ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ทำยังไง จะลดความอ้วนได้จริง ไม่อิงยา หรือกาแฟลดน้ำหนัก

เซลล์ไขมัน มีลักษณะเป็นถุง เป็น เหตุให้ทำไมคนที่เคยอ้วนมาแล้ว พอลดน้ำหนักได้ มีหุ่นเพรียวขึ้น ถ้าเผลอรับประทานมากเกินไปอีก ก็กลับมามีไขมันเป็นชั้นได้เหมือนเดิมเพราะการที่ชั้นไขมันเล็กลงนั้น จำนวนเซลล์ไขมันไม่ได้ลดลง เปรียบง่ายๆ ว่าถุงเล็กลง แต่จำนวนถุงไม่ได้เล็กลง ทำให้เมื่อทานอาหารเข้าไปมากอย่างเคย เซลล์ไขมันก็ขยายขนาดกลับมาเช่นเคย ฉะนั้น ในวัยเด็กหากอ้วนมาก่อน ก็จะทำให้มีเซลล์ไขมันมากกว่าคนปรกติ ฉะนั้นจะกลายเป็นคนที่อ้วนง่ายมาก เมื่อเปรียบเทียบกับคนปรกติ

ไขมันที่เกินจะไปสะสมอยู่ใน เซลล์ไขมัน (Lipocyte)ทำให้เซลล์ไขมันตัวโตขึ้น

การเอาไขมันออกจากเซลล์ทำ ได้ยากเพราะร่างกายการของเราจะไม่ยอมเผาผลาญไขมันออกไปก่อน คาร์โบไฮเดรต แสดงว่าถ้าหากเรายังไม่เกิดภาวะขาดแคลนน้ำตาล หรือแป้ง ร่างกายก็จะไม่เอาไขมันไปใช้ แต่เราทานข้าวกันอยู่ทุกๆวัน อย่างนี้มันก็เลยยาก ข้อสังเกตเวลาที่ร่างกายเริ่มนำไขมันมาใช้ในการเผาผลาญนี้ ปัสสาวะของเราจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เนื่องมาจากสารคีโตนที่เกิดขึ้นในช่วงการเผาผลาญที่ใช้แต่ไขมัน

แต่การทำให้ร่างกายของเรานำไขมันมาใช้ วิธีอดอาหารไปเลย ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด เพราะ พบว่าภายหลังจะมีผลข้างเคียงหลายรูปแบบ เช่น มือเท้าเย็นง่าย สะท้านร้อนสะท้านหนาว ซึ่งจะกล่าวอีกทีภายหลัง และการอดอาหารไปเลยจะทำให้ร่างกายคิดว่าเราอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร (คล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่จะเข้าสู่ภาวะจำศีล)ซึ่งจะส่งผลให้การเผาผลาญของ เซลล์ลดลง เฉื่อยชาขึ้น

1. งดอาหารทอด หรือผัดน้ำมันทุกชนิด (ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า ผัดกระเพราฯ) เพื่องดการนำเข้าของไขมันอีก วิธีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการลดไขมันภายนอก แต่ช่วยลดไขมันภายในเส้นเลือดอย่างคอเลสเตอรอลอีกด้วย

2. ทานอาหารเช้า และเที่ยงตามปรกติ ส่วนมือเย็นงดอาหารกลุ่มแป้ง ของหวาน และแอลกอฮอล์ เพราะร่างกายไม่ต้องการพลังงานมากในตอนกลางคืนแล้ว การลดกลุ่มคาร์โบไฮเดรตในช่วงเย็นจะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากนัก อาจจะหิวบ้างในช่วงแรก แต่ก็ยังคงทานผักได้ ทานผักจานใหญ่ๆ ในช่วงแรก อาจทานผลไม้ได้ ต่อมาให้ลดลง

3. หากทำตาม 2 ข้อข้างต้นได้ ภายในหนึ่งเดือนจะเริ่มเห็นผล แต่หากออกกำลังกายวันละเพียง 20 นาที เพื่อช่วยกระตุ้นการเผาผลาญที่มีอยู่ภายในให้เร็วขึ้นด้วยจะยิ่งเห็นผลเร็วมากยิ่งขึ้น

"น้ำ" เป็น องค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์ร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่มีมากที่สุดในร่างกาย ใครที่มีปริมาณน้ำในเซลล์สมบูรณ์ ผิวพรรณจะผ่องใส เปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล แต่เมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ ไม่ว่าจะเกิดจากการรับประทานอาหารหรือยาที่ดูดน้ำมากเกินไป หรือเกิดจากการนอนดึก ใช้ร่างกายหักโหมมากเกินไป ร่างกายของเราก็จะใช้น้ำที่จากในเซลล์ทั้งหมดมาช่วยเกื้อหนุน ให้ปฏิกิริยาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์ให้ได้ ซึ่งผลที่ตามมาก็จะพบว่า ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม (ร้อน) และผิวแห้ง ผมแห้ง นัยตาไม่สดใสเป็นประกาย

การจะเพิ่มน้ำกลับเข้าไปในเซลล์นั้นยากมาก ไม่ใช่แต่ว่าดื่มน้ำเข้าไปเยอะๆ ก็จะทำให้น้ำกลับเข้าไปในเซลล์ต่างๆ ได้เป็นปรกติ (ช่วงหนึ่งเคยมีกระแสการดื่มน้ำ 5แก้ว ก่อนทานเข้าในตอนเช้าเพื่อรักษาโรค พบว่าหากเราดื่มน้ำมากเกินไป น้ำที่ควรออกมาทางปัสสาวะนั้น จะกลับออกมาทางอุจจาระแทน ทำให้เกิดการถ่ายเหลวขึ้น แสดงว่าหากน้ำมากเกินไป ก็ไม่สามารถเก็บกักเข้าไปในเซลล์ได้อยู่ดี มันก็ไหลออกอีกทางหนึ่งเท่านั้นเอง)ซึ่งแตกต่างจากเรื่องไขมันโดยสิ้นเชิง ที่ทานเข้าไปไม่เท่าไหร่ กลับมาอ้วนให้เห็นทันตา แต่น้ำดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เห็นทันใจ ดังนั้นการดื่มน้ำต้องค่อยๆ ดื่ม สะสมไปเหมือนระบบน้ำหยดให้ต้นไม้

สำหรับคนที่ผิวแห้งมากๆ ว่าดื่มน้ำแล้วทำให้ผิวชุ่มชื้นทันใจหรือไม่ หลายต่อหลายคนตอบเลยว่า มันแห้งตลอดมา และไม่ว่าจะทาครีมอะไรก็ตาม มันก็ยังแห้งอยู่ ขอแนะนำให้ทานผักมากขึ้นกว่าเดิม วันหนึ่งจาน และผลไม้อีกจาน เพราะว่าผักจะเป็นตัวไปอุ้มน้ำอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเราดื่มน้ำไปมากแล้ว ค่อยๆดื่มทั้งวันก็แล้ว แต่ยังไม่เห็นผล ก็ต้องมีตัวคอยอุ้มน้ำไว้ไม่ให้ออกไปจากร่างกายได้ง่ายเกินไปอีก ก็คือใช้ผักเนี่ยแหละ เป็นตัวอุ้มน้ำไว้ ให้ร่างกายค่อยๆ ดูดซึมน้ำกลับมา สุดท้ายหากร่างกายยังไม่สามารถเปล่งปลั่งได้ดั่งใจอีก คงต้องมาดูแลจากภายนอกกันต่อ เพราะว่า การเพิ่มน้ำจากภายในนั้นไม่ทันต่อการเสื่อมสลายของเซลล์ผิวภายนอก

เซลล์ผิวภายนอกจะมีวงจรชีวิตของมันเอง ประมาณ 28 วัน ต่อรอบอายุของเซลล์ น้ำจะค่อยๆ ถูกดูดซึมเข้ามาจากระบบทางเดินอาหาร แล้วค่อยๆเดินทาง มากับเส้นเลือดจากใหญ่ไปถึงเล็กที่สุดอย่างเส้นเลือดฝอย เพื่อมาหล่อเลี้ยงเซลล์ที่ขาดน้ำของชนชาวผิวแห้งทั้งหลาย แต่ภายนอกนั้นผิวจะสัมผัสกับบรรยากาศ ซึ่งมีทั้งแสงแดด และอากาศจะทำให้เกิดการระเหยออกของน้ำในเซลล์และเซลล์ก็จะเสื่อมสลายไป ยิ่งแห้งมาก เซลล์ยิ่งตายไว ดังนั้นหากน้ำที่ลำเลียงผ่านเส้นเลือดฝอยมาสู่ภายใน ไม่ทันกับการสูญเสียไปของน้ำในเซลล์ที่ต้องเสียไปให้กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ย่อมทำให้ยังไงเสีย เซลล์ผิวก็ยังแห้งและตายไว เหมือนเช่นเดิม ดังนั้น เราต้องมาดูแลผิวจากภายนอกด้วยการปกป้องไม่ให้น้ำระเหยออกไปเร็วเกินไป อาจจะเป็นการทาครีม ทาน้ำมันหลังอาบน้ำ เพื่อปกป้องชั้นผิวจากบรรยากาศภายนอก ขอแนะนำว่าเซรั่มและครีมที่ใช้อยู่หากสามารถช่วยกระตุ้นความชุ่มชื้นได้อีก จะยิ่งทำให้ผิวที่แห้งเห็นผลเร็วขึ้น อย่างที่ผลิตภัณฑ์ที่ทางสถาบันใช้อยู่ คือ เซรั่มและครีมที่สกัดขึ้นมาจากเห็ดภู่มาลา

... เห็นไหม น้ำเอาเข้าเซลล์ยากจริงๆ ไม่เหมือนกับไขมัน ...

.... ทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน อยากอ้วนจะทำยังไง ....

สำหรับเรื่องนี้จะขอพูดเกี่ยวกับคนที่ทานเท่าไหร่ไม่เคยอ้วน ก่อนอื่นต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้หรือไม่
1. พูดเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว (เมตาบอลิซึ่มสูง)
2. ผมแห้ง ผิวแห้ง ผู้หญิงประจำเดือนมาน้อย
3. ทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
4. ทานจุบจิบ
กลุ่มคนพวกนี้โบราณเรียกว่า ธาตุไฟสูง คือ การเผาผลาญมากกว่าปรกติ
ข้อควรระวังสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ ก็คือ
หากเป็นคนทำงานในระดับบริหาร คือใช้สมองมาก (สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานมาก)แล้วเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย จะยิ่งกลายเป็นคนอ่อนแอภายหลัง เพราะการเผาผลาญที่ใช้ไปภายในร่างกาย เป็นการเผาผลาญที่ไม่เกิดจากกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งหมายความว่าไปใช้กับความคิดอย่างเดียว เหงื่อไม่ออก
คนเหล่านี้ต้องการน้ำตาลที่สูงมากขึ้นเพื่อที่จะไป ใช้ในการเผาผลาญ ตามมาด้วยการชอบทานหวานๆ ทั้งวัน หรือทานจุบจิบทั้งวัน เพื่อประคองรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เพียงพอต่อการใช้สมองอย่างนัก ข้
- อาจมีการอุดตันที่รูขุมขนง่าย (ไม่ค่อยได้ให้เหงื่อมาชะล้างไขมันและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน)
- ตัวผอมแต่มีพุง (metabolic syndrome)
- บางรายก็จะมีคอเลสเตอรอลสูง (ไขมันไปเกาะภายในเส้นเลือด แทนที่จะมาอยู่ที่รอบเองให้เห็น)
- มีอาการแข็งตึงตามบ่า ไหล่ เพราะความตึงเครียด (ควรไปฝึกการยืดหยุ่นอย่างโยคะ จะช่วยอาการตึงเรื้อรังได้)

.............................................................................................

คราวนี้รู้แล้วใช่ไหม ว่าต้องทำยังไง ไม่ต้องพึ่งกาแฟหรือยาลดน้ำหนัก

ขอเพียงแค่เราเข้าใจสิ่งที่กล่าวมานี้ และทำตามรับรองว่า สวยเช้งกระเด๊ะ หล่อสุโก๊ย ทีเดียวเชียว


พุงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!

แกตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


ที่มา //www.ahinnovation.com




Create Date : 04 มิถุนายน 2554
Last Update : 4 มิถุนายน 2554 14:34:06 น. 1 comments
Counter : 1545 Pageviews.  

 
ชอบรูปสุดท้ายมากมายเลยค่ะ


โดย: น้ำพันซ์ วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:18:33:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]