Bloggang.com : ชีริว - Genso Suikoden - 108 stars

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Group Blog

All blogs

Genso Suikoden - 108 stars - nonstar (1)

108 ดาราชุดพิเศษ ...ไม่สิพวกนี้ไม่ใช่ 108 ดารา แต่แต่ละตัวนี่บทบาทมากมายมหาศาลจริงๆ ชุดนี้จะรวมเอาตัวละครน่าหลงใหลจากซุยโคเด็นทั้ง 4 ภาค + แท็คติคที่ไม่ใช่เพื่อน 108 คนของเรา อ้อ ในวาระอันดีขอแจ้งที่สิงสถิตเว็บซะเลยครับ SuikoFriend Website ด้วยน้ำพักน้ำแรงของ admin เม้ง Suiko as Life จากนี้ไปชาวซุยคงอยู่เป็นหลักแหล่งได้ยาวนาน~ (หวังว่าหน้าเว็บคงค่อยๆผุดขึ้นมาเรื่อยๆนะ555)

***(คำเตือน...SPOIL เนื้อเรื่องทุกภาคที่เกี่ยวข้องกับตัวละครนั้น)***

Barbarossa Rugner
อายุ 53 ปี
บ้านเกิด เกร็กมินสเตอร์
จักรพรรดิแห่งเกร็กมินสเตอร์ที่ได้รับสมญานามว่า ”จักพรรดิทองคำ” ผู้ปกครองจักรวรรดิสการ์เล็ตมูน บัลบารอสซ่าสืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิจากมิเชลันพ่อของเขาซึ่งยุให้จักรพรรดิคนก่อนเลือกตนเองเป็นจักพรรดิแทนเกลพี่ชาย รวมทั้งสืบทอด Sovereign Rune ทรูรูนที่ตกทอดมาในตระกูลมาด้วย ในครั้งที่บัลบารอสซ่ายังเป็นราชทายาทนั้น เกลรักเนอร์ ลุงของบัลบารอสซ่าได้พยายามก่อความวุ่นวายเพื่อบีบให้บัลบารอสซ่ายอมสละสิทธิ์ในการครอบครองบัลลังก์ เกลรักเนอร์ฉวยโอกาสที่เหล่าหกขุนพลของอาณาจักรกระจายกำลังกันออกจากเมืองหลวงไป ขณะนั้นคาซิมป้องกันด่านอยู่ทางตอนเหนือ, มิลิชและควันด้าอยู่กับบัลบารอสซ่าในพื้นที่คุนาน (บริเวณสกาเลทีเซีย), คิวาเลอร์และเทโอกำลังจัดการกับพวกโจรสลัดในทะเลสาบที่เกลจ้างมา ทำให้เกลซึ่งมีนายพลอย่างชมิต, ครอยซ์ และเบอร์เก้นสามารถตีชนะกองทัพของบัลบารอสซ่าได้อย่างง่ายดาย ในสงครามครั้งนี้คลาวเดียภรรยาของบัลบารอสซ่าเสียชีวิต เขารวบรวมกำลังพลที่เหลือมาปักหลักที่ป้อมปันนูยาคุต้าและแมทธิวแนะนำให้ชวนเลอ้อนซิลเวอร์เบิร์กมาช่วยวางแผนการรบ อีกทั้งยังได้จอร์จไพรม์มาช่วยต่อสู้ รวมทั้งกองทัพเกราะที่แข็งแกร่งของเทโอได้ลงมาช่วยและทำสงครามตัดสินที่คุวาบ้าซึ่งเทโอสามารถสังหารชมิตและเบอร์เก้นได้สงครามจึงสิ้นสุดลงและบัลบารอสซ่าขึ้นครองบัลลังก์ แต่ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์โจวสตันบุกเข้ามาบริเวณดาน่าทางตอนเหนือของสการ์เล็ตมูน แต่กลยุทธ์ ”ทำลายเมืองคาเล็กก้า” ของเลอ้อนสัมฤทธิ์ผลทำให้เขาสามารถตีไล่โจวสตันออกไปได้ในที่สุด หลังสูญเสียคลาวเดียไปมีคนสังเกตว่าจักรพรรดิเปลี่ยนไป อีกทั้งในจักรวรรดิก็มีการฉ้อราษฎร์มากขึ้นจนประชาชนต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก แท้จริงแล้วเบื้องหลังคือวินดี้ที่บัลบารอสซ่าแต่งตั้งให้เป็นมหาอำมาตย์นั้นมีแบล็ครูนที่สามารถควบคุมจิตใจคนได้และวินดี้ใช้มันควบคุมจักรพรรดิรวมทั้งจอมทัพมิลิชและควันด้าเพื่อชิงทรูรูนที่มีอยู่ในดินแดนนี้มาให้เธอ พวกของทีลลูกชายของเทโอจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับจักรพรรดิเพื่อปลดปล่อยประชาชนจากความยากลำบากและบุกเข้ามาได้ถึงเกร็กมินสเตอร์ บัลบารอสซ่าใช้พลังของตรากษัตริย์ในดาบราชามังกรของเขาเปลี่ยนร่างตนเองเป็นมังกรทองสามหัวแต่ก็พ่ายแพ้พวกของทีล วินดี้เห็นว่าแผนการตนเองกำลังจะพังทลายจึงเข้ามาหมายชิงโซลอีทเตอร์จากทีลแต่บัลบารอสซ่าก็ห้ามไว้และเปิดเผยว่าจริงๆแล้วพลังของตรากษัตริย์สามารถต้านทานพลังของรูนได้ทุกชนิดรวมทั้งแบล็ครูนของวินดี้ด้วยแต่เขายอมแกล้งทำเป็นถูกควบคุมเพราะรักวินดี้มากก่อนตัดสินใจกอดเธอแล้วกระโดดลงจากระเบียงปราสาทเกร็กมินสเตอร์จบชีวิตไปพร้อมกัน ต่อมาจักรวรรดิสการ์เล็ตมูนก็ล่มสลายเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐโทรันปกครองโดยเลพันท์ หลุมศพของบัลบารอสซ่าถูกสร้างขึ้นอย่างสมเกียรติและมิลิชถอนตัวเองจากตำแหน่งจอมพลเพื่อดูแลหลุมศพของเขา

บอสใหญ่ของซุยโคเด็นภาคแรกคือบัลบารอสซ่าที่ใช้พลังของตรากษัตริย์ในดาบราชามังกรเปลี่ยนร่างตนเองเป็นมังกรทองสามหัว ต้องจัดการทั้งสามหัวจึงจะสามารถเอาชนะได้

บัลบารอสซ่าบอกรักวินดี้ แต่วินดี้ไม่เชื่อและบอกว่าบัลบารอสซ่ารักเธอเพราะเธอคล้ายคลาวเดียอดีตคนรักของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า บัลบารอสซ่ากอดวินดี้แล้วกระโดดลงมาจากระเบียงเสียชีวิตทั้งคู่เป็นอันสิ้นสุดสงครามเกทรูนโดยสมบูรณ์

Windy
อายุ ไม่ทราบ
บ้านเกิด หมู่บ้านของเผ่าเกทรูน
วินดี้เกิดในหมู่บ้านทางตอนเหนือซึ่งดูแลเกทรูนมาช้านาน แต่บ้านเกิดของวินดี้ก็ถูกฮาร์โมเนียทำลายเมื่อ 388 ปีก่อนเพื่อรวบรวมทรูรูนทั้งหมด เธอและเล็คนาร์ทเป็นสองคนที่หนีมาได้ได้แบ่งเกทรูนเป็นสองส่วนหลบหนีการไล่ล่าของฮาร์โมเนียมา จากเหตุการณ์นี้ทำให้วินดี้เห็นว่าพลังนำมาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างและเธอต้องการครอบครองพลังที่มากกว่านี้จึงคิดครอบครองทรูรูนอันอื่นเธอร่วมมือกับยูเบอร์และเนคลอร์ดเข้ามาบุกหมู่บ้านลับที่เก็บซ่อนทรูรูนโซลอีทเตอร์ไว้แต่เท็ดหลานชายของหัวหน้าหมู่บ้านที่ดูแลรูนดังกล่าวก็รับรูนนี้และหนีออกมาได้ วินดี้ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านไลคันทรอปในกราสแลนด์และทำลายล้างชาวมนุษย์หมาป่า (ซึ่งบ็อบในภาคสองหนีรอดออกมาจากหมู่บ้านนี้) แต่ก็ไม่พบทรูรูน เธอเดินทางลงใต้มายังสการ์เล็ตมูนและพบกับบัลบารอสซ่า บัลบารอสซ่ามอบตำแหน่งมหาอำมาตย์ให้เธอเพราะเธอมีความคล้ายคลึงคลาวเดียภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว หลังมีตำแหน่งใหญ่โตในจักรวรรดิที่ทรงอำนาจทำให้วินดี้สะดวกที่จะตามล่าทรูรูนมากขึ้น เธอใช้แบล็ครูนควบคุมจักรพรรดิและจอมทัพมิลิชและควันด้าเพื่อให้ช่วยเธอตามล่าทรูรูนจนได้ข่าวจากเสนาเครซว่าเท็ดมีโซลอีทเตอร์อยู่ เธอจึงพยายามไล่ล่าเขาแต่เท็ดก็หนีออกมาและมอบรูนให้ทีลต่อก่อนถูกวินดี้นำตัวไปจองจำ และเท็ดถูกโซลอีทเตอร์กินวิญญาณเข้าไปในเวลาต่อมา ทางด้านเล็คนาร์ทได้ชี้นำทีลและช่วยให้ทีลสามารถรวบรวมกำลังคนสู้กับจักรวรรดิจนได้รับชัยชนะ หลังทีลโค่นบัลบารอสซ่าได้วินดี้พยายามชิงโซลอีทเตอร์จากเขาแต่เหล่าวิญญาณที่อยู่ในโซลอีทเตอร์ได้ต่อต้านวินดี้ทำให้เธอไม่สามารถครอบครองรูนนี้ได้ บัลบารอสซ่าเข้ามาห้ามไม่ให้วินดี้ทำอะไรอีก เขาบอกรักเธอแล้วกระโดดลงจากระเบียงฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน

วิญญาณของคนที่ทีลรักที่ถูกโซลอีทเตอร์ดูดกลืนเข้ามาทั้งโอเด็สซ่า, เกรมิโอ้, เทโอ และเท็ดร่วมกันต่อต้านไม่ให้คนอย่างวินดี้ได้ครอบครองรูนนี้

Leknaat
อายุ ไม่ทราบ
บ้านเกิด หมู่บ้านของเผ่าเกทรูน
เลคนาร์ทเป็นน้องสาวในเผ่าของวินดี้ที่หนีออกจากหมู่บ้านเกทรูนเพื่อหลบการไล่ล่าของทหารฮาร์โมเนียมาด้วยกัน (เผ่านี้จะนับทุกคนเป็นญาติกันหมดแต่เล็คนาร์ทไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับวินดี้) ซึ่งเล็คนาร์ทได้เสียดวงตาไปเนื่องจากการโจมตีของทหารฮาร์โมเนีย เธอได้แบ่งเกทรูนกับพี่สาวโดยวินดี้ครอบครองรูนประตูหน้ามีพลังในการดึงอมนุษย์ออกจากประตูมิติ และเล็คนาร์ทครองรูนประตูหลังมีพลังเรียกอมนุษย์กลับไปยังมิติเดิม ทั้งสองคนแยกย้ายกันมาเพื่อไม่ให้พวกฮาร์โมเนียได้รูนทั้งสองส่วนไป หลังจากนั้นเธอทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมสมดุลแห่งสรรพสิ่งในจักรวาลเธอคอยให้คำแนะนำแก่ผู้ถือครองรูนแท้ทั้งลาซโลที่มีรูนแห่งการลงทัณฑ์และฟารุชที่ครอบครองดาวน์รูน เธอรับลุคที่ถูกทอดทิ้งจากฮาร์โมเนียมาเลี้ยงดูและสอนวิธีการใช้เวทย์ให้และเธอก็ได้พบว่าลุคครอบครองรูนแห่งลมที่แท้จริงอยู่ด้วย ต่อมาเล็คนาร์ทจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นเทพพยากรณ์ให้แก่จักรวรรดิสการ์เล็ตมูนโดยพำนักอยู่ในเกาะจอมเวทย์ และพบว่าวินดี้ก็ได้เดินทางมายังสการ์เล็ตมูนเพื่อตามหาทรูรูน เธอเข้าช่วยให้คำแนะนำต่างๆแก่ทีลผู้ครอบครองโซลอีทเตอร์ที่วินดี้หมายตาอยู่เพื่อไม่ให้รูนดังกล่าวตกไปอยู่ในมือวินดี้ซึ่งจะทำให้สมดุลพังพินาศลง ในสงครามครั้งสุดท้ายที่เกร็กมินสเตอร์ เธอใช้พลังของรูนประตูหลังร่วมมือกับพลังของรูนมังกรของโจชัวร์ดึงมอนสเตอร์ของวินดี้กลับไปในมิติของพวกมันได้ทำให้ทีลสามารถตีเกร็กมินสเตอร์แตกและวินดี้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ เล็คนาร์ททำหน้าที่ดูแลสมดุลต่อไป ในดินแดนดูนาน เธอมอบรูนแห่งการเริ่มต้นให้ริโอวและโจวี่ทำให้พวกเขามีพลังที่จะต่อสู้กับไฮแลนด์และทั้งสองยังสามารถลบล้างคำสาปของรูนได้ด้วยตัวพวกเขาเอง หลังสงครามดูนานจบสิ้นลงเล็คนาร์ทและลุคเดินทางมาที่วัฏปราสาทในคริสตัลวาลเลย์และได้พบกับซาร่าซึ่งถูกชาวบ้านรังเกียจเนื่องจากพลังเวทย์ที่มหาศาลตั้งแต่เกิดของเธอ ลุคขอรับเธอมาเลี้ยงดูและสอนเวทมนตร์ให้ ทั้งสามเดินทางกลับมาที่เกาะจอมเวทย์จนวันหนึ่งพลังของรูนแห่งลมทำให้ลุคมองเห็นโลกสีเถ้าซึ่งเป็นภาพเจตนารมณ์ของฮิคุซัคที่ต้องการสร้างโลกในอนาคตแบบนี้ทำให้ลุคถึงกับเสียสติ เขาต้องการทำลายรูนแห่งลมที่แท้จริงจึงคิดรวบรวมรูนแห่งธาตุที่แท้จริงทั้งหมด เล็คนาร์ทที่มีเกทรูนเพียงเสี้ยวเดียวไม่มีพลังพอจะหยุดยั้งลุคได้ ลุคร่วมมือกับซาร่า, อัลเบิร์ตและยูเบอร์ก่อความไม่สงบในกราสแลนด์เพื่อชิงรูนธาตุมาและเล็คนาร์ททำได้เพียงเฝ้าดู ในครั้งนี้เฟลมแชมเปี้ยนสามารถหยุดยั้งแผนการของลุคได้ ลุคและซาร่าเสียชีวิตในแท่นสักการะและวิญญาณกลับมาหาเล็คนาร์ทซึ่งเธอก็ให้ความต้อนรับและยกโทษให้สำหรับทุกสิ่งที่เขาทำลงไป

เล็คนาร์ทปรากฏตัวในภาคหลักทุกภาค โดยจะออกมาในเหตุการณ์สำคัญโดยเฉพาะช่วงก่อนสงครามครั้งสุดท้าย (เพื่อบอกว่าเราจะจบเกมส์แบบ good หรือ bad ending 555+) ในภาคแรกหากเรารวบรวมเพื่อนได้ทั้ง 108 คน เกรมิโอ้จะถูกพลังของดวงดาวทั้งหมดทำให้ฟื้นคืนชีพ

ภาคสองหากเรารวบรวมเพื่อนได้ครบ 108 คนก่อนบุกมาธิลด้าเล็คนาร์ทจะปรากฏตัวขึ้นปลดปล่อยพลังสูงสุดของรูนโล่แห่งแสงและเราจะได้ท่า Forgiver Sign มา และหากทำตามเงื่อนไขที่จะทำให้นานามิไม่ตาย (ดูเงื่อนไขได้ที่เรื่องราวของริโอว) หลังการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายหากริโอวเลือกที่จะไม่สู้กับโจวี่ ถือว่าเราปฏิเสธการต่อสู้จนถึงที่สุดเสริมด้วยพลังของเพื่อนทั้งหมด คำสาปของรูนแห่งการเริ่มต้นจะถูกทำลาย โล่และดาบไม่จำเป็นต้องสู้กันอีกต่อไป

ภาคสามในเนื้อเรื่องย่อยไม่มีเหตุการณ์ของเล็คนาร์ทที่เกี่ยวข้องกับการจบแบบสมบูรณ์ แต่หากจบแบบเพื่อนครบ108คนจะมีเนื้อเรื่องของลุคให้เล่นและเมื่อจบ ลุคจะกลับมาหาเล็คนาร์ทในสภาพที่เหลือเพียงดวงวิญญาณ
ภาคสี่หากเราให้อภัยสโนว์ทั้งสามครั้งและได้สโนว์เป็นเพื่อนคนสุดท้าย (ซึ่งต้องรวบรวมเพื่อนอีก 107 คนให้ครบเสียก่อน) ถือว่าลาซโลสามารถเข้าถึงการให้อภัยอย่างแท้จริงและคำสาปเรื่องการลงทัณฑ์จะหายไปทำให้เขารอดจากการถูกกินวิญญาณมาได้
ภาคห้าหากเรารวบรวมเพื่อนได้ครบทั้ง 108 คน พลังของดวงดาวทั้งหมดจะช่วยกันทำให้ลีออนฟื้นขึ้นมา

Neclord
อายุ 400 ปี (ภาคแรก) 403 ปี (ภาคสอง)
บ้านเกิด หมู่บ้านบลูมูน
อดีตสมาชิกของหมู่บ้านบลูมูน หมู่บ้านซึ่งเซียร่าบรรพบุรุษแห่งเหล่าแวมไพร์ทั้งปวงสร้างขึ้นเมื่อเป็นที่พักพิงของแวมไพร์โดยพลังของมูนรูนที่อยู่กลางหมู่บ้านทำให้แวมไพร์สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่กระหายเลือด แต่เนคลอร์ดต้องการพลังของรูนไปใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองจึงขโมยรูนออกจากหมู่บ้านไป เมื่อไม่มีมูนรูนทำให้แวมไพร์ต่างบ้าคลั่งและกระหายเลือด แวมไพร์ส่วนหนึ่งยอมจบชีวิตตนเองในขณะที่อีกส่วนต้องไล่ล่าสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อกินเลือดเป็นอาหาร เซียร่าซึ่งกลายเป็นแวมไพร์ด้วยพลังของทรูรูนไม่ได้เกิดบ้าคลั่งเหมือนแวมไพร์อื่น เธอได้ออกล่าพวกแวมไพร์ที่ฆ่ามนุษย์โดยเฉพาะตัวเนคลอร์ดเอง เนคลอร์ดได้พบกับวินดี้และร่วมมือกันในการบุกหมู่บ้านลับเพื่อชิงทรูรูน โซลอีทเตอร์แต่เท็ดก็หลบหนีออกไปได้ ต่อมาเขาโจมตีตระกูลมาร์ลีย์ที่เป็นใหญ่ในฮาร์โมเนียทำให้ตระกูลนี้คิดค้นวิธีการกำจัดแวมไพร์ขึ้นแต่ยังไม่สามารถหาวิธีจัดการกับเนคลอร์ดได้ พ่อและปู่ของคาห์นเสียชีวิตในการต่อสู้กับเนคลอร์ด แต่ก็รู้ความลับวิชาด้อปเปลแกงเกอร์ของมันและคาห์นซึ่งเห็นการต่อสู้ทั้งหมดก็กุมความลับนี้ไว้ก่อนหนีไป สิบปีก่อนสงครามดูนานเนคลอร์ดได้ทำลายเมืองนอร์ธวินด์บ้านเกิดของวิคเตอร์และฆ่าชาวเมืองเกือบทั้งหมดเพื่อดื่มเลือดและเพิ่มลูกสมุน ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นจอมทัพของสการ์เล็ตมูน มันได้ครอบครองบริเวณป้อมโลริมาร์ ปลุกศพขึ้นจากสุสานและสร้างปราสาทขึ้นมาบริเวณนั้น เนคลอร์ดได้พาพวกซอมบี้เข้ามาบุกหมู่บ้านนักรบและบังคับให้ส่งหญิงสาวมาเป็นเจ้าสาวและเครื่องสังเวยทุกปีจนปีหนึ่งมันจับตัวเทนกาอาร์ลูกสาวโซรัคหัวหน้าหมู่บ้านไปเพื่อเป็นเจ้าสาวแต่พวกวิคเตอร์ก็ได้ดาบจักราศีที่มีพลังในการจัดการแวมไพร์มาทำให้เนคลอร์ดพ่ายแพ้แต่มันก็ใช้วิชาด้อปเปลแกงเกอร์สร้างตัวปลอมและหนีไปได้ สามปีต่อมามันปรากฏตัวในซากเมืองนอร์ธวินด์ พวกวิคเตอร์นำดาบจักราศีมาเพื่อจัดการแต่มันก็หนีไปเสียก่อนและพากองทัพซอมบี้บุกทินโทโดยลักพาตัวลิลลี่และโลเวนมาเป็นเจ้าสาว คราวนี้คาห์น และเซียร่าที่ตามล่าเนคลอร์ดมาทั้งชีวิตได้มาสบทบกับพวกวิคเตอร์ และเข้าต่อสู้ตัดสินกับเนคลอร์ด คาห์นใช้ข่ายอาคมตรึงทำให้มันไม่สามารถใช้ด็อปเปลแกงเกอร์หนีได้จึงยอมคืนมูนรูนให้เซียร่า และวิคเตอร์ก็ใช้ดาบจักราศีปิดฉากกำจัดเนคลอร์ดได้ในที่สุด

ในภาคแรกมันเลือกเทนกาอาร์ลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านนักรบเป็นเจ้าสาว พวกวิคเตอร์สามารถช่วยเธอออกมาได้ แต่ร่างที่กำจัดไปนั้นเป็นตัวปลอมที่ถูกสร้างมาโดยวิชาด้อปเปลแกงเกอร์เท่านั้น

ด้วยพลังของมูนรูนปกติการโจมตีธรรมดาไม่สามารถทำอะไรมันได้ ต้องใช้ดาบจักราศีที่มีพลังของไนท์รูนโจมตีใส่ให้พลังของรูนสลายไปก่อนจึงจะโจมตีได้ แต่เมื่อเราจะจัดการมันก็จะหนีไปอีก...ถือเป็นศัตรูที่กำจัดให้สิ้นซากได้ยากสุดๆ แต่ในภาคสองมันถูกรุมโดยคาห์นผู้เชี่ยวชาญการกำจัดแวมไพร์, วิคเตอร์ผู้รอดจากนอร์ธวินด์มีดาบจักราศีที่ฆ่าแวมไพร์ได้, และเซียร่าแวมไพร์คนแรกของโลกทำให้หมดหนทางรอด

Star Dragon Sword
อายุ ไม่ทราบ
บ้านเกิด ไม่ทราบ
ดาบที่เป็นร่างอวตารของไนท์รูน ดาบดาวมังกรมีพลังในการฆ่าแวมไพร์และยังสามารถเคลื่อนไหว, พูดได้ด้วยจิตสำนึกของตัวดาบเอง ในครั้งดึกดำบรรพ์ไนท์รูนเคยอยู่กับซันรูน แต่ตัวไนท์รูนนั้นทนแสงสว่างจากซันรูนไม่ได้จึงแยกตัวออกไปและทิ้งดาวน์และทไวไลท์รูนไว้เป็นรูนสำหรับรักษาสมดุลพลังอันมหาศาลของซันรูน ไนท์รูนยังได้แยกสตาร์รูนออกมาซึ่งสาเหตุในการกำเนิดของสตาร์รูนนั้นยังไม่มีใครทราบ สตาร์รูนตกไปอยู่กับเซราเซ่ สาวลึกลับที่เข้ามาอยู่ในฟาเลน่าในช่วงสงครามกลางเมือง ส่วนไนท์รูนนั้นเข้ามาอยู่ในถ้ำคุหลง ไม่มีใครทราบว่ามันเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่และเข้ามาทำไม มันได้พบกับพวกวิคเตอร์และทีลที่ต้องการดาบดาวมังกรเพื่อกำจัดเนคลอร์ด แต่มันก็ส่งพวกวิคเตอร์ไปยังโลกในอดีตเมื่อสามร้อยปีก่อนตอนที่หมู่บ้านลับของเท็ดถูกวินดี้ทำลาย หลังพวกวิคเตอร์ดูอดีตแล้วก็สามารถกลับมาได้ (ยังไม่รู้เลยว่าส่งเราไปดูทำไม) ดาบดาวมังกรยอมร่วมมือกับวิคเตอร์ในการกำจัดเนคลอร์ดซึ่งทั้งวิคเตอร์และดาบต่างคิดว่าตนเองเป็นเจ้านายของอีกฝ่ายหนึ่ง วิคเตอร์ใช้ดาบกำจัดเนคลอร์ดได้สำเร็จและใช้จนสิ้นสุดการต่อสู้สงครามเกทรูน จากนั้นวิคเตอร์และฟลิ๊คเดินทางมายังดูนาน เขานำดาบมาทิ้งในถ้ำแห่งสายลมเพราะเบื่อดาบขี้บ่นแต่เนคลอร์ดก็กลับมาอีกครั้ง วิคเตอร์ต้องการพลังของดาบมาช่วยจัดการมันอีกจึงไปขอร้องแต่ดาบดาวมังกรโมโหที่เอามันมาทิ้งขว้างแบบนี้เลยสู้กัน หลังอาละวาดจนหนำใจแล้วก็ยอมให้วิคเตอร์ใช้เช่นเดิม และสามารถกำจัดเนคลอร์ดได้ในที่สุดที่ทินโท ดาบดาวมังกรเป็นอาวุธของวิคเตอร์ตลอดช่วงสงครามดูนาน ในฐานทัพที่นอร์ธวินด์หลายๆคนโดยเฉพาะคนที่สนใจเรื่องดาบอย่างเก็นชูและเท็ตไซจะบูชาดาบดาวมังกรเหมือนเป็นเทพ และสงครามดูนานก็สิ้นสุดลง วิคเตอร์เดินทางไปยังกราสแลนด์พร้อมฟลิ๊คจนมาถึงหมู่บ้านที่ถูกแวมไพร์โจมตี วิคเตอร์ให้ดาบแก่เอดจ์เด็กในหมู่บ้านที่ต้องการช่วยพี่สาวของเขา และเอดจ์สามารถเอาชนะแวมไพร์ได้ หลังจากนั้นวิคเตอร์และฟลิ๊คก็มอบหมายให้เอดจ์ดูแลดาบนี้ เอดจ์ได้ออกฝึกฝนตนเอง เขาท้าคนเดินทางประลองโดยมีเงื่อนไขว่าหากเขาแพ้จะยกดาวดาบมังกรให้แต่ก็ต้องพ่ายแพ้เกโด้ เอดจ์ไม่สามารถยกดาบให้คนอื่นได้จึงขอเข้ามาช่วยเกโด้ต่อสู้ และดาบดาวมังกรก็เข้าร่วมสงครามไฟร์บริงเกอร์ครั้งที่สอง หลังสิ้นสุดสงครามทั้งสองก็ยังเดินทางต่อสู้ต่อไป

ดาบดาวมังกรเป็นอาวุธที่มีพลังทำลายสูงสุดในทุกภาคที่มันปรากฏตัว และยังมีพลังพิเศษในการจัดการแวมไพร์อีกด้วย ข้อเสียคือเป็นดาบปากดี ด้วยเหตุนี้วิคเตอร์เลยพยายามเอาไปทิ้งบ่อยๆ (และสุดท้ายก็โบ้ยให้เอดจ์ได้สำเร็จ) ในภาคสองเราต้องสู้กับมันแต่ก็ไม่ยากเท่าไหร่ คงเป็นการอาละวาดพอท้วมๆเพราะหากเปรียบกับร่างอวตารของทรูรูนอื่นๆอย่างบีสต์รูน, ทรูวินด์รูน หรือซันรูนแล้วคนละเรื่องเลย

Odessa Silverberg
อายุ 26 ปี
บ้านเกิด เกร็กมินสเตอร์
โอเดสซ่าเกิดในตระกูลซิลเวอร์เบิร์ก ตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านยุทธศาสตร์มาตั้งแต่สมัยของจูเลี่ยนซิลเวอร์เบิร์กผู้ช่วยครานัครักเนอร์ก่อตั้งเกร็กมินสเตอร์ หลังพ่อแม่เสียชีวิต เธอและแมทธิวพี่ชายถูกเลอ้อนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กและเรียนรู้เรื่องยุทธศาสตร์ด้วย โอเดสซ่าได้พบกับอาร์คิลลิสขุนนางของอาณาจักรคนหนึ่งและตกหลุมรัก ทั้งสองหมั้นกัน โอเดสซ่ารับรู้เรื่องการฉ้อฉลภายในจักรวรรดิจากเขาและเริ่มเกิดความคิดต่อต้านบ้านเกิดของตนเอง โอเดสซ่าพยายามชวนให้แมทธิวเข้ามาช่วยพวกเธอแต่เขาก็ปฏิเสธเพราะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสงคราม แต่จักรวรรดิไหวตัวทันและสั่งคนไปสังหารอาร์คิลลิสโดยป้ายข้อหาที่เขาไม่ได้ทำ อาร์คิลลิสฝากให้โอเดสซ่าช่วยทำลายจักรวรรดิก่อนจบชีวิตลง โอเดสซ่าจับดาบขึ้นต่อสู้ทั้งที่ยังสวมชุดขุนนางและก่อตั้งกองกำลังต่อต้านจักรวรรดิขึ้นโดยมี ฟลิ๊ค, ฮัมฟรี่, ซันเจซ, วิคเตอร์, มอส และโรนี่เบลเป็นสมาชิกยุคก่อตั้ง โอเดสซ่าเป็นผู้นำโดยมีฟลิ๊คชายหนุ่มจากหมู่บ้านนักรบเป็นรองผู้นำ (ฟลิ๊คหลงรักโอเดสซ่า เขานำชื่อของโอเดสซ่าตั้งเป็นชื่อดาบตามธรรมเนียมของหมู่บ้านที่ต้องตั้งชื่ออาวุธตามชื่อคนรัก) พวกเขาใช้ทางน้ำใต้ดินที่เลนันคัมป์เป็นที่กบดาน โอเดสซ่าได้พบกับทีลที่หนีการไล่ล่าของจักรวรรดิเพื่อชิงโซลอีทเตอร์เธอจึงชวนทีลเข้ามาร่วมซึ่งในทีแรกทีลไม่อาจทรยศพ่อของเขาได้จึงปฏิเสธ แต่ก็ขออยู่กับกองกำลังต่อต้านเพื่อซ่อนตัวจากพวกทหารสการ์เล็ตมูน โอเดสซ่าได้พาทีลออกเดินทางไปยังซาราดี้เพื่อส่งต่อแบบแปลนหอกเพลิงที่ได้จากดวาฟท์ให้พวกของมอสที่โรงงานลับสำหรับสร้างอาวุธที่ใช้สู้กับกองทัพจักรวรรดิ ในคืนนั้นเธอบอกกับทีลว่าจริงๆแล้วเธออยากเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่มีความสุขแต่ก็ต้องแบกรับความหวังของคนอื่นๆเอาไว้ เมื่อเดินทางกลับมายังเลนันคัมพ์พบว่าที่ซ่อนลับถูกพบ(เพราะซันเจซเป็นสปายส่งข่าวให้จักรวรรดิ) พวกทหารเข้ามาโจมตีคนที่เข้ามาร่วมมือกับพวกต่อต้านในขณะที่พวกฟลิ๊คและฮัมฟรี่ไม่อยู่ โอเดสซ่าได้ปกป้องเด็กคนหนึ่งจากการโจมตีจนตัวเองบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกที่จะเป็นผู้หญิงมากกว่านักสู้ เธอได้ขอร้องให้ทีลนำตุ้มหูของเธอไปให้แมทธิวและช่วยสานต่ออุดมการณ์เธอด้วย หลังทีลรับคำขอแล้วเธอได้ขอให้ช่วยโยนศพของเธอลงน้ำเพื่อไม่ให้ข่าวการเสียชีวิตของเธอทำให้เหล่าคนที่ต่อต้านจักรวรรดิที่อยู่ในที่ต่างๆต้องหมดหวัง (หากเราปฏิเสธที่จะโยนเธอลงน้ำวิคเตอร์จะอาสาทำเอง – เมื่อตีเกร็กมินสเตอร์แตกและกลับมาที่เลนันคัมป์อีกครั้งจะพบกับเด็กคนที่โอเดสซ่าเคยช่วยไว้ถามว่า “พี่สาวคนนั้นไปไหนแล้วล่ะ” ด้วย) หลังการเสียชีวิตของโอเดสซ่าทีลรับตำแหน่งผู้นำกองกำลังต่อต้านนำข่าวนี้ไปแจ้งให้แมทธิวทราบ เขาเสียใจมากที่น้องสาวไม่ยอมเลือกที่จะมีชีวิตที่สงบสุขและสุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลง แมทธิวรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงสงครามได้จึงเข้าร่วมมือกับเราและเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับจักรวรรดิให้ได้รับชัยชนะเรื่อยมา ต่อมาฟลิ๊คที่รวบรวมกำลังมาได้ส่วนหนึ่งมาที่ปราสาทโทรันซึ่งเขาได้ข่าวว่าเป็นที่ตั้งฐานทัพกลุ่มต่อต้านใหม่ เขาพบว่าโอเดสซ่าเสียชีวิตและทีลรับตำแหน่งผู้นำแทนก็ไม่ยอมรับและนำคนของเขาออกไปสู้กับจักรวรรดิแต่ก็พ่ายแพ้แก่สปอร์พิษกุหลาบของมิลิชทำให้เขายอมให้ทีลเป็นผู้นำและชนะสงครามอีกหลายคั้ง จนกระทั่งกองทัพเกราะที่แข็งแกร่งของเทโอเดินทางมาที่ปราสาทโทรัน เราไม่สามารถสู้ได้จึงนึกถึงหอกเพลิงที่โอเดสซ่าได้ส่งแปลนให้มอสและพวกเขาก็ใช้สิ่งที่โอเดสซ่าทิ้งไว้นี้ต่อสู้จนได้รับชัยชนะ จนสิ้นสุดสงครามแมทธิวเสียชีวิตในสงครามครั้งสุดท้าย เขายังยืนยันว่าเขาควรใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับการตกปลาและสอนหนังสือไปตลอดชีวิตมากกว่ามาตายในสงครามแบบนี้ แต่ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่โอเดสซ่าและแมทธิวทำไว้ก็ช่วยให้ชาวโทรันอยู่อย่างสงบสุขมาจนปัจจุบัน

โอเดสซ่าเป็นผู้นำคนแรกของกองกำลังต่อต้านจักรวรรดิ (เธอไม่ชอบให้ใครมาเรียกพวกเธอว่ากบฏ) เพื่อล้มล้างเหล่าขุนนางที่โกงกินช่วยเหลือราษฎร ถือว่าเป็นจุดกำเนิดเรื่องราวทั้งหมดอย่างแท้จริง แต่ก็เสียชีวิตจากการโจมตีที่ซ่อนลับ สามปีต่อมาทีลสืบทอดเจตนารมณ์และสามารถรวมผู้คนต่อสู้กับจักรวรรดิจนได้รับชัยชนะในที่สุด โอเดสซ่าสามารถใช้ได้ทั้งดาบและธนูในการต่อสู้ (ในเกมส์ใช้ธนู) แต่ก็เข้ามาร่วมทีมเราได้ไม่นาน

Luca Blight
อายุ 27 ปี
บ้านเกิด รูรูนอยล์
เจ้าชายแห่งไฮแลนด์ที่ถูกขนานนามว่า”หมาป่าสีขาว” ผู้มีความกระหายสงครามและพลังที่ไร้ผู้ต่อต้าน ลูก้าเป็นบุตรชายของอากาเรสกษัตริย์ไฮแลนด์ เขาเกลียดพ่อที่ขี้ขลาดและหนีการต่อสู้มาตั้งแต่เขายังเด็ก ในตอนที่มิวส์บุกเข้ามาในไฮแลนด์17ปีก่อน ขณะที่ขบวนเสด็จของตระกูลไบลท์เคลื่อนเข้ามาใกล้ชายแดนโจวสตันพวกอันธพาลได้เข้าโจมตีขบวน อากาเรสหลบหนีไปทิ้งให้ซาร่าภรรยาและลูก้า (10ขวบ) ถูกจับตัวไป ซาร่าถูกทรมารและข่มขืนต่อหน้าลูก้า แต่ฮัน คันนิ่งแฮมวีรบุรุษของไฮแลนด์ได้พาคนจำนวนหนึ่งมาช่วยไว้ได้ ซาร่าสูญเสียสติสัมปชัญญะและถูกส่งไปอยู่ที่เคียโร่จนกระทั่งคลอดจิลเลียลูกสาวที่เกิดจากการข่มขืนโดยพวกมิวส์ ภายหลังลูก้าได้รู้ว่าพวกอันธพาลถูกฝึกมาอย่างดีโดยดาเรลเจ้าเมืองมิวส์ผู้บงการอยู่เบื้องหลังและวางแผนจะล้างแค้นไฮแลนด์หลังพ่ายแพ้ในการดวลระหว่างฮันและเก็นคาคุเมื่อ30ปีก่อน ลูก้าเกิดความโกรธเกลียดชาวมิวส์มากตั้งแต่นั้นมา เขาออกเดินทางตามหาแม่จนมายังเคียโร่ ลูก้าถูกโจรปล้นเงินไป ขณะตามไปเอาเงินคืนเขาได้ยินพวกโจรนินทาตระกูลไบลท์รวมถึงความรู้สึกตอนข่มขืนซาร่าทำให้ลูก้ารู้ได้ทันทีว่าพวกนี้เป็นพวกเดียวกับที่โจมตีขบวนของเขา ด้วยความโกรธแค้นเขาฆ่าพวกโจรทิ้งหมด ก่อนเดินทางมาจนถึงบ้านของซาร่าในเคียโร่ แต่เธอก็สูญเสียความทรงจำและจำลูก้าไม่ได้ ลูก้าแบกความผิดหวังเดินทางกลับบ้านไป ทางด้านจิลเลียน้องสาวของลูก้าได้เติบโตเป็นสาวในเคียโร่และมีตำแหน่งเป็นเจ้าหญิงของไฮแลนด์ เธอโตมาคล้ายซาร่ามากและเป็นคนเดียวที่ลูก้ายอมรับเป็นครอบครัว เธอรู้ว่าลูก้ามีความโกรธแค้นมากมายจึงพยายามห้ามไม่ให้เขาทำอะไรรุนแรงเกินไปเสมอแต่ก็ไม่ค่อยสำเร็จ หลังสิ้นสุดสงครามเกทรูนในโทรันสามปีลูก้าจุดไฟสงครามในดินแดนดูนานขึ้นโดยสั่งโจมตีกองทหารเยาวชนยูนิคอร์นและใส่ความว่าเป็นฝีมือของโจวสตัน แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่นยกเว้นริอูและโจวี่สองทหารเยาวชนที่หนีรอดจากการโจมตีไปได้รวบรวมผู้คนขึ้นต่อสู้กับไฮแลนด์ ด้านลูก้านำกองทัพหมาป่าขาวของเขาเข้าตีพื้นที่ต่างๆในโจวสตันและได้รับชัยชนะมาตลอดรวมถึงชัยชนะเหนือเมืองมิวส์ด้วยความร่วมมือจากโจวี่ นอกจากนี้ยังได้บีสต์รูนหนึ่งใน 27 ทรูรูนจากฮาร์โมเนียมาเป็นเครื่องเจริญสัมพันธไมตรี เขาใช้พลังของทรูรูนสูบวิญญาณของชาวมิวส์เป็นการล้างแค้นเรื่องเมื่อ 17 ปีก่อน โจวี่เข้ามาอยู่ข้างไฮแลนด์และสร้างความเชื่อใจจนได้กลายเป็นคนสนิทลูก้าอย่างรวดเร็ว แต่ในความจริงแล้วเขาวางแผนยุติสงครามโดยทำลายไฮแลนด์จากภายในซึ่งลูก้าไม่รู้เรื่องนี้ โจวี่แนะนำเลอ้อนยอดกุนซือของอดีตสการ์เล็ตมูนให้ลูก้ารู้จัก ลูก้าวางยาสังหารอากาเรสและขึ้นครองบัลลังก์ของไฮแลนด์แทนแต่ก็เป็นกษัตริย์อยู่ได้ไม่นาน โจวี่และเลอ้อนวางแผนฆ่าลูก้าโดยบอกความลับเรื่องการเคลื่อนพลกลางดึกให้พวกของริอูรู้ทำให้เขาสามารถเตรียมคนจำนวนมากไปรุมโจมตีลูก้า ลูก้าถูกธนูนับร้อยระดมยิงและสู้กับยอดนักรบของกองทัพดูนานนับสิบคนจนหมดแรง เขาหนีมายังหน้าผาแห่งหนึ่งก่อนพาร่างอันบอบช้ำเข้าสู้ตัดสินกับริอูและเสียชีวิตในที่สุด แต่ก่อนตายลูก้าได้สาปแช่งและบอกกับเราว่าสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่เขาก่อขึ้นจะไม่มีวันจบสิ้นลง

วาทะเด็ดของลูก้า “โลกนี้มีคนอยู่สองประเภท คนเข้มแข็งและคนอ่อนแอ คนเข้มแข็งจะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง และคนอ่อนแอจะต้องตาย” ตั้งแต่ถูกกองโจรมิวส์โจมตีและสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ลูก้าก็เชื่อเช่นนี้มาตลอด

จิลเลียคอยห้ามไม่ให้ลูก้าทำอะไรรุนแรงเสมอและเธอก็เป็นคนเดียวที่ลูก้าไม่สามารถลงมือด้วยได้เพราะจิลเลียคล้ายกับซาร่า แม่ของเขามาก

บีสต์รูนได้กัดกินวิญญาณของชาวมิวส์หลังไฮแลนด์สามารถยึดมิวส์ได้สำเร็จ เป็นการล้างแค้นที่ลูก้ารอคอยมา 17 ปี

สุดยอดวายร้ายของซีรี่ยส์เก็นโซซุยโคเด็น ลูก้ามีเบื้องหลังที่น่าเศร้า และเติบโตโดยกินความโกรธเกลียดเป็นอาหาร เขามีพลังไร้ผู้ต่อต้านที่มาจากพลังของตนเองล้วนๆโดยไม่ต้องอาศัยรูน, อาวุธ หรือชุดเกราะสุดยอด ในฉากสงครามทัพหมาป่าขาวของลูก้ามีพลังโจมตี18พลังป้องกัน17 เหนือกว่าทัพอื่นๆทั้งหมด หากเราโจมตีสำเร็จ (ซึ่งโอกาสมีน้อยมากๆ) เขาจะหนีออกมาและระเบิดพลังโจมตีพวกเราในบริเวณนั้นทั้งหมด ฉากรุมกระทืบลูก้าเป็นฉากต่อสู้ที่น่าตื่นตามาก เราต้องจัดทัพคนที่เก่งที่สุดไปสามทัพเพื่อรุมลูก้าที่โดนธนูระดมยิงมา และไล่ต้อนไปจัดการมันที่หน้าผา แต่ถึงยังงั้นลูก้าก็ยังเก่งจนยากจะรับมืออยู่ดี โคนามิบอกว่าต้นแบบของลูก้าคือเซียงยี่ขุนพลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

ฉากการดวลตัวต่อตัว ลูก้ามีพลังเหลือน้อยเต็มทนแต่ก็สามารถฆ่าเราให้ตายได้ด้วยการโจมตีไม่กี่ครั้ง หลังจบการต่อสู้เขาจะถามเราว่าเราต่อสู้ไปเพื่ออะไร และริอูจะบอกว่าต้องการต่อสู้เพื่อยุติสงคราม “เหลวไหล สงครามอันศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าก่อขึ้นจะไม่มีวันจบสิ้นลงและพวกแกจะต้องต่อสู้ตลอดไป” ซึ่งสิ่งที่เขาพูดไว้ก็เป็นจริง โจวี่และริอูต้องสู้ต่อไปในฐานะคนที่แบกความหวังของประเทศไว้ อีกทั้งบีสต์รูนที่เขาทิ้งไว้ในรูรูนอยล์ยังคงมีพลังและกระหายวิญญาณอยู่ และเราต้องจัดการบีสต์รูนของลูก้าในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเกมส์นี้ด้วย

Jillia Blight
อายุ 16 ปี
บ้านเกิด เคียโร่
เจ้าหญิงของไฮแลนด์ลูกสาวของซาร่าที่เกิดจากเหตุการณ์กองโจรมิวส์ข่มขืนซาร่าแม่ของเธอ จิลเลียเกิดในเคียโร่ที่บ้านซึ่งฮันจัดไว้ให้ซาร่าได้พักผ่อนหลังเป็นบ้าไปและเสียชีวิตหลังคลอดจิลเลีย เธอเติบโตที่นั่นและวันหนึ่งได้พบกับพวกริอูและโจวี่ที่กำลังจะถูกนำตัวไปประหาร โจวี่บอกจิลเลียว่าประเทศนี้ทรยศพวกเขา ซึ่งเธอเชื่อแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ทั้งสองรอดจากการประหารมาได้และได้พบกับจิลเลียอีกครั้งขณะปลอมตัวเข้ามาสำรวจเสบียงของไฮแลนด์ จิลเลียช่วยให้ที่หลบซ่อนแก่ทั้งสองจนพ้นสายตาทหารมาได้ แต่หลังลาจิลเลียไม่นานโจวี่ก็ถูกจับตัวมาและถูกบังคับให้เข้าไปเป็นสปายในมิวส์ซึ่งเขาทำสำเร็จและยังตีกรีนฮิลแตก ลูก้าถูกใจโจวี่มากจึงจะให้รางวัลตามที่สัญญาไว้แต่โจวี่ขอแต่งงานกับจิลเลียเป็นรางวัลทำให้ลูก้าโมโหมากแต่ก็ต้องยอม ต่อมาอากาเรสและลูก้าเสียชีวิตโจวี่ได้แต่งงานกับจิลเลียและมีฐานะเป็นกษัตริย์ของไฮแลนด์ จิลเลียรู้ว่าโจวี่ใช้เธอเพื่อทำให้เขาได้ตำแหน่งมาเท่านั้นแต่ก็รักโจวี่จริง หลังพิลิก้าเข้ามาอยู่ในไฮแลนด์เธอได้ดูแลเด็กคนนี้เหมือนเป็นลูกสาว โจวี่ต่อสู้กับพวกของริอูตามคำสาปของรูนจนกระทั่งกองทัพดูนานตีรูรูนอยล์แตก เขารู้ว่าไม่มีทางชนะอีกแล้วก็ขอให้จิลเลียและพิลิก้าไปอยู่ที่บ้านที่เขาจัดไว้ให้ในฮาร์โมเนีย

ฉากแต่งงานของโจวี่และจิลเลีย จิลเลียเป็นสาวสวยในเคียโร่ที่ริอูและโจวี่แอบปีนกำแพงมาดูบ่อยๆตอนเด็กๆแต่ตอนนี้สิ่งที่โจวี่คิดไว้เหนืออื่นใดคือการยุติสงคราม ถึงในตอนแรกโจวี่เข้าใกล้จิลเลียเพื่อแผนการที่เขาวางไว้แต่จิลเลียดูเหมือนจะรักโจวี่ด้วยใจจริง หลังไฮแลนด์ใกล้ล่มสลายและโจวี่ขอให้จิลเลียไปอยู่ที่ฮาร์โมเนียเธอถามเขาว่าหากเธอตายโจวี่จะเสียใจไหม “มีชีวิตอยู่เถอะจิลเลีย” คำตอบของโจวี่ทำให้จิลเลียรู้ว่าเขาก็รักเธอมากเหมือนกัน

Pilika
อายุ 6 ปี
บ้านเกิด โทโท่
เด็กจากหมู่บ้านโทโท่ลูกสาวของมาร์กและโจแอนนาผู้มีหน้าที่ดูแลรูนโล่แห่งแสงและดาบแห่งความมืดซึ่งสองผู้กล้าฮันและเก็นคาคุนำมาผนึกไว้ในหมู่บ้านพิลิก้าได้พบกับโจวี่ที่กระโดดลงมาจากหน้าผาเพื่อหนีการตามล่าของพวกไฮแลนด์และถูกน้ำพัดมา เธอพาเขามาดูแลที่บ้านจนหายดี โจวี่ออกตามหาริอูที่แยกกันจากการโจมตีนั้นและได้มาพบกันที่ป้อมวิคเตอร์ โจวี่พาริอูเดินทางมาพบพิลิก้าที่โทโท่ เธอตั้งใจจะซื้อเครื่องรางให้เป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานพ่อแม่ เราจึงอาสาไปซื้อมาให้แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าโทโท่ถูกกองทัพของลูก้าเผาทำลายไปแล้ว พ่อแม่ช่วยพิลิก้าไว้จนถูกฆ่าตาย เราจึงนำเธอมาดูแล แต่การเห็นคนมากมายถูกฆ่าต่อหน้าโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กหกขวบ ป้อมวิคเตอร์ถูกเผาและพอลพ่อบ้านถูกฆ่าตายต่อหน้าทำให้พิลิก้าช็อคจนถึงกับพูดไม่ได้ หลังจากนั้นนานามิ ริอู และโจวี่ดูแลเธอมาเรื่อยจนมาพักอยู่ที่เมืองมิวส์ โจวี่ทรยศดูนานและออกจากพวกเราไป พวกเราได้ฐานทัพใหม่ที่นอร์ธวินด์ พิลิก้าอยู่กับเราขณะทำสงครามต่อเนื่องมาจนปราบลูก้าได้ ต่อมามีการเจรจาสงบศึกกับโจวี่กษัตริย์องค์ใหม่ของไฮแลนด์แต่ชูรู้ว่าเป็นกับดัก จึงสั่งให้วิคเตอร์พาพิลิก้าเข้าไปด้วยเพื่อเป็นตัวล่อ ซึ่งสิ่งที่ชูคิดไว้ก็เป็นจริง โจวี่นำทหารเข้ามาล้อมและบังคับให้เรายอมแพ้แต่วิคเตอร์ก็พาเราหนีออกมาและโจวี่ไม่กล้าให้ทหารโจมตีเราเพราะพิลิก้าอยู่ด้วย พิลิก้าได้พบโจวี่อีกครั้งและกลับมาพูดได้เหมือนเดิม ตั้งแต่นั้นมาพิลิก้าอยู่ในรูรูนอยล์กับโจวี่และจิลเลียภรรยาจนถึงศึกสุดท้ายโจวี่รู้ว่าไม่มีทางชนะจึงขอให้จิลเลียและพิลิก้าไปอยู่ในบ้านที่เขาเตรียมไว้ให้ที่ฮาร์โมเนีย พิลิก้าขอร้องให้อาโจวี่อุ้มเธอเหมือนที่พ่อเคยทำก่อนเดินทางไปกับจิลเลีย หลังสงครามสิ้นสุดด้วยข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์โจวี่ โจวี่ได้แวะมาดูพิลิก้าและจิลเลียและเห็นว่าทั้งสองคนมีความสุขดี เขาหมดห่วงจึงออกเดินทางกับริอูและนานามิ

ตอนหมู่บ้านถูกเผาพ่อแม่ปกป้องพิลิก้าจนตัวเองต้องตาย “พ่อกับแม่ไม่ขยับตัวเลย แล้วก็มีของเหลวสีแดงๆไหลออกมา หนูรู้ว่าพ่อแม่ตายแล้วแต่เหมือนกับที่พ่อเคยบอกนั่นแหละ วันนั้นแมวของหนูตาย พ่อบอกว่ามันไม่ได้จากไปไหน มันแค่ไปอยู่ในที่ๆไกลแสนไกลและจะเฝ้าดูหนูอยู่ต่อไป เพราะงั้นหนูจะไม่ร้องไห้หรอก”

หากมีตำแหน่งเด็กน้อยที่น่าสงสารที่สุดในซีรี่ยส์ พิลิก้าคงชนะได้อย่างไร้ข้อโต้แย้ง หลังสูญเสียครอบครัวก็ต้องเห็นสงครามและคนตายต่อหน้ามากมายถึงขนาดพูดไม่ได้ และโจวี่อาสุดที่รักก็หนีไปอยู่ข้างไฮแลนด์อีก สุดท้ายพิลิก้าถูกชูใช้เป็นตัวล่อซึ่งนานามิโมโหมากที่ใช้เด็กคนนี้แบบนั้น (แต่ชูก็ตอบว่าเห็นความปลอดภัยของเราสำคัญที่สุดและไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องคิดเรื่องนี้) แต่เพราะงั้นพิลิก้าจึงได้กลับมาอยู่กับโจวี่อีกครั้ง “หนูรอวันนี้มานานแค่ไหนแล้วรู้มั้ย...วันที่จะได้กลับมาหาอาโจวี่อีกครั้ง....” เพื่อบอกคำที่ต้องการบอกจากใจนี้ทำให้พิลิก้ากลับมาพูดได้อีกครั้ง

หลังผ่านเรื่องเลวร้ายมามากมายและไฮแลนด์ล่มสลายพิลิก้าได้มาอยู่ในฮาร์โมเนียกับจิลเลียอย่างสงบสุข

Culgan
อายุ 29 ปี
บ้านเกิด ไฮแลนด์
Seed
อายุ 26 ปี
บ้านเกิด ไฮแลนด์
(ขอบรรยายรวมเพราะแยกคู่นี้ไม่ออก) ซีดและคุลกันเป็นนักรบหัวแถวของไฮแลนด์ที่เก่งทั้งด้านเพลงดาบและการใช้รูน ซีดเป็นนักรบหนุ่มที่เด็ดขาดอารมณ์รุนแรงในขณะที่คุลกันสุขุมเยือกเย็น ทั้งสองคนเป็นทหารภายใต้บังคับบัญชาของโซลอนจีนายทัพกองทัพที่สองของไฮแลนด์จนกระทั่งโซลอนจีรบแพ้และถูกนำไปประหารอีกทั้งคิบะหัวหน้ากองทัพที่สามถูกไฮแลนด์ทอดทิ้งหลังลูก้าได้เลอ้อนและโจวี่มาทดแทน ทั้งสองคนก็ได้ตำแหน่งนายทัพแทนโดยคุลกันเป็นหัวหน้ากองทัพที่สองและซีดเป็นหัวหน้ากองทัพที่สาม ในภาคไกเด็นพวกเขาเคยสู้กับแนชสปายจากฮาร์โมเนีย แนชใช้กลอสเซอร์ฟลุซอาวุธสุดยอดและสามารถวางยาพิษซีดได้ แต่คุลกันก็เอาชนะและต่อรองขอยาแก้พิษจากแนช ก่อนจะเลิกรากันไปเพราะคุลกันต้องพาซีดไปรักษา ในฉากสงครามซีดนำกองทัพราบและคุลกันนำกองทัพธนู ทั้งสองทัพเป็นกองทัพที่เก่งรองจากลูก้า, ยูเบอร์ และฮันเลยทีเดียว ทั้งสองคนรู้ดีว่าลูก้าเป็นปีศาจฆาตกรที่จะสร้างแต่ความพินาศขึ้นมา พวกเขาเกิดในไฮแลนด์และรักไฮแลนด์ด้วยใจจริง อีกทั้งเชื่อว่าโจวี่คือผู้ที่จะนำความรุ่งเรืองมาสู่ไฮแลนด์ได้จึงสาบานว่าจะภักดีต่อโจวี่ หลังการตายของลูก้าโจวี่ได้เป็นกษัตริย์ของไฮแลนด์แต่สงครามก็ยังไม่สิ้นสุด คุลกันเดินทางมาพบเราเพื่อชวนไปเจรจาสงบศึก ซึ่งจริงๆแล้วเป็นกับดักที่ล่อเราไปบังคับให้ยอมแพ้แต่พวกของริอูก็หนีออกมาได้ ทั้งไฮแลนด์และโจวสตันยังคงสู้กันต่อไปจนพวกริอูตีรูรูนอยล์แตก ทั้งสองคนเป็นปราการด่านสุดท้ายก่อนถึงตัวกษัตริย์และสู้จนจบชีวิตในปราสาทรูรูนอยล์

ในภาคไกเด็นทั้งสองคนยังไม่ได้เป็นนายทัพ พวกเขาปล่อยหมาป่าสีทองมาไล่ล่าแนชสปายจากฮาร์โมเนียแต่แนชและเอลซ่าก็ร่วมมือกันจัดการได้ จากนั้นก็ได้พบกันและสู้กันอีกครั้ง แนชถึงกับต้องใช้กลอเซอร์ฟลุซอาวุธสุดยอดที่ทำให้บ้าคลั่งออกมาและสามารถเอาชนะซีดได้แต่ก็ถูกคุลกันไล่ต้อนจนมุมและต้องให้ยาถอนพิษ “จะชนะเรายังเร็วไปสิบปี ถึงจะเป็นตัวร้ายแต่พวกเราได้รับความนิยมสูงนะเว้ย” (ไม่ได้พูดงี้หรอก)

นักรบที่เกิดและตายเพื่อไฮแลนด์อย่างแท้จริง ทั้งสองคนรักประเทศของเขามากจึงเกลียดลูก้าที่พยายามสร้างความหายนะขึ้น แต่หลังลูก้าถูกกำจัดพวกเขาก็ยังต้องต่อสู้ต่อไปเหมือนกับเรา “พวกแกก็ดีแต่ทำลายทุกอย่างที่ชวางหน้าเพื่อเป้าหมายของตัวเองมันก็ไม่เห็นจะต่างจากลูก้าไบลท์ตรงไหน” “เหมือนที่ท่านเป็นความหวังของดูนานนั่นแหละ ท่านโจวี่เองก็เป็นความหวังของพวกเรา” การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ยากนัก (6 รุม 2 - -“) หลังจัดการทั้งสองคนไปแล้ว เราจะต้องมุ่งหน้าไปหาโจวี่ต่อ ซีดและคุลกันพอใจที่อย่างน้อยก็ได้สู้และตายเพื่อแผ่นดินนี้ แล้วทั้งสองคนก็จบชีวิตลง (ชะตากรรมฝั่งตรงข้ามก็งี้ ถึงจะเป็นศัตรูแต่พวกนี้นิสัยดีกว่าคนที่เราเอามาเป็นเพื่อนหลายๆคนซะอีก)

Anabelle
อายุ 34 ปี
บ้านเกิด มิวส์
ลูกสาวของดาเรลที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองมิวส์ต่อจากพ่อของเธอ ในตอนที่อนาเบลเป็นรองเจ้าเมืองนั้นเธอได้พบกับวิคเตอร์หลังนอร์ธวินด์ถูกทำลาย และช่วยเจรจาไม่ให้เกิดสงครามที่เกิดจากพ่อค้าอาวุธคนหนึ่งใส่ความทูริเวอร์ว่าเป็นคนทำลายนอร์ธวินด์ หลังจากนั้นวิคเตอร์เข้ามาทำงานทหารในเมืองมิวส์ก่อนเดินทางไปยังโทรันและกลับมามิวส์อีกครั้ง หลังดาเรลเสียชีวิตอนาเบลดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของพันธมิตรโจวสตันต่อสู้กับไฮแลนด์แต่ความไม่สามัคคีของเหล่าผู้นำแคว้นต่างๆทำให้โจวสตันเพลี่ยงพล้ำในการต่อสู้ จนกระทั่งโจวี่ลอบเข้ามาสังหารอนาเบลตามการบงการของลูก้าไบลท์ มิวส์ก็ตกเป็นของไฮแลนด์ในที่สุด

Han Cunningham
อายุ 65 ปี
บ้านเกิด ไม่ทราบ
วีรบุรุษสงครามเมื่อ 30 ปีก่อน สมัยโจวสตันทำสงครามกับไฮแลนด์ เขานำกองทัพที่หนึ่งบุกโจวสตันใต้คำสั่งของโรเบิร์ตไบลท์กษัตริย์ไฮแลนด์ในตอนนั้น ฮานสามารถตีมิวส์, มาธิลด้า และกรีนฮิลได้สำเร็จ ดาเรลผู้ปกครองมิวส์หนีมาหลบภัยในเซาท์วินด์ในขณะที่เก็นคาคุได้รวบรวมผู้คนของมิวส์ที่เหลืออยู่ต่อต้านและชิงเมืองทั้งสองคืนมาได้ ฮานถือครองรูนดาบแห่งความมืด ในขณะที่เก็นคาคุครองรูนโล่แห่งแสง ทั้งสองต่างเป็นจอมทัพที่เข้มแข็งทำให้สงครามไม่ยุติลงง่ายๆ ระหว่างเคลื่อนทัพวันหนึ่งทั้งสองได้พบกันกลางป่ากรีนฮิลและพบว่าพวกเขามาจากหมู่บ้านเดียวกันและรู้จักกันมาก่อน บางวันจึงแอบมาดื่มกันระหว่างค่ายทหาร หลังโรเบิร์ตไบลท์เสียชีวิต อากาเรสขึ้นครองราชย์และไม่ต้องการทำสงครามจึงเจรจาสงบศึก แต่ดาเรลไม่ยอมยกเคียโร่ให้แก่ไฮแลนด์โดยอ้างว่าเมืองนี้ควรเป็นของโจวสตัน อากาเรสจึงเสนอให้ผู้กล้าของทั้งสองฝ่ายมาประลองตัดสินกัน เก็นคาคุรู้ว่าดาเรลแอบทายาพิษที่ดาบเขาเพื่อฆ่าฮานทำให้เก็นคาคุไม่ยอมต่อสู้และตกเป็นฝ่ายแพ้ เมืองเคียโร่จึงเป็นของไฮแลนด์ในที่สุด จากวีรบุรุษกลายเป็นคนทรยศ เก็นคาคุถูกถอดยศทั้งหมดและไปใช้ชีวิตอย่างสามัญชนในเคียโร่ หลังสงครามสิ้นสุดลงฮานและเก็นคาคุผนึกรูนทั้งสองลงในแผ่นหินที่โทโท่ เก็นคาคุได้เลี้ยงดูริอูและนานามิเด็กกำพร้าที่ได้กลายเป็นผู้กล้านำทัพชนะสงครามดูนานในอีก 30 ปีต่อมา หลังจากนั้นแม้ดาเรลจะยอมสารภาพเรื่องที่เขาทายาพิษและชื่อเสียงของเก็นคาคุกลับคืนมาแล้วเขาก็ไม่คิดจะกลับไปยังโจวสตันอีกเพราะต้องการอยู่ดูแลเด็กทั้งสองมากกว่า ทางด้านฮานยังคงรับตำแหน่งในกองทัพไฮแลนด์จนกระทั่งสงครามดูนานอุบัติขึ้น ฮานนำกองทัพออกมาปกป้องรูรูนอยล์แต่ก็ถูกตีแตก เขาเผชิญหน้าริอูบุตรบุญธรรมของเก็นคาคุและตั้งใจจะต่อสู้เพื่อสานต่อการต่อสู้ของเขาและเก็นคาคุเมื่อ 30 ปีก่อน ในการดวลตัวต่อตัวฮานเป็นฝ่ายแพ้และจบชีวิตลง

ฮานนำทัพหลักต้านการบุกลูรูนอยล์ของกองทัพเรา ก่อนเราจะสามารถตีเข้าเมืองได้ เขาเผชิญหน้ากับริอูในปราสาทลูรูนอยล์ เป็นการสู้กับบุตรชายเก็นคาคุอีกทั้งเป็นผู้สืบทอดโล่แห่งแสงมาเช่นเดียวกัน ดูเหมือนเขาเองก็ภูมิใจในตัวเราไม่น้อย สุดท้ายฮานก็เสียชีวิตตามเก็นคาคุไป (เก็นคาคุเสียชีวิตสองปีก่อนสงครามดูนาน)