What are you so curious about?
Group Blog
 
All blogs
 

At Melbourne Airport

"กัปตันพาเครื่องลงถึงเมลเบรินตรงเวลาพอดีคือ 9.05am ขับนิ่มมาก ไม่มีอาการหูอื้อเลย ประทับใจ Jetstar จริงๆ"

พอเดินออกจากเครื่องบินก็จะเห็น Duty free อยู่ด้านขวา แล้วก็ตรวจคนเข้าเมืองอยู่ด้านหน้า แต่เพื่อนที่มาด้วยกันเค้าฝากของมากับอีกคน เค้าเลยต้องรอหาคนนั้นก่อน ระหว่างรอฉันก็หอบของพะรุงพะรังเข้าไปสำรวจของใน Dutyfree สักหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องสำอางค์กับน้ำหอม ดูราคาแล้ว Davidroff ถูกกว่า Dutyfree เมืองไทยอีก แต่ก็ไม่ซื้ออยู่ดีเพราะของเต็มเลย

จากนั้นก็เดินมาต่อคิวตรวจคนเข้าเมือง ให้เพื่อนนำไปก่อนเลย แล้วคอยฟังว่าเค้าถามอะไรมั้ง พอถึงตาเราก็ได้คำถามเดียวกันคือ ไอ้ที่คุณติ๊ก Declared ช่องแรกอ่ะ คุณเอาอะไรมา ฉันก็ตอบไปว่า I have some personal medicine แค่นั้น เค้าก็พยักหน้า แล้วก็กดปุ่มไซเรนท์ ฉันก็คิดว่าซวยแล้ว ทำอะไรผิดวะเนี้ยะ แล้วก็ได้ยินเค้าบอกกับพนักงานด้านหลังว่า เค้ามีปัญหาเกี่ยวกับการ Scan แล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นก็พาเราเข้าไปเคาน์เตอร์ด้านหลัง Scan passport เราแปบเดียวก็เสร็จ ผ่านมาได้ เดินมาอีกแปบก็เจอพนักงานอีกคนถามว่า มา work and holiday visa เหรอ มาอยู่กับใคร เราก็ตอบไปว่ามาอยู่กับ sister เค้าก็ให้ผ่าน จากนั้นก็มารับกระเป๋าจากสายพาน ซึ่งเราเป็นคนท้ายๆ แล้ว เพราะมัวเสียเวลารอคนที่ฝากของ

แล้วก็เอาของทั้งหมดใส่รถเข็น เพื่อเข้าเครื่องเอกซเรย์ตอนนี้แหละที่ฉันแยกกับตู่เพราะว่าเค้าให้เข้าคนละช่อง ของฉันพอเค้ายกกระเป๋าขึ้น Scan เค้าก็ถามว่า ไอ้ที่ห้อยคออยู่เนี้ยะอะไร เพราะมันเยอะมาก ฉันห้อยทั้งกล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ สารพัด แล้วพอผ่านเครื่องเอกซเรย์มาโดยไม่โดนเปิดกระเป๋า ฉันก็คิดว่าสงสัยต้องมีอีกด่านแหงๆ มองหาตู่ไม่เจอ ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ จนออกมาด้านนอกทาซ้าย เจอพี่อีฟกับแก๊บยืนอยู่ ก็อ้าว หมดขั้นตอนแล้วเหรอเนี้ยะ ก็คิดว่าคงคลาดกับตู่แล้วล่ะ แล้วก็เดินไปขึ้นรถพี่อีฟขับพาเข้าเมือง


#10/09/07




 

Create Date : 26 กันยายน 2550    
Last Update : 26 กันยายน 2550 9:47:39 น.
Counter : 208 Pageviews.  

The First Sunshine in Australia

"ถ้ามาถึงตอนเช้าแล้วอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นให้นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้ายนะ นี่คือสิ่งที่คุณดอสเขียนไว้ใน dosday.com ฉันเลยเลือกนั่ง 37A ริมหน้าต่างด้านซ้าย"

เวลาตามนาฬิกาคือตีสาม ฉันกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนเครื่องบิน ดูแผนที่การบินแล้วน่าจะถึงออสเตรเลียแล้วแหละ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเมืองเหนือๆ ของออสเตรเลีย มองไปนอกหน้าต่างยังเห็นพระจันทร์อยู่เลย แต่ก็นึกว่าถ้าเป็นเวลาออสเตรเลียมันคือ 6 โมงเช้าแล้วนี่นา ก็เลยหยิบกล้องมาเตรียมถ่ายรูปเพราะกลัวพลาดช็อตพระอาทิตย์ขึ้นบนเครื่องบิน

และแล้วเวลาประมาณเกือบ 7 โมงมั้งถ้าฉันจำไม่ผิดพระอาทิตย์ก็โผล่ขึ้นมาให้ได้เห็น แปบเดียวก็สว่างจ้าเลย ฉันก็เริ่มจัดการกับอาหารเช้าที่ซื้อเตรียมมาคือ แซนวิส S&P ช็อคโกแล็ตที่จูนให้มา แล้วก็น้ำ 1 ขวดที่แจกบนเครื่อง














#10/09/07




 

Create Date : 26 กันยายน 2550    
Last Update : 26 กันยายน 2550 9:10:24 น.
Counter : 305 Pageviews.  

At Suvarnbhumi Airport

"เที่ยวบิน JetStar JQ30 ออกจากกรุงเทพ 9pm ของวันที่ 9/9/07 ถึงเมลเบริน 9am ของวันที่ 10/9/07"

วันเดินทางฉันตื่นแต่เช้าเพื่อมาใส่บาตรพระที่พายเรือมารับบิณฑบาตรตั้งแต่ 6 โมงเช้า จากนั้นก็นำพวงมาลัยมาไหว้สิ่งศักดิ์ที่บ้าน ฉันขอพรขอให้ท่านช่วยคุ้มครองหนู คุ้มครองคนที่บ้านหนู ช่วยดูแลพวกเขา ขอให้เค้าพบเจอแต่สิ่งดีๆ

วันนั้นทั้งวันมีคนโทรมาอวยพรฉันตลอด ฉันซึ้งในความห่วงใยของทุกคนมากๆ เล่นเอาน้ำตาร่วงเลย พี่ป๋องต้องไปทำงานตอนเช้าเลยไปส่งฉันไม่ได้ ก็ได้แต่อวยพรกันที่บ้านพร้อมด้วยน้ำตาแห่งความห่วงใย ช่วงบ่ายอิ๊บมาที่บ้านเพื่อช่วยจัดการเรื่องกระเป๋าให้ แล้วพอตอน 16.16 ก็เดินทางออกจากบ้านโดยลายายก่อน ยายไม่อยากมาส่งเพราะไม่ชอบบรรยากาศร่ำลา บอกว่าขอไปรับตอนต๊ะกลับมาแล้วกัน แล้วเดินทางโดยรถพี่นิลมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ถึงสนามบินตอน 5 โมงกว่าๆได้ ก็นั่งทานอาหารกันที่ร้าน S&P ก่อนก็ชวนเพื่อนๆ มานั่งด้วยกันด้วย เพราะพวกเขามาถึงก่อนที่ฉันจะมาซะอีก พอทานเสร็จก็ 6 โมงกว่าๆ แล้ว ได้เวลาเช็คอินพอดี ก็ขึ้นไปถ่ายรูปกันที่หน้า CounterU ของสายการบิน Jetstar มีคุณพ่อ คุณแม่ พี่ต้น ป้า อิ๊บ ป๊อก เพื่อนๆ ที่ถาบัน เพื่อนๆ ที่ AIS มาส่งกันเยอะมาก ฉันซึ้งน้ำใจของทุกๆ มาก

จากนั้นเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น ตรงที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน ของฉันชั่งได้รวมหมด 3 ใบน่าจะ 35 กิโล เค้าบอกว่าให้ได้มากสุด 23 กิโล ฉันจึงเอากระเป๋าออกไป 1 ใบกะว่าจะถือขึ้นเครื่อง ก็เหลือน้ำหนัก 26 กิโล เค้าบอกว่าให้ไปเอาออกอีกนิด ก็เลยรีบกลับมาจัดแจง เอาเสื้อกันหนาวมาใส่ตัว แล้วเอาพวกหนังสือมาใส่กระเป๋า Notebook ซะ พอจะเอาไปชั่งใหม่ปรากฎว่าหา Passport ไม่เจอ อ้าว ซวย แล้วสงสัยจะไม่ได้ไปแล้วมั้ง หาอยู่นานมากจนเจอมันอยู่ในกระเป๋า Notbook นั่นเอง ทำเอาวุ่นวายไปหมด พอคราวนี้ไปชั่งได้ 24.5 เค้าก็หยวนๆ ให้ผ่าน เย้! ดีใจจัง แล้วก็ได้เวลาบะบายกันเสียที ลากกระเป๋าเข้าเกท โบกมือบะบายทุกคน แล้วก็เข้าสู่ช่วงตัวคนเดียวแล้ว

ผ่านด่านตรวจคนขาออกมาได้ ก็เข้าสู่ Dutyfree ฉันไม่เดินดูอะไรเลยเพราะได้ซื้อไว้ที่รางน้ำแล้ว แล้วกระเป๋าก็ทุลักทุเลมาก ฉันเดินตรงดิ่งไปรับของที่ซื้อไว้แล้วก็เดินตรงไปเกท E5 เลย เรื่องราวความวุ่นวายเริ่มต้นอีกครั้ง ตอนผ่านเครื่องเอกซเรย์ ต้องเอาของเหลวแยกออกมาให้เค้าดู แล้วก็ต้องยกกระเป๋าผ่านเครื่องเอกซเรย์ทีละใบ วุ่นวายมากเพราะของฉันเยอะมาก คือ กระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบ กระเป๋า notebook กระเป๋าเป้ ถุงนอน พอผ่านด่านมาเดินมาจะถึงเกทอยู่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า อ้าว ถุงของเหลวฉันไปไหนฟะ เดินย้อนกลับมาถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็บอกไม่มี เลยต้องยกกระเป๋า Scan ใหม่อีกครั้ง ก็เจออยู่ในกระเป๋า Notebook อีกแล้ว เจ้าหน้าทีเค้ายัดมันลงไปในกระเป๋า Notebook ตอนครั้งแรกที่ Scan ถึงว่าทำไมฉันหาไม่เจอ

เดินมาถึง E5 เห็นป้าย Final call พอดี ตรงนี้ก็ต้องยกกระเป๋าตรวจอีกรอบ โอ๊ย วุ่นวายจริงๆ คราวหน้าจะไม่แบกอะไรขึ้นเครื่องเยอะอย่างนี้อีกแล้ว แล้วก็ผ่านมานั่งรอตรงที่นั่งรอผู้โดยสาร สักพักนึงก็เจอเพื่อนที่จะมาด้วยกัน แล้วเจ้าหน้าที่ก็เรียกขึ้นเครื่อง ตอนแบกกระเป๋ายัดเข้าไปในตู้ด้านบนก็แสนจะทุลักทุเล แต่ก็ผ่านมาได้ จนได้เวลาเครื่องออกตอน 9.19 แล้วสจ๊วตก็เริ่มเดินแจกน้ำ 1 ขวดฟรีกับใบตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย พอฉันกรอกข้อมูลเสร็จก็หลับเลย











#09/09/07




 

Create Date : 26 กันยายน 2550    
Last Update : 26 กันยายน 2550 8:51:14 น.
Counter : 274 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

Ryn
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป
Friends' blogs
[Add Ryn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.