ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

จับเข่าคุย "โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์" อุ่นเครื่อง IRON MAN 3 (บทแรก)



วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ และ มาร์เวล สตูดิโอส์ เพิ่งปล่อยตัวอย่างล่าสุดของ Iron Man 3 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะมานั่งคุยกับ ดาวนี่ย์ เป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่ภาพยนตร์จะเข้าฉายในบ้านเราต้นเดือนพฤษภาคม ต้องยอมรับว่า Iron Man เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำให้เกิดการต่อยอดเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ ของมาร์เวล อย่าง ธอร์ และ กัปตันอเมริกา นำมาสู่การรวมทีมใน The Avengers และถ้าพูดถึง โทนี่ สตาร์ค ตอนนี้ทุกย่อมต้องนึกถึงหน้าของ ดาวนี่ย์ นั่นทำให้นึกภาพได้ยากมากว่าจะเป็นอย่างไรหาก ไอรอนแมน ไม่ได้รับบทโดย ดาวนี่ย์ แต่สัญญาปัจจุบันของพระเอกหนุ่มวัย 47 ปีกับมาร์เวลนั้นจะหมดลงหลังจบการโปรโมต Iron Man 3 แล้ว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีการต่อสัญญาแน่นอน เพราะ ไอรอนแมน ยังต้องกลับมาใน The Avengers 2 และจะมีเรื่องราวของตัวเองอีกอย่างน้อย 1 ภาค



Iron Man 3 ยังคงได้นักแสดงชุดเดิมจากภาคที่แล้วกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็น กวินเน็ธ พัลโทรว์ ในบท เพ็พเปอร์ พอตต์ส หวานใจของ สตาร์ค, ดอน ชีเดิ่ล ในบท พันเอก เจมส์ โร้ดส์ หรือ วอร์แมชชีน เพื่อนซี้ของ สตาร์ค และ จอน ฟาฟโร ผู้กำกับ Iron Man 1 และ 2 ผู้รับบท แฮปปี้ โฮแกน บอดี้การ์ดและคนขับรถของ สตาร์ค ซึ่งภาค 3 นี้เขายกหน้าที่ผู้กำกับให้ แบล็ค ส่วนตัวเขานอกจากแสดงแล้วก็ขยับไปนั่งเป็นผู้อำนวยการสร้าง นอกจากนี้ยัง เบน คิงสลี่ย์ มารับบท แมนดาริน วายร้ายตัวหลัก และ กาย เพียร์ซ รับบท อัลดริช คิลเลียน ผู้สร้างนาโนเทคโนโลยี "เอ็กซ์ทรีมิส" โดยเรื่องราวในภาคนี้ สตาร์ค จะตามล้างแค้นคนที่ทำลายชีวิตสงบสุขของเขา และระหว่างทางเขาจะพบคำตอบของคำถามที่ว่า "คนสร้างชุดเกราะ หรือชุดเกราะสร้างคน?"

Q: คุณมีความหวั่นวิตกอะไรบ้างไหมกับการกลับมารับบทนี้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 4 แล้ว?


โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ : ผมตั้งตารอคอยมันนิดหน่อย ผมไม่อยากพูดว่า "นิดหน่อย" มันจืดชืด คุณก็รู้อย่างช่วงพักฤดูใบไม้ผลิ หรือหน้าร้อน หรือฤดูกาล คุณจะมีแผนใช่ไหม? คุณอยากไปเซโดน่าใช่ไหม? ได้โปรยถั่วลิสงไปตามถนน สำหรับผมนี่ก็เป็นเหมือนการทำสิ่งที่เราปรารถนามาตลอดแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ ผมทุ่มเทมากใน Iron Man 3 ภาคนี้จะตอบคำถามทั้งหมดแกคนดู บำบัดช่วงเวลาที่น่าอึดอัดทั้งหมดของผมแต่ก่อนในการเล่นเป็นตัวละครตัวนี้และเข้าถึงทุกความคิดที่ตกหล่นไปข้างทางในหนัง 3 เรื่องที่ผ่านมา จากนั้นเราก็ถ่ายทำกัน และผมรู้สึกว่ายังอีกหลายอย่างที่เราต้องทำ

Q: แสดงว่าจะมี Iron Man 4 ใช่ไหม?


ดาวนี่ย์ : ผมไม่รู้เหมือนกัน

Q: เป็นอย่างไรบ้างที่ได้กลับมาร่วมงานกับ เชน แบล็ค อีกครั้ง?


ดาวนี่ย์ : เรารู้จักกันและกันดีมากตอนนี้ พวกเขาไม่ต้องมาคุยกับผมก่อน และพวกเขาบอกว่า เชน จะเข้ามาคุมงานนี้ พวกเขาบอกว่าตอนแรกพวกเขาตัดเหลือ 2 ตัวเลือก และผมก็ชอบทั้ง 2 ตัวเลือก เชน ยังอยู่ในนั้น ผมขอพูดเรื่องนี้เป็นพันธสัญญาถึงความจริงที่ว่าเราถ่ายทำหนังเรื่องนี้ และเริ่มตัดฉากต่างๆ ด้วยกัน เขายังคงมีที่อยู่ในใจผม เขากลายเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม

Q: คุณเคยพูดในการสัมภาษณ์ครั้งอื่นว่าใน "Iron Man" ภาคก่อนๆ จะมีการปรับแก้บทมากมายขณะที่การผลิตดำเนินไปแล้ว คราวนี้ก็คล้ายกันไหม?


ดาวนี่ย์ : เป็นสองเท่าเลย เพราะเมื่อเราค้นพบแนวทางของเราและพยายามสร้างเรื่องราวนำไปสู่อเวนเจอร์ส มันมีสิ่งต่างๆ มากมายที่เราต้องจัดการจนถึงตอนนี้ "เราจะต้องทำอะไรแน่?" เราจะต้องพูดอะไรแน่?" แต่มันมีหลายครั้งที่เป็นแบบว่า "เราจะต้องทำอะไรในช่วงที่ 3?" "เราจะจบทั้งหมดนี่ตรงไหน?" ตอนที่ เชน รวมทีมกับ ดรูว์ เพียร์ซ (ผู้เขียนบทร่วม) ผมคิดว่าลำดับ แนวคิด และการแสดงโดยรวมในเรื่องไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก ซึ่งมันน่าอัศจรรย์ พวกเขาเหมือนสร้างกระบะทรายขนาดพอดีเป๊ะสำหรับทุกอย่าง แต่ก็มีการบิดรูปแบบใหม่ๆ ในเชิงโครงสร้างเหมือนกัน นั่นเป็นวิธีที่ เชน เขียนบทขึ้นมา ไม่มีอะไรตายตัว ทุกอย่างมีความหมายบางอย่างต่อเรื่องราวภายหลัง นั่นเป็นสิ่งยากที่สุดที่จะจับให้ได้ตอนเราถ่ายทำไปแล้ว



Q: เราเห็น โทนี่ สตาร์ค ต้องผ่านอะไรมากมายใน The Avengers เหตุการณ์ในภาพยนตร์นั้นช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในภาคนี้?


ดาวนี่ย์ : เราต้องทำอะไรบางอย่าง คุณรู้ไหม? ผมคิดว่า "มันไม่แปลกเหรอที่เขาเผชิญประสบการณ์นี้? ทำไมจู่ๆ เขาถึงไปอยู่นิวยอร์กช่วงฤดูร้อนหนึ่ง?" เรารู้ว่าทำไมเขาอยู่ที่นั่น ตึกสตาร์คทาวเวอร์ แต่สิ่งที่เขากำลังทำคือการสร้างตึกหลังหนึ่ง ผมอยากให้เขากลับบ้าน และผมคิดว่า "จะเป็นอย่างไรถ้านั่นเกิดกับเราคนไหนก็ได้? เราจะไม่สะดุดเหรอ? คุณต้องระวังหลังคุณด้วย" จากนั้นผมคิดถึงความเป็นจริงในศตวรรษที่ 21 เรื่องราวของอเมริกายุคใหม่ การก่อการร้าย และสิ่งประหลาดของเขาที่ประเทศนี้ร่วมสร้างขึ้นมา เรามีแนวคิดที่เราต้องการให้ โทนี่ กับ โรดี้ อยู่สถานที่ที่เรียกว่าเนปจูนส์เน็ต ห่างจากบ้านเขาที่ชายฝั่งแปซิฟิคไป 2 ไมล์ ผมอยากเห็นพวกเขาอยู่ที่เนปจูนส์เน็ต โดยมีชุดเกราะของเขาจอดเรียงกันอยู่ข้างนอกเหมือนมอเตอร์ไซค์ พวกเขาอยู่ข้างในกันสองคน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเราจะใช้เนปจูนส์เน็ตได้ไหม มันมีใบอนุญาต แล้วมีการพูดว่า "งั้นไปถ่ายทำที่สปาโก้!" ผมพูดประมาณว่า "ได้เหรอ? คุณถามพวกเขาหรือยัง?" ผมต้องการสัมผัสประมาณนั้น เชน ก็เหมือนกัน เราอยากเห็นพวกเขานั่งบนเก้าอี้นอนพร้อมค็อกเทลมาร์ตินี่ เชน มีภาพเหล่านี้ในหัวของเขา ผมก็มีของผม ทางสตูดิโอ และ เควิน (ฟีจ) ก็มีพอๆ กัน มันกลายมาเป็นหนังที่เจ๋ง ลึกซึ้ง สนุกสนาน และน่าประหลาดใจ


//www.siamdara.com/Entertain.asp?eid=2622



Create Date : 10 มีนาคม 2556
Last Update : 10 มีนาคม 2556 19:52:02 น. 0 comments
Counter : 2060 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]