ทริปเที่ยวลาว เวียงจันทน์
ทริปนี้ผมกับเพื่อนไปเที่ยวอุดรธานีกัน เลยมีโอกาสไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาชนลาว เมืองหลวงเวียงจันทน์ แบบไปเช้าเย็นกลับครับ แค่มีพาสปอร์ตก็เดินทางไปเที่ยวได้แล้วครับ ไม่ยุ่งยากอะไรเลย
เริ่มต้นก็ต้องไปที่ด่านพรมแดนไทย - ลาว ที่จังหวัดหนองคาย ครับ
อันนี้สะพานมิตรภาพไทย - ลาว และผมกับเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวกันครับ
อีก 22 กม จะถึงเวียงจันทน์แล้วครับ
ตรวจเอกสารที่ด่านพรมแดน เตรียมข้ามไปลาวครับ
แวะเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมันกันก่อน
ธนบัตรของลาวครับ ใบนี้มีค่า 100000 กีบ ครับ เติมน้ำมันทีเป็นแสน รวยสุดๆ
มาเริ่มเที่ยวกันดีกว่าครับ สถานที่แรกที่จะไปกันก็คือ พระธาตุหลวง
พระธาตุหลวงแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติและยังแทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาวอีกด้วย
ถัดจากประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตรจะแลเห็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตั้งอยู่บนฐานสูง พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองหลวงของราชอาณาจักรล้านช้างจากหลวงพระบางมาอยู่ที่เวียงจันทน์ จากนั้นทรงมีพระบัญชา ให้ทรงสร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ครอบพระธาตุหลวงองค์เดิมไว้ ณ บริเวณที่เคยเป็นเทวสถานเก่าของขอมโดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2109
พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา เล่ากันว่า พระแสงดาบเล่มนี้ทำหน้าที่ปกป้องพระธาตุหลวงซึ่งได้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวลาวทุกคน
พระธาตุนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 พระธาตุองค์นี้มีรูปทรงที่ไม่เหมือนกับองค์อื่นๆ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักรล้านช้าง
ในปัจจุบัน พระธาตุหลวงมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ เพราะมีการสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมรอบองค์พระธาตุไว้ พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆเอาไว้โดยตลอด สำหรับประตูทางเข้านั้นเป็นประตูไม้บานใหญ่ ลงรักสีแดงไว้ทั้งหมด นอกจากนี้รอบๆองค์พระธาตุใหญ่ยังมีเจดีย์บริวารล้อมรอบอยู่โดยรอบอีกหลายองค์ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะเห็นสัญลักษณ์หนึ่งแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ปรากฏอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์
ที่เที่ยวแห่งต่อไปคือ ประตูชัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเวียงจันทน์ตรงสุดถนนล้านช้าง สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์
ประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีน
แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น
หลังจากนั้นก็แวะเติมพลังก่อนไปเที่ยวกันอีกครั้ง ด้วยอาหารขึ้นชื่อของลาว คือเฝอลาวครับ
อันนี้ชามเล็ก 80 บาท เท่ากับก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา 3 ชาม เล็กสุดของเค้าแต่เทียบกับเราแล้วใหญ่มากครับ และอร่อยด้วย ถ้าใครมีโอกาสลองชามกลางกํบใหญ่ดูนะครับ มีจุกแน่นอน
อิ่มแล้วก็มาเที่ยวกันต่อครับ สถานที่ต่อไปก็คือ วัดสีสะเกด ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชลาว (ปัจจุบันเรียกว่า ประธานคณะสงฆ์ลาว แห่งองค์กรพุทธศาสนสัมพันธ์ หรือ อพส.)
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุวงศ์ เดิมชื่อวัด สตสหัสฺสาราม ความหมายว่า วัดเจ็ดแสน ที่น่าสนใจคือ วัดนั้นเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกทำลายในคราวที่กองทัพสยามบุกเข้ายึดครองเวียงจันทน์ ในปี พ.ศ. 2371 ด้วยเหตุผลประการเดียวคือ วัดนี้สร้างขึ้นตามแบบศิลปะไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
หอพระแก้วตั้งอยู่ที่ถนนเชษฐาธิราชติดกับหอคำ เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2108 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชต้องการใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากล้านนา ต่อมาได้แพ้สงครามต่อกรุงธนบุรี พระแก้วมรกตจึงถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังประเทศไทยตั้งแต่นั้นมา
สำหรับหอพระแก้วที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด ในปีพ.ศ.2480-2483 ภายใต้การควบคุมดูแลการก่อสร้างของ เจ้าสุวรรณภูมา ผู้ที่จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และต่อมายังได้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหลังจากได้รับเอกราชอีกด้วย
หอพระแก้วจะเสียค่าเข้าชมคนละ 5,000 กีบ(20 บาท) โดยเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.00 12.00 น.และ 13.00 น. - 16.00 น.และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน
เป็นทริปนึงที่ไปง่ายและประทับใจมากครับ ใว้มีโอกาสจะไปอีกครั้ง เที่ยวค้างคืนซักคืนนึง แล้วจะกลับมารีวิวภาพสวยๆ ให้ชมอีกครั้งครับ ชอบคุณครับ
Create Date : 07 กรกฎาคม 2557 | | |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2557 0:57:30 น. |
Counter : 1018 Pageviews. |
| |
|
|
|