อาตาปี สัมปชาโน สติมา
 
ชีวิตเหมือนความฝัน


ชีวิตเหมือนความฝัน เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วขณะๆ หนึ่ง ไม่ได้มีอยู่จริง แม้ว่ามันจะดี สวยสดงดงาม หอมหวาน หรือทนทุกข์ เศร้าสลดเท่าใดก็ตาม มันเป็นเพียงฉากๆ หนึ่ง เหมือนภาพยนต์ที่แสนประทับใจ ผูกเราไว้ กับความรู้สึก รักชอบ เกลียดชัง และเฉยๆ ตราบใดที่จิตใจเรายังหลงอยู่ และยังอยากที่จะเสพความสุขความทุกข์นั้น ซึ่งแน่นอนว่า มันเลือกไม่ได้ด้านเดียว เพราะสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามของสิ่งสองสิ่ง มันคือสิ่งๆ เดียวกัน โดยเนื้อแท้

ตราบใดที่เรายังพอใจที่จะเสพ ความรู้สึกนั้น ความปรุงแต่งย่อมเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน ส่งต่อกันไปไม่มีที่สิ้นสุดมีทั้งสุขทุกข์ดีเลว เราเองคิดว่าเราต้องความเป็นจริง หรือเห็นตามความเป็นจริงนั้น แท้จริงแล้ว เราไม่ต้องการรับรู้มัน จิตใจเรายังอยากที่มีสุขเกลียดทุกข์ ชอบความประณีตเกลียดความหยาบกระด้าง และไม่ยอมรับว่า ทุกสิ่งมันเป็นของมันเช่นนั้นเอง จิตใจเราที่เหมือนตุ้มนาฬิการที่แกว่งไปมา ซ้ายทีขวาที ยิ่งแรงไปก็ตีกลับมาแรง เป็นผลของกรรมและวิบากนั้นเอง สงบมาก ต่อมาก็จะฟุ้งซ่านมาก สุขประณีตนุ่มนวลด้วยราคะก็ตีกลับมาเป็นโทสะเพราะความขัดเคืองที่เสียความสุขอันประณีตนั้นไป เราไม่ได้ต้องการเห็นตามความเป็นจริง จึงมีความอยากที่จะให้ชีวิตมีแต่ด้านเดียว คือความสุขความพอใจเท่านั้น

ทุกวันเราจึงฝันอยู่ตลอดเวลาทั้งเวลาหลับและตื่น ไม่ได้เห็นความเป็นจริงได้จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้รู้ว่า มันเป็นอย่างนั้น เพราะเราอยู่กับมันมาอย่างเคยชิน แต่เมื่อใจพบความทุกข์ในเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราก็เริ่มฉงนใจ เพราะเหตุใด ชีวิตนี้จึงทุกข์นักหนา ทำไมความสุขเป็นสิ่งที่ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทุกข์เวลาของมันแต่ละวินาทีช่างเชื่องช้าทรมาณ เสียจริงๆ เราไม่เห็นความฝันอันนี้ว่า มันกำลังดำเนินของมันอยู่ ตราบจนกระทั่งสติฯ เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น เราจึงรู้สึกเหมือนตื่นจากฝันขึ้นชั่วขณะ ตื่นจากฝันดี ตื่นจากฝันร้าย และอยู่ในโลกของความเป็นจริง อันสอาดบริสุทธิ์ เราจะเห็นจิตที่ไขว่คว้าหาแต่ความสุขที่เหมือนความฝัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแต่ฝันดีแต่จะมีฝันร้ายรวมอยู่ด้วยเสมอ แต่ใจที่ใคร่ในภพนั้น จึงสร้างความฝันนี้ขึ้นมาเป็นภพน้อยภพใหญ่อยู่เสมอๆ ทำไฉนเลยเราจึงเห็นตามความเป็นจริงนี้เสียที ทำไฉนจิตใจของเราจะรู้ ตื่น เบิกบาน เป็นธรรม หนทางอันเดียวที่จะพบเราไปพบกับความเป็นจริงได้ ก็เพียงแต่เรา ตามรู้ ตามดู รูปนาม กายใจเรานี้ไปเสมอๆ ศึกษารู้จักแง่มุมต่างๆ ของจิตใจของเราเอง ให้เห็นว่า ทุกวันเราฝันอย่างไรอยู่ เมื่อใดที่เรารู้สึกตัวขึ้นมา เราก็จะตื่นขึ้นจากความฝันอันยาวนานเสียที

ผู้ที่ตื่นแล้วจึงเปรียบเสมือนรุ่งอรุณ ความสว่างแห่งปัญญาเริ่มฉายความเป็นจริง ที่อบอุ่น นุ่มนวลและสงบแต่ตั้งมั่นด้วยความเป็นจริง


Create Date : 20 เมษายน 2553
Last Update : 20 เมษายน 2553 10:04:22 น. 10 comments
Counter : 736 Pageviews.  
 
 
 
 
 
 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:11:06:51 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายค่า
 
 

โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:11:41:12 น.  

 
 
 
คนที่ปฎิบัติจะมีความร่มเย็นแผ่ไปทั่วให้คนอื่นรับรู้เสมอครับ
 
 

โดย: เออ นะ IP: 113.53.78.8 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:12:17:21 น.  

 
 
 
หลวงพ่อบอกว่า ให้เรารู้ทันความคิดปรุงแต่งด้วยนะ ป้านิดจ๋า
 
 

โดย: เอก IP: 192.168.0.107, 124.122.213.148 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:12:18:29 น.  

 
 
 
หลวงพ่อบอกว่า ให้เรารู้ทันความคิดปรุงแต่งด้วยนะ ป้านิดจ๋า

แล้วคุณเอกล่ะ รู้ทันความคิดปรุงแต่งแล้วหรือ

 
 

โดย: ไม้โท IP: 124.122.135.35 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:17:46:15 น.  

 
 
 
จุฬาภินันท์ว่าชีวิตเป็นการกระทำของกรรมต่อทุกสรรพสิ่งค่ะ
 
 

โดย: Chulapinan วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:19:45:12 น.  

 
 
 
ใช่ค่ะ

เราเลือกมันไม่ได้เพียงด้านเดียว เเม้จะพยายามเพียงไหนก็ตาม

ทำดีที่สุดเเล้วใบบของเรา

เเต่ในด้านของคนอื่น
มันอาจไม่ดีพอ

เเต่ยังไงเราก็เป็นของเราอย่างนี้
เฮ่อ เหนื่อยเเล้วล่ะ

ใครจะคิดอย่างไงก็ตามเเต่

ฉันเป็นฉันก็พอเเล้ว...น่ะ....
 
 

โดย: ยังไงก็น้อง วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:21:54:23 น.  

 
 
 
ในชีวิตบางคน การมีชีวิตดั่งฝัน
มี สุข ทุกข์ปะปนนั้น ดูจะเป็นที่น่าปรารถนาของคนทั่วไป

แต่อย่างที่ จขบ อธิบายมา
"ความสุขเป็นสิ่งที่ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทุกข์เวลาของมันแต่ละวินาทีช่างเชื่องช้าทรมาณ"

เห็นด้วยครับ



 
 

โดย: อัสติสะ วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:14:06:52 น.  

 
 
 
ขอยุติการนำเสนอกัณฑ์เทศน์หลวงพ่อสงบ แต่เพียงเท่านี้ครับ

สาเหตุที่มาโพสต์ ณ ที่นี้ ไม่ใช่เพราะว่าจะมาระบายอัดอั้นแต่อย่างใด แต่เป็นการมาโพสต์เพราะเล็งเห็นว่าเจ้าของบล็อกน่าจะเอะใจได้

แต่ไม่เป็นไรครับ

ผมเห็นด้วยกับที่่ว่า ธรรมะไม่ใช่ของยัดเยียด ขออนุโมทนากับความเห็นนี้ครับ _/|\\_

 
 

โดย: Truthtoday IP: 64.62.196.25 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:20:44:51 น.  

 
 
 
_/|\\_ สาธุ เช่นกันค่ะ
 
 

โดย: นิดนึง IP: 111.84.203.126 วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:19:00:01 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

สติมา
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




อาตาปี สัมปชาโน สติมา
เพียรเผากิเลสด้วยความรู้สึกตัวมีสติ
[Add สติมา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com