Group Blog
  •   
  •  
  •  
  •  
All Blog
Body Shape Organic Chia seed เม็ดเชียช่วยลดน้ำหนัก



ช่วงนี้ป่านกลับมาคุมน้ำหนักค่ะ 

จริงๆป่านสนใจเมล็ดเชียมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะหาซื้อกินจากที่ไหนนะ 

หลังๆนี้ มีคนนำเข้ามาขายเยอะค่ะ 

แต่เห็นว่า บางที่ก็มีกลิ่น บางที่ก็ไม่สะอาด มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนเยอะ 

จนเห็นเพื่อนมันสั่งของ Body shape มาค่ะ มันบอกว่าดีงาม 

เลยเอามั่งอ่ะ ฝากมันสั่ง 1  กล่องนะ  ราคา 320 บาทค่ะ จากราคา 490  บาท 






ตอนแรกสั่งมารู้สึกแปลกๆค่ะ เพราะไม่เคยกินนะ เคยกินแต่เม็ดแมงลัก

มีสองสีค่ะ คือเมล็ดน้ำตาลดำๆ และเม็ดขาวๆ ที่เขาว่ามีสองสายพันธุ์


แกะออกมาด้านในมีห่อซิลล็อค สีเงินมีช้อนมาให้ 

จำนวนที่แนะนำในการกินต่อครั้งคือ 2 ช้อนชานะ 

ป่านกินวันละสองช้อนค่ะ ช่วงบ่าย เป็นอาหารว่าง 







วิธีกินก็เหมือนเม็ดแมงลักค่ะ คือเอาไปแช่น้ำอุ่นให้มันฟู โดยตั้งทิ้งไว้ 20  นาที 

ให้ฟูเต็มที่ 



เสร็จป่านก็เอาไปแช่ตู้เย็นให้มันเย็นสักแปป แล้วก็เทนมบีทาเก้น ไขมันต่ำ แบบน้ำตาลน้อยลงไป

ขวดนี้ ก็ประมาณ 25 แคลอรี่ค่ะ 

แช่เย็นอร่อยมาก อิ่มท้องดีค่ะ แก้วนี้ราวๆ 60 แคลอรี่



ส่วนตัวป่านมองว่าเม็ดเจียนี้ควรแช่ให้มันพองเต็มที่นะ 

และต้องดื่มน้ำตามเยอะๆค่ะ เพราะถ้ามันไม่พองเต็มที่ มันก็จะไปพองในร่างกายเรา 

ทำให้เราอาจมีอาการท้องผูกได้ค่ะ ป่านผสมนมเปรี้ยวละอร่อยเลย ท้องไม่ผูกด้วย


ถ้าดื่มน้ำเยอะ จะทำให้ขับถ่ายดีค่ะ และทำให้อิ่ม ไม่รู้สึกหิวระหว่างวัน 

คนส่วนมากเลยเอามาใช้ช่วยลดน้ำหนักนะ 






มารู้จักเม็ดเจียกัน 




Chia Seeds (เมล็ดเชีย) เป็นพืชเกษตรที่มีประวัติอันยาวนาน สมัยก่อนถูกปลูกท่ามกลางหุบเขาของเม็กซิโก และเป็นอาหารที่คนแถบประเทศเม็กซิโกและโบลิเวียทานกันมานานกว่า 5,000 ปี โดยชาวอินเดียนแดงและชาวแอซเท็ก (Aztecs) พวกเขาได้นำ Chia Seeds (เมล็ดเชีย) มาใช้เป็นอาหาร โดยผสมกับข้าวโพด, ถั่ว, ผักโขม และยังใช้เป็นยารักษาโรค นอกจากนี้ Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ยังใช้สำหรับบูชาพระเจ้าในงานพิธีต่างๆ รวมถึงยังใช้แทนเงินในการแลกเปลี่ยนสิ่งของอีกด้วย จากประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่ชาวแอซเท็ก (Aztecs) ออกรบเพื่อพิชิตดินแดนใหม่ ซึ่งจะต้องใช้พลังงานในการเดินทาง และทำสงคราม นักรบแต่ละคนจะต้องมี Chia Seeds (เมล็ดเชีย) ติดตัวไปด้วย เพราะจะทำให้นักรบ แข็งแรงมีกำลังในการรบและประโยชน์ของมันยังช่วยซ่อมแซมร่างกายในเวลาที่บาดเจ็บ


คุณประโยชน์เต็มเมล็ด


ช่วยในการลดน้ำหนัก

เมล็ดเชีย กินแล้วอิ่มสบายท้อง อีกทั้งยังมีแคลอรีต่ำ ย่อยง่าย ร่างกายไม่สะสมเป็นไขมัน เราจึงไม่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย มีไฟเบอร์สูง อุดมด้วยไขมันดี ย่อยง่าย หมดปัญหาพุงยื่น

บำรุงความจำ

เมล็ดเชีย มีกรดไขมันโอเมก้าทรีสูงกว่าปลาแซลมอนถึง 9 เท่า ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองให้ทำงานเป็นปกติ เราจึงมีกระบวนการเรียนรู้และจดจำดีขึ้น มีสมาธิจดจ่อมากขึ้น

หัวใจแข็งแรงขึ้น 

เมล็ดเชียอุดมด้วยกรดไขมันดี / โอเมก้า-3 / โอเมก้า-6 ช่วยปรับสมดุลระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด เกิดการไหลเวียนเลือดดีเข้าสู่หัวใจ จึงเป็นผลให้หัวใจของเราแข็งแรงขึ้น

ดูอ่อนวัยลง

เมล็ดเชีย มีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุและวิตามินมากกว่าในผลไม้ตระกูลเบอร์รี ช่วยบำรุงความงามให้ดูอ่อนวัย เช่น เส้นผมนุ่มสลวย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย และยังช่วยลดปัญหาสิวอีกด้วย

ห่างไกลเบาหวาน 

(ดื้อต่ออินซูลิน เป็น “เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน” ) : เมล็ดเชียเป็นธัญพืชที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่อุดมด้วยไฟเบอร์สูงที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด จึงมีคุณสมบัติช่วยต้านโรคเบาหวานประเภท 2 ได้

แผลหายไวขึ้น 

เมล็ดเชีย มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) มีฤทธิ์แก้อักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ป้องกันการติดเชื้อของบาดแผล ช่วยให้บาดแผลหายเร็ว ไม่เรื้อรัง

ระบบเผาผลาญดีขึ้น

เมล็ดเชีย มีไฟเบอร์ โปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง จึงช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้

ห่างไกลโรคกระดูกพรุน 

เมล็ดเชีย อุดมด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อกระบวนการเสริมสร้างกระดูกและฟัน เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโปรตีน จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และภาวะกระดูกบางได้

ระบบย่อยอาหารดีขึ้น

เมล็ดเชีย อุดมด้วยไฟเบอร์อยู่ประมาณ 34.4 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอสำหรับร่างกายในแต่ละวัน


เมล็ดเชียไม่เหมาะกับใคร????

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในระบบกระเพาะอาหารและลำไส้
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคแพ้โปรตีนในธัญพืช (กลูเตน)
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ทำศัลยกรรม ผ่าตัด เสียเลือดมาก เพราะโอเมกา-3 จะทำให้หลอดเลือดบางลง และประวัติแพ้ยาแอสไพริน
  • ในผู้ชายหากรับประทานมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
  • ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ เพราะอาจทำให้ช็อกหรือหมดสติไปได้
  • ไม่ควรรับประทานร่วมกับวิตามินบี 17 ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจสะสมเป็นสารพิษขึ้นในร่างกายก่อเกิดโรคมะเร็งได้
  • เมล็ดเชียมีกากใยสูงมากถึง 25% อาจทำให้ท้องอืดได้ค่ะควรทานในปริมาณที่พอดี

ปริมาณที่พอเหมาะ

  • ผู้ใหญ่ทาน 15-20 กรัม/วัน หรือ 2 ช้อนโต๊ะ/วัน
  • เด็กอายุระหว่าง 10-18 ปี ทานประมาณ 10 กรัม/วัน หรือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ไม่ควรทานเกินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผู้ที่ทานสำหรับการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ทานแบบป่น 33-45g ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน

ดีงามค่ะ แนะนำ แต่ต้องกินแบบถูกวิธี กินในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ ^^



Create Date : 25 ตุลาคม 2558
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2558 11:32:47 น.
Counter : 30977 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

saypan
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 690 คน [?]



สายป่านค่ะ จากเพจ Sp saypan
make up / skincare / fashion / fitness / Design
ดิฉันลดน้ำหนักและ พยายามสวย มาตลอดชีวิต