เมื่อมีปัญหาส้นเท้าแตก
เมื่อมีปัญหาส้นเท้าแตก

เท้าและส้นเท้าเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานทั้งวัน อีกทั้งผิวส่วนนี้ไม่ค่อยมีไขมันมาเคลือบ จึงมักแห้งแตกเป็นร่องได้ และอาจเจ็บจนเดินไม่ถนัด ถ้ามีบาดแผล เชื้อโรคก็เข้าสู่ร่างกายได้ ไม่อยากให้ปัญหานี้เกิดขึ้น ต้องดูแลให้ดีค่ะ


สิ่งที่ควรทำ

* เท้าแตกเกิดจากการใส่รองเท้าเปิดส้นนานๆ ด้วย เช่น รองเท้าแตะคีบ รองเท้าฟองน้ำ รองเท้าสาน ดังนั้นหันมาใส่รองเท้าหุ้มส้น โดยเลือกรองเท้าที่บุพื้นภายในที่นุ่ม สวมใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าลำลองใส่ในบ้านบ้างค่ะ
* แช่เท้าในน้ำสบู่ 10-15 ให้ผิวที่แห้ง แตก หยาบกร้านนิ่มลง แล้วใช้หินขัดถูส้นเท้าสัปดาห์ละครั้ง
* หลังอาบน้ำใช้ครีมนวดทาส้นเท้าให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวจนผิวชุ่มชื้น
* รักษาส้นเท้าแตก ด้วยสูตรธรรมชาติมากมายหลายสูตร เช่น...

+ ทาด้วยน้ำมะนาวผสมดินสอพองหรือ ยางมะละกอ หรือถูด้วยสารส้มกับน้ำชุบสำลี หรือทายางต้นรัก หรือถูด้วยเปลือกกล้วยหอมก็ได้
+ แช่เท้าในน้ำสบู่ แล้วใช้วาสลีน 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1 ลูกถูส้นเท้า หรือบดสตรอเบอร์รี่ เติมน้ำมันมะกอกกับเกลือ นวดส้นเท้า หรือผ่าส้มเป็นแว่น 2 ผล น้ำมันพืช 1 ถ้วย เกลือทะเล 1 ถ้วย นำน้ำมันพืชผสมกับเกลือ จุ่มส้มลงไป แล้วนำมาขัดส้นเท้า
+ ต้มนมเติมน้ำมะนาวกับกลีเซอรีน พอเย็นใช้ทาส้นเท้าก่อนนอน ใส่ถุงเท้าฝ้ายทับเพื่อลดอาการแตก จะบดกล้วยหอมสุกหรือหัวหอมใหญ่ให้ละเอียดก็ได้ แล้วทาส้นเท้าแตก ใช้ผ้าพัน ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างน้ำออกค่ะ


สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

* ไม่ปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินไปจนอ้วน เพราะจะทำให้ส้นเท้ารับน้ำหนักมากจนส้นเท้าแตก
* ไม่ปล่อยให้ผิวแห้ง เพราะมีแนวโน้มที่จะทำให้ส้นเท้าแตกได้ง่าย
* หลีกเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าส้นเปิด ถ้าต้องเดินบนพื้นเย็นๆ เป็นประจำ
* หลีกเลี่ยงการเดินด้วยเท้าเปล่า โดยไม่สวมรองเท้าเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าเริ่มขาดความยืดหยุ่น ผิวจะเริ่มหนาแล้วแข็งขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดผิวหนังส่วนนี้แห้งและแตก
* หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็นมาก ทำให้ผิวแห้งง่าย เช่น ทำงานในห้องแอร์ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ทาครีมที่เท้าและส้นเท้าด้วย
* หลีกเลี่ยงการปล่อยให้เท้าสัมผัสน้ำบ่อยๆ หรือแช่น้ำนานๆ
* หลีกเลี่ยงการยืนเป็นเวลานานๆ บนพื้นเข็งๆ เช่น พื้นปูนซีเมนต์ โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักตัวมาก เพราะจะทำให้ส้นเท้าแตกง่ายด้วยค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็ป //www.sanook.com



Create Date : 16 เมษายน 2553
Last Update : 16 เมษายน 2553 11:56:45 น.
Counter : 197 Pageviews.

ใจสงบ
ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครบ้างหรือเปล่า

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้ ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

'หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา
ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร'

คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง
( คาถา บทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ ไม่เว้นแม้กระทั้ง
พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า

ขอผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้ กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อเพื่อสร้างผลบุญบารมีต่อไป



สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
ตั้งนะโม ๓ จบ ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา หรือ วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ ๙ จบ
(ขอพระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริต รและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)


ขอขอบคุณข้อมูลจาก //guru.google.co.th/guru/thread?tid=2f5c1b0ae6a52ce2



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 18:43:21 น.
Counter : 222 Pageviews.

การใส่แหวนตามความเชื่อ
ขออนุญาติ หยิบยกข้อมูลดีๆ จาก //www.sanook.com มาเก็บไว้อ่านนะค่ะเพราะง่ายต่อการค้นหา

การใส่แหวน
ตามความเชื่อ และแนวทางด้านจิตวิทยา ที่ได้มีการวิเคราะห์นิสัยของผู้สวมใส่แหวน ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุดนั้น พบว่า การสวมแหวนในแต่ละนิ้วสามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพ และอุปนิสัยของผู้สวมใส่ได้อย่างแม่นยำ แต่ต้องเป็นคนทีสวมแหวนที่มือขวาเท่านั้น

แหวนเสริมดวง

- เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิดหรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิต
- ถ้าอยากเสริมดวงการเงิน - ควรสวมแหวนทอง, แหวนเงิน, แหวนหยก และแหวนหัวพลอยสีที่ถูโฉลก
- ถ้าอยากเสริมดวงความรัก-ให้สวมแหวนรูปหัวใจ, รูปดาว, แหวนเพชร, เทอร์ควอยส์ก็ได้
- ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่างๆ จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์

การสวมแหวน

- สวมแหวนนิ้วกลาง ข้างขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี
- สวมแหวนนิ้วนาง หรือ นิ้วก้อย - เสริมเสน่ห์และเสริมดวงความรัก


เทคนิคการใส่แหวนให้โชคดี

เทคนิคการใส่แหวนให้โชคดี
- ถ้าอยากให้มีความรักมั่นคง ต้องสวมแหวนที่ตรงหัวใจ คือนิ้วนางข้างขวา
- ถ้าอยากให้โชคดีเรื่องความรัก ต้องสวมแหวนที่นิ้วก้อยข้างซ้าย
- ถ้าอยากให้คนนั้นสนใจต้องสวมแหวนที่นิ้วชี้ข้างขวา
- ถ้าอยากให้โชคดีมีความราบรื่นในเรื่องต่างๆ ต้องสวมแหวนที่นิ้วนางข้างขวา
- ถ้าอยากให้ปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้าย ต้องสวมแหวนที่นิ้วกลางข้างขวา
- ถ้าอยากให้โชคดีในเรื่องการเงิน ต้องสวมแหวนที่นิ้วกลางข้างขวา
- ถ้าอยากมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ต้องสวมแหวนที่นิ้วก้อยข้างขวา
- ถ้าอยากมีคนชอบมากๆ ต้องสวมแหวนที่นิ้วหัวแม่มือข้างขวาหรือซ้ายก็ใด้

ดูนิสัยจากการสวมแหวน

นิ้วหัวแม่มือ - คุณเป็นคนแปลกไม่แคร์สังคม ไม่แคร์สายตาผู้อื่นเป็นตัวของตัวเอง และเป็นแบบฉบับชองตัวเองมากที่สุด คุณมีความเชื่อมั่นมากและมีความภูมิใจในตัวเองอยู่เงียบ กฏของสังคมไม่สามารถมาล้อมกรอบคุณได้ทั้งนี้เป็นเพราะคุณมีความอิสระซ่อนเร้นอยู่มากมาย ความหลักแหลมซื่อสัตย์ตะลุยฟันผ่าไปค้นหาในสิ่งที่คุณอยากได้ คุณจะไม่สนใจอะไรแบบมองผ่าน ๆ ไปทีความสนใจของคุณที่มีต่อสิ่งที่คุณสนใจอยู่จึงมีมาก อารมณ์รุนแรงความโกรธของคุณรุนแรงกระทั่งสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่ใกล้มือใกล้เท้าก็พังพินาศหมด



นิ้วกลาง - ผู้ที่นิยมสวมแหวนที่นิ้วกลาง คุณเป็นคนที่มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส มีจินตนาการสูงในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ คุณมีบทบาทมากมายในชีวิต บางทีก็ดูเงียบขรึม บางครั้งก็ดูร่าเริงและในบางครั้งก็จะทำตัวเป็นที่น่าสงสารของผู้ที่ได้พบเห็น คุณเป็นคนอ่อนโยนและขี้อาย มักจะประหม่าหรือเคอะเขินเมื่ออยู่ใกล้ชายหนุ่ม ไม่มั่นใจในตนเอง จึงทำให้กลัวไปในทุกเรื่อง

นิ้วนาง - ผู้ที่มีสวมแหวนที่นิ้วนาง คุณเป็นคนที่เอาแต่ใจตนเอง หากหนุ่มที่มาใกล้ชิดเสแสร้งเอาอกเอาใจคุณ แต่ไม่ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา คุณจะเกลียดมากจนไม่อยากจะเจออีกเลย ขณะเดียวกัน คุณก็ชอบที่จะเห็นชายหนุ่มที่มาให้ความสนใจคุณเป็นคนที่กล้าหาญ แต่จะมีอยู่คนหนึ่งที่รู้จักนิสัยคุณจริง ๆ คนที่ใกล้ชิดคุณเท่านั้น ที่จะรู้ว่าภายใต้ความรู้สึกที่เข้มแข็งนั้น คือความบอบบาง คุณเป็นคนที่คุยสนุก การได้โต้เถียงหรือทำตัวเหมือนดื้อรั้น คือความสุขของคุณ คุณอาจจะรู้สึกเหงาหรือไม่มีเพื่อน และถึงแม้คุณจะผิดหวัง อกหัก แต่คุณก็สามารถบอกกับใคร ๆ ได้ว่า ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ลึก ๆ แล้ว คุณจะรู้สึกปวดร้าว แต่ในระยะเวลาไม่นานนัก คุณก็จะกลับมาเฮฮาปาร์ตี้ได้เหมือนเดิม

นิ้วก้อย - หากคุณเป็นคนที่ชอบใส่แหวนนิ้วก้อยเป็นประจำแล้ว บ่งบอกว่าคุณมักจะตกอยู่ในโลกของความฝัน มากกว่าโลกของความเป็นจริง มีนิสัยน่ารัก แต่ก็เก็บกด มักไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของคุณออกมาให้คนอื่นโดยเฉพาะ ในเรื่องของความรัก (อย่างนี้เรียกว่า "ปากแข็ง") และโดยทั่วไปแล้วคุณมักจะคอบตามอารมณ์ ความรู้สึกร่วมไปด้วยเสมอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น คุณอาจจะร้องไห้เมื่อเพื่อนสนิทของคุณอกหัก หรืออาจจะกระโดดโลดเต้นดีใจ เมื่อเพื่อนของคุณมีความสุขเมื่อพบกับหนุ่มหล่อ คุณเป็นคนที่จิตใจเยือกเย็น พอใจในคนรักของตนเอง ไม่จุกจิกจนน่ารำคาญใจ ผู้ใกล้ชิดหรืออยู่ด้วยก็มักสบายใจ ยามที่ชายหนุ่มคนใดได้มาคุยกับคุณ เขาจะรู้สึกสบายใจ และสนุกสนาน คุณมีคุณสมบัติของลูกผู้หญิงเต็มตัว ลักษณะเด่นของคุณ คือ สามารถทำให้ผู้ชายรู้สึกว่า อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นคนที่จริงใจกับความรักเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยลืมวันสำคัญ ๆ เลย ลึก ๆ แล้ว คุณเป็นคนโรแมนติกมาก

นิ้วชี้ - ผู้ที่นิยมสวมแหวนที่นิ้วชี้ คุณมักจะชอบทำอะไรแปลก ๆ ที่คนทั่วไปเขาไม่ทำกัน มีเสน่ห์บางอย่างในตัวที่ดึงดูดใจ ผู้ที่มาใกล้ชิด มีแบบฉบับการแต่งตัวเป็นของตัวเอง มีความเชื่อมั่นสูง และไม่จำเป็นที่จะต้องวิ่งตามแฟชั่น เป็นคนรักความหรูหราแบบแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร โปรดปรานเครื่องประดับแปลก ๆ หายาก ไม่ซ้ำใคร ความเฉลียวฉลาดและความสง่างามของคุณนั้น นับว่าเป็นสาวไฮโซทรงเสน่ห์ต่อเพศตรงข้างอย่างมากมาย มีรสนิยมสูงแต่จงอย่าลืมว่า การชอบของแปลกไม่เหมือนใครของคุณอาจกลายเป็นจุดอ่อนของคุณได้

เหตุใดคนโบราณไม่นิยมสวมแหวนนิ้วกลาง

วิชาการหัตถศาสตร์ของไทย ท่านอธิบายดังนี้ นิ้วกลางเป็นนิ้วของดาวเสาร์ ถ้านิ้วยาวแสดงว่าเป็นคนรักความสงบ ชอบการศึกษา ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมและหนา แสดงว่ามีความคิดลึกซึ้ง ถ้านิ้วสั้นหรือมีตำหนิ จะไม่เอาใจใส่เรื่องใด ถ้านิ้วนี้ยาวกว่าฝ่ามือ เป็นผู้รอบคอบดี ถ้าสั้นกว่าฝ่ามือ เป็นคนใจร้อน มักตกลงใจเร็ว

นิ้วกลางสำคัญเพราะป็นนิ้วที่รับเส้นโชคอันหมายถึงอาชีพและวิถีทางแห่งชีวิต และเป็นนิ้วที่แสดงถึงนิสัยโดยตรง อีกตำราบอกถ้านิ้วกลางยาวเกินไปเป็นคนเซื่องซึม สั้นเกินไปเป็นคนรุกราน อยู่ไม่สุข ตรงจึงจะดี ถ้าไม่ตรงเป็นคนมีอัตตทิฏฐิคือ
ถือตนเป็นใหญ่ ถ้าแอ่นหงายไปข้างหลังมาก มักขัดสนหรือกำพร้าบิดามารดามาแต่น้อย ถ้ามีเส้นคาดรอบวงนิ้ว แม้สุขแต่ก็ทุกข์ทางใจ มีรอยก่ายไขว้กันตรงข้อหรือเป็นกากบาท ไม่ดี มีตำหนิหรือพิการ มักอยู่ห่างจากมารดา

ดังนั้นการที่เราสวมใส่แหวนก็เหมือนเอาอะไรมารัดตรงนิ้วกลาง ท่านว่าไม่เหมาะไม่ควร

ขอขอบคุณคอลัมน์รู้ไปโม้ด โดยน้าชาติ ประชาชื่น
//www.uamulet.com



Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 14:01:32 น.
Counter : 325 Pageviews.

0 comment
คนเลือดกรุ๊ป "โอ"
ลักษณะนิสัยพื้นฐาน

ชาวกรุ๊ปเลือดโอ มีบรรพบุรุษเป็นนักล่าสัตว์ป่า จึงทำให้ลักษณะนิสัยของคนกรุ๊ปเลือดโอดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็น เจ้าระเบียบ เป็นนักวางแผนที่ดี มีนิสัยรอบคอบ จริงจัง เข็มแข็ง มีความกล้าหาญ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่าย ๆ มีความทะเยอทะยานสูง มีลักษณะของการเป็นผู้นำ นั้นอาจเป็นเพราะคนกรุ๊ปเลือดโอเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและมั่นใจในตนเองสูงพอสมควร จนบางครั้งอาจดูเหมือนเป็นคนดื้นรั้น และเอาแต่ใจตนเองเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเอาแต่ใจแต่ก็รักเพื่อนพ้องมาก เป็นคนที่ชอบเข้าสังคม มีเพื่อนฝูงเยอะ เพราะด้วยนิสัยที่ไม่ชอบอยู่คนเดียวนั่นเอง ประกอบกับการที่ชาวกรุ๊ปเลือดโอเป็นคนใจกว้าง จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจึงททำให้เป็นที่รักของเพื่อน ๆ นับได้ว่าเป็นกรุ๊ปเลือดที่มีความเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด คนกรุ๊ปเลือดโอมีความแปลกที่ลงตัวคือ ภายนอกจะเป็นคนนิ่ง ๆ เฉย ๆ ชอบฟังคนอื่นสนทนามากกว่าที่ตนเองจะเป็นฝ่ายสนทนา และชอบวางมาดเป็นผู้คงแก่เรียน แต่ภายในลึก ๆ เป็นคนที่พูดคุยเก่งและสรรหาเรื่องสนุก ๆ มาเล่าให้คนสนิทฟังได้บ่อยครั้ง จนบางครั้งอาจดูเหมือนเป็นคนขี้โม้ไปเลย คนกรุ๊ปเลือดโอเป็นคนเก่งและเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถรอบตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองภาคภูมิใจ แต่บางครั้งก็ทำให้หลงตัวเองจนกลายเป็นความหยิ่งยโสถือว่าตัวเองแน่ นอกนากนี้นิสัยที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวมากเกินไปก็อาจทำร้ายจิตใจของคนอื่นโดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน


สุขภาพร่างกาย

ตามปกติแล้วคนกรุ๊ปเลือดโอเป็นคนที่มีรูปร่างดี มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเหมือนนักกีฬา อาจจะเป็นเพราะบรรพบุรุษของชาวกรุ๊ปเลือดโอเป็นนักล่าสัตว์ จึงทำให้คนกรุ๊ปเลือโอมีรูปร่างกำยำสันทัด อีกทั้งคนกรุ๊ปเลือโอมีระบบการเผาผลาญพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ระบบการย่อยอาหารทำงานดี แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วคนกรุ๊ปเลือดโอจะมีรูปร่างดี แต่ด้วยการที่เป็นคนรักการกินเป็นชีวิตจิตใจมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ จึงทำให้หนีไม่พ้นเรื่องน้ำหนักเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง ขนมปัง ข้าวโพด อาหารเหล่านี้ทำให้อ้วนได้ง่าย เป็นบ่อเกิดของโรคเบาหวาน และระดับน้ำตาลในเลือดสูงอีกด้วยนอกจากนี้คนกรุ๊ปเลือดโอยังมีกรดในกระเพาะสูงกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ จึงเหมาะกับการย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ถ้ากินอาหารที่ไม่เป็นเวลาอาจทำให้เกิดโรคกระเพาะได้มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ จากการศึกษาพบว่า คนกรุ๊ปเลือดโอมีระบบการทำงานของร่างกายเกี่ยวพันกับต่อมไทรอยด์ ซึ่งต่อมไทรอยด์มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบการเผาผลาญพลังงานที่มีผลต่อน้ำหนักของคนเรา ถ้าต่อมไทรอย์ทำงานมากผิดปกติจะทำให้รูปร่างผอมแห้ง ผิวแห้ง ผมแห้งกรอบ ในทางตรงกันข้ามมหากต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนน้อยเกินไปจะทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานทำงานช้าลงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ถ้าต่อมไทรอยด์ทำงานเป็นปกติก็จะทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานเป็นปกติด้วย ทำให้น้ำหนักคงที่ ชาวกรุ๊ปเลือดโอนั้นมักมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยง่ายเหมือนกับคนกรุ๊ปเลือดอื่น ๆ แต่ก็มีบ้างสำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอที่มีปัญหาสุขภาพเพราะมีสารพิษสะสมในร่างกายในปริมาณมาก ประกอบกับการกินอาหารที่ผิดสุขลักษณะทำให้เกิดอาการผิดปกติที่สามารถสังเกตได้ดังนี้ - เหงื่อออกมากผิดปกติ - ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น - อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก - มีอาการบวมน้ำ - ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งสดใส ผิวแห้ง มีสิวง่าย ผมร่วง - ระดับน้ำตาลในเลือดสูง - มีแผลเน่าเปื่อย แผลเรื้อรัง - น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ถ้าคุณมีเริ่มมีอาการเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าร่างกายของคุณต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วน เพราะร่างกายกำลังบอกคุณว่าโรคร้ายกำลังจะมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิต โรคไขข้อกระดูก วิธีที่จะช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายและป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ที่ตามมา คือ คุณควรเริ่มกินอาหารที่ดีต่อกรุ๊ปเลือด ซึ่งจะอธิบายไว้ในหัวข้ออาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดโอ เพราะการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดโอนั้นจะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ระบบการเผาผลาญมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ให้สมดุล และทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานสัมพันธ์กันอีกด้วย

อาหารที่เหมาะสม

อาหารทะเลเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนกรุ๊ปเลือดโอ เพราะเป็นอาหารที่คนกรุ๊ปเลือดโอย่อยได้ง่าย และยังทำให้ต่อมไทรอยด์ทำหน้าที่เป็นปกติ นอกจากอาหารทะเลแล้วผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเค เช่น สาหร่ายทะเล สาหร่ายเคลป์ ผักโขม ผักคะน้า ก็มีส่วนช่วนให้การทำงานของต่อมไทรอยด์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดการเกิดลิ่มเลือด แต่ทั้งนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงผักและถั่วบางประเภทที่ทำให้ระดับฮอร์โมนไม่สมดุล และขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ อาทิ ถั่วอัลฟัลฟา ถั่วเลนทิล ถั่วปินโตะ ถั่วแดง กะหล่ำดอก มัสตาร์ดเขียว เป็นต้น ส่วนเห็ดหอม มันฝรั่ง มะเขือยาว เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไขข้ออักเสบได้ เพราะเล็กตินในอาหารเหล่านี้ต่อต้านระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคนกรุ๊ปเลือดโอ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว ผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อกรุปเลือดโอนั้นควรเป็นผลไม้ที่มีความเป็นเนบส เนื่องจากคนกรุ๊ปเลือดโอมีกรดในกระเพาะอาหารสูง ผลไม่ที่ดีมีประโยชน์ได้แก่ กล้วยผลไม้ตระกูลเชอรรี่ ฝรั่ง มะม่วง สับปะรด ลูกพรัม ลูกพรุน มะเดื่อนฝรั่ง ผลไม้เหล่านี้จะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร


อาหารเสริมและวิตามิน

สำหรับชาวกรุ๊ปเลือดโอนั้นเหมาะกับวิตามิน เกลือแร่ และอาหารเสริมที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยรักษารูปร่างให้ดีขึ้น ซึ่งวิตามิน เกลือแร่ และอาหารเสริมที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ จะช่วยในเรื่องของระบบการเผาผลาญพลังงานช่วยรักษาฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ให้สมดุล สร้างภูมิคุ้มกันโรค บำรุงโลหิตบำรุงสุขภาพเส้นผม ผิว และเล็บ ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย และรูปร่างสมส่วน วิตามินเกลือแร่และอาหารเสริมที่ว่านั้น ได้แก่ ชะเอม ประโยชน์ต่อสุขภาพ ชะเอมช่วยสร้างภูมิคุมกันโรคให้แก่ร่างกาย ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกตินอกจากนี้ชะเอมยังช่วยให้นำย่อยทำงานเป็นปกติ และช่วยรักษาโรคเบาหวานเนื่องจากชะเอมมีสารไกลซีไรซิน ซึ่งเป็นตัวย่อยคอร์ติซอล ที่ร่างกายผลิตขึ้นและช่วยลดอาการอักเสบด้วย ส่วยฟลาโวนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ตับ และสารลิควิริติน ที่ช่วยรักษาโรคผิวหนัง พริก ประโยชน์ต่อสุขภาพ พริกมีความสำคัญที่เรียกว่าแคปไซซิน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบการเผาผลาญพลังงานให้ทำงานเร็วขึ้น เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก ช่วยลดอาการแพ้ต่าง ๆ และยังช่วยขยายหลอดเลือดเพื่อไม่ให้หลอดเลือดอุดตัน สาหร่ายเคลป์ ประโยชน์ต่อสุขภาพ คือ สาหร่ายเคลป์เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด เช่น ไอโอดีน เหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม โดยเฉพาะไอโอดีนที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตฮอร์โมนไทร็อกซิน ซึ่งช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานทำงานเป็นปกติ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับให้ดีขึ้น ส่วนแร่ธาตุอื่น ๆ นั้นช่วยในเรื่องของโครงสร้างกระดูก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย และทำให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ ชาเขียว ประโยชน์ต่อสุขภาพ ชาเขียวมีวิตามิน แร่ธาตุ การเฟอีน สารที่สำคัญอย่างโพลีฟีนอล และคาเตชิน มีประโยชน์ในเรื่องของการลดน้ำหนักช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเร็ว แคลเซียม ประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฟันและกระดูก ช่วยบำรุงรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ ควบคุมระบบประสาทส่วนกลางและกล้ามเนื้อ แหล่งอาหารที่พบ ได้แก่ สาหร่ายทะเล งา ปลาซาร์ดีน เต้าหู้ พาร์สลีย์ มะเดื่อฝรั่ง เมล็ดดอกทานตะวัน ซิลิกา ประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงกระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ ผิว และผมให้แข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นและทำให้ร่างกายเจริญเติบโตเป็นปกติ ทำให้ความดันโลหินสมดุลและช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ ชะลอความแก่ ซิลิกาพบมากใน มะเดื่อฝรั่ง ผักโขม แอปเปิล สตรอว์เบอร์รี ลูกเกด ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง วิตามีนเค ประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันเส้นเลือดตีบ ทำให้เลือดแข็งตัวเมื่อเกิดบาดแผลช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงระบบไหลเวียนโลหิต และสังเคราะห์โปรตีนในกระดูกเพื่อผลิตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ แหล่งอาหารที่พบได้แก่ ชาเขียว กะหล่ำดาว ผักใบเขียวเข้ม บร็อกโคลี ถั่วเหลือง


การออกกำลังกาย

หลักการออกกำลังกายสำหรับกรุ๊ปเลือดโอ - ควรเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง เช่น วิ่งเหยาะ ๆ หรือเดิน เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากขึ้นควรใช้เวลาอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที - ยืดเส้นยือสายด้วยท่ากายบริหารต่าง ๆ ให้ทั่วทุกส่วนของร่างกาย เช่น การบริหารคอ ไหล่ เอว ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที - หลังจากยืดเส้นยืดสายเรียบร้อยให้ออกกำลังการที่เหมาะสำหรับกรุ๊ปเลือดโอ เช่น วิ่งระยะไกล ขี่จักรยาน แอโรบิก แต่สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายใหม่ ๆ ควรออกกำลังกายแบบเบา ๆ ไม่เหนื่อยมาก เช่น ขี่จักรยานระยะทางใกล้ การเดินขึ้นลงบันได เป็นต้น เมื่อร่างกายได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ให้เพิ่มความแรงขึ้น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที - หลังจากออกกำลังกายแล้วก็ควรจะทำให้ร่างกายเย็นลง ด้วยการเดินช้า ๆ ต่อสัก 10 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ - ควรออกกำลังกายให้เหมาะสำหรับกรุ๊ปเลือด โดยสัปดาห์หนึ่งควรออกกำลังกาย 3-4 วัน วันละ 20-30 นาทีเป็นอย่างน้อย


วิธีดูแลสุขภาพ

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนทำให้สมองปลอดโปร่ง ความคิดเล่น และตัดสินใจได้ดีขึ้น ออกกำลังกายลดความเครียด แต่ทั้งนี้ไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหม ควรออกกำลังการที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดดีที่สุด ฟังเพลงที่โปรด การฟังเพลงจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและช่วยปลดปล่อยอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้


กรุ๊ปเลือดโอ : จัดเป็นพวกโปรตีน (High Protein Diet)

ลักษณะเด่นของเลือดกรุ๊ปโอคือ น้ำย่อยในระบบย่อยอาหารมีความเป็นกรดสูง ซึ่งเหมาะกับอาหารประเภทเนื้อแดงหลายชนิด ผักและผลไม้ส่วนใหญ่มีประโยชน์กับกรุ๊ปเลือดโอ แต่นมวัว และชีสแทบทุกชนิดจะย่อยยากสำหรับคนเลือดกรุ๊ปโอ ที่สำคัญที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงจนถึงการงดการรับประทานแป้งสาลี เพราะเลคตินในแป้งสาลีจะทำปฏิกิริยาที่เป็นผลเสียเลือดและรบกวนระบบเผาผลาญของร่างกาย
สิ่งที่ควรเน้นเพิ่มคือ ปลาและอาหารทะเล ทั้งนี้เพื่อเพิ่มแคลเซียมซึ่งร่างกายจะไม่ได้รับจากนมวัว และเพิ่มไอโอดีนเพื่อประโยชน์ของฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งมักจะไม่คงที่

อาหารที่ควรรับประทาน

- เนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดง ยกเว้นเนื้อหมู เนื่องจากกระเพาะของคนกรุ๊ปเลือดโอมีความเป็นกรดสูงย่อยอาหารได้เร็วและดูดซึมได้ดีมาก
- อาหารทะเล ควรรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัวและไทรอยด์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายในคนกรุ๊ปเลือดโอ
- ผักผลไม้ที่ดี ได้แก่ บร็อคโคลี่ สปินิช คะน้า สับปะรด พลับ พรุน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญอาหาร
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารทุกชนิดที่ทำจากแป้งสาลี เพราะจะมีปฏิกิริยาต่อระบบย่อยและระบบเลือด ทำให้น้ำหนักเพิ่มและเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม
- ผักจากพวกกะหล่ำ ที่จะมีผลต่อระบบไทรอยด์ เห็ดหอม มะเขือยาว มันฝรั่งและข้าวโพดไม่ดีต่อกรุ๊ปเลือด
- เครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟและเบียร์ ซึ่งจะเพิ่มกรดในกระเพราะอาหารที่มีมากอยู่แล้ว
- ควรเลี่ยงแคนตาลูป ส้ม สตรอเบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไปสำหรับคนเลือดกรุ๊ปนี้


*ขอขอบคุณข้อมูลดีๆมีความรู้จาก
//www.healthcorners.com
//nid.danupon.com/blood/



Create Date : 01 ธันวาคม 2552
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 13:48:24 น.
Counter : 718 Pageviews.

3 comment
ลักษณะนิสัยตามเวลาเกิด {ตัวเอง}
ช่วงตี 5 ถึง 7 โมงเช้า

รู้จักตัวตนจากเวลาเกิด
· ผู้ที่เกิดเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า ช่วงเวลานี้เป็น เวลากระต่าย จะทำให้คุณเป็นคนรักสวยรักงาม ทำอะไรละเอียดอ่อน สะอาดสะอ้าน ชอบแต่งตัวให้ดูดีเสมอ บุคลิกของคุณจะค่อนข้างสุภาพดูอ่อนโยน พูดจาหวานและนอบน้อมถ่อมตัว มีมารยาทเป็นเลิศ ดูแล้วผู้ดี๊ผู้ดี สงบ เงียบ เรียบร้อย เป็นผู้ใหญ่ ด้านนิสัยใจคอแม้จะดูเงียบนุ่มปานนั้น ลึก ๆ มั่นใจและทะเยอทะยานไม่น้อย เป็นคนเข้ม แข็งข้างใน รู้จักระมัดระวังรอบคอบ เป็นนักการทูต จิตวิทยาสูง มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นดี ใจกว้าง โกรธง่ายหายไว จิตใจดี ใจอ่อน ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือ รสนิยมดี



Create Date : 19 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2552 21:00:22 น.
Counter : 233 Pageviews.

1  2  3  

sapuknik79
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สาวราศีเมษ รักความสงบ ชีวิตสมถะ แต่ติสส์แตกอยู่บ่อยๆ เขียนบล็อคแล้วแต่อารมณ์ (แต่ขี้เกียจอัพเป็นส่วนใหญ๋) แต่มีความจริงใจยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกคนที่แวะมาเยี่ยมจ้า

: Users Online
Free นาฬิกาน่ารัก
Google