|
|
|
เริ่มเรื่องกันเลยครับ
เครือข่าย (Network)
ประเภทของระบบเครือข่าย เราสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท
1 Local Area Network : LAN เป็นระบบเครือข่ายทีไม่ใหญ่มากนักหรือติดตั้งในบริเวณที่ไม่กว้างใหญ่นัก เช่น ภายในอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย หรือภายในโรงงาน
2 Metropolitan Area Network : MAN เป็นระบบเครือข่ายที่ต้องใช้โครงข่ายขององค์กรโทรศัพท์ เพราะเป็นการติดต่อระหว่างเมืองหรือจังหวัด
3 Wide Area Network :WAN เป็นระบบเครือข่ายระดับประเทศ ที่ติดตั้งเชื่อมโยงแบบระยะไกลโดยเป็นการติดต่อระดับประเทศข้ามทวีป
ในการติดต่อสื่อสารผ่าน network นั้น จะต้องมีตัวกลาง หรือ ค่ามาตรฐานกลาง ในการติดต่อสื่อสารกัน ตัวกลางในที่นี่ก็คือ OSI 7 Layers นั่นเอง นอกจากนี้ OSI 7 Layers ยังมีข้อดีอีกมากมายเช่น
ทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้และพัฒนา ทำให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขึ้น และทำให้ผู้ผลิตและผู้พัฒนาทำงานใน layer ที่
ถนัดได้อย่างเต็มที่ เป็นต้น
องค์การ ISO (International Organization for Standard) เป็นผู้กำหนด มาตราฐาน OSI ขึ้นมา OSI เป็นมาตรฐานการสื่อสารคอมพิวเตอร์ซึ่งมีแบบจำลองของการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังอีกเครื่องหนึ่ง OSI ย่อมาจาก Open System Interconnection สามารถแบ่งได้เป็น 7 ชั้นของระบบการทำงาน เพื่อใช้กำหนดเป็นมาตรฐานให้กับระบบต่างๆ ให้สามารถทำงานและติดต่อถึงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นเราจะกล่าวถึง ชั้นการทำงานของ ระบบ OSI Model ในแต่ละชั้นการทำงานว่ามีสถานะเป็นอย่างไร ทั้งนี้เพื่อช่วยลดขนาดของปัญหาในการเชื่อมต่อให้เล็กลงด้วย ในบางกรณี ที่มีความเสียหานเกิดขึ้นในระบบ เราก็สามารถที่จะตรวจสอบได้จากชั้นการทำงานของระบบ ในแต่ละชั้นได้อย่างง่ายดาย ระบบ OSI model นั้นสามารถแยกประเภท ออกมาเป็นดังนี้
1.Physical Layer
2.Data Link Layer
3.Network Layer
4.Transport Layer
5.Session Layer
6.Presentation Layer
7.Application Layer
หรืออาจจะเรียกระบบนี้ว่า OSI 7 Layers ก็ได้เช่นกัน หลักการทำงานของแต่ละชั้น นั้นจะเป็นดังนี้
ไว้มาอ่านกันใหม่นะคับ
| Create Date : 10 สิงหาคม 2552 | | |
| Last Update : 10 สิงหาคม 2552 21:52:45 น. |
| Counter : 1018 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
