Group Blog
 
All blogs
 
Kiss Mark <- - (How To)/(Why do I) Make It





กิ๊งก่องงงงงงงงงงงงง

“คร้าบบบ เดี๋ยวไปเปิดแล้วครับ”

กิ๊งงงงงงงงงก่องงงงงงง

กิ๊งก่องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงกดออดถี่รัวย้ำๆ ทำให้ร่างสูงบนโซฟาต้องรีบโยนรีโมทในมือทิ้งก่อนจะผุดลุกตรงไปยังประตูหน้าบ้านที่เสียงกดยังดังสนั่นหวั่นไหวอยู่นั่น

“เออน่า รู้แล้วโว้ย!” ไม่ต้องอาศัยการส่องลอดตาแมวเพื่อดูว่าใครมาหาเพราะเสียงกดแบบไม่เกรงใจอย่างนี้มีไม่กี่คนแน่ ”ว่าไงเจ้าไก่น้อย”

ก็นั่นล่ะ คนที่ยืนอยู่หน้าบ้านคือร่างขาวจัดของเพื่อนร่วมวงที่ทำหน้าง้ำอยู่หน้าประตู ยังไม่ทันจะได้เอ่ยบ่นเสียงนุ่มๆ ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจแล้ว

“นอนด้วยคืนสิ!”

และไม่ต้องรอให้เจ้าของบ้านตอบเช่นกันคนพูดก็แทรกๆ ตัวผ่านคนตัวใหญ่เดินเข้าไปเฉยเลย

ให้มันได้อย่างนี้สิพระเจ้า!

...


...


คุณเคยแอบรักเพื่อนสนิทบ้างมั้ย?

ถ้าใช่แล้วคุณจะทำยังไงเมื่อเพื่อนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเล้ยคนนั้นมาขอนอนด้วย?

ซึ่งคำถามต่อมาก็คือ....ตกลงผมจะผ่านคืนนี้ด้วยความทรมานขนาดไหนกันแน่เนี่ย T T


...

...


“เป็นอะไรน่ะ?”

คนที่เข้ามาแล้วเอาแต่นั่งทำหน้าเครียดทำให้เจ้าของบ้านที่เดินตามมานั่งข้างๆ ต้องเอ่ยถามเบาๆ ท่าที่ปากแดงเม้มแน่นไปบวกกับเอาหมอนอิงมาชกๆ ระบายอารมณ์ไปมันเลยพาความเอ็นดูแทรกขึ้นมาด้วยเมื่อเห็นแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้

“ทะเลาะกับทงเฮอีกแล้วล่ะสิ?”

ก็ยังเงียบอยู่หรอกแต่ตัวที่สะดุ้งนิดบอกว่าใกล้เคียงกับความจริงไม่มากก็น้อยแหง

“คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ?”

“...........”

“ถ้าไม่เล่าฉันก็จะไปนอนต่อล่ะนะ...วันหยุดทั้งที นายอยากทำอะไรก็ทำไปแค่อย่าทำร้ายข้าวของฉันก็พอ...” ท่าทีที่ไม่สนใจจริงจังมันได้ผลซะด้วยเมื่อเรียกตาหยีให้หันไปมองคนที่ทำท่าจะผุดลุกด้วยคิ้วบางที่ขมวดย่น “...มันแพง!”

“งก!”

เอาล่ะ...คำเดียวที่ออกมาตามคาดก็ช่วยหยุดให้หันกลับมานั่งดังเดิมได้แล้ว แต่หน้าที่สะบัดกลับไปจ้องหมอนเหมือนเดิมก็พาให้รอยยิ้มเล็กๆ มันผุดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางขี้งอนแบบนั้น

“ไม่เท่าเพื่อนสนิทนายหรอก ตกลงมีเรื่องอะไรกันอีกแล้วล่ะ?”

ไม่แปลกที่จะสันนิษฐานอย่างนี้เพราะสองคนนี้ค่อนข้างสนิทกันแล้วนิสัยก็ซนและรั้นพอๆ กันด้วย สนิทกันมากๆ ก็ชอบทะเลาะชอบงอนกันง้องแง้งอย่างนี้เป็นประจำ

“...........”

แต่เจ้าไก่น้อยก็เล่นกลับไปนั่งก้มหน้างุดๆ เป็นใบ้อีกรอบขึ้นมาแล้ว เออวะ! ถ้าแค่จะเอ่ยพูดมันยากขนาดนั้นก็ต้องมุขเดิมซะล่ะมั้ง

“จะไปจริงๆ ล่ะนะ”

“เดี๋ยวสิฟระ!”

“อะไรล่ะ จะเล่าก็เล่าสิ แต่ถ้าไม่อยากเล่าฉันก็ไม่ถามก็ได้”

“ก็...มันก็....” ตาหยีเหลือบมามองนิดหน่อยแลจะอุปาทานไปเองมั้ยที่เห็นใบหน้าขาวจัดนั่นออกสีแดงเรื่อๆ ด้วย“...คือ...กับคนอื่นมันก็เล่าได้...แต่กับนายน่ะ...กับนาย...เดี๋ยวนายหัวเราะเยาะอ่ะดิ”

“...ไม่หัวเราะหรอกน่า...เล่ามาซะ.....”

คนตัวเล็กของผมกลับไปก้มหน้าอีกรอบแต่สุดท้ายก็เหมือนเจ้าตัวจะฮึดสู้ได้เมื่อตอบเสียงดังฟังชัดดังก้องห้อง...

“ก็เจ้าทงเฮอ่ะมันว่าฉันไม่แมนน่ะสิ!” ตอบกับหมอนในมือนะไม่ใช่หน้าผม แต่เหมือนประโยคแรกหลุดออกมาได้ประโยคต่อมาก็เริ่มตามออกมาด้วยเหมือนก๊อกแตก

“มันบอกว่าฉันน่ะแมนไม่ขึ้น! มันบอกด้วยนะว่าฉันอ่ะสู้ยูชอนไม่ได้หรอก จุนซูจะเลือกยูชอนไม่เห็นแปลก! แล้วเจ้าปลาป่วนนั่นมันยังบอกด้วยนะ ว่าถ้ามันเป็นจุนซูอ่ะต้องระแวงฉันเพราะเดี๋ยวยูชอนจะมาหลีฉันน่ะสิ!” พูดด้วยอารมณ์ที่พุ่งขึ้นไม่พอมือเล็กยังทุบๆ กับหมอนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอย่างฉุนๆ ก่อนจะหันมามองผมด้วยดวงตาที่ยังมีแววโกรธจัด “...นายว่าฉันควรจะโกรธมั้ยล่ะ!”

“อื้อ”

นายพูดความจริงเกินไปแล้วนะทงเฮ ทีหลังคงต้องไปเตือนให้เพลาๆ ปากลงบ้าง

“เจ้าเตี้ยทงเฮอ่ะพูดผิด ฉันน่ะเป็นผู้ชายเต็มตัวใช่มั้ยซีวอน”

ถ้าแค่สรีระข้างบนและข้างล่างไม่นับกล้ามเนื้อและส่วนสูงนะ

“อื้อ”

และไม่รวมใบหน้าน่ารักที่กำลังยิ้มอย่างโล่งใจอย่างนี้ด้วย

“ฉันก็ว่างั้นแหละ...” ป้าบๆๆ ((ซาวน์เอฟเฟคต์ประกอบภาพที่มือเล็กๆ ถูกยกมาตบบ่ากว้าง)) “...ดูไปดูมานายก็เป็นคนดีเหมือนกันนะชเวซีวอน ^ ^”

โดยเฉพาะปากแดงน่าจูบที่ยิ้มเริงร่ามาให้นี่สรุปแล้วนายเป็นผู้ชายได้แค่สองอย่างนั่นล่ะเจ้าไก่น้อย

“ฉันเป็นคนดีมานานแล้ว นายไม่สนใจจะมองแค่นั้นเอง”

และก็คงยังมองไม่เห็นด้วยแม้แต่ตอนนี้ที่ร่างเล็กตรงหน้าจะปล่อยคำพูดกินนัยลึกพวกนี้ผ่านไปอย่างเคยเมื่อมือเล็กลูบท้องตัวเองที่เริ่มส่งเสียงอย่างหงอยๆ

“ก็ถ้าวันอื่นนายว่าง่ายๆ ไม่กวนประสาทอย่างวันนี้ก็คงดีหรอก ...แต่ฉันหิวจังฟร่ะ นายมีอะไรกินมะ?” เอ่ยกวนๆ และก็จบด้วยประโยคคำถามที่มาอยู่ดีๆ ก็โพล่งขึ้นมาพร้อมด้วยประกายตาสีน้ำตาลปิ๊งๆ ที่ถูกส่งมาอ้อน

เนี่ยน้า...คนที่จะเป็นแมนเต็มตัว ทำท่าน่าถูกกอดอย่างนี้เนี่ยนะ อยู่กับจุนซูนายทำท่าอย่างนี้ด้วยมั้ย? ถ้าทำจริงก็น่ากลัวอย่างที่ทงเฮว่าจริงๆ แหละ

“จะกินอะไรล่ะเดี๋ยวโทรสั่งให้”

“.............”

“หืม?”

“บะหมี่ซองก็ได้”

“บ้านฉันไม่มีของอย่างนั้นหรอก! เอาสเต็กมั้ยนายกินจุนี่ สั่งมาสองสามชิ้นดีมั้ย?”

“ไม่เอา...มันอืด... เอาไข่เจียวฝีมือนาย”

“อิ่มเหรอ? เอาซูชิก็ได้ ร้านประจำฉันเค้ามีบริการส่ง”

“งั้นก็เพิ่มด้วยไข่ต้มฝีมือนาย”

“กินอะไรของแบบนั้น ตกลงเอาซูชิชุดใหญ่นะ”

“ไม่ เอาไข่ตุ๋นฝีมือนายเพิ่มไปอีก”

เอาล่ะ ไอ้การเหมือนคุยกันคนละเรื่องนี่ทำให้ซีวอนต้องหยุดมือที่กำลังจะกดเบอร์โทรศัพท์จากแคตตาล็อกที่กำลังเปิดเพื่อหันไปมองสบตากับคนตรงหน้าตรงๆ รอยโกรธเคืองหายไปแล้วเหลือแต่หน้าเหมือนไก่ซักตัวที่เอาตาหงอยๆ มองมา และเจ้าตัวคงเริ่มรู้ว่าอีกคนเอาจริงเพราะก็เอ่ยปากอธิบายด้วยเสียงอุบอิบในคอ

“ไม่ได้เรื่องมาก...แต่....แต่ที่เค้ามาส่งมันแพงนี่”

“ฉันจ่ายเองก็ได้ ร้านพวกนี้เค้ารู้จักฉันดีไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสด”

“ก็เพราะนายแย่งไปจ่ายเองทุกทีอย่างนี้ไงล่ะฟระ...” เสียงยิ่งงุบๆ งิบๆ จนฟังไม่ทันเอาซะเลย “...น่า........กว่าจะรอเค้ามาส่งก็ตั้งนานอ่ะ เอาบรรดาไข่ที่นายเคยทำนั่นล่ะ ฉันเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายนายก็รู้”

“ง่ายเกินไปน่ะสิถึงผอมกะหร่องอย่างนี้น่ะ!”ถ้าเป็นชเวซีวอนสั่งก็ไม่เกินสิบนาทีได้กินแน่นอนฮยอกแจก็รู้ดี “เฮ้อ...แต่จะเอางั้นก็ได้ ท้องร้องตอนกลางคืนฉันไม่รับผิดชอบนะ...แล้วนี่ตามมาทำไม ดูทีวีไปก็ได้ หรือว่านายทำเป็น?”

“ไม่หรอก...แต่....” รอยแย้มยิ้มทะเล้นผุดขึ้นบนหน้าสว่างไสวก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยตอบเสียงร่าเริง “...ไปให้กำลังใจนายไง ^ ^”

เฮ้อ...ทำหน้าบั่นทอนความอดทนของชาวบ้านอย่างนี้ตกลงชาตินี้นายจะแมนขึ้นบ้างมั้ยอึนฮยอก!




หลังจากนั้นแขกที่มาหาอย่างกะทันหันก็ตามไปนั่งให้กำลังใจเจ้าของบ้านในครัวที่ก็ใช่ว่าจะทำอาหารเก่งหรอก แต่เพราะต้องทำให้คนที่อยู่ดีๆ ก็โผล่หัวมาเคาะประตูห้องเพื่อจะบอกสั้นๆ แค่ว่า ‘หิวข้าวว่ะ’ ก็เลยทำให้ซีวอนเริ่มจะทำนั่นทำนี่เป็นพอใช้

โดยเฉพาะบรรดาอาหารตระกูลไข่ที่วางเรียงรายข้างหน้าคนตัวผอมน่ะเจ้าชายขี้เก๊กที่สาวๆ เพ้อนักเพ้อหนาทำมานักต่อนักแล้วน่ะสิ!


ทันทีที่แขกอิ่มแปร้เรียบร้อยเจ้าตัวก็แจ้นไปต่อเกมส์เล่นทันที ท่าทางเมามันหน้าจอทำให้ซีวอนไม่อยากขัด บรรดาเกมส์ที่วางเรียงรายก็เป็นของไก่น้อยซื้อมาทั้งนั้นและวันนึงที่พอถามว่าทำไมถึงเอามาไว้ที่นี่เจ้าตัวก็ตอบว่า

‘เพราะไม่มีไอ้เตี้ยกะไอ้โย่งมาแย่งเล่นไงล่ะ!’

ยังไม่ทันจะได้แปลความเสร็จคนพูดก็หันไปสนใจหน้าจอเหมือนเดิมแม้ปากจะยังพูดต่อก็ตาม

‘ฉันชอบบ้านนายเป็นบ้าเลยว่ะซีวอน ไม่ต้องฟังเสียงเจ้าพวกนั้นทะเลาะกันหนวกหูวุ่นวายแถมทำนั่นทำนี่ได้ตั้งเยอะด้วย สวรรค์ชัดๆ เล้ยยยย’


งั้นนายก็มาอยู่ถาวรเลยสิ!


เกือบละ...เกือบที่คนที่ยืนด้านหลังจะพูดความในใจพวกนั้นออกไป แต่เจ้าตัวก็ห้ามมันได้ทันเมื่อต้องบอกตัวเองว่าให้เงียบเอาไว้ อย่าเผลอแสดงอะไรออกไปให้จับได้เพราะถ้าพลาดปุ๊บคงไม่มีทางที่อีกคนจะมาหาอย่างไว้วางใจเหมือนตอนนี้ได้แน่

ไม่มีทางแน่!


ภาพที่คนตัวผอมนั่งเล่นเกมส์อย่างสนุกไปและคนตัวสูงก็นั่งอ่านหนังสือที่โซฟาข้างๆ พร้อมแอบเหลือบมองอีกคนไปยิ้มหน้าที่กำลังจ้องจออย่างตื่นเต้นไปด้วยความเอ็นดูก็เดินไปเรื่อยๆ ได้พักหนึ่ง เวลาที่เริ่มเข้าใกล้สี่ทุ่มทำให้ซีวอนต้องผุดลุกเข้าไปในห้องและหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าออกมาให้แขกที่ดูแล้วเพิ่งจะเล่นเกมส์ผ่านด่านที่สี่ได้กับชาวบ้านเค้าซักที

“พอได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยเล่นต่อ...ไปอาบน้ำซะไป เอ้านี่ชุดนอน...นายไม่ได้เอามาใช่มั้ย?”

บอกพร้อมกับหิ้วปีกเข้าที่คอเสื้อร่างที่นอนเหยียดยาวจ้องหน้าจอบนพื้นก่อนจะยื่นชุดนอนลายลูกเจี๊ยบส่งให้ ดูจากขนาดและลายแล้วเชื่อได้เลยว่าซีวอนคงไม่ได้ซื้อเพื่อจะใช้เองแน่นอน

“เออ...ตอนนั้นฉุนอ่ะฉันเลยเดินปึงๆ ออกมาเลย แต่...เจ้าตัวนี้อีกแล้วเหรอ? - -* ไม่มีลายเท่ๆ กว่านี้เรอะซีวอน”

“จะเอาของฉันมั้ยล่ะ?”

“เหอะ...ใส่เสื้อยักษ์อย่างนายก็สู้ไม่ใส่อะไรเลยดีกว่า ตัวใหญ่ชิบ...” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเจ้ายักษ์ที่โดนพาดพิงถึงถึงกับต้องรีบหันหน้าหนีเมื่อคำพูดนั้นทำให้ในหัวเผลอจินตนาการอะไรซักอย่างที่ทำให้เริ่มร้อนไปทั้งตัว “...ต่อไปฉันเอาชุดนอนมาทิ้งไว้ดีกว่าว่ะ เบื่อเจ้าลูกเจี๊ยบพวกนี้ชะมัดยาด!”

คนพูดก็บ่นไปงั้นแหละเพราะทุกครั้งที่มาก็ยอมใส่อยู่ดี ร่างเพรียวๆ ขาวๆ ในชุดนอนลายลูกเจี๊ยบขนฟูสีเหลืองดูน่ารักจนหลายครั้งคนนอนข้างๆ ต้องแอบตื่นขึ้นมานอนจ้องได้ทั้งคืนเลยล่ะ

และก็คงทำได้แค่จ้องเท่านั้นเพราะแม้แต่จะแตะซักนิดยังไม่กล้า

เฮ้อ...ตกลงนี่มันเรียกว่าดีหรือไม่ดีกันแน่นะ!





ไม่นานนักแขกก็อาบน้ำเสร็จแล้วเจ้าของบ้านจึงเปลี่ยนเข้าไปอาบบ้าง หลังจากที่คนตัวใหญ่อาบเสร็จและเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าผืนเล็กที่เช็ดผมสีดำสนิทที่เปียกแนบลำคอแกร่งไปด้วยก็เดินๆ เข้าไปในห้องนั่งเล่น แต่ห้องที่สภาพเรียบร้อยและบรรดาเกมส์ที่วางเรียงรายในตอนแรกตอนนี้มันก็กลับเข้าไปที่ลิ้นชักเหมือนเดิมแล้ว

ถึงฮยอกจะไม่ใช่คนเรียบร้อยนักแต่ทุกครั้งที่มาบ้านนี้เจ้าตัวก็พยายามอย่างมากเหมือนกันที่จะปรับนิสัยไม่ให้เจ้าของบ้านต้องมีภาระเพิ่มอย่างการเก็บห้องไม่ก็ช่วยล้างจานอย่างนี้แม้ซีวอนจะบอกว่ายังไงแม่บ้านก็จะมาทำให้อยู่ดี ทิ้งไว้อย่างนั้นก็ได้


‘เพราะฉันเป็นคนดีกว่านายไงล่ะ นายจะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างไล่ฉันกลับ หึ...ฉันฉลาดล่ะสิ ’


เสียงใสเคยบอกอย่างนั้นเลยได้การหัวเราะขำๆ และมือใหญ่ๆ ที่เอื้อมไปขยี้หัวเล็กๆ ผมนุ่มๆ อย่างอดไม่ได้


ถ้าฉันขอให้นายอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตนายจะตอบอย่างนี้บ้างมั้ยนะฮยอกแจ?



“...จุ๊บบบบบบ...งื้อออ...ทำไมไม่ได้ซักทีวะแมร่งงงงงงงงง!!”

แต่แล้วซีวอนที่กำลังคิดอย่างขำๆ และยิ้มอ่อนโยนได้ที่ดีๆ จากการนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นก็ต้องเผลอขมวดคิ้วแน่นเมื่อจะเดินเข้าไปหาไดร์เป่าผมก็กลับได้ยินเสียงประหลาดดังลอดออกมาจากห้องนอน

“...จ๊วบบบบบบบ แมร่งงงงงง เหนื่อยแล้วนะโว้ย! ทำไมมันทำยากทำเย็นนักฟระแมร่งเอ๊ย!”

ไม่แค่เสียงที่ประหลาด...ท่าทางยังประหลาดด้วยเพราะไก่น้อยในชุดนอนลายลูกเจี๊ยบขนฟูกำลังนั่งขัดสมาธิบนเตียงหันหลังให้ประตูและกำลังเอาหัวยุ่งๆ สีน้ำตาลของตัวเองก้มลงไปทำอะไรซักอย่างกับหลังมือที่ถูกยกมาจ่อหน้า

และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าปากแดงนั่นกำลังจูบลงบนหลังมือตัวเองพร้อมทำเสียงประหลาดที่ว่าด้วย!

“...จู๊บบบบ จ๊วบบบบบบ .......โอ้ยเหนื่อยโว้ย...เจ็บด้วย! ไม่ทงไม่ทำมันแล้ว! ไม่เห็นมันจะเป็นตรงไหนเลยนี่ฟระ..หลอกกันชัดๆ!!”

บ่นคนเดียวไม่พอหมอนใบใหญ่นุ่มๆ ก็ถูกคว้ามาทำร้ายด้วยการที่กำปั้นขาวๆ จะชกซ้ำๆ ลงไปกับหมอนด้วยใบหน้าหงุดหงิด แต่อะไรบางอย่างที่พอเริ่มเดาออกก็สามารถเรียกรอยยิ้มเล็กๆ กลั้นขำจากร่างสูงได้ดี

“ทำอะไรอยู่น่ะไก่น้อย”

และเพียงแค่ประโยคเดียวที่พูดปนยิ้มก็ทำให้หลังบางๆ นั่นสะดุ้งขึ้นมาสุดตัวได้เลย

นายนี่มันน่ากดเป็นบ้าเลยฮยอกเอ๊ย!

“นะ...นาย....นายเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนอ่ะซีวอน”

“ก็ซักพักแล้วล่ะ...ทันเห็นนายกำลังทำร้ายรางกายตัวเองพอดิบพอดีเลย ทำอะไรอยู่น่ะ?”

“ทำอะไร๊...ไม่มี๊...ก็แค่นั่งเล่นดูนั่นดูนี่เฉยๆ เท่านั้นเอ๊งงงง” เสียงสูงๆ มาพร้อมๆ กับเจ้าตัวหันหน้าไปทางนี้ทีทางนั้นทีอย่างไม่กล้าสบตา อาการอย่างนั้นเลยเรียกรอยยิ้มกลั้นขำเล็กๆ ให้ผุดขึ้นมาอย่างง่ายดายบนใบหน้าหล่อเหลา “...นายจะนอนแล้วใช่มั้ย...ปิดไฟเลยก็ได้นะ ฉันก็จะนอนเหมือนกัน”

พูดยาวๆ กลบเกลื่อนแล้วก็จบท้ายด้วยการล้มตัวลงนอนและผวัดผ้าห่มขึ้นปิดหน้าปิดตาหนีหน้าเอาดื้อๆ ซะอย่างนั้น!

ร่างสูงที่หลุดหัวเราะออกมาจนได้ยิ่งทำให้หน้าขาวใต้ผ้าห่มยิ่งแดงแจ๋มากขึ้นไปอีก!

“...ไม่ได้ทำอะไรงั้นเหรอ?”

เสียงทุ้มๆ ลากยาวและสัมผัสที่รู้สึกได้ว่ามีอีกคนทรุดตัวลงนอนข้างๆ พาให้ใจเต้นตึกตักซะจนตัวเองยังแปลกใจ สังหรณ์บางอย่างมันกระตุ้นเตือนให้คิดถึงสถานการณ์ซักอย่างที่มันคล้ายๆ อย่างนี้

เจ้าขี้เก๊กนี่มันมาโหมดน่ากลัวอีกแล้วอ่า T_T

ยิ่งคิดยิ่งใจเต้นร่างโปร่งก็ยิ่งมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มมากขึ้น เตียงโคตรคิงไซส์ของไอ้เจ้าชายก็ออกจะกว้างพื้นที่เหลือเฟือแต่ทำไมกลับรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากคนร่วมเตียงชัดเจนเหลือเกิน

และมันยิ่งชัดมากเมื่อรู้สึกได้ถึงแผ่นอกกว้างที่คุกคามแนบชิดกับแผ่นหลังของตัวเอง

“ซีวอน!”

เสียงอุทานอย่างตกใจไม่ได้ช่วยหยุดอะไรได้เลยเพราะแขนยาวๆ ข้างหนึ่งกำลังเอื้อมมารัดเอวแน่นแนบเข้าไปหาหน้าท้องแกร่งพร้อมๆ กับมืออีกข้างก็แทรกเข้าไปจับมือเรียวและยกขึ้นมาดูชัดๆ แม้เจ้าของมือแทบจะมุดตัวจมหายไปในโปงผ้าห่มก็ตาม

“...ก็เห็นนั่งทำตั้งนานไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยนี่ ตกลงเมื่อกี้นายทำอะไรเหรอเจ้าไก่น้อย?”

“จะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน! ที่นอนฝั่งนั้นมันก็มีตั้งเยอะ ปล่อยเด้!”

“โดนทงเฮว่าอะไรมาล่ะสิ”

คำถามเดียวกลับทำให้ร่างทั้งร่างหยุดกึกได้ชะงัดนักพร้อมๆ กับเหมือนจะได้ยินเสียงกวนประสาทของเจ้าป่วนนั่นแทรกขึ้นมาด้วย!


’อย่างนายน่ะไม่มีทางแมนหรอกไอ้ไก่อ่อนเอ๊ย! แค่รอยจูบอ่ะยังทำไม่เป็นเลยมั้ง!’


เพื่อนตัวเล็กที่ตะโกนใส่หลังจากการเถียงกันหน้าดำหน้าแดงทำให้ชะงักได้พอๆ ความโกรธที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ


‘ทำไมฉันจะทำไม่เป็น ทำเป็นสิ! ปากหาเรื่องอย่างนายต่างหากล่ะที่ทำไม่เป็นไอ้ปลาโง่!’


คำโต้แย้งที่ทวนกลับมาเผ็ดร้อนพอๆ กันยิ่งทำให้คนตัวเล็กยิ่งแทบจะระเบิด ขนาดตัวก็พอๆ กันยังมาทำบอกว่าตัวเองไม่มีทางจะเป็นฝ่ายอ่อนแอถูกกระทำเหมือนเขาหรอก

คนอย่างลีทงเฮก็โกรธเป็นเหมือนกันนะ!

‘หนอยยยย ตัวเองอ่อนแล้วยังไม่ยอมรับใช่มั้ย...จะมาหาเรื่องให้คนอื่นเค้าอ่อนเป็นเพื่อนใช่มั้ย...’ ใบหน้าน่ารักเชิดขึ้นอย่างถือดีเมื่อมองสบกับสายตาดูถูกจากคู่กรณี แล้วจนท้ายในที่สุดรอยยิ้มชั่วร้ายก็ผุดขึ้นมาบนหน้าขาวเมื่อเจ้าตัวเล็กเหลือบไปเห็นบางอย่างจากหางตา ‘งั้นฉันจะทำให้ดูเองลีฮยอกแจว่าของจริงอ่ะเป็นไง!’

ไม่พูดพล่ามทำเพลงต่อเมื่อพูดจบแล้วมือเล็กก็ฉุดคนตัวสูงที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อย่างไม่สนใจการง้องแง๊งของคู่นี้ที่มีเป็นปกติอยู่แล้วในตอนแรกมาประทับริมฝีปากนิ่มของตัวเองลงไปกับซอกคอแกร่งนั้นแทบจะทันที!

หน้าเฉยชาเป็นนิจของคิมคิบอมจะมาหลุดเก๊กแตกเอาก็ตอนนี้ล่ะ!!


“อึ๊...ทงเฮ!”


‘นี่ไงล่ะไอ้ไก่อ่อน! ดูซะให้เต็มตา อย่างนายอ่ะทำไม่เป็นหรอก!’

จูบคอชาวบ้านยังไม่พอมือเรียวๆ ของปลาน้อยก็แหวกคอเสื้อเชิ๊ตของคนที่ยังอึ้งๆ บวกตกใจให้แหวกออกกว้างเผยรอยแดงเรื่อบนผิวแทนเนียนชัดเต็มสองตา

“ไปหัดมาใหม่ก่อนไป๊ถึงจะบอกว่าตัวเองแมนอ่ะ! ไม่งั้นก็อย่ามาโม้ไอ้โคตรอ่อน!!”

พอๆ กับความฉุนที่มันทำให้หน้าร้อนจัดอีกคนที่อยู่ดีๆ ก็โดนดึงเข้ามาแทรกก็เหมือนจะหัวเสียเหมือนกันเพราะมือใหญ่จะจับมือเล็กออกจากคอเสื้อ แต่ลีทงเฮก็คือลีทงเฮ แขนเล็กยังคว้าแขนอีกคนมายึดไว้แน่นแถมยังสบตากับตาหยีของอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้ด้วย

และเมื่อต่างไม่มีใครยอมใครอึนฮยอกก็เลยผลุนผลันออกมาจากบ้านเอามันตอนนั้นล่ะ!


ปัง!!


และที่แรกที่เจ้าตัวมาเคาะประตูบ้านด้วยความโกรธที่ไม่รู้จะระบายออกไปยังไงก็คือคอนโดสุดหรูของเพื่อนร่วมวงคนนี้ ไอ้ที่โกรธก็ยังโกรธกับคำดูถูกแต่ที่มันโกรธมากกว่านั้นคือตัวเองที่ทำไม่ได้สมกับที่เจ้าป่วนนั่นว่าน่ะสิ

ก็คนมันไม่เคยทำนี่แล้วจะเถียงยังไงล่ะโว้ย!


แมร่ง...ยิ่งคิดก็ยิ่งฉุน!


แต่จะให้เอาเรื่องนี้มาบอกซีวอนเดี๋ยวก็ไม่วายโดนไอ้เจ้าชู้นี่มันค่อนขอดเอาน่ะสิ ไม่บอกก็รู้ว่ามันโคตรเชี่ยวแน่หน้าหล่อๆ ของมันบอกอย่างนั้น เรื่องอะไรจะต้องโดนคนหัวเราะเยาะเพิ่มอีกด้วยล่ะ

“ว่าไง...โดนว่าอะไรมา?”

“...............”

ท่าทีที่ยิ่งปิดปากเงียบของดักแด้บนเตียงยิ่งทำให้ซีวอนอดจะหัวเราะขำไม่ได้


นิดๆ หน่อยๆ พอเป็นค่าห้องได้มั้ยน้า?


“ฉันสอนให้เอามั้ย?”

ยังไม่ทันจะได้ทวนคำนั้นชัดๆ ความร้อนจัดที่แนบลงมาบนหลังมือก็ถูกส่งออกมาก่อน ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังโดนทำด้วยท่าที่ทำเองเมื่อครู่ แต่ความร้อนจากปากอีกคนมันกลับร้อนรุ่มกว่าปากตัวเองมากมายนักเพราะแค่โดนจูบเบาๆ กลับพาหัวใจให้กระตุกวาบจนสะดุ้ง

“ซีวอน!”

เสียงใสเผลอตะโกนแกมสั่นพร้อมๆ กับกระตุกมือหนีอย่างตกใจแต่แล้วอาการหลุดออกมาได้ง่ายๆ ยังไม่ทันทำให้จะโล่งใจได้ทันเพราะผ้าห่มด้านหลังโดนเลิกขึ้นก่อนหลังคอจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ และผมนุ่มๆ ของใครบางคนที่มุดเข้ามาในโปงผ้าห่มเดียวกัน

“ไอ้บ้าซีวอนหยุดเด้!”

“อยู่เฉยๆ ...”

เสียงกระซิบแหบพร่าพาให้ใจสั่นพอๆ กับที่รู้สึกได้ถึงความอุ่นของริมฝีปากคนอื่นบนผิวพร้อมๆ กับแรงรัดที่แน่นจนยากแค่จะกระดิกตัว

ความไม่แน่ใจหรือตกใจที่พาใจเต้นจนแทบทะลุฮยอกแจก็บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกัน!

“อย่าดิ้นสิ....อยู่เฉยๆ นะ...”

ไม่รู้....ตอนนี้ไก่น้อยไม่รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรเมื่อนิ่วหน้าจนแทบเบ้ หัวใจเต้นแรงจนเจ็บแถมยิ่งดิ้นเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกถึงแผ่นอกกว้างๆ ของอีกคนมากเท่านั้น การเสียดสีของผิวเนื้อยังทำให้ร้อนรุ่มได้ไม่เท่ากับที่คอเสื้อข้างหนึ่งจะถูกรั้งจนเกาะรอมร่ออยู่แค่บ่า พร้อมๆ กับที่ปากหยักร้อนจัดจะแนบลงมาหนักหน่วงบนผิวบางใสนั้น

“ซีวอน....”

“...หลับตาซะ...”


ใครที่ไหนเค้าจะหลับลงเล่าไอ้บ้า!

แต่ยังไม่ทันจะได้ตวาดให้หนำใจ...ปากที่ไล่แตะมาตั้งแต่ซอกคอและเลื่อนมายังแอ่งชีพจรยิ่งทำให้ฮยอกแจดิ้นรนสุดแรง แต่ข้อมือทั้งสองข้างที่โดนมือใหญ่เกาะกุมเอาไว้ด้วยกันและเอวเพรียวที่ถูกรัดแน่นมันก็ช่วยหยุดการต่อต้านได้ดีพอๆ กับความตกใจจากปลายลิ้นร้อนจัดจากอีกคน

ไอ้เจ้าชายนี่มันแรงเยอะเป็นบ้....

“อื้อ!”

ความร้อนทั้งร่างเหมือนจะไปรวมกันที่บริเวณนั้นเมื่อผิวเนื้อที่ไวสัมผัสขึ้นเท่าตัวจะถูกบดสลับกับดูดหนักๆ จนสะดุ้งแล้วสะดุ้งเล่า ลิ้นชื้นแนบลงมาไล้เลียบรรเทาให้เป็นระยะก่อนริมฝีปากจะก้มลงไปทำหน้าที่ต่อไม่มีเบื่อ ฝ่ามืออุ่นจัดแนบผ่านแผ่นอกบางไล้เลื้อยสอดแทรกเข้าไปในชุดนอนแตะต้องหนักๆ เล้าโลมตามผิวเนียนและต่ำลงไปยังหน้าท้องเบื้องล่างคงสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวและผิวเนื้อที่หดเกร็งพร้อมๆ กับอาการสั่นจนระงับไม่อยู่แล้วแน่ๆ!


กลัว...ณ วินาทีฮยอกแจไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพื่อนตัวเองจะน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้เลย!


“ซี...อึก....ซีวอน....” ความร้อนมันเริ่มเปลี่ยนที่จนฮยอกแจต้องสะบัดหน้าขึ้นเพื่อหาอากาศหายใจพร้อมกับเอ่ยห้ามเสียงสั่น

“....ยะ...หยุด...ซีวอน...อย่า...”

ยิ่งห้ามมันเหมือนกับยิ่งกระตุ้นเพราะความเจ็บจากการถูกดูดสลับขบและฝ่ามือที่กำลังแทรกผ่านขอบกางเกงลายลูกเจี๊ยบกำลังบ่งบอกว่าคนทำเริ่มจะหนักมือมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!


“ซีวอน!”


เสียงอุทานอย่างตกใจมันมาจนได้เมื่อมือนั้นกำลังจะแทรกผ่านเข้าไปในชั้นในตัวบาง!


“..........”


แล้วสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคืออาการแน่นิ่งจนตัวแข็งของเจ้าของชื่อ เพราะแผ่นหลังที่แนบสนิทกับอกกว้างของอีกฝ่ายเลยสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นรัวเร็วของคนข้างหลัง ลมหายใจอุ่นจัดกำลังกระทบกับผิวเนื้อบางหนักหน่วงเป็นจังหวะก็จริงแต่ก็เหมือนทุกอย่างจะหยุดอยู่แค่นั้น

สาบานได้เลยว่าไก่น้อยไม่กล้าจะขยับตัวหรือแม้แต่หายใจ!


“............”


ความเงียบที่โรยลงมาหนักๆ ผ่านไปอย่างเนิ่นนาน จนในท้ายที่สุดมือใหญ่ที่หยุดชะงักตอนแรกก็เลื่อนออกมาจากขอบกางเกงนอนของคนในอ้อมกอดพร้อมๆ กับเลื่อนขึ้นมาจากเสื้อนอนที่สอดผ่านเข้าไปตอนแรกด้วย มือใหญ่อีกข้างคลายข้อมือเล็กทั้งคู่เพื่อจะเลิกผ้าห่มออกก่อนสัมผัสคุกคามจากอกกว้างจะเริ่มหายไปเช่นกัน


ทุกอย่างมันเกิดขึ้นและจบลงด้วยความเงียบที่แสนอึดอัดเหลือเกิน


จนในท้ายที่สุด...


“ฮะๆๆๆ อ่อนไปเลยล่ะสิเจ้าไก่น้อย ฉันจูบเก่งใช่มั้ยล่ะ?”

ถ้อยคำกวนประสาทกลบเกลื่อนที่ออกมาช่วยหยุดความคิดวุ่นวายทั้งมวลและคำที่ออกมาอีกครั้งก็ถึงกับเรียกร่างที่คลุมโปงในผ้าห่มให้โผล่หน้าออกมาได้ด้วย!

“รอยจูบเค้าทำกันแบบนี้ล่ะจำไว้...สักแต่จูบซ้ำๆ ลงไปมั่วๆ มันไม่ได้ผลหรอก”


“ไอ้บ้าซีวอน!!”


“หืม? ขึ้นเสียงทำไม...นายควรจะให้ค่าสอนให้ฉันด้วยสิ”


“ไม่ห้งไม่ให้เฟ้ย! ออกไปนะไอ้บ้า นายออกไปนอนนอกห้องเลยคืนนี้อ่ะ ออกไปเด้!”


“นี่มันเตียงฉันนะ...”


“ไม่สน! ถ้านายไม่ออกฉันจะไปเอง!”


ไก่น้อยที่ฟาดหัวฟาดหางคว้าหมอนมาตีๆ พร้อมตวาดด้วยใบหน้าแดงจัดไม่ได้ทำให้คนตัวใหญ่โกรธตรงไหนเล้ยนอกจากจะยังหัวเราะเบาๆ และป้องกันตัวพอเป็นพิธี


“...ทำแค่นี้ต้องเขินขนาดนี้เชียว หน้านายแดงไปหมดแล้วนะเจ้าไก่น้อย...”

“หยุดพูดนะ! ไอ้บ้าดีแต่ลวนลามชาวบ้าน นี่แน่ะๆๆ แมร่งงงง ฉุนโว้ย! นี่ๆๆๆ ”

“เจ็บนะฮยอก โอ้ย...ฮะๆๆๆ ....หยุดน่า...ฮะๆๆๆ....ฉันเจ็บนะ...”

คนที่หลบไปมาและยังเอาแต่หัวเราะเนี่ยนะจะเจ็บจริง!

คนอย่างอึนฮยอกไม่ได้โง่หรอกนะเฟ้ย!!

“ออกไปสิ ฉันจะนอนแล้วนายออกไปเลย!”

“โอเคๆ ออกก็ได้ พอก่อนๆ” ร่างสูงที่ยอมยกมือทั้งสองข้างอย่างจำยอมช่วยหยุดพายุหมอนลงได้เพราะตัวคนฟาดก็เริ่มเหนื่อยจนหอบบ้างแล้ว แต่ประโยคที่ออกมาจากปากหยักปิดท้ายก่อนออกไปกลับทำให้อึ้งได้พอๆ กับความร้อนจะวิ่งขึ้นมาทั่วร่าง

“แต่ตัวนายหวานใช้ได้เลยนะฮยอก อยากเรียนอีกเมื่อไหร่ก็บอกนะฉันจะสอนฟรีๆ ให้เลยก็ได้ ฮ่าๆๆๆ”


“อ่ะ....อ่ะ....ไอ้บ้าชเวซีวอน!!”


โครม!!!


นั่นคงเป็นเสียงหมอนที่ลอยกระทบประตูตามหลังแต่เจ้าตัวคงทำได้แค่นั้นไม่กล้าตามออกมาหรอก ร่างที่สั่นเทาในอ้อมกอดเมื่อครู่และใบหน้าที่แดงจัดบอกซีวอนอย่างนั้น


เฮ้อ....


ก้มลงมองมือตัวเองและยืนจ้องมันนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น เมื่อกี้ก็แค่เถียงกวนประสาทให้อีกคนลืมแค่นั้นล่ะเพราะเขาไม่ได้คิดจะนอนด้วยจริงๆ หรอก


ก็เกือบจะหยุดไม่ได้ไปแล้วใครที่ไหนยังจะกล้าไปนอนข้างๆ อีกล่ะ!


รักข้างเดียวเป็นทุกข์ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย บอกก็บอกไม่ได้ จะแตะ...ก็ยิ่งทำไม่ได้ไปกันใหญ่ เสียดายที่เกิดมาหล่อเท่ห์จริงๆ เล้ยชเวซีวอน โดนเจ้าไก่ขี้โมโหปราบซะอยู่หมัดเลยเรา


คิดอย่างอ่อนออกอ่อนใจพลางหัวเราะให้ตัวเองเบาๆ จริงอยู่ที่บอกไม่ได้และก็แตะไม่ได้

แต่จะแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกันท่าคนอื่นนิดหน่อยคงได้สินะ?

พร้อมๆ กับที่คิดได้อย่างนั้นขายาวๆ ก็เดินตรงไปยังโทรศัพท์ที่อยู่มุมห้องก่อนจะยกขึ้นมาโทรออกหาคนที่คุ้นเคย


“พี่เหรอครับผมซีวอนนะ ผมมีเรื่องอยากให้พี่ช่วยหน่อย...ครับ...เกี่ยวกับคนนั้นแหละ...ไม่ต้องห่วงครับตอนนี้เค้าอยู่บ้านผม แต่พรุ่งนี้ตอนไปทำงานด้วยกันกับเค้าพี่ช่วย.....”



ภาพที่เห็นหลังจากนั้นคือคนตัวสูงที่ยืนคุยโทรศัพท์ไปหัวเราะไป หน้าที่ยิ้มนิดๆ ปนเจ้าเล่ห์หน่อยๆ ช่างแตกต่างกับอีกคนในห้องนัก ถึงจะไล่เจ้าของห้องออกไปได้แต่ร่องรอยที่มันยังติดแน่นบนผิวก็ร้อนซะจนต้องเร่งแอร์ให้เย็นขึ้นไปอีกแม้เจ้าตัวจะยังคลุมโปงในผ้าไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หน้าออกมาก็ตาม


หัวใจมันจะเต้นแรงไปถึงเมื่อไหร่วะ!


..


..


แล้ววันใหม่ก็มาถึง


หลังจากแอบหลบผ่านเจ้าของบ้านที่นอนเหยียดยาวบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเงียบเชียบตั้งแต่เช้ามาได้อึนฮยอกก็รีบแจ้นกลับบ้านทันทีและสิ่งแรกที่เจ้าตัวตรงดิ่งเพื่อจะไปหาคืออะไรรู้มั้ย?

กระจกไงล่ะ!


“แมร่งงงงงงงงง ไอ้ยักษ์ซีวอนเอ๊ย! ไอ้บ้า! ไอ้ประสาท! ไอ้หื่น! ไอ้......ฮื้อ!”


ตวาดมาได้ซักพักไก่น้อยถึงเพิ่งสำนึกว่าไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะปลุกให้ใครตื่นเพื่อจะมาเห็นรอยแดงๆ บนคอตัวเอง


โดยเฉพาะไอ้ปลากวนส้นนั่น!


ดังนั้นที่ทำได้จึงเป็นการพยายามเงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทงเฮเองก็เงียบเหมือนกันหลังจากโดนคนหน้าตายที่ตัวเองฝากรอยไว้และพี่ใหญ่ในวงที่หลังจากกลับมาแล้วรู้เรื่องต่างก็ช่วยกันสวดเสียยกใหญ่ที่ทะเลาะถึงขนาดที่อีกคนต้องหนีออกจากบ้าน เสื้อที่ฮยอกแจเลือกใส่ก็เป็นคอสูงๆ แถมยังเอาผ้าพันคอมาพันไว้รอบไม่สนว่าใครจะทักว่าไม่ร้อนเหรอด้วย


เพราะไอ้รอยนี้มันจะให้ใครเห็นไม่ได้น่ะสิ!


ดังนั้นอาการโวยวายมันจึงมาหลุดจนได้แม้จะทำตัวสงบเสงี่ยมมาทั้งวันก็แล้วแต่ไอ้เสื้อที่ทีมงานเอามาให้นี่สิที่มันทนไม่ได้


“อย่าวุ่นวายสิฮยอกแจ แค่เสื้อทำไมต้องเรื่องมากนักฮึ! พวกพี่ๆ เค้าลำบากใจเห็นมั้ย!”


นั่นคือเสียงตวาดของพี่ใหญ่หลังจากที่ปล่อยให้ฮยอกแจโวยวายกับทีมงานด้วยการดื้อไม่ยอมใส่ท่าเดียวจนหลายคนอ่อนอกอ่อนใจ และเมื่อเสียงดุที่นานๆ ทีจะหลุดออกมาก็กลับช่วยหยุดไก่น้อยให้ชะงักได้ดีทีเดียว

“แต่...แต่...คอมันกว้างนี่ครับ...ผม...งั้นพี่เปลี่ยนกับผมได้มั้ยล่ะ?”

“ตัวเล็กแค่นั้นคิดว่าพี่จะใส่ได้เหรอ?” ยังไม่ทันต้องโวยกับคำว่า ‘เล็กแค่นั้น’ ที่หัวหน้าวงปล่อยออกมาหรอก คำต่อมาจากปากสวยของพี่ชายกลับทำให้แทบสะอึก “แล้วเราจะมาเรื่องมากอะไรนักกับคอเสื้อกว้างไม่กว้างฮึ เราเป็นผู้ชายไม่ใช่เรอะอึนฮยอก ถ้าทงเฮมาได้ยินคำพูดเราเมื่อกี้คงเอาไปล้อได้ทั้งปีทั้งชาติแน่”

“พี่คร้าบบบบบบ T_T ~ ~ “

“ใส่ไปซะมันเลทมามากแล้ว หรือจะต้องให้พี่เปลี่ยนเสื้อให้เหมือนเด็กๆ!”

“เปลี่ยนก็ได้ครับ...ผมไปเปลี่ยนแล้ว...พี่อย่าเพิ่งเปลี่ยนโหมดสิ...”

สภาพน้องในวงที่ก้มหน้าคอตกงกๆ ยอมไปเปลี่ยนเสื้อแต่โดยดีพาให้รอยยิ้มขำๆ บนหน้าสวยมันเกือบหลุดมาจนได้ แต่คำพูดที่ใครบางคนขอไว้ตอนโทรมาหาและเอาเสื้อตัวที่ว่ามาส่งให้กับมือทำให้อีทึกต้องเก๊กหน้าดุๆ เข้าไว้

ถ้าไม่เห็นว่านายรักเจ้าไก่มันมากขนาดนี้จ้างให้ฉันก็ไม่ช่วยนายหรอกนะซีวอน!


ก็นั่นแหละ..ที่มาของเสื้อคอปาดกว้างสีดำที่ฮยอกแจใส่จัดรายการด้วยการที่ต้องพะวักพะวนคอยดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยตลอดเวลา แต่เพื่อนร่วมงานข้างๆ ก็ไม่ได้จะช่วยด้วยเล้ยเมื่อเปิดประเด็นฟ้องสตาฟคนอื่นถึงการที่อึนฮยอกดื้อแพ่งไม่ยอมใส่ท่าเดียว


“ฮะๆๆ ก็เพราะน้องอายเจ้ารอยนี้ไงล่ะครับ”


เสียงหวานๆ พูดไม่พูดเปล่าเพราะเจ้าตัวส่งมือขาวเรียวมากระชากคอเสื้อของคนที่ก้มหน้างุดๆ ตลอดเวลาอย่างรวดเร็วด้วย!

โฮๆๆๆๆๆ อึนฮยอกขอลาตายได้มั้ยวันนี้ T_T พี่ทึกนะพี่ทึก จำไว้เลยนะ จำไว้เลย!

ถึงคราวพี่ผมก็จะแกล้งบ้างคอยดู! TT^TT


อ่า...นั่นล่ะเสียงคร่ำครวญในใจของไก่น้อยฮยอกแจหลังจากที่พี่ๆ สตาฟเข้ามาถามยกใหญ่ว่ารอยมีที่มาที่ไปยังไง กว่าจะหาเรื่องมาโกหกได้ว่าถูกมดกดยุงกัดนั่นนี่กัดก็เล่นเอานานสองนานจนเหนื่อย

แต่ถ้าคาดหวังว่าทุกคนจะเชื่อแล้วล่ะก็...

ฝันได้เลย!

และในขณะที่คนอื่นรุมซักอึนยอกจนเจ้าตัวตอบแทบไม่ทัน ตัวการที่เปิดเผยเรื่องนี้กลับหัวเราะแผ่วเบาพลางคิดไปถึงตอนที่คนตัวสูงสุดเก๊กในวงซื้อเสื้อมาให้ สีหน้าแววตาจริงจังที่ยิ้มปนเศร้าตอนที่เขาเอ่ยถามว่าทำไปแล้วมันจะได้ประโยชน์อะไรก็ช่างติดตานัก

“ถ้าคนเป็นที่หนึ่งสำหรับเค้าตอนนี้คือจุนซูและเค้ายังตัดใจไม่ได้ผมก็จะขอยอมอยู่เงียบๆ แบบนี้ก็ได้ครับ...” นิ่งและเงียบที่ว่าคือการที่ฝากรอยเตะตาเอาไว้บนผิวขาวจัดนั่นเนี่ยนะ “...แต่ถ้าเค้าตัดใจจากเจ้าเอ๋อนั่นได้เมื่อไหร่คนถัดมาต้องเป็นผม! ไอ้หน้าไหนที่จะเสนอหน้าเข้ามาผมก็จะรีบตีกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ!”

ลืมบอกว่านอกจากน้ำเสียงเศร้าๆ นั่นแล้วคือความเด็ดขาดที่แม้แต่คนที่ไม่ได้คิดจะแย่งเลยกลับยังขนลุกได้อย่างประหลาดเมื่อได้ฟัง

“เมื่อคืนเค้าไปค้างที่คอนโดผม...และวันนี้ก็มีรอยจูบที่ต้นคอ...” สาบานจริงๆ ว่ารอยยิ้มหล่อๆ นั่นมันผสมความชั่วร้ายสุดๆ เข้าไปด้วย

“พี่คิดว่าคนอื่นๆ เค้าจะคิดยังไงล่ะครับ?”


นี่ตรูหลงผิดไปช่วยเจ้าปีศาจร้ายในคราบเทพบุตรอยู่มั้ยเนี่ยอีทึกเอ๊ย!






END



Create Date : 28 ธันวาคม 2551
Last Update : 28 ธันวาคม 2551 20:16:42 น. 0 comments
Counter : 1028 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ryoshin
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ryoshin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.