จุดสำคัญและหัวใจการดูพระสมเด็จวัดระฆังคืออะไร
มาถึงหัวข้อนี้ ผู้เขียนอยากให้ทุกท่านได้จดจำจุดสำคัญและหัวใจการดูพระสมเด็จวัดระฆัง อันเป็นข้อวินิจฉัยชี้ขาดพระสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งจะต้องมีลักษณะสำคัญครบทั้ง 5 อย่าง ดังต่อไปนี้ 1. เนื้องอก เนื้องอก เกิดจากการผสมมวลสาร (ผงวิเศษ) ในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังชนิดเดียวกับผสมในเนื้อพระวัดพลับ เมื่อเนื้อพระเก่าถึงยุค ทำให้เกิดการงอกผุดขึ้นบนผิวเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง เช่นเดียวกับพระวัดพลับซึ่งสร้างในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ลักษณะการงอก เป็นเม็ดกลมใสเล็กๆ มีสีตามเนื้อพระ ปรากฎขึ้นด้านหน้าและด้านหลังพระสมเด็จวัดระฆังทุกองค์ การพิสูจน์เนื้องอก โดยใช้แว่นส่องพระขยายกำลังสูง ส่องดูด้านหน้าตามเส้นซุ้ม ฐานพระ องค์พระ ผิวพระ และดูพื้นผิวด้านหลัง จะเห็นเนื้องอกผุดขึ้น หากนำพระไปถ่ายรูปขยายเป็นภาพใหญ่ จะเห็นเนื้องอกชัดเจน หรือสามารถตรวจสอบจากภาพพระสมเด็จวัดระฆังขยายใหญ่ในหนังสือพระเบญจภาคีและนิตยสารพระเครื่อง องค์ที่เป็นพระแท้จะเห็นเนื้องอก บางองค์เนื้อแน่นทึบ เนื้อเนียนเรียบไม่มีริ้วรอยใดๆ เนื้อไม่เก่าจริงจะไม่พบการเกิดเนื้องอก ซึ่งการเกิดเนื้องอกเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังที่มีอายุเก่าร้อยกว่าปีเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ "เชื่อหรือไม่ว่า พระสมเด็จวัดระฆังมี “เนื้องอก” และ “เม็ดพระธาตุงอก” จริง"
รูปที่ 1-มีเนื้องอกข้างเส้นซุ้มและพื้นพระสมเด็จวัดระฆัง รูปที่ 2-ลักษณะเนื้องอกของพระวัดพลับ (รูปจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
2. การหดตัวของเนื้อพระและมวลสาร เป็นธรรมชาติวิทยาศาสตรของพระสมเด็จวัดระฆัง เนื้อเก่าถึงยุค การหดตัวให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ขึ้นบนเนื้อพระ และทำให้มวลสารได้แก่ เม็ดพระธาตุ เม็ดผงพุทธคุณ เม็ดเกสรดอกไม้และดอกไม้มงคลแห้งบดละเอียด เม็ดข้าวสุกและเม็ดข้าวสุกหัก สีขาวสีขาวอ่อน หดตัวแยกออกจากเนื้อพระ และมีมวลสารบางชนิดเช่น เม็ดดำ เม็ดแดง แร่หิน อยู่ในรอยแยกของเนื้อพระที่หดตัว ลักษณะการหดตัว มวลสารจะฝังตัวอยู่ในโพรงเล็กๆ ในรอยแยกของเนื้อพระที่หดตัว จะปรากฎให้เห็นทุกองค์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ "เจาะลึกมวลสารพระสมเด็จวัดระฆัง","ดูชัดๆ ส่วนผสมและมวลสารที่มองเห็นได้ในพระสมเด็จวัดระฆัง"
3. คราบฝ้าและคราบไคล เกิดจากการทำปฎิกิริยาทางเคมีอย่างช้าๆ เป็นเวลานานร้อยกว่าปี น้ำปูนจะถูกขับออกจากเนื้อพระปกคลุมผิวพระจนเป็นมันวาว มีทั้งคราบฝ้าหนาและคราบบาง มีสีต่างๆ ที่พบเห็นส่วนมากจะเป็นคราบฝ้าสีขาว และสีขาวขุ่น นอกจากจะเกิดฝ้าแล้ว ยังมีคราบไคลสีแดง สีส้ม สีน้ำตาล จากน้ำมันตังอิ๊ว คราบราดำ คราบรักน้ำเกลี้ยงเนื้อจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม คราบน้ำหมากจะเป็นสีแดง รวมทั้งสีของเนื้อพระเกิดจากมวลสารที่ผสมอยู่ เช่น เนื้อขนุนสุก เนื้อกล้วยสุก เนื้อพระจะเป็นสีเหลือง เนื้อแก่ปูนหรือข้าวสุกเนื้อจะเป็นสีขาว ลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับพระสมเด็จวัดระฆังทุกองค์
คราบฝ้าสีขาว
คราบไคลสีแดง สีส้ม สีน้ำตาล (สังเกตให้ดีจะเห็นเนื้องอกผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก) 4. พุทธลักษณะงดงามต้องตา เป็นจินตนาการของช่างหลวงในการทำแม่พิมพ์ ทำให้พระสมเด็จวัดระฆังมีรูปทรง สันฐาน อ่อนช้อย งดงามได้สัดส่วน เช่น เส้นซุ้ม(แบบหวายผ่าซีกและเส้นขนมจีน) จะนูนสูง กลมกลึงเหมือนลำเทียนโค้งมนสวย องค์พระสง่างาม มีใบหน้า ลำตัว หน้าอก ไหล่ ลำแขน หัวเข่า นูนสูง กลมกลึงได้สัดส่วนสวยงาม ปลายเส้นผม(เกศ) จะแหลมคมพริ้ว ฐานทั้ง 3 นูนสูงเสมอองค์พระ ฐานชั้นบนและชั้นกลางบางพิมพ์เรียวคม บางพิมพ์กลมกลึง ฐานชั้นล่างจะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมทึบตัน ปลายตัดเฉียงทั้งสองข้าง โดยมีความเก่าของเนื้อพระและธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ เสริมแต่งให้มีพุทธลักษณะโดดเด่นแวววาว อ่อนช้อย นุ่มนวล มีเสน่ห์งดงามต้องตา อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ "มิติของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพิมพ์ใหญ่ 5.จุดและรูพรุนปลายเข็ม
คือ 1.เม็ดดำ (เศษเม็ดถ่านเตาเผาเปลือกหอยทะเล) 2.เม็ดแดง (เศษเม็ดอิฐแดงเตาเผาที่หลุดรอดออกจากรูตะแกรงปนออกมาพร้อมปูนขาว) 3.เม็ดสีน้ำตาลแก่และอ่อน (เป็นเม็ดเกสรดอกไม้และดอกไม้มงคลแห้งนานาชนิด บดละเอียดผสมใส่ลงในเนื้อพระ และหดตัวอยู่ภายในรูพรุนรวมทั้งหลุดร่อนออกไปกลายเป็นรูพรุนปลายเข็ม) จะปรากฎให้เห็นอย่างหนาตาในพระสมเด็จวัดระฆังทุกองค์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ "จุดและรูพรุนปลายเข็มในพระสมเด็จวัดระฆัง"
นอกจากปรากฎการณ์ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ ครบทั้ง 5 อย่าง ที่เกิดขึ้นกับพระสมเด็จวัดระฆังทุกองค์แล้ว ยังมีร่องรอยบางอย่างจาการกระทำปรากฎเพิ่มเติมขึ้น ได้แก่ รอยกระดาน รอยกาบหมาก รอยปริแยก เศษก้านธูปหักหรือป่น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมอยู่ด้วย จะเป็นจุดสำคัญและหัวใจการดูพระสมเด็จวัดระฆัง และเป็นดัชนีชี้วัด “พระสมเด็จวัดระฆังแท้” - รอยกระดานและรอยกาบหมาก เกิดจากการกดและปาดเนื้อบนพิมพ์ด้านหลังพระสมเด็จวัดระฆังด้วยชิ้นไม้หรือแผ่นไม้ ทำให้เกิดรอยกระดาน และรอยกาบหมากขึ้น สำหรับรอยกาบหมากจะเป็นรอยลึกคมพลิ้วจากแรงกด รอยดังกล่าวมิใช่การหดหรือยุบย่นของเนื้อพระ แต่เกิดจากการกดและการปาด จะพบเห็นน้อยองค์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ "ด้านหลังพระสมเด็จวัดระฆัง"
รอยกาบหมาก
รอยกระดาน- รอยปริแยก เกิดจากการตัดขอบพระสมเด็จวัดระฆัง ด้วยเส้นตอกไม้ไผ่ที่ใช้จักสาน โดยตัดจากด้านหลังไปด้านหน้า จึงเกิดร่องรอยการตัดด้านข้างองค์พระ 4 ด้าน และมีรอยปริแตกขององค์พระด้านหลัง ที่ลู่ไปตามรอยตอก ตามรอยบากเป็นร่องไว้ สำหรับนำร่องการตัดด้วยตอก บนแผ่นแม่พิมพ์ทำด้วยหินชนวน เมื่อเนื้อพระมีอายุร้อยกว่าปี เกิดการหดตัวของเนื้อพระ ทำให้เกิดการแยกตัว ของรอยปริแยกเพิ่มขึ้น เป็นรอยอ้าตามขอบหลังพระ จะพบเห็นน้อยองค์
รอยปริแยก- เศษก้านธูป เกิดจากการตัดหรือป่นก้านธูปบูชาพระ นำมาผสมกับเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง จะมองเห็นเศษไม้หรือเสี้ยนไม้ จากการตัดป็นเศษก้านธูปเล็กๆ หรือจับตัวเป็นก้อนจากการป่นอยู่ในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งค่อนข้างหายาก พบเห็นน้อยองค์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ "เศษก้านธูปในพระสมเด็จวัดระฆัง"
Create Date : 15 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 17 มกราคม 2564 17:15:11 น. |
|
32 comments
|
Counter : 53231 Pageviews. |
|
|
|
ซึ่งมีคุณค่าอย่างใหญ่หลวงต่อคนในวงการพระเครื่องอย่างแท้จริงครับ