IMPOSSIBLE IS NOTHING
Group Blog
 
All blogs
 

คำพูดบางคำที่ทำให้คิดมาก

บางครั้งคนเราก็ละเลยและมองข้ามความรู้สึกของคนใกล้ตัว
คำพูดบางคำที่เราพูดแบบไม่ได้คิดอะไรก็อาจทำร้ายความรู้สึกของผู้ฟังได้
คือตัวเราไม่คิดแต่คนฟังฟังแล้วอาจคิดมากเหมือนอย่างที่ฉันเป็น

ฉันไม่ชอบความอ่อนแอเพราะมันมีอิทธิพลเหนือฉัน
ฉันจึงอยากอยู่คนเดียวมากพอๆ กับการที่ได้อยู่กับพ่อแม่
เพราะฉันรู้ว่าพ่อแม่ไม่มีวันทำร้ายฉัน ทำให้ฉันเสียใจ
ฉันจึงรู้สึกมีความสุขมากเวลาที่อยู่กับพ่อแม่

มีเพื่อนที่หวังดีต่อฉันมากมายชวนฉันไปโน่นไปนี่
ใจหนึ่งฉันก็อยากไปกับเขา
แต่อีกใจก็ไม่อยากไป...มันไม่ใช่ตัวฉัน
มีหลายคนเคยพูดกับฉันว่าฉันเก็บตัวเกินไป
รู้ไหมเพื่อนที่เห็นสนิทๆ กันไม่ได้สนิทกันตอนที่อยู่โรงเรียน
พวกเขาสนิทกันเพราะทำกิจกรรมร่วมกัน
ไม่เหมือนฉันที่เป็นคนหลังเขารู้จักแต่โรงเรียนกับบ้านเท่านั้น

โลกของฉันมีฉันเพียงคนเดียว
มันคงเล็กและแคบเกินกว่าที่คนอื่นจะเข้าได้
ยิ่งวัน...ฉันยิ่งคิดว่าโลกของฉันมันคงแคบลงเรื่อยๆ

ถึงจะรู้อย่างนี้ฉันก็ขอเป็นตัวฉันในแบบนี้
เป็นตัวของตัวเองรู้สึกสบายใจกว่า
ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร
ฉันคงรักตัวเองมากไปเกินกว่าที่จะรักคนอื่น

บางครั้งก็เกิดจากการเหนื่อยและท้อ
เมื่อเราทำทุกอย่าง ทุ่มเทให้ไป
ผลตอบแทนกลับมีแต่ความว่างเปล่า
ไม่ใช่ฉันทำเพราะหวังผลตอบแทนหรอกนะ
ที่ทำไปฉันหวังเพียงแค่...
ใครสักคนที่จะมองเห็นค่าของมันบ้าง
เท่านั้นเอง...




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2550 13:39:04 น.
Counter : 446 Pageviews.  

23 วันก่อนแอดมิชชั่นส์

1 ก.พ. 2550 เหลืออีก 23 วัน

ป๊าพยายามปลุกตั้งแต่ตี 5 แต่ไม่ตื่นค่ะ มาตื่นเอาตอน 6 โมงเช้า
เพราะนึกขึ้นได้ว่าอาร์เซนอลแข่งฟุตบอลคาร์ลิ่งคัพกะสเปอร์
ปรากฏว่าชนะ 3-1 จากการต่อเวลาหลังเสมอในเวลา 1-1
ง๊วง...ง่วง ยังไม่ได้เริ่มอ่านหนังสือเลย
วันนี้ว่าจะอ่านวิชาฝรั่งเศสเพราะสอบตอนเช้าในคาบ
เออคอมพิวเตอร์ด้วย หน่วยที่ 1-4
เมื่อวานลี่ฝากสมุดไว้แล้วลืมเอา เค้าเลยแบกไปแบกมาทั้งวัน
วันนี้วันที่ 1 แล้วนะยังไงก็ต้องลองพยายามดูสักตั้ง
มันไม่ยากเกินความสามารถเราหรอกจริงไหม?

เมื่อวานน่ะหล้าบอกว่าจะโทรมาตอนสี่ทุ่มเค้าก็รออีกตามเคย
หล้าก็ไม่โทรมา น้อยใจอยู่นิดๆ แต่ไม่เป็นไรหรอก
เค้าอาจจะคิดมากเองก็ได้ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกเนอะ




นี่ไงรูปที่หล้าให้เค้ามา ขอบคุณมากๆ นะ


2 กุมภาพันธ์ 2550 22 วันก่อนแอดมิชชั่นส์

ไม่ได้การแล้วล่ะ ต้องรีบประกาศภาวะฉุกเฉิน
แม้จะเขียนตารางอ่านหนังสือแล้วก็ใช่ว่าจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
เพราะฉะนั้นตอนนี้เราจึงต้องประกาศเคอร์ฟิวอย่างเร่งด่วน
ในหนึ่งวันจะต้องอ่านหนังสือให้ได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
ตามกำหนดการต่อไปนี้

เวลาอ่านหนังสือ

04.00 - 06.30 น.
17.00 - 18.30 น.
21.00 - 23.00 น.

ต้องทำให้ได้นะใหม่ สู้เค้าน้า



3 กุมภาพันธ์ 2550 เหลืออีก 21 วันจะแอดแล้ว!

นี่ขนาดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว
ไอ้ใหม่มันยังเล่นอยู่เลย ตกลงมันอยากสอบได้ไหมเนี่ย
ตื่น 06.00 น. ทั้งที่ต้องตื่น 04.00 น.มันยังทำไม่ได้เลย
เห็นหล้ากะสาลี่ขยันออกอย่างนั้น แล้วตัวฉันล่ะ?

ทำไมคนอื่นเค้าทำได้ เราทำไม่ได้วะ
พยายามเข้า...พยายามเข้า
วันนี้โรงเรียนมีติวภาษาไทยก็เลยว่าจะไปดีกว่า
อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรก้าวหน้า มันน่าหนักใจนัก
ไอ้ใหม่มันไม่รักดี คอยดูสอบไม่ติดอย่ามาร้องไห้ละกัน
ฉันจะไม่ปลอบมันหรอก

กลับมาก็ทำการบ้านแล้วก็อ่านหนังสือตามเคอร์ฟิวน้า
ช่วยตัวเองหน่อย ถึงล้มแล้วเจ็บแค่ไหนก็ต้องลุกให้ได้
ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอยเข้าใจไหม?


4 กุมภาพันธ์ 2550 อีก 20 วันจะแอดแล้วววววว

เมื่อวานตั้งใจอ่านหนังสือดีมาก อ่านต่อไปเข้าใจไหม
ทำให้ได้เหมือนเมื่อวาน วันนี้ว่าจะลองทำข้อสอบภาษาอังกฤษ
คงต้องพยายามกับวิชาที่ถนัดแล้วล่ะ ไทย สังคม อังกฤษ
ต้องพยายามกับวิชาที่ไม่ถนัดด้วยเหมือนกัน
เราต้องไม่ยอมแพ้นะ ไม่ใช่เจออะไรนิดอะไรหน่อย ก็ถอยซะแล้ว
เริ่มต้นก็ช้ากว่าคนอื่นเค้า เค้าไปดาวอังคารแล้ว ตัวเรายังอยู่ดวงจันทร์อยู่เลย
ต้องใช้ความเร็วแสงเข้าช่วยเสียแล้ว ย๊ากส์...

อากาศหนาวมาก ตอนเช้านี่ไม่อยากตื่นเลย
อ่านหนังสือแล้วมือแข็ง เท้าเย็นนี่ทรมานนะ
เหนื่อยจัง แต่ต้องอดทนรู้ไหม อีก 20 วันเอง
ต้องทำให้ได้...
เมื่อพยายามถึงที่สุดแล้ว
อะไรมันจะเกิด ก็ต้องเกิด
คนเราฝืนชะตาตัวเองไม่ได้หรอก
นอกจากทำวันนี้ให้ดีที่สุดไง

เมื่อวานไปเรียนภาษาไทยมาสนุกดี
อ.อุดมพันธ์ ตั้งใจสอนสุดๆ กี่คนก็สอน
ตอนแรกคนไปน้อยมากประมาณ 10 กว่าคนเอง
ดีจัง อยากให้โรงเรียนมีครูอย่างนี้เยอะๆ

วันนี้ภาษาอังกฤษ อ.กิตติพล จะไปดีไหมน้อ
การบ้านเยอะแยะทั้งวิจารณ์วรรณคดีไทย
สรุปองค์ความรู้ธุรกิจอีก
ไม่เป็นไรเนอะ ค่อยๆ ทำไป
แต่ตอนนี้อ่านหนังสือต้องเป็นเรื่องหลัก
เรื่องอื่นไว้ทีหลัง สอบคณิตอีกเกือบลืมว่ะ
วันอังคารสอบจุดประสงค์ วันศุกร์สอบปลายภาค
ยังไม่ได้ไปยืมสมุดหล้ามาถ่ายเอกสารเลย

เป็นอาทิตย์ที่ไม่ควรขาดเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งส่งงานและสอบอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ
แต่วันนี้วันอาทิตย์ได้เวลาอ่านหนังสือแล้ว

สู้เว้ย!

ปล. หล้ากะสาลี่ก็ขยันเหมือนกัน มาสู้ด้วยกันนะ



5-6 กุมภาพันธ์ 2550 เหลืออีก 18 วันแอดมิชชั่นส์




เมื่อวานไม่ได้เขียนบันทึกเลย แบบว่ายุ่งๆ
ทั้งต้องไปหาซื้อดอกกุหลาบ 50 ดอก
ลูกอมแล้วก็ช็อกโกแลตมาใส่ห่อพลาสติก
เอาไว้แจกเพื่อนกับน้องๆ ในวันพรุ่งนี้
เค้าก็ลุ้นเหมือนกันนะว่าจะมีใครบ้างที่จะนึกถึง
ไม่ต้องมีดอกไม้ แค่เข้ามาทักมาอวยพรก็รู้สึกดีแล้ว

พอเอาเข้าจริงๆ รู้แล้วล่ะว่ายังมีคนอีกจำนวนไม่น้อย
ที่ยังนึกถึงเค้า ตอนที่น้องเค้าวิ่งเอาดอกไม้มาให้นะ
เป็นช่วงเวลาที่เค้ามีความสุข ไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง
เหมือนกับว่าโรงเรียนจัดงานนี้เพื่อเรา ให้น้องได้แสดงน้ำใจแก่พี่ๆ
ตอนเดินลอดซุ้มมีคุณครูมายืนส่งเรา ให้กำลังใจเรา
รู้อย่างเดียวก็คือ ดีใจที่ได้อยู่ ณ เวลานั้น ถ้าพลาดไปคงเสียดายแย่

บอกตรงๆ รู้สึกใจหาย...ที่ต่อไปเราก็จะกลายเป็นอดีต
ต้องจากโรงเรียน...คุณครู...เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมา
ตอนนี้ก็เลยรู้สึกว่าต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่กับสิ่งเหล่านี้ให้มากที่สุด
เพื่อในที่สุดมันจะได้กลายเป็นความทรงจำที่มีค่าต่อไป

ขอบคุณทุกช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในชีวิต ที่ทำให้เป็นเค้าจนถึงทุกวันนี้




ปล.เอาของขวัญไปแลกกับป.ว.ด้วย ของขวัญชิ้นแรกตั้งแต่รู้จักกันมา



7-11 กุมภาพันธ์ 2550 เหลืออีก 13 วันจะแอ๊ด...แอ๊ด

เป็นช่วงเวลาของชีวิตที่มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย
ฉันต้องเผชิญเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ดาหน้าเข้ามาทดสอบ
หลายครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้ ว่าทำไมเป็นอย่างนี้
ประกอบกับตัวฉันเองเป็นคนที่คิดมาก
บางครั้งดูโรคจิตชอบคิดล่วงหน้าไว้ก่อน
สุดท้ายทนไม่ไหวก็เลยก๊อกแตกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

มีคนถามฉันมากมายว่าเป็นอะไร เล่าให้ฟังได้ไหม
ฉันไม่ได้พูดอะไรนอกจาก บอกว่าไม่ไหวแล้ว
ความรู้สึกในตอนนั้นคืออยากกลับบ้าน...
บ้านคือสถานที่แห่งเดียวที่ฉันรู้สึกว่าเป็นที่ของฉันจริง
เรื่องที่เกิดขึ้น ฉันไม่รู้จะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้
ก็เหมือนที่หล้าบอก ไม่มีใครเข้าใจตัวเราเท่าเราเข้าใจตัวเอง

ฉันก็เหมือนคนอ่อนแอคนหนึ่งที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ
เอาแต่หลบอยู่ในเปลือกหอย มีความสุขอยู่กับสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น

ฉันคงปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ยากเกินไป
ฉันคงอยู่กับตัวเองมากเกินไป
ฉันก็รู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน
จนบางครั้งเป็นความชาชิน
บางครั้งพยายามไม่คิดมาก
แต่บางครั้งมันก็ไม่ไหวแล้ว...

การได้กลับบ้านมาคิดอะไรคนเดียวสักพัก
ทำให้ฉันได้มองเห็นอะไรมากมายในสิ่งที่เกิดขึ้น
ฉันไม่ได้โกรธใคร นอกจากโกรธตัวฉันเอง

แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว...เรามาบ้ากันต่อเถอะ
เมื่อวันเสาร์ไปเรียนสังคมกะพี่โอ๊ตมาสนุกดี
พี่เค้าสอน 6 ชั่วโมงรวดเลย ก็ได้อะไรมาเยอะ
ลองทำข้อสอบดู
รู้เลยว่าเรื่องที่ตัวเองยังอ่อนอยู่มากก็คือ ประวัติศาสตร์+ภูมิศาสตร์
แต่ไม่น่าเชื่อเศรษฐศาสตร์ทำถูกเกือบหมด เย้! แน่นนะนี่...
วันนี้เรียนภาษาไทยพี่เค้าบอกให้ลองทำไปก่อนเพราะบทอ่านมันเยอะ
ต่อไปทำแบบฝึกหัดอย่างเดียวเลย เรื่องไหนไม่เข้าใจค่อยอ่าน

เดี๋ยวนี่ตั้งแต่ป๊ามีคนมาช่วย ฉันเป็นลูกที่ไม่ค่อยดีเลย
ไม่ค่อยได้ช่วยงานป๊า เวลาไม่มีคนอยู่จะคิดเงินก็ไม่รู้ราคาของ
แย่จัง ฉันไม่ชอบเลย ชอบแบบเก่ามากกว่า
แต่ก็รู้ว่ายังไงมีคนมาช่วยป๊ากับแม่จะได้ไม่เหนื่อยมาก
ตอนนี้ที่จะทำให้ป๊ากับแม่ภูมิใจที่สุดก็คือ ต้องสอบให้ดีที่สุด
ฉันรู้ป๊ากะแม่ห่วงฉันมาก ฉันจะตั้งใจค่ะ

ปล.สอบเอเน็ตที่ รร.สตรีอ่ะ



วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 เหลืออีก 12 วัน แอดมิชชั่นส์

วันนี้ไปโรงเรียนเหมือนไปส่งงานไม่ค่อยได้ทำอะไร
ไปสอบหนังสือซีไรท์กับแหม่ม ท่องบทอาขยานด้วย
อาจารย์ใจดีมากๆ ไม่ว่าสักคำที่ฉันมาสอบช้า
จะมีก็แบบแซวๆ ว่าทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้ จะหมดเทอมอยู่แล้ว

เพื่อนไม่ค่อยมาเท่าไรเลยหยุดอ่านหนังสือกันเป็นแถว
ไม่รู้สิ ยิ่งใกล้จบยิ่งอยากใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนให้มากที่สุด
ก่อนที่ช่วงเวลาเหล่านี้จะกลายเป็นเพียงความทรงจำ
เป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขมากที่สุดแล้ว

ตอนนี้ไม่ค่อยสนใจคนอื่นเท่าไร สนใจตัวเองมากกว่า
จะสอบแล้วฉันก็พยายามตั้งใจอย่างเต็มที่
เพราะเมื่อผลออกมา ร้ายหรือดีมันอยู่ที่ตัวเอง
ฉันก็พร้อมที่จะยอมรับมันด้วยใจที่แข็งแกร่งขึ้น




ตอนเย็นกลับมาบ้านเปรียวเอา Valentine Messenger มาให้
เป็นของน้องมิ้นท์ชะนีเผือก ฮ่าฮ่า ดีใจมากๆ ได้กะเค้าด้วย
ถึงมันจะชอบเล่นอะไรแรงๆ แต่มันก็เป็นรุ่นน้องที่น่ารัก
ทั้งโบว์...น้องสาวที่ตามหากันมานาน
น้องวาวที่เพื่อนชอบหาว่ามันเป็นเลสเบี้ยน แถมแอบปลื้มลิลลี่

ดีใจที่สุดที่เราได้รู้จักกัน



ตอนไปเข้าแถวก็ได้อีกเหมือนกันน้องตังเอามาให้


วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2549 วันนี้วันตรุษจีน เหลืออีก 6 วัน แฮ่!

เมื่อวานกลับจากค่ายปัจฉิมหลับเป็นตายเลย เหนื่อยมากๆ
ค่ายนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเพื่อนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิต
นึกถึงตอนนอนที่ล้อมวงคุยเปิดใจกัน มันเหมือนวันปวารณาเลย
ได้รู้ความรู้สึกที่เพื่อนมีต่อเราและเพื่อนคนอื่นๆ
นอนเบียดกันด้วยเสื่อผืนหมอนใบทั้งที่อากาศร้อน
นึกเสียดายที่เราเหลือเวลาน้อยลงทุกที ทั้งที่เพิ่งเข้าใจกัน

งานเลี้ยงย่อมต้องมีวันเลิกรา...
เมื่อถึงเวลาต่างคนต่างก็ต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
ไมว่าอยู่ที่ใดความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่เสมอ
ดีใจจังเค้ามีน้องสาวเพิ่มตั้งหลายคน...สาลี่ เมย์ ไอ้ปาล์ม โบว์เล็ก ไอ้แต้ว
และเพื่อนๆ อีกมากมายทั้งเพื่อนสมัยประถม เพื่อน ม.ต้น เพื่อน ม.ปลาย
ต่อให้เราเคยโกรธกันมากี่ครั้ง เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน

ตอนที่ได้เวียนกราบคุณครูในโรงเรียน กราบที่ตักของท่าน
ได้รับรู้ความรัก ความปรารถนาดีของท่านที่มีต่อลูกศิษย์
ตอนก้มลงกราบน้ำตาไหลเลย เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
แต่ก็ทำให้เราสบายใจ ได้กราบขอบคุณและขออภัยจากคุณครู
เหมือนค่ายนี้คุณครูทุกคนตั้งใจมาส่งนักเรียนจริงๆ

ขอบคุณค่ะคุณครู ขอบคุณนะเพื่อนๆ

ความทรงจำดีๆ ที่เราได้ทำร่วมกันมาจะอยู่ในใจของเค้าตลอดไป

ปล.ป๊ากับแม่ไปเที่ยวตรุษจีน แม่ดูวุ่ยวายกับการเตรียมของ
เหลืออีก 6 วันจะแอ๊ดแล้ว ไปอ่านหนังสือเร็ว...



วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 อีก 4 วันจะแอ๊ดดดดดดดด...

ช่วงนี้รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วอย่างนี้
ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สามวัน เราก็ต้องสอบ O-Net แล้ว
แทนที่ช่วงนี้ฉันจะรู้สึกตื่นตัวตั้งใจอ่านหนังสือให้มากๆ
ฉันกลับทำไม่ได้ มันรู้สึกเซ็งอย่างไรบอกไม่ถูกเหมือนกัน

วันนี้ไปส่งงานที่โรงเรียนแล้วโล่งขึ้นเยอะเลย
ในที่สุดฉันก็ส่งงานจนครบ ไม่มีงานค้างอีกแล้ว
หลังจากที่ตัวเองจมอยู่ในกองดินที่พอกพูนมาตั้งนาน

โรงเรียนในวันนี้ดูเงียบเหงากว่าทุกวัน
เนื่องจากพี่ ม.6 สอบเสร็จแล้ว
และน้อง ม.2 ไปเข้าค่ายยุวกาชาดที่อุบล
แต่เหตุที่ฉันรู้สึกว่ามันเงียบเหงาน่าจะมาจาก
การที่มองไปทางไหนก็ไม่เจอเพื่อนๆ มากกว่า
ทางเดินที่เราเคยเดินมาด้วยกัน
ณ ตอนนี้ถึงทางแยกและการลาจาก...
เหมือนกับฉันในตอนนี้ที่เดินตามเส้นทางชีวิตไปเรื่อยๆ
โดยไม่รู้ว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไร

หนทางทางนั้นบางครั้งก็ดูมืดมน
บางครั้งก็กลับสว่างมองเห็นทางที่ทอดยาวไปลิบๆ
บางครั้งก็เหมือนเป็นทางแยกที่จะต้องเลือกไปเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ฉันเคยรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว
อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น ฉันเฝ้าบอกตัวเองในใจ
แต่ก่อนหน้านั้นฉันก็พบว่ามันกลับกลายเป็นทางสองแพร่ง
ที่ฉันต้องเลือก ต้องตัดสินใจ

ทางหนึ่งถ้าฉันเลือก ฉันสามารถแน่ใจได้เลย...เส้นชัยรออยู่ไม่ไกล
ฉันไม่ต้องพบกับความเสี่ยงใดๆ เลยเพราะมองเห็นอนาคตของฉัน
ไม่ต้องจมอยู่กับความไม่รู้ ไม่แน่ใจและความลังเล

อีกทางหนึ่งถ้าฉันเลือกแล้วก็แน่ใจได้เลย
ต่อไปนี้คนที่กำหนดอนาคตของฉัน คือ ฉันเอง
ผลออกมาเป็นอย่างไร...มาจาการกระทำของตัวเอง

"ไม่ว่าดีหรือร้ายขนาดไหน เราต้องยอมรับให้ได้" ฉันบอกตัวเองอย่างนั้น

ในที่สุดฉันเลือกที่จะเดินในเส้นทางที่สอง
แต่ตอนนี้ทำยังไงดี ฉันอ่านหนังสือไม่ทันแล้ว...

ปล.พีเอสวีชนะอาร์เซนอล 1-0 ฮือๆ เล่นแบบเหย้าเยือนด้วยอ่ะ
สู้ๆ น้า The Gunners


23 กุมภาพันธ์ 2550 พรุ่งนี้สอบ O-Net แย้วววว

พรุ่งนี้แล้วสินะที่จะถึงวันที่เราต้องลงสนามสอบจริงเสียที
ไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อมก็ตาม...
ตอนนี้เลยรู้สึกตื่นเต้นมาก เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง
สงสัยวันนี้ต้องรีบนอนเพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะตื่นสาย

แต่ถึงจะอ่านหนังสือไม่ทันก็ช่างมันเนอะ
อย่างน้อยก็มีคนเป็นกำลังใจให้เราตั้งเยอะแยะ
ตัวเราเองก็ต้องพยายามทำให้ข้อสอบให้ดีที่สุด
อย่าตื่นเต้น อย่าลนลาน ทำใจให้สบาย
หายใจเข้าลึกๆ สร้างความมั่นใจให้ตัวเองว่าเราต้องทำได้

ในความบ่มิไก๊ของตัวเองก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง
ชีวิตที่ผ่านมาหนังสือเรียนเล่มหนาๆ ฉันไม่เคยอ่านจบ
เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ฉันสามารถอดทนอ่านหนังสือเรียนจบได้
หนังสือสังคมคัมภีร์พิชิตแอดมิชชั่นส์ของ พศ.หนา 648 หน้า
ในที่สุดฉันก็อ่านจบจนได้แม้ว่าจะล่าช้าจากที่กำหนดมานาน

ตอนนี้เลยให้รางวัลตัวเองด้วยการเขียนบันทึกแสดงความชื่นชมยินดี
และเล่นเน็ตสักแป๊บนึง มาริโอสักตานึงพอเป็นกระสัย(สำนวนสาลี่)
โอย...แต่นึกถึงพรุ่งนี้ทีไรทำไมตื่นเต้นงี้วะ

พรุงนี้เจ้มายกลับมาบ้านล่ะ
เลยฝากเจ้มายซื้อใบสมัครของโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
ไม่รู้ว่าจะสมัครทันไหมหมดเขตวันที่ 5 มี.ค. หลังสอบ A-Net เสร็จ
พรุ่งนี้ต้องเอารูปสองนิ้วไปขอใบ บพ.7 ด้วยต้องใช้เป็นหลักฐาน

ถึงตอนนี้จะยังไม่มีความแน่นอนในชีวิต
แต่ก็มีความสุขกับอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะนะ




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2550 15:01:23 น.
Counter : 294 Pageviews.  

ไปสอบเพื่อ...

วันนี้ตอนเช้าเครียดมากเลย
ไปโรงเรียนสอบคณิตศาสตร์วิชาเดียว
ก็จะไม่ให้เครียดได้ไงล่ะ หนังสือก็ไม่ได้อ่าน
มัวแต่อ่านคู่มือสังคมที่ซื้อมาใหม่ อ่านซะเพลินเชียว
คิดจะมาอ่านจะมาทบทวนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
ตายแน่ไอ้ใหม่เอ๋ย!

เมื่อวานไปถามอาจารย์สุกัญญา
ว่าพวกเรียนคณิตกลุ่มสองชั่วโมง
อาจารย์จะนัดสอบวันไหน?
รู้ไหมอาจารย์ตอบว่ายังไง

"พวกเธอก็สอบกลางภาคตามตารางกับพวกสี่ชั่วโมงเลยนะ
สอบข้อสอบชุดเดียวกัน ครูเชื่อว่าพวกเธอทำได้
แล้วถ้ามีปัญหาเรื่องข้อสอบก็ขึ้นมาหาครูที่ห้องนี้"


ขอบคุณมากๆ เลยค่ะอาจารย์
นี่หนูเรียนคณิตสายศิลป์หรือสายวิทย์กันแน่คะ?
เรียนสายศิลป์จะให้ไปสอบกับพวกสายวิทย์ได้ไง
ฟังแล้วก็ได้แต่อึ้งไปเลย


ด้วยเหตุนี้ฉันจึงต้องเข้าสอบพร้อมกับเพื่อนที่เรียนคณิตสี่ชั่วโมง
เห็นข้อสอบแล้วอยากร้องไห้ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย...
เป็นปรนัย 14 ข้อ อัตนัยอีก 4 ข้อ รวม 20 คะแนน
ครึ่งชั่วโมงแรกใน 14 ข้อ ที่ฉันทำได้จริงๆ มีอยู่ 3 ข้อนอกนั้นมั่วหมดเลย
อัตนัยไม่ต้องพูดถึงนั่งเทียนเขียนค่ะคุณ จินตนาการล้วนๆ

ก่อนกลับบ้านพวกนิหน่ามาบอกว่าคุยกับอาจารย์มา
สรุปว่าพวกสองชั่วโมงทั้งกลางภาคจุดประสงค์จะนัดสอบอีกที
ตอนแรกเอาข้อสอบให้ดู ถามนิหน่าว่าทำได้ไหม นิหน่าก็ตอบไปว่าทำไม่ได้
อาจารย์เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวครูจะออกข้อสอบใหม่ให้ง่ายกว่านี้
เป็นอันว่ายังไม่ต้องสอบบบบบบบบบ
เอ่อ อาจารย์ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ
แล้วทำไมไม่บอกหนูตั้งแต่แรก...


ตอนนี้ฉันอยากทึ้งหัวตัวเองเป็นที่สุด
แล้วนี่เมื่อเช้าฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย
ไปสอบทำไมกันนนนนนนนนนน!


ไปสอบเพื่อ...






 

Create Date : 28 ธันวาคม 2549    
Last Update : 28 ธันวาคม 2549 18:20:00 น.
Counter : 296 Pageviews.  

หนาว...หนาววววว

ดึกแล้ว...

ฉันยังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ได้ยินเสียงลมข้างนอกพัดต้องใบไม้ไหว
ปีนี้อากาศหนาวมาเยือนอีกครา

หนาวจนฉันต้องหาเสื้อกันหนาวมาใส่
ความรู้สึกแบบนี้ไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว

ตอนนี้เริ่มง่วงสุดๆ ราตรีสวัสดิ์นะทุกคน



เช้าแล้ว...

ฉันตื่นขึ้นมา อากาศเย็นสุดๆ เหมือนอยู่ในตู้เย็นเลย
มาสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าแล้วสดชื่นกว่าเคย
การที่เราตื่นสาย อาจทำให้พลาดอะไรบางอย่างที่แสนดี
คิดอย่างนั้นแต่ฉันไม่เคยทำได้เสียที

ถึงเวลาแล้ว...ที่เราควรจะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ
เพื่อต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน




สายแล้ว...

ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินริมคลอง วันนี้ไม่ค่อยมีเรียน
จึงมีเวลาอยู่กับตัวเอง คิดพิจารณาสิ่งต่างๆ รอบตัว
หลายปีมานี้...โรงเรียนดูเปลี่ยนไปมาก
พื้นที่ว่างเปล่ากลายเป็นธนาคารความดีและหอสมุด
คลองสุรพลมีสะพานข้ามฝั่ง
ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักเรียนในโรงเรียน

บางครั้งการที่เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง
นั่งมองใบไม้ไหวไปมา
ฟังเสียงลมพัด เสียงนกร้อง
ก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจดีเหมือนกัน



บ่ายคล้อย...

มีคนถามคำถามนี้กับฉันเป็นคนที่เท่าไรก็ไม่รู้
คำถามที่ฉันเบื่อมากถึงมากที่สุด
"สอบได้ที่ไหน สอบติดที่ไหนบ้าง?"
พอฉันตอบกลับไปเขามักจะตั้งคำถามยอดฮิต
"ได้แล้วจะเอาเลยไหม จบแล้วมีงานทำเหรอ"
"..."

ฉันอยากจะย้อนถามกลับไปนัก
ทำไมเหรอการที่ฉันจะชอบคณะเล็กๆ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก
มันถึงมีปัญหามากมายขนาดนี้ อยากบอกเขาเหลือเกินว่า
ทำไมต้องมากดดันฉันด้วย ทำไมกัน?

ฉันคิดว่าถ้าได้เรียนในคณะที่ชอบ เราจะเรียนได้ดี
จริงอยู่ที่เรียนเอกนี้สายงานมันแคบ
อาจจะหางานทำง่ายหรือยากก็ตามแต่ มันอยู่ที่ตัวเราเช่นกัน
ว่าจะสามารถสร้างโอกาสให้ตัวเองได้มากน้อยเพียงใด



ค่ำแล้ว...

เห็นทีต้องจบบันทึกไว้เพียงเท่านี้
เวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ
เราจึงต้องใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า
รักษาสุขภาพด้วยเพื่อนที่รักทั้งสองของฉัน
คงได้พบกับกันทางตัวอักษรในโอกาสต่อไป


สวัสดี

ใหม่ Kanokungz




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2549    
Last Update : 21 ธันวาคม 2549 21:00:11 น.
Counter : 330 Pageviews.  

กีฬาสี

สวัสดีวันอังคารจ้า

วันนี้เค้าเอาตุ๊กตาสิงโตไปสองตัว ตั้งใจว่าจะให้หล้ากะลี่จัง
กดแล้วจะมีเสียงด้วยนะ พูดว่า "I Love You"
ได้มาจากเฮียเซียม งงเหมือนกันอยู่ดีๆ ก็เอามาให้
ไอ้หล้ากดมันจนจะพังอยู่แล้ว สงสารตุ๊กตาว่ะ

หลังจากผล มข.แล้วเค้ายังไม่ได้คุยกับสาลี่เลย
เจอลี่ตอนกินข้าวเที่ยง ลี่บอกเค้าว่าตอนที่รู้ผล
แม่ก็ไม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกว่าดีแล้วให้ติด มช.
แม่จะได้ไปเที่ยวด้วย

ตอนนั้นเค้าคิดว่าลี่คงไม่เครียดเท่าไหร่ เห็นยังร่าเริงเหมือนเดิม
แต่จริงๆ แล้วลี่คิดมาก ร้องไห้ด้วย พิชชาบอกเค้าเองตอนเจอกัน
เรื่องแบบนี้เป็นใครบ้างล่ะจะไม่เครียด...ไม่มีหรอก
เพราะมันเป็นอนาคตของเรา เป็นเส้นทางที่เราจะต้องก้าวเดิน

ขนาดเค้าติดแล้วยังมีคนถามอยู่เลยว่าจะเอาเลยเหรอ?
แม้แต่ อ.เพียร คนที่แนะนำให้เค้าลงคณะนี้
ก็ได้ไอ้ตู้ปุยนี่ล่ะที่เตือนสติ ให้ข้อคิดดีๆ กับเค้า

...ไม่ต้องไปสนใจ คนอื่นจะพูดยังไงก็ช่าง มันอยู่ที่ตัวเรา...

เค้าอยากลองไปสัมภาษณ์ดูก่อน
มันประกาศออกมา 84 คน แต่รับแค่ 40 คน
แถมได้สัมภาษณ์เป็นเลขที่แรกด้วย
ตอนนี้ก็เลยคิดอยู่ว่าจะไปสอบกพ. ดีไหม
แถมกลับมาต้องมาขอสอบกลางภาคอีก หนังสือก็ยังไม่ได้แตะ
ต้องตกแน่ๆ เลยคณิต...ไม่น่าลงเลยตู

แถมตอนนี้ที่บ้านก็ยุ๊งยุ่ง ใกล้ปีใหม่แล้วขายของดี
สงสารป๊ากับแม่ไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย
ป๊าปวดเอว แม่ก็ไอไม่หายสักที

ช่วงนี้เป็นบ้ามากชอบดูเอเชี่ยนเกม โดยเฉพาะมวย...ม่วนหลายเด้อ
ชอบอังคาร ชมภูพวงคนนี้ชกตลกดี ดูไปหัวเราะไป
แต่ก่อนเค้าเล่นวูซู พรุ่งนี้จะขึ้นชกชิงเหรียญทองแล้ว สู้ๆ น้า

วันนี้ก็มีแข่งเหมือนกันไทยได้สองเหรียญทอง
จากมนัส บุญจำนงค์กับทีมวิ่งผลัด 4x100 ชาย
ที่เสียดายมากๆ ทีมหญิงไม่ได้เหรียญถูกปรับฟาล์ว
ส่งไม้วิ่งเกินเส้นที่กำหนด อดได้เหรียญเลย
ทั้งๆ ที่เค้ามีโอกาสลุ้นเหรียญทองด้วย
อย่างว่าล่ะนะ มันเป็นกีฬาที่ฝึกซ้อมมาเป็นปีๆ
แต่แข่งจริงไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ จะผิดพลาดไม่ได้เลย


วันนี้แค่นี้ละกัน อยากบอกหล้ากับลี่จังว่า...เค้ารักและห่วงใยเสมอนะ

ใหม่จัง ศิษย์ท่านอังคาร (ชมภูพวง)




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2549    
Last Update : 26 มกราคม 2550 22:22:39 น.
Counter : 345 Pageviews.  

1  2  3  

สลิลลา No.1
Location :
ศรีสะเกษ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กระต่ายตัวกวน
เจ้าตัวหัวเขียว
X
X
Friends' blogs
[Add สลิลลา No.1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.