Group Blog
I'm an English teacher, aren't I
Online Classroom
เรื่อยๆ ไหลไปตามอารมณ์
All Blogs
GTO แบบผสมโซดา
ชีวิตผกผัน......กรูมาเปงครูได้ไงฟระเนี่ย???????(1)
ชีวิตผกผัน......กรูมาเปงครูได้ไงฟระเนี่ย???????(1)
ตอนเป็นเด็ก ผมเคยโดนถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ทหาร ตำรวจ หมอ???????
ไม่รู้ว่าแก่แดดเกินไปหรือป่าว แต่จำได้ว่าตอบไปว่า เป็นอะไรก้อได้คับที่มีตังค์เยอะๆ (แววงกออกตั้งแต่เด็กเลยกรู - -")
อันนี้ชัวร์แน่นอน เป็นครู(ที่ดี) อะไม่รวยแน่นอน ดังนั้นไอ้อาชีพนี้ไม่ใช่อาชีพในฝันของผมนี่หว่า แต่เอ๋...??? แล้วทำไมตอนนี้ถึงมือเปื้อนหมึกไวท์บอร์ดทุกวันละ....................
ผมเป็นคนที่เรียนดีมาตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้ยังเป็นเด็กที่รักการอ่าน เรียกว่าอ่านแหลกตั้งแต่หนังสือพิมพ์ การ์ตูน นิยายไทย จีน เรื่องแปล สารคดี ซึ่งนิสัยรักการอ่านนี่เองทำให้ผมรู้อะไรมากกว่าเด็กในรุ่นราวคราวเดียว และกลายเป็นเด็กที่แหกกฎเกณฑ์คำว่า "เด็กดี" ของบรรดาครูอาจารย์ไปโดยอัตโนมัติ
ผมไม่เคยไปซื้อของให้ครู ไม่เคยช่วยครูถือหนังสือ ไม่เคยไปช่วยครูทำความสะอาดบ้าน ไม่เคยเรียนพิเศษ ไม่เคย...ประจบครู
แต่ผมเคยเถียงครูกลางห้องหากครูสอนผิด หรือให้ข้อมูลผิดๆ กับเด็ก เคยต่อว่าครูที่ยืมหนังสือไปแล้วส่งกลับคืนในสภาพที่เหมือนกับเพิ่งถูกหมาฟัดมา เคยปฏิเสธที่จะเป็นตัวแทนไปทำโน่นทำนี่ (ที่ผมเห็นว่าไร้สาระ) ให้กับโรงเรียน และ เคยขู่ครูว่า หากผมไม่ได้เกรด 3 ขึ้นไปใน วิชาของครูละก็ ผมจะทำเรื่องถึงผู้อำนวยการหรือผู้ที่มีอำนาจมากกว่านั้น ขอข้อสอบมาแฉเลยทีเดียว (ทำไม 3 นะเหรอครับ เพราะคะแนนจิตพิสัย 20 คะแนนคงหมดไปตั้งแต่วันแรกของเทอมแล้วละครับ)
ไอ้การเป็นเด็กแบบนี้นี่ ถ้ามองในสายตาผู้ใหญ่ คงพูดได้สั้นๆ ง่ายๆ ว่า ไอ้เด็กเปรต ไม่มีสัมมาคารวะ แต่สำหรับผมแล้ว นึกย้อนกลับไปก็ยังคิดว่าตัวเองทำถูกอยู่เสมอแหละ และในทุกวันนี้ผมก็ยังสอนให้นักเรียนของผมกล้าที่จะทำแบบผม แม้ว่าจะทำกับผมก็ตาม หากคุณ "มีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น"
แรงบันดาลใจนะเหรอครับ......อืม อาจจะเป็นคำพูดที่ว่า "หากนักเรียนของเราจบไปเป็นคนกวาดถนน เขาก็จะเป็นคนกวาดถนนที่มีความสุข" อันนี้คนพูดเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนซัมเมอร์ ฮิลลส์ ต้นตำรับ child centre ที่บ้านเราเอามายำจนเละไปหมดแล้ว
ไม่ต้องเรียนพิเศษ ผมก็สามารถเอนทรานซ์เข้าคณะที่ผมเลือกเป็นอันดับหนึ่งได้สบายๆ แต่จะว่าไปจริงๆ ผมก็ไม่ได้ชอบคณะที่ผมเลือกนัก (คือตอนนั้นเลือกเพราะคะแนนมันสูง) พอเรียนจบก็ทำงานในสาขาวิชาที่เรียนมา ซึ่งปรากฎว่า.....เละครับ ไม่มีใจรักงานที่ทำ กลายเป็นคนเฉื่อยแฉะ แม้เจ้านายจะใจดีให้ผ่านโปร แต่ตัวผมเองรู้ตัวดีว่า เราไม่เหมาะสมกับงานนั้น บริษัทควรได้คนที่ดีกว่า I QUIT!!!!!
ไปเรียนต่อเมืองนอกดีกว่า อิอิ
ครับ เรียนไม่จบครับ.....T_T
ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดายอะครับ แต่ก็ยังถือว่าได้กำไรเป็นประสบการณ์ชีวิต (ปลอบใจตัวเอง) และที่ได้แบบฟลุ้คๆ ก็คือภาษาครับ จากที่รู้แบบกระจัดกระจายมันเริ่มเป็นหมวดหมู่มากขึ้นและสามารถหยิบมาใช้ได้ดังต้องการ โดยไม่รู้ตัวเลย
กลับมาเมืองไทย หางานทำ ก็หาไม่ยากเพราะเราผ่านเมืองนอกมาแล้ว (แม้จะไม่จบก็ตาม...อูยตอกย้ำตัวเองเข้าไป) ได้งานเกี่ยวกับการวิจัยตลาด เขียนรายงานเป็นภาษาอังกฤษทุกวัน พูดภาษาอังกฤษเกือบทั้งวัน 555 อย่าดูถูกนะครับ บริษัทคนไทยเรานี่แหละ แต่ทุกอย่างมัน inter หมด อยู่ในลิฟต์ก็คุยภาษาอังกฤษกันจนพนักงานบริษัทอื่นที่อยู่ตึกเดียวกันเขม่น ทำปากหมุบหมิบทุกครั้งที่ไอ้อีพนักงานบริษัทนี้มันแสลนหน้ามาอยู่ในลิฟต์เดียวกัน
ทำงานไปด้วย เรียนปริญญาโทไปด้วย อืม ปรากฎว่าจบแฮะ อนาคตดูเหมือนจะสดใส แต่........
นิสัยของผมนี่แหละ ทำให้ต้องลาออกจากบริษัทในขณะที่กำลังรุ่งสุดๆ คือดันไปทำตัวกร่างเกินเหตุ ทุบโต๊ะเถียงเจ้านายเป็นประจำ เบี้ยวงานหากเห็นว่าโดนบริษัทเอาเปรียบ เจ้านายก็แสนจะดี อุตส่าห์ทนนิสัยแย่ๆ ได้ตั้งเป็นปี จนสุดท้ายมาขอให้เราปรับตัวให้ดีขึ้น แต่.........อวดดีครับท่าน ขอลาออก I QUIT!!!!!!
สมน้ำหน้าตัวเอง ไม่น่าเลยกรู มาย้อนนึกถึงอดีตตอนนี้ โอ เรานี่มันแย่สุดๆ เลย สามปีหลังจากลาออก (คือเมื่อเป็นครูแล้วนะแหละ) ถึงจะโทรไปขอโทษเจ้านายเก่าถึงสิ่งที่เราเคยทำกับท่าน รู้สึกตัวช้าไปงะ
เมื่อยื่นไปลาออกแล้ว ผมก็กลับมาอยูบ้านกับพ่อแม่ ถือว่าลาพักร้อนแล้วกัน กลับกรุงเทพฯเมื่อไหร่ก็หางานได้อยู่แล้ว แต่ดวงอะครับ....
ถ้าวันนั้นร้านเน็ตประจำที่ผมใช้ไม่ปิด ผมคงไม่มีโอกาสไปใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่สถาบันภาษาที่ผมทำงานอยู่ และคงไม่เจอรุ่นพี่คณะ ที่มาเยี่ยมพี่ชายซึ่งเป็นผู้จัดการสถาบันนั้น และคงไม่ถูกชวนให้มาสอนภาษาอังกฤษที่นั่น
จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ 6 ปีแล้วครับที่ผมทำงานให้กับสถาบันแห่งนี้ อ่า....สถาบันไหนนะเหรอครับ ขอ off the record ไว้แล้วกัน กลัวโดนฟ้องอะ.....กัวๆๆๆๆๆ
Create Date : 11 พฤษภาคม 2548
Last Update : 11 พฤษภาคม 2548 1:55:11 น.
6 comments
Counter : 339 Pageviews.
Share
Tweet
เป็นครูเหมือนกันครับ
แบบไม่คาดคิดเหมือนกัน
โดย:
Prof.Sirius
วันที่: 11 พฤษภาคม 2548 เวลา:5:39:49 น.
เรียนสายครู
แต่...ตั้งใจอย่างแน่วแน่ในวันที่ฝึกสอน
ว่า...จะไม่เป็นครู
เพราะเวรกรรม...มันตามทันยังไงก็ไม่รู้
โดย:
Big Spender
วันที่: 11 พฤษภาคม 2548 เวลา:6:45:16 น.
แล้วก้อหาทางสว่าง เอ๊ยทางที่ชอบเจอ
ดีใจด้วยฮะ
ผมก้อได้ไปเป็นครูช่วงหนึ่งฮะ มะชอบเลย เพราะผมสอนใครไม่ได้มั๊ง และผมไม่มีใจรักด้วยละมัง ทะเลาะกะหัวหน้าภาค ยันคณบดีเรลยงะ แล้วก้อเลย I QUIT
โดย:
err_or
วันที่: 11 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:15:57 น.
โดย: .. IP: 202.139.223.18 วันที่: 2 มกราคม 2549 เวลา:0:13:20 น.
สุดยอด.........
นิสัยตรงข้ามกะเราโดยสิ้นเชิง
แต่อยากเป็นแบบนั้นมั่งจัง.......... จริงๆนะ
โดย: ว้า.จอมแก่น IP: 203.156.190.141 วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:11:15:59 น.
จะติดต่อได้ยังไงค่ะ ต้องการทราบว่ารับแปลงานสารคดีมั้ย
โดย: sasithorn Pungsilpa IP: 124.120.20.95 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:18:27 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
senseibob
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Lionia
White Weenie
Webmaster - BlogGang
[Add senseibob's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
แบบไม่คาดคิดเหมือนกัน