณีต นั่นคือเหตุผลที่ทำไมผมคิดว่ามันมีพลังมาก เพราะมันไม่มี "ความตระการตา" มาปรากฏอยู่บนหน้าของคุณ ทั้งหมดคือการพบความสมจริงและความถูกต้อง"

"ภาพยนตร์ เข้าถึงความกลัวเมื่อแรกเริ่มของเราเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นการแย่งชิงโลกของ เรา พูดง่าย ๆ คือการปล่อยให้สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นมาครองโลก และเป็นการถามว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร" รูเพิร์ท ไวแอ็ตต์ กล่าวสรุป

เตรียมพบกับฉากสมจริงอลังการเหล่านี้ได้ใน Rise of the Planet of the Apes (กำเนิดพิภพวานร) 4 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 28 กรกฎาคม 2554 7:41:30 น.   
Counter : 2135 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]