ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

“CSI ไซเบอร์” ฉีกหน้าตำรวจ! แฉคดีฉาว “แพะม่า ณ เกาะเต่า”!!?

“CSI ไซเบอร์” ฉีกหน้าตำรวจ! แฉคดีฉาว “แพะม่า ณ เกาะเต่า”!!?  (มีคลิป)

“แมะ แมะ แมะ...” ชาวไซเบอร์ร้องเป็นเสียงเดียวกันให้ว่อนโลกออนไลน์ หลังทราบว่าบทสรุปของคดีฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ณ เกาะเต่า จบลงที่รวบคนร้าย “ชาวพม่า” ได้ 2 ราย รับสารภาพว่าฆ่าเหยื่อ รวมทั้งข่มขืนผู้ตายฝ่ายหญิงจริงและดีเอ็นเอก็ตรงกับคราบอสุจิในร่างไร้ วิญญาณ จึงปิดคดีลงด้วยหลักฐาน แต่กลับปิดไม่ลงด้วยข้อสงสัยต่างๆ นานา โดยเฉพาะในเพจ “CSI LA” ผู้อ้างว่าถนัดงานสืบสวนมาออกโรงแฉทุกข้อสันนิษฐาน โดยไม่กลัวคำขู่ “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน” แม้แต่นิดเดียว




หลากข้อสงสัย คาใจชาวไซเบอร์!!

(โพลบนเพจ "CSI LA" เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในการจับคนร้ายคดีนี้)

คนร้ายสารภาพหมดเปลือก นั่งกีตาร์และดื่มเบียร์กันอยู่ริมหาดทรายรี เห็นเหยื่อ (ฮันนาห์และเดวิด) พลอดรักกันบริเวณใกล้เคียงวันที่เกิดเหตุ (15 ก.ย.57) จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ เดินตามหลังเข้าใช้จอบฟาดอย่างจังที่ศีรษะด้านหลังของฝ่ายชาย เมื่อพบว่าหมดสติล้มลงไป จึงเข้าไปฉุดตัวฝ่ายหญิงไปรุมโทรม เสร็จกิจจึงใช้จอบอันเดิมฟาดไปที่ใบหน้าของเหยื่อสาวจนถึงแก่ชีวิต ก่อนกลับมาลากร่างเหยื่อฝ่ายชายไปโยนทิ้งน้ำทะเล

“มั่นใจได้ว่าการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้กระทำความผิดตัวจริง ไม่ใช่เป็นการจับแพะอย่างแน่นอน” ไชยยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเกาะเต่า ช่วยยืนยันอีกแรง หลังร่วมสังเกตการณ์การทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา


(จำลองสถานการณ์)


แต่ทว่าเรื่องกลับไม่จบลงเพียงเท่านั้น เพราะยังมีข้อสงสัยอีกมากล้นเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมปริศนาครั้งนี้ โดยเฉพาะแนวความคิดที่ว่ามีเรื่อง “อิทธิพลท้องถิ่น” เข้า มาเกี่ยวข้อง และทั้งหมดนี้คือตัวอย่างข้อสงสัยที่ยังไขไม่กระจ่าง จึงมีผู้ฝากประเด็นเอาไว้บนโลกออนไลน์ให้ได้ขบคิดกันต่อ ถึงแม้คดีจะปิดไปแล้วก็ตาม

1.พม่า 2 คนที่โดนจับ เป็นพนักงานเสิร์ฟร้าน “AC2” ซึ่งเป็นร้านของแม่ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีผู้ที่ชาวเน็ตต้องสงสัยเป็นหลานรัก

2.ก่อนวันเกิดเหตุ มีข่าวลือเรื่องเหตุทะเลาะวิวาทภายในร้าน “AC Bar” แว่วมาว่าผู้เกี่ยวข้องคือกลุ่มชาวต่างชาติ อันได้แก่ เดวิด (ชายผู้ตาย), ฮันนาห์ (หญิงผู้ตาย) และ ฌอน (เพื่อนชาวฝรั่งผู้พิสูจน์ได้ว่าเดินทางออกจากเกาะก่อนวันเกิดเหตุ จึงไม่ถูกต้องสงสัย) ไปมีเรื่องกับกลุ่มอิทธิพลมืดในท้องถิ่น

3. ภาพวงจรปิดที่ใช้มัดตัวคนร้าย วิจารณ์กันหนาหูว่าไม่เหมือนคนร้ายที่จับตัวได้เลย แต่ดูจะคล้ายกับลูกหลานผู้มีอิทธิพลเสียมากกว่า

4.บุคคลที่มีลักษณะคล้ายผู้ต้องสงสัยในกล้องวงจรปิด เก็บตัวเงียบตลอดระยะเวลาที่ตำรวจกำลังสืบหาหลักฐานและมีข่าวเผยแพร่เรื่อง นี้ออกไปอย่างครึกโครม จากนั้นจึงกลับมาออกสื่อพร้อมทนายอีกครั้ง 2 วันให้หลัง ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอ เพราะมีหลักฐานอ้างว่าไม่ได้อยู่ในเกาะเต่าวันเกิดเหตุ โดยใช้ภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดมายืนยันว่า วันที่ 15 ก.ย.57 เวลา 09.16 น. ยังเดินอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพซึ่งตนเรียนอยู่เลย

5.ปริศนากล้องวงจรปิดที่ถูกตัดออกไปกว่า 2 นาทีบนเกาะเต่า ยังคงเป็นสิ่งที่สังคมอยากเห็น แต่ไม่มีใครนำออกมาเปิดเผยทั้งหมด

6.วันเกิดเหตุ มีรายงานว่ามีชายคนหนึ่งได้จ้างเรือเร็วออกไปจากเกาะในช่วงเช้า

7.ถุงยางอนามัยที่ตกในที่เกิดเหตุ ไม่ใช่ของคนร้ายชาวพม่าทั้งสอง แต่กลับไม่มีหลักฐานออกมายืนยันว่าเป็นของใคร และไม่มีรายงานว่าเป็นของเดวิดหรือไม่ (ซึ่งคนร้ายอ้างว่าเหยื่อทั้งสองมีอะไรกันก่อนลงมือก่อเหตุ) จึงเกิดคำถามว่าแล้วเจ้าของถุงยางอนามัยนี้เป็นของใคร? หรือคนร้ายจะไม่ได้มีเพียง 2 คน!!?

6.นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรอยแผลที่ศีรษะของเดวิดที่ต้องสงสัยว่า อาจจะไม่ใช่แผลจากการถูก “จอบ” ฟันอย่างที่ปรากฏในคดี แต่อาจเป็น “มีดชก (Mini Pal Push Knife)” มากกว่า ข้อสันนิษฐานนี้มาจากแฟนเพจ “CSI LA” บน เฟซบุ๊ก โดยเจ้าของเพจหรือแอดมิน อ้างตัวว่าเป็นผู้มีความรู้เรื่องการสืบสวนคดี ตามสืบจากอีกมุมโลกโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นบางนายส่งรูปและข้อมูล ลับๆ มาให้ตลอดทาง ไม่ว่าจะน่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่จะเชื่อผลการสันนิษฐานของเขามากกว่าผลของคดี ในตอนนี้เสียอีก อยากรู้ว่าข้อสันนิษฐานของเขาน่าสนใจขนาดไหน รายละเอียดอยู่ในหัวข้อถัดไปเรียบร้อยแล้ว!!

(มากมายคำสันนิษฐานที่น่าสนใจบนแฟนเพจ)




กดดันทีมสืบ ขอดูกล้องวงจรปิด!!
ย่อหน้าต่อจากนี้ไป คือข้อสันนิษฐานของแอดมินประจำเพจ “CSI LA” บน เฟซบุ๊กซึ่งมีคนกดไลค์เกือบ 200,000 รายเข้าไปแล้ว เขาคือคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้มีความรู้เฉพาะทางด้านการสืบสวนคดีและมีความ รู้เรื่องศิลปะการต่อสู้จนได้สายดำ

“CSI LA เป็นชุมชน มันไม่ใช่ (I) หรือผมคนเดียว เเต่เป็น (We) พวกเราเป็นประชาชนคนไทยจากทั่วโลก ที่ อยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนเเปลง มีความยุติธรรม โปร่งใส ความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่ ที่นี่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย อายุเท่าไหร่ จบสูงขนาดไหน รายได้เท่าไหร่ เรามีความเสมอภาคกัน ทางด้านการเเสดงออกเเละทางความคิด” และหลายข้อสันนิษฐานต่อจากนี้คือข้อมูลที่น่าสนใจซึ่งชาวไซเบอร์เชื่อว่าน่า เชื่อถือยิ่งกว่าผลคดีที่ออกมาเสียอีก

“กลุ่มคนที่ข่มขืนฮันนาห์ทำงานกันเป็นทีม ผมคิดว่ากลุ่มผู้ชายที่เล่นกีตาร์ น่าจะเป็นทั้งคนชี้เป้าเเละส่งสัญญาณให้บุคคลที่ทำการข่มขืนให้รู้ว่ามีคน เดินผ่านมาแล้วจะเห็นหรือเปล่า เเละอาจจะทำให้คนไม่ได้ยินเสียงเหยื่อร้องด้วย นายฌอนน่าจะเป็นหนึ่งในนั้น ผมเชื่อว่าฮันนาห์โดนมอมยามาก่อนเเล้วถึงไม่ได้มีการขัดขืน พวกเขาไม่ได้คิดที่จะฆ่าเธอ เเต่เดวิดเข้ามาเห็น จึงมีการต่อสู้กันเเละถูกฆ่าตายในที่สุด คุณคิดว่าอย่างไร?”

“ทำไมไม่มีการตรวจสอบว่า ฮันนาห์โดนมอมยาหรือเปล่า จากเจ้าหน้าที่?”

“ทำไมศพของเดวิดถึงไม่มีเสื้อผ้า? ผม ว่าคนร้ายที่ทำให้เดวิดตายหรือคนที่มาช่วยน่าจะมีความรู้ทางด้านนิติเวช เพราะการถอดเสื้อผ้าเดวิด เเล้วเอาเขาไปทิ้งในน้ำทะเลทำให้ไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอของคนร้ายได้”



(วิเคราะห์ความเป็นไปได้ ที่เดวิดไม่ได้ถูกจอบฆ่า แต่เป็นมีดชก)

(รอยที่ศพเดวิด ตรงกับรอยที่ตัวฌอน เหมือนเงื่อนงำทั้งหมดจะยังไม่ถูกเปิดเผย)


(ระดับความสูงที่ต่างมาก ส่งผลให้แทบไม่มีใครเชื่อคำสารภาพของคนร้าย)

“วิเคราะห์สาเหตุการตายของเดวิด
เดวิดเห็นฮันนาห์ถูกรุมโทรมเลยเข้าไปช่วย เพราะเขาคิดว่าเขาสูงใหญ่กว่านักข่มขืน เดวิดสูง 190 ซม. คนร้ายจึงใช้วิธีหมาหมู่กับเดวิด โดยที่หนึ่งในคนร้ายใช้มีดชกซึ่งอาจเป็นมีดที่มีด้ามจับพิเศษ ตัวมีดไม่ยาว มีด้ามรูปตัว T วิธีใช้ คือ "กำด้ามไว้" เหมือนกำหมัด
อาจจะไม่ได้หวังฆ่าเดวิด เเต่บังเอิญต่อยพลาดไปโดนเส้นเลือดแดงใหญ่ ซึ่งเป็นจุดทำให้เสียเลือด จนถึงแก่ความตายได้ นั่นคือ หลอดเลือดแดง บริเวณขมับ.. ตามภาพ คือ Frontal Branch of Temporal Artery

ต่อไปคือคำอธิบายของคุณหมอ CSI-TH (Expert Opinion)
การต่อย หรือแทงเข้า หลอดเลือด Frontal Branch of Temporal Artery ด้วยมีดชก จะทำให้เกิดการฉีดขาดของหลอดเลือด เกิดการเสียเลือดอย่างรวดเร็ว เกิดอาการวูบ จากเลือดแดงที่พุ่งออกมา ตามจังหวะหัวใจ หลอดเลือดแดงเส้นนี้ มีแรงดันสูง พุ่งตรงต่อมาจากหัวใจ คอ และมาถึงศีรษะ หากดื่ม แอลกอฮอล์ด้วย ยิ่งหนักเลย หลอดเลือดยิ่งขยายตัว เราเรียกว่า Vasodilated ไม่ต่างกับ กรีดข้อมือครับ แต่ที่ข้อมืออาจตายช้ากว่า เลือดหยุดง่ายกว่า ซึ่งท้ายที่สุดก็เสียเลือดจนช็อก หมดสติ และถึงแก่ชีวิตเช่นกัน

กรณีนี้ เหมือนเดวิดหมดสติด้วย ดื่มแอลกอฮอล์ด้วย และนอกจากแผลแทง ยังอาจพบความบอบช้ำ ถูกต่อย ทุบตีมาก่อน สะเทือนในสมองได้อีก ที่เราเห็นคือ แผลเลือดออกภายนอก แผลฉีกขาดภายนอก แต่ภายในเยื่อหุ้มสมอง ก็อาจมีเลือดออกด้วย ซึ่งหากแทงแรงๆ ทุบตีแรงๆ ก็พบได้

สังเกตอีกอย่าง คือหากชันสูตรศพ พบว่าในปอดไม่มีน้ำทะเล นั่นหมายความว่าตายก่อนมาทิ้งน้ำ แต่หากในปอด เต็มไปด้วยน้ำทะเล โอกาสที่เป็นไปได้คือ ถูกจับกดหรือสลบไปแล้ว ช็อกจากเสียเลือดและจมน้ำตาย ขอขอบคุณ คุณหมอ CSI -TH ครับ”

“สาเหตุ ที่กางเกงเดวิดไม่มีคราบเลือด เป็นเพราะว่าเขาโดนต่อยส่วนมากที่หัว เเละถูกน็อกลงกับพื้นครับ คนร้ายต้องเป็นคนสูงอย่างน้อย 178 ได้ ถึงจะต่อยหัวคนที่สูง 190 ซม.อย่างเดวิดได้ อาจจะเป็นพวกนักเลงคุมบาร์ที่เข้ามาช่วยกลุ่มข่มขืน
คนร้ายตัวเล็กมากทำไมต้องเสียเวลาลากศพไปทิ้งน้ำทะเล? คน เวลาตายเเล้วตัวหนักนะครับ พม่าตัวเล็ก 2 คนทำได้มั้ย? เเล้วฮันนาห์ทำไมไม่วิ่งหนีหรือต่อสู้กับคนร้าย? คนร้ายคนแคระ 2 คน สามารถสู้ฝรั่ง 2 คนได้หรือ?


(มีดชก ที่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นอาวุธสังหารเดวิด)


“เดวิดสูง 190 ซม. เป็นไปได้หรือที่คนร้าย 2 คนนี้เอาเขาอยู่ เเละต่อยหน้า ขมับ เเละหลังหัวเดวิดด้วยมีดชก สงสัยต้องขี่คอกัน”

“จากการสังเกตภาพของเดวิด ผม สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ทำร้ายเดวิด น่าจะใช้มีดชก (Mini Pal Push Knife) ไม่ใช่จอบ คนร้ายน่าจะถนัดมือซ้าย เพราะบาดเเผลอยู่ทางด้านขวาของเดวิดทั้งหมด คนร้ายอาจจะมีความชำนาญในการใช้อาวุธตัวนี้ด้วย เดวิดอาจจะหมดสติจากการเสียเลือดเพราะพิษบาดเเผล เเต่คนร้ายนำร่างของเขาไปกดน้ำให้เขาหมดอากาศหายใจ

แอดมินชอบเรื่องศิลปะการต่อสู้ มือเปล่าและมีสายดำด้วย ชอบการชกต่อยตอนเด็กๆ ขอโทษด้วยที่ไม่ถ่อมตน คนร้ายต้องเป็นนักเลง เคยมีเรื่องชกต่อยมาก่อน ไม่กลัวฝรั่ง คนที่ชินและคลุกคลีกับฝรั่งจะไม่กลัวฝรั่ง”

(ความพยายามของแอดมิน ในการหาตัวคนร้ายผ่านคลิปและหลักฐานที่มี)


(บุคคลที่ชาวไซเบอร์สงสัย ส่ง Message ลับๆ มายังแอดมินเพจ CSI LA)


ถึงตอนนี้ เจ้าของเพจจะอ้างว่าถูกข่มขู่ให้เลิกโพสต์ข้อสันนิษฐานต่างๆ เสียทีจากผู้มีอิทธิพล แต่เขาขอยืนยันว่าจะไม่หยุด จนกว่าจะจับตัว “คนร้ายจริงๆ ที่ไม่ร้องแมะๆ” ได้

“เเหม ขนาดผมอยู่อเมริกา ผู้มีอิทธิพลเกาะเต่ายังกร่างมาข่มขู่ถึงที่นี่ เเล้วชาวบ้านเกาะเต่ากับพื้นที่ข้างเคียง เขาจะไม่กลัวอิทธิพลคุณหรือ? เเต่กฎหมายที่อเมริกาไม่อ่อนเเอเหมือนที่เมืองไทยนะครับ ตำรวจที่นี่โทร.ปุ๊บมาปั๊บ"

“ตอนนี้ ข่าวในเว็บต่างๆ โดนแก้ข้อความตั้งแต่วันแรกๆ แล้วครับ ถ้าเข้าไปแล้วไม่เซฟไว้ ไปอีกทีมันจะโดนตัดตอนออกไปเลย อย่างเว็บหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง หลัง เกิดเหตุวันแรกลงว่าผู้ต้องสงสัยคือน้องและลูกผู้ใหญ่บ้าน มีเขียนถึงว่าขึ้นเรือหลบไปด้วยซ้ำ พอผมเข้าไปดูอีกครั้งโดนแก้ข้อความออกหมดแล้ว”      


(นักสืบไซเบอร์ยังคงสงสัย อยากขอดูกล้องวงจรปิดจาก ม.กรุงเทพ)



(ผู้คนมากมาย วิจารณ์เรื่องตัวเลขบนภาพจากกล้องวงจรปิด)

“ในคดีนี้ผมขอให้ท่านผู้มีอำนาจใช้ Lie Detectors หรือเครืองจับโกหกมาใช้ในคดีนี้ ทาง CSI LA เเละเพื่อนพร้อมที่จะว่าจ้าง บริษัทที่ทำการตรวจโกหก (Lie Detecting Service) มาช่วยคดีนี้ เพื่อสัมภาษณ์ผู้ต้องหาชาวพม่าสองคน เเละ ขอให้นายนมสด หรือ นายวรท ตู้วิเชียร เข้ามาตรวจด้วย ถึงเเม้ว่าค่าตรวจสอบจะราคา $3000 หรือ 95,000บาท พวกเราชาว CSI LA พร้อมที่จะระดมทุน จ้างบริษัทที่ตรวจโกหก Lie Detecting Service. จะให้เเน่อาจจะต้องจ้างบริษัทต่างชาติเข้ามาทำ ย้ำ! พวกเราไม่ขออะไร เราขอเเค่ความโปร่งใสเเละความยุติธรรม”

“ผมอยากให้พวกพี่ๆ สื่อต่างๆ ทำหน้าที่สื่อด้วยการเชิญคุณนมสด น้องอินทัช เเละผู้พิทักษ์นมสด มาออกรายการ อย่างเช่น รายการเจาะข่าวเด่นของคุณสรยุทธ เเละอยากให้พี่ๆ สื่อกดดันให้ทนายของนมสด เอาภาพเคลื่อนไหวของ CCTV ออกมา ผมเห็นคดีนี้เเล้วทำให้ผมคิดถึงคดีเณรคำ”


เพจตำรวจออกโรง แก้ต่างก่อนหายไป
ยังมีอีกเรื่องใหญ่ที่คาใจคือเรื่องโทรศัพท์ของฮันนาห์เหยื่อสาวผู้ตายว่า ตกลงแล้ว ใครเป็นคนขโมยหรือมีการยัดหลักฐานกันอย่างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ กันแน่ เรื่องนี้ในเพจ “CSI LA” ก็ให้รายละเอียดไว้

“โทรศัพท์ของฮันนาห์ไม่ได้ถูกขโมยนะคุณสมยศ เรียบเรียงใหม่ให้ว่า "เพื่อนของฮันนาห์เป็นคนมอบให้ตำรวจเอง แต่ตำรวจเอากลับไปยัดว่าพม่าขโมยไปค่ะ" เพิ่มเติมให้ว่าฮันนาห์ฝากมือถือไว้ที่เพื่อนเพราะไม่ได้พกกระเป๋าไปด้วย แล้ววันต่อมา (น่าจะหมายถึงวันที่พบศพ) ตำรวจก็มาถามเอามือถือของฮันนาห์กับรหัสผ่านด้วย เพื่อนเธอก็ได้มอบมือถือของฮันน่าห์พร้อมกับพาสโค้ด (พาสเวิร์ดสำหรับปลดล็อกเข้ามือถือ) ให้กับตำรวจ ก่อนที่จะบินกลับบ้านไป”


(ข้อสงสัยเรื่องโทรศัพท์ฮันนาห์)

(ชาวเน็ตช่วยเทียบ ใครเหมือนกว่ากัน ระหว่างคนร้ายกับผู้ที่ชาวเน็ตต้องสงสัย)


เมื่อถูกสังคมรุมถามมากๆ เข้า ทางตำรวจจึงทนไม่ไหว ตั้งโพสต์ตอบบนเฟซบุ๊ก “Thailand Police Story” เอาไว้เสียเลย เนื้อความทั้งหมดมีดังนี้

"ตอบข้อสงสัยคดีฆ่าเกาะเต่า"
1. ถาม : ตำรวจแถลงว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ถูกทุบทิ้งแล้วโยนไว้หลังบ้านพักชาวพม่า แต่ทำไมถึงมีรูปหลุดมาว่าโทรศัพท์ของนางสาวฮันนาห์ยังอยู่บนโต๊ะรับแจ้งความ
ตอบ : มือถือที่ชาวพม่าขโมยไปแล้วทุบทิ้ง เป็นของผู้ตายคือนายเดวิดครับ ไม่ใช่ของนางสาวฮันนาห์

2. ถาม : ภาพนายเมา เสื้อขาวที่ออกสื่อมีทรงผมหยิกๆ ฟูๆ แต่ทำไมในกล้องวงจรปิด พบคนที่มีผมเรียบตรง เหมือนไม่ใช่นายเมา
ตอบ : ยืนยันว่าเป็นคนเดียว กันครับ ภาพการจับกุมนายเมา (วันที่ใส่เสื้อเหลือง) ก็มีผมเรียบตรงเหมือนกัน (ขึ้นอยู่กับการหวีผมในแต่ละวันครับ)

3. ถาม : ภาพศพของนายเดวิดมีรอยแตกปริเหมือนโดนมีด มากกว่าที่จะโดนจอบในการฆ่า
ตอบ : ผมมีภาพศพนางสาว ฮันนาห์ระยะใกล้ (จริงๆ ไม่อยากลงเพราะศพมันเละมาก) หน้าผากถูกจอบกระทุ้งสับระหว่างนอน แผลจึงแตกเป็นรูกว้าง แต่นายเดวิดถูกเหลี่ยมจอบเหวี่ยงใส่หัวและใบหน้าระหว่างเดิน เหลี่ยมจอบทำให้เป็นรอยแตกปริ

4. คนต่างด้าวในเกาะเต่ามี ที่ลงทะเบียนถูกต้อง 4,000 คน ยังไม่ลงทะเบียนอีก 3,000 คน ไม่สามารถตรวจให้ครบทุกคนได้ในช่วงแรก (รวมถึงคนร้าย) เมื่อได้พยานหลักฐานมากขึ้น จึงรู้ตัวอย่างเจาะจง และ DNA คนร้ายคือหลักฐานที่ศาลจะเป็นคนตัดสินเอง


(ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ)


(คนร้ายชี้ผิด ตำรวจช่วยชี้ทาง)


ที่น่าสนใจคือ หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน มีสื่อสำนักต่างๆ ออกมาเผยแพร่ข้อมูลจากฝั่งตำรวจเกี่ยวกับหัวข้อ "ตอบข้อสงสัยคดีฆ่าเกาะเต่า" กันให้อึกทึกครึกโครม ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะอันตรธานหายไปจากเพจ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด

       ได้แต่หวังว่าอีกหลายๆ สิ่งที่หวังไว้จะไม่อันตรธานหายไปจากผืนแผ่นดินไทยอย่างง่ายๆ เช่นเดียวกันนี้ แม้คดีจะปิดลงไปแล้วก็ตาม เพราะคนในสังคมไทยรวมถึงทั่วโลกต่างก็ร่วมกันอ้อนวอนภาวนา ขอ ให้ดวงวิญญาณของทั้งเดวิดและฮันนาห์จากไปอย่างมีความสุขเมื่อเห็นผลของคดี และขออย่าให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยต้องเน่าเฟะไปมากกว่านี้เลย...




Create Date : 07 ตุลาคม 2557
Last Update : 7 ตุลาคม 2557 20:52:04 น. 0 comments
Counter : 1714 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]