การอัพโหลดภาพขึ้นไปบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพส่วนใหญ่จะเจอข้อจำกัด อยู่สองอย่าง คือการจำกัดขนาดของภาพและการจำกัดขนาดของไฟล์ ในบทความนี้จะแนะนำวิธีการย่อขนาดของภาพ และขนาดของไฟล์ลงให้พอดีตามที่แต่ละเว็บไซต์กำหนดด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเพื่อความไม่สับสน ผมขออนุญาตอธิบายคำจำกัดความของขนาดภาพและขนาดไฟล์ก่อน เพราะเดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่ขนาดของภาพ หมายถึงจำนวน Pixel ของภาพทั้งแนวตั้งและแนวนอน เช่น ภาพขนาด 1600x1200 pixelขนาดของไฟล์ หมายถึง เนื้อที่บนฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ เมื่อนำภาพเซฟลงเป็นไฟล์ เช่น 50KB เป็นต้น ผมขอสมมุติตัวอย่างขึ้นมาซักอันนะครับ ว่า เรามีไฟล์ที่ถ่ายมาจากกล้องดิจิตอลขนาด 1600x1200 pixel แต่เว็บไซต์ A อนุญาตให้เราสามารถอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปโชว์ผลงาน โดยมีเงื่อนไขว่าขนาดของไฟล์จะต้องไม่เกิน 50K และขนาดของภาพสูงสุดด้านใดด้านหนึ่งจะต้องไม่มากกว่า 450pixelนี่คือภาพตัวอย่างของเราครับ ให้เปิดไฟล์นี้ด้วยโปรแกรม Photoshop แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เลยครับเมื่อเปิดไฟล์ต้นฉบับของเราใน Photoshop เรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่เมนู Save For Web ตามขั้นตอนที่ลูกศรหมายเลข 1 และ 2 ชี้อยู่เราจะได้ Window ใหม่ตามภาพประกอบ ซึ่งผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังที่มีตัวเลขสีน้ำเงินกำกับอยู่ในภาพ โดยผมขอพูดถึงในส่วนที่ 2 ก่อน โดยในบริเวณนี้จะเป็นบริเวณที่เอาไว้กำหนดค่าที่จะมีผลให้ขนาดของไฟล์ เปลี่ยนไป นั้นคือขนาดของภาพ และคุณภาพของภาพ เพราะค่าสองตัวนี้มีผลโดยตรงกับขนาดของไฟล์ครับ สำหรับส่วนที่ 1 นั้นจะแบ่งออกเป็นรูปสองรูปดังที่เห็นในภาพ โดยรูปทางด้านซ้ายมือจะเป็นต้นฉบับ ส่วนรูปทางด้านขวามือจะเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการเปลี่ยนค่าต่างๆ ที่อยู่ในส่วนที่ 2 ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นเริ่มแรกเลย เราจะมาเปลี่ยนขนาดของภาพให้ได้ตามที่ต้องการเสียก่อน ซึ่งในข้อสมมุติที่เรายกตัวอย่างไว้ข้างบนระบุว่าขนาดของภาพด้านใด ด้านหนึ่งจะต้องไม่เกิน 450 Pixels ให้คลิ๊กตามลูกศรหมายเลข 3 และใส่ขนาดของภาพลงในช่องที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 4 (เนื่องจากภาพที่นำมาเป็นตัวอย่างเป็นภาพแนวนอน ดังนั้นค่า 450 เราจะใส่ในช่อง Width แต่ถ้าเป็นภาพแนวตั้ง เราจะต้องป้อนลงในช่อง Height) จากนั้นตามด้วย Apply ที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 5หมายเหตุ การ ใส่ค่าตัวเลขขนาดของภาพนั้นใส่เพียงข้างใดข้างหนึ่งก็เพียงพอ เพราะเมื่อเราใส่ตัวเลขลงไปในด้านใดด้านหนึ่งแล้ว Photoshop จะทำการคำนวณค่าของอีกด้านหนึ่งให้ได้สัดส่วนเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเรากำหนดขนาดของภาพเสร็จแล้ว เราจะไปกำหนดคุณภาพของภาพให้ได้พอดีกับขนาดไฟล์ โดยคลิ๊กตามลูกศรหมายเลข 6 และ 7ป้อนขนาดของไฟล์ที่ต้องการในช่องที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 8 (ในกรณีสมมุติของเราคือ 50KB) ตามด้วย "OK" ที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 9คลิ๊กตามลูกศรหมายเลข 10 เพื่อ Saveเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุดเพียงขั้นตอนที่กล่าวไปข้างบนทั้งหมดก็เพียงพอที่จะบรรลุถึงจุดหมายของการลด ขนาดภาพและขนาดไฟล์ให้ได้ตามต้องการแล้ว แต่สำหรับท่านผู้อ่านท่านใดที่อยากจะให้ภาพออกมามีคุณภาพที่ดีที่สุด โดยใช้ขนาดไฟล์น้อยที่สุดแล้ว เนื้อหาต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุดครับโดยเครื่องมือที่เราจะใช้ตรวจวัดคุณภาพ มีอยู่ 3 ตัวด้วยกันครับ ตามที่ลูกศรสีน้ำเงินทั้งสามชี้อยู่ในภาพประกอบตัวแรก คือกลุ่มเครื่องมือที่ชี้โดยลูกศรหมายเลข 1 ซึ่งเครื่องมือที่ต้องใช้มีสองตัวดังนี้เอาไว้ขยายภาพ หรือย่อภาพ เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของภาพต้นฉบับที่อยู่ทางด้านซ้าย และตัวอย่างผลลัพธ์ของภาพที่ถูกเปลี่ยนแปลงคุณภาพไปแล้วซึ่งเป็นภาพทางขวา วิธีใช้เครื่องมือตัวนี้คือการคลิ๊กไปที่ภาพเพื่อซูมภาพให้ใหญ่ขึ้น (Zoom in) หรือกดปุ่ม Alt แล้วคลิ๊กไปที่ภาพ เพื่อถอยการซูมภาพออกมา (Zoom Out) ถ้าไม่เข้าใจว่า Zoom in หรือ Zoom Out เป็นยังไง แนะนำให้ลองเล่นดูครับกรณีที่เราซูมเข้าไปในรายละเอียด ภาพอาจจะใหญ่จนไม่สามารถแสดงภาพได้หมด ภาพจะถูกนำมาแสดงเฉพาะบางส่วน เราจะใช้เครื่องมือตัวนี้เลื่อนไปยังส่วนต่างๆ ที่ต้องการดูรายละเอียด วิธีใช้เครื่องมือตัวนี้ให้เลื่อน Pointer ของ Mouse ไปที่ภาพ จากนั้นให้กดปุ่มของเม้าส์ค้างไว้ แล้วทำการเลื่อนเม้าส์ ภาพบนจอจะเลื่อนไปมาในทิศทางเดียวกัน เมื่อได้ตำแหน่งที่ต้องการแล้วให้ปล่อยการกดปุ่มเม้าส์ตัวที่สองคือระดับของคุณภาพของภาพ ถ้าตัวเลขตรงนี้ยิ่งสูงคุณภาพความคมชัดของภาพก็จะมียิ่งมาก แต่ขนาดของไฟล์ก็จะใหญ่ตามขึ้นไปด้วย (ตัวเลขคุณภาพสูงเกินไปก็เปลืองโดยเปล่าครับ อย่างคุณภาพระดับที่ 85 กับ 100 นี่ดูแทบไม่เห็นความแตกต่างกันแล้วครับ) ตัวเลขตรงนี้ผมแนะนำว่าระดับปานกลางจะอยู่ที่ 60-65, ระดับค่อนข้างดีจะอยู่ที่ 70-75 ในขณะที่คุณภาพดีมากอยู่ที่ 85 และค่าตรงนี้ไม่ควรต่ำกว่า 60 ครับ ไม่งั้นภาพที่ออกมาจะเริ่มดูแย่แล้ว ดังนั้น หลังจากทำตามขั้นตอนข้างบนมาทั้งหมดแล้ว หากพบว่าค่าตรงนี้เป็นตัวเลขที่มีค่าสูงเกินไปอาจจะปรับลดลง เพื่อให้ได้ขนาดของไฟล์ที่เล็กลงไปอีก หรือในขณะเดียวกันถ้าพบว่าค่าตรงนี้ต่ำเกินไป เช่นอาจจะต่ำกว่า 60 ผมแนะนำว่าควรจะเพิ่มค่าตรงนี้ให้สูงขึ้น และหากว่าการเพิ่มค่าตรงนี้ให้สูงขึ้นทำให้ขนาดของไฟล์ใหญ่เกินไป ผมแนะนำให้ย่อขนาดของภาพให้เล็กลง (ขั้นตอนลำดับที่ D.)ตัวที่สาม หรือตัวสุดท้ายที่จะแนะนำคือตัวบอกขนาดของไฟล์ผลลัพธ์ที่จะถูกเซฟ ทั้งนี้ควรดูค่านี้ให้ดีครับ เพราะหากเราปรับแต่งคุณภาพของภาพเอง ด้วยเครื่องมือตัวที่สองที่กล่าวไป จะมีผลโดยตรงกับขนาดของไฟล์ ซึ่งอาจจะทำให้ขนาดของไฟล์ใหญ่กว่ากำหนดได้ ยังไงเมื่อลองปรับค่าต่างๆ ดูแล้ว ไม่ว่าจะขนาดภาพ หรือคุณภาพของภาพก็อย่าลืมตรวจสอบขนาดของไฟล์ตรงนี้ด้วยนะครับวิธีการทั้งหมดที่เราพูดถึงกันในบทความนี้เป็นวิธีที่รวดเร็ว และง่าย เพราะสามารถที่จะย่อภาพและขนาดของไฟล์ให้ได้ตามที่ต้องการได้ในขั้นตอนเดียว แต่อย่างไรก็ดี การย่อภาพจะทำการเกิดผลข้างเคียงขึ้นมาอย่างหนึ่ง นั่นคือความคมชัดของภาพหายไป ภาพที่ได้จากการย่อจะมีลักษณะดูนุ่มลงไป ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ แต่จะมีขั้นตอนมากขึ้น นั่นคือการปรับขนาดภาพและปรับแต่งความคมชัดใน Photoshop ให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วจึงใช้คำสั่ง Save for Web ทำการเปลี่ยนเฉพาะระดับของคุณภาพ เพื่อให้ได้ขนาดของไฟล์ตามต้องการ ซึ่งรายละเอียดสามารถติดตามต่อได้ใน บทความภาค ต่อไป เลยครับRef://www.thaidphoto.com Create Date : 20 เมษายน 2549 Last Update : 23 เมษายน 2549 0:43:22 น. 0 comments Counter : 1355 Pageviews. ShareTweet