ทำดีที่ไหนก็เป็นสุข

<blockquote>ชีวิตเราทุกคนมีทั้งดีและชั่วอย่างปุถุชนคนทั่วไป แต่ทุกครั้งที่เราทำความดี “จะอยู่ในที่มืดหรือสว่าง” ก็คงเป็นความดีอยู่นั่นเอง เมื่อใดเรารับได้ว่า “ความดีที่ทำให้ที่มืดมีคุณค่า”

เมื่อนั้นเราทำดีอย่างไม่ต้องรอให้ใครสรรเสริญได้แล้ว ความประเสริฐในใจมันเกิดขึ้นทันที หากเราเคยทำผิดพลาดมาในอดีต มีสติ..มีความรู้สึกตัว

พยายามปรับปรุงแก้ไขตนเอง เราก็ได้ชื่อว่า “เป็นผู้กลับตัวกลับใจ..ใฝ่ดีได้” นี่เป็นเริ่มต้นแห่งความดี



จาก ว. ปัญญาวชิโร





 

Create Date : 29 เมษายน 2553    
Last Update : 29 เมษายน 2553 16:07:14 น.
Counter : 788 Pageviews.  

ฝึกวิชาลืม... เมื่อทุกข์จรมา

ฝึกวิชาลืม... เมื่อทุกข์จรมา

วันนี้ผู้เขียนจะได้เสนอแนะวิธีแก้ทุกข์ขั้นพื้นฐาน เมื่อทุกข์จรเข้าในใจเรา ขณะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่กำลังฝึกฝนใจตนอยู่ กำลังตกอยู่ในภาวะทุกข์ไม่ว่า จะทุกข์กาย หรือทุกข์ใจ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ ก็คือ “ความอยากที่จะหายไปจากทุกข์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่” ความกระหายที่จะหายจากทุกข์มีมากเท่าไร ความทุกข์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ความอยากที่ต้องการหายจากทุกข์ บางทีมันก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง บางทีมันก็เป็น “อวิชชา” ได้เหมือนกัน แต่การลืมวิชาหรืออวิชชาทั้งหมด แล้ววางเฉยกับอารมณ์ที่จรมา ในการปฏิบัติธรรมทำให้ใจเราสงบได้ เป็นการปฏิบัติธรรมเพื่อพ้นทุกข์ ในขณะที่ทุกข์กำลังเกิดขึ้น ให้เพียงระลึกรู้อยู่ว่า “กำลังมีทุกข์เกิดขึ้น” ไม่ต้องมีความอยากที่จะหายจากทุกข์ เพียงแค่รู้เฉย ๆ หรือ รู้แล้วไม่แทรกแซงในอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพียงรู้แล้วปล่อยวาง ทุกข์จะหมุนเวียนตามสภาพที่เป็นจริงคือ “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป” ตามสภาวะของมัน
อย่างธรรมะเรื่องขันติเรารู้จักกันอยู่ แต่เรากลับไม่เคยอดทนกัน มันจะมีอำนาจอะไรเกิดขึ้นไหม? ถ้าเราไม่ใช้มัน เพียงเราเจอเรื่องลำบากหน่อย ก็ดิ้นทุรนทุราย เป็นทุกข์ เป็นร้อน เหมือนคนทุกข์เต็มหัวใจ คนที่ไม่รู้จักสุข ไม่รู้จักทุกข์นั้นก็จะเห็นว่า สุขกับทุกข์นั้นมันคนละระดับ มันคนละราคากัน
ถ้าเราเข้าใจแล้ว ท่านจะเห็นว่า “สุขเวทนา กับทุกขเวทนา” มันมีราคาเท่าๆ กัน เพราะมีทุกข์จึงรู้ว่าสุขได้ยิ่งเราพิจารณายิ่งเห็นว่า อารมณ์นี้เป็นเหมือนเสือร้าย เป็นเหมือนกับงูเห่าที่มีพิษร้ายนั้น จะแสดงออกมาตามอาการ อารมณ์ที่พอใจก็มีพิษมาก อารมณ์ที่ไม่พอใจก็มีพิษมาก เพราะมันแสดงสภาวะไปตามอำนาจแห่งกิเลสตัณหา มันทำให้จิตใจของเราไม่เป็นอิสรภาพ
นักปฏิบัติมักจะลืมเรื่องนี้ไปเสียสิ้น เมื่อทุกข์จรเข้ามา ใจเกิดอาการอยากจะหายจากทุกข์ จะเกิดการดิ้นรนกระวนกระวายใจ ภายในจิตใจเพิ่มความซับซ้อนขึ้นมา ยิ่งเป็นการเพิ่มทุกข์ใจมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าเราสามารถทำใจให้ลืมทุกข์ได้ ใจเราจะเริ่มว่าง... ว่างจากการยึดติด
ใจเราจะเริ่มวางเฉยในทุกข์ รู้อยู่ว่ามีทุกข์เกิดแล้ว แต่ให้ใจเป็นอุเบกขา สงบ สว่าง เย็น แล้วหาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ แล้วแก้มันเสีย นี่คือ “วิธีการปฏิบัติ อย่างง่ายๆ แบบธรรมชาติที่ลืมสิ่งที่จรเข้ามา” เราลองมองให้ดีๆ ว่า ความเป็นคนจะมีสารพัดทุกข์ สารพัดเรื่อง ที่จรเข้ามา ไม่มีทางเลี่ยงได้เลย แต่เราจะเลี่ยงง่ายๆ ด้วยการฝึกลืม จนกลายเป็นฝึกปล่อยวางลงได้
ทางพระเรียกว่า “วางจิตให้อยู่ในอุเบกขา” รู้ในทุกข์นั้นได้เสมอ ๆ มันก็จะเป็นทางผ่านในการปฏิบัติธรรม เพราะตัวอุเบกขาจริงๆ คือ ปัญญาพิจารณาความจริง ถ้าเราสังเกตข้อดีของทุกข์อีกอย่างก็คือ เมื่อเกิดทุกข์ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ความไม่ต้องการ ความไม่อยากได้ การอยากหนีไปให้พ้น ๆ จากสังสารวัฏ ความรู้สึกนี้ ก็เป็นตัวเร่งให้มีความเพียรในการปฏิบัติไม่มีใครหนีทุกข์พ้น แม้แต่พระอรหันต์ก็ยังมีทุกข์ทางกายอยู่ แต่ทุกข์ใจท่านละได้หมดสิ้นแล้ว ไม่ทุกข์ใจอีกแล้ว เมื่อมีทุกข์ รู้ทุกข์แล้วให้รู้เฉย ๆ ไม่ต้องอยากให้หายทุกข์ นี่คือ “รู้สมุทัย” บ่อเกิดแห่งทุกข์
จาก ว. ปัญญาวชิโร




 

Create Date : 29 เมษายน 2553    
Last Update : 29 เมษายน 2553 9:56:45 น.
Counter : 878 Pageviews.  

อย่าให้ใคร มาขโมยเวลาของเราไป

อย่าให้ใคร มาขโมยเวลาของเราไป

ชีวิตเรากำลังถูกกิเลส ขโมย เวลาของเราไป อย่างไม่รู้ตัว ถ้าเรามีเป้าหมายของเราแล้ว จงทำงานนั้น ให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว ทำงานอย่างมีสติ ปัญญา แต่ลืมว่า ต้องไม่ผิดศีล ผิดธรรม ตำรากล่าวไว้ว่า “ต่อให้มีแรงมากเท่าไหร่ มีปัญญามากเท่าใด แต่ถ้าเอาไปใช้ทำสิ่งที่ผิด ชีวิตเราจะหลงผิด” ถ้าเราไม่อยากให้ชีวิตหลงผิดควรมีสติพิจารณาเนื่องๆ

จาก ว.ปัญญาวชิโร




 

Create Date : 28 เมษายน 2553    
Last Update : 28 เมษายน 2553 11:46:48 น.
Counter : 808 Pageviews.  

เพือประโยชน์สุข


ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัว เป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง
ลาภ ทรัพย์ และ เกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง
ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์

พระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก




 

Create Date : 28 เมษายน 2553    
Last Update : 28 เมษายน 2553 9:56:16 น.
Counter : 496 Pageviews.  

ใจโล่งโปร่งสบาย

สมมุติว่า เรากำลังทรมานมาก เพราะแฟนเราเพิ่งบอกเลิกด้วยเหตุผลระหว่างเราที่ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้ เราอาจเข้าใจเหตุผลดี แต่การมีเขาอยู่ทำให้เราอุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว ทรมานใจเหลือเกินกับการต้องอยู่ไปวันๆ โดยไม่มีเขา ถ้าไม่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ เราจะกับใจเราได้อย่างไร แล้วเราจะอยู่ยังไง?
ลองพิจารณาอีกทีว่า อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกทิ้ง แต่ให้คิดว่าเราเป็นฝ่ายเลือกที่จะทิ้งขยะชิ้นหนึ่ง ออกจากใจ ตรงนี้จะทำให้โปร่งขึ้นทันที


จาก ว. ปัญญาวชิโร




 

Create Date : 27 เมษายน 2553    
Last Update : 27 เมษายน 2553 19:23:37 น.
Counter : 523 Pageviews.  

 
 

samuellz
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบชีวิตอิสระที่สุด
รักทุกคนที่มีธรรมะ
[Add samuellz's blog to your web]

MY VIP Friend


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com