ทักษิณ โอดครวญเงินเหลือแค่ 3 หมื่นล้าน

ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ (รอยเตอร์ส) หนุน ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ หวังจะกลับไทยเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเจรจากับฝ่ายตรงข้ามครั้งแรก เหน็บรัฐบาล ขโมยเงินของตนเองไป

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไทย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในบ้านพักที่ดูไบ โดยกล่าวว่า สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี และหวังที่จะกลับไทยในเดือน ธ.ค. เพื่อร่วมงานแต่งงานของลูกสาว และยอมรับว่าตนจะมีการเจรจากับศัตรูที่มีประสิทธิภาพครั้งแรกของเขา

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองว่า เราจะต้องใช้กำปั้นเหล็กและใส่ถุงมือกำมะหยี่เพราะเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ตูนิเซีย, ลิเบีย, อียิปต์, บาห์เรน , เยเมนและซีเรีย ซึ่งปัจจุบันคุณต้องใช้เพิ่มเติมของถุงมือกำมะหยี่มากกว่ากำปั้นเหล็ก ในช่วงเวลาของความขัดแย้งที่คุณจะต้องมีการเจรจามากขึ้นแทนการเพียงแค่พยายามที่จะใช้กฎหมายเพื่อราบปราม

พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้คู่แข่งอย่าแทรกแซงการเลือกตั้ง หรือ พยายามที่จะมีอิทธิพลต่อการก่อตัวของรัฐบาลชุดต่อไป โดยกล่าวว่า พวกเขาจะต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โคลนนิ่งแบบมาจากตนเองหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ทัศนคติความคิดและวัฒนธรรมของเธอจะคล้ายกันมากกับตนเอง นอกจากนี้หวังว่าจะกลับไทยในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อร่วมงานแต่งงานของลูกสาว และได้รับการยอมรับว่ามีการเจรจาต่อรองที่อาจเกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะกับฝ่ายกองทัพของไทย

ทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นเพื่อนกับ อดีตประธานาธิบดีปากีสถาน เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ที่ถูกเนรเทศและในปัจจุบันเขาได้แวะพักที่บ้านพักของ ทักษิณ ในดูไบ โดยมีการรับประทานอาหารร่วมกัน

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินเหลืออยู่เพียง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 30,000 ล้านบาท เท่านั้น โดยศาลไทยได้ติดสินยึดเงินของเขา ซึ่งตนไม่ได้มีเงินเหลือมากนักโดยกล่าวว่ารัฐบาลขโมยเงินของตนเองไป และบอกว่า (ตอนนี้) ตนลงทุนในเหมืองแร่ทอง ทองคำขาว และถ่านหินและยังคิดว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นและโดยในปีนี้อาจจะไปที่ 1,600 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์

ส่วนเรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มีความสำคัญสูงสุดจากระดับรากหญ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พรรคยังกำหนดเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่น การเวนคืนที่ดินและการขยายเครือข่ายทางรถไฟ เพื่อบรรเทาความแออัดในเมืองกรุงเทพฯ สำหรับคู่ค้าต่างประเทศเราสามารถใช้ระบบแลกเปลี่ยนแทนการจ่ายเงินเป็นดอลล่าร์สหรัฐ