คุมเข้ม! ราคาไข่ไก่ คละหน้าฟาร์มฟองละ 3.10 บาท หากขาย เกินราคามีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4. แสนบาท

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศแก่กรมการค้าภายใน เรื่องการกำหนดราคาขายไข่ไก่ โดยไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม จำหน่ายได้ในราคาไม่เกินฟองละ 3.10 บาท

โดยกำหนดราคาไข่ไก่ตามเบอร์ดังนี้

ไข่ไก่เบอร์ 0 ราคาขายส่ง 3.70 บาท ขายปลีก 4 บาท
ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาขายส่ง 3.50 บาท ขายปลีก 3.80 บาท
ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาขายส่ง 3.40 บาท ขายปลีก 3.70 บาท
ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาขายส่ง 3.30 บาท ขายปลีก 3.60 บาท
ไข่ไก่เบอร์ 4 ราคาขายส่ง 3.20 บาท ขายปลีก 3.50 บาท
ไข่ไก่เบอร์ 5 ราคาขายส่ง 3.10 บาท ขายปลีก 3.40 บาท

สำหรับทางภาคใต้สามารถจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าได้ ถึงฟองละ 10-20สตางค์ เนื่องจาก ทางภาคใต้นั้นมีภาระต้นทุน และค่าขนส่งสูงกว่าภาคอื่น

ทั้งนี้ ถ้าหากพ่อค้าแม่ค้ารายใดขายไข่ไก่เกินราคา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะเริ่มปฏิบัติ สัปดาห์หน้า แต่ถ้าหากมาตรการดังกล่าวไม่ได้ผล จะเสนอให้คณะกรรมการกลางออกมาตรการที่มีโทษหนักขึ้น นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้ผู้เลี้ยงไก่ ตั้งแต่ 5,000 ตัวขึ้นไป แจ้งปริมาณไข่ไก่ที่ได้ในแต่ละวัน โดยให้ทำบัญชีไว้ และรายงานส่งทุกวันจันทร์ของสัปดาห์

พร้อมกันนี้ นางพรทิวา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้า เดิมได้ขอความร่วมมือจำกัดการขายไข่ไก่วันละ 1 ล้านฟอง แต่ในความเป็นจริงผู้เลี้ยงไก่ไข่ สามารถผลิตไข่ไก่ได้เพียงวันละ 200,000 ฟองเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ทางกระทรวงจึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการดังกล่าว เพื่อไม่ไห้ราคาไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้นเกินไป

[20 เมษายน] พาณิชย์เล็งเปิดขายหมูธงฟ้า กก.ละ 110-120 บาท

พาณิชย์ ร่วมผู้ประกอบการ ขายหมูธงฟ้า ก.ก.ละ 110 - 120 บาท พร้อมตรึงราคาหน้าฟาร์มต่ออีก 3 เดือน หลังชาวบ้านโอดหมูแพง-ไข่แพง

ปัญหาราคาสินค้าอุปโภคที่แพงขึ้นในขณะนี้ ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของชาวบ้านทุกพื้นที่ โดยที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จากการสำรวจตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบว่า สินค้าอุปโภค บริโภค ปรับราคาขึ้นทุกชนิด โดยราคาเนื้อหมู รวมถึงกระดูกหมู มีการจำหน่ายถึง กิโลกรัมละ 150 บาท ราคาเนื้อวัว จำหน่าย 1 กิโลกรัมละ 180 บาท ขณะที่ราคาไข่ไก่ เบอร์ 0 จำหน่ายถึงฟองละ 5 บาท นอกจากนี้ ทั้งราคาอาหารทะเล พืชผักสวนครัว ปลาน้ำจืด ก็มีการปรับราคาขึ้นถึง ร้อยละ 30-40 ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจาก ราคาข้าวแกงก็มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นไปด้วย

ทั้งนี้ นายสิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย การค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุว่า ปัญหาสินค้าราคาแพง มีปัจจัยหลักเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่งผลให้เพิ่มทุนในการผลิตอาหารมีราคาแพง จึงขอให้พ่อค้าแม่ค้าติดป้ายแสดงราคา เพื่อเป็นทางเลือกซื้อสินค้าให้แก่ผู้บริโภค ทั้งนี้การค้าภายใน จะมีโครงการธงฟ้าราคาประหยัดออกจำหน่ายเนื้อหมูและไข่ไก่ในเร็ววันนี้

ขณะที่ บรรยากาศการจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ ที่ตลาดสด อบต.หัวรอ จ.พิษณุโลก มีประชาชนจำนวนมาก มารอซื้อเนื้อหมูที่ร้านขายส่ง โดยส่วนใหญ่กล่าวว่า จากราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกังวลว่า ใน 1 – 2 วันนี้ ราคาจะปรับขึ้นไปอีก จึงเลือกที่จะซื้อเนื้อหมูตุนไว้ในครัวเรือนอย่างน้อย 2- 3 กิโลกรัม ซึ่งถ้าซื้อจำนวนมาก ที่ร้านค้าส่งจะจำหน่ายเนื้อหมู ในราคากิโลกรัมละ 130 บาท แต่ถ้าไปซื้อที่ร้านค้าย่อย จะต้องซื้อในราคากิโลกรัมละ 140 – 150 บาท

โดย นายสุรัตน์ เสือสมิง ผู้จำหน่ายเนื้อหมูรายย่อย ได้เปิดเผยว่า ปกติราคาเนื้อหมูจะแพงขึ้น ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังจากนั้น ราคาก็จะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ขณะนี้กลับปรากฏว่า ราคาเนื้อหมู กลับแพงขึ้นเรื่อย ๆ จากกิโลกรัมละ 120 บาท ก่อนเทศกาล ปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 140 – 150 บาท เป็นผลให้ผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ที่ราคาถูกกว่ามาประกอบอาหาร ทำให้ยอดจำหน่ายลดลง จากที่เคยขายได้วันละกว่า 200 กิโลกรัม ขณะนี้เหลือเพียงวันละ 100 กิโลกรัมเท่านั้น

ด้าน นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเนื้อหมูแพงภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยง สุกรแห่งชาติ ว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้หมูโตช้า จึงส่งผลกระทบต่อต้นทุนการเลี้ยง และเกิดโรคระบาด ทำให้ผลผลิตลดลงจากปกติร้อยละ 20 ปัจจุบัน ปริมาณหมูลดลงเหลือวันละ 38,000 ตัว จากปกติมากกว่า 40,000 ตัว โดยที่ต้นทุนการผลิตเนื้อหมูอยู่ที่กิโลกรัมละ 59 - 60 บาท โดยราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 69 บาท ฟาร์มมีกำไรประมาณร้อยละ 10 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ฟาร์มยังพอรับได้ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน ในการตรึงราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่กิโลกรัมละ 69 บาท ออกไปอีก 3 เดือน จนกว่าปริมาณผลผลิตและราคาจะคลี่คลาย ขณะที่ราคาขายปลีกหมูหน้าเขียง จะต้องขายในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 135 - 140 บาท หากขายเกินกว่าราคาดังกล่าว จะถูกดำเนินคดี

อย่าง ไรก็ตาม กรมการค้าภายใน ได้ประสานกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ ในโครงการหมูธงฟ้า จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 110 - 120 บาท ให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยเฉพาะในตลาดสดของ กทม. และตลาดที่อยู่ในความดูแลของกรมการค้าภายใน โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการได้ภายใน 1 สัปดาห์

Create Date : 23 เมษายน 2554
Last Update : 23 เมษายน 2554 21:09:29 น.		0 comments
Counter : 1285 Pageviews.
Share Tweet