Group Blog
 
All Blogs
 
ลืมชื่อนี้หรือยัง “นิค ลีสัน”

สัปดาห์นี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วเทรดเดอร์จอมโกงนามว่า “นิค ลีสัน” (Nick Leeson) ได้หลบหนีจากประเทศสิงคโปร์หลังจากพบความจริงที่ว่าเขาไม่อาจปกปิดผลการขาดทุนกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์จากการซื้อขายหลักทรัพย์



จริงๆแล้วลีสันได้ประสบกับการขาดทุนอย่างมหาศาลมาโดยตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี แต่แล้วในเช้าของวันที่ 23 เดือนกุมพาพันธ์ 2538 ความกดดันนี้ก็ถึงขีดสุด

ด้วยความพยายามสุดท้ายเพื่อกอบกู้การขาดทุน เทรดเดอร์ของธนาคารแบริ่ง (Baring) ผู้นี้ได้ลงพนันก้อนโตกับดัชนีนิเคอิ (NIKKEI) ที่คาดว่าจะสามารถชี้นำให้หุ้นในตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นได้

แต่แล้วพนันก้อนโตนี้ก็ไม่ได้เป็นไปตามคาดหมาย อันเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองโกเบ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมโหฬารทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงตลาดหุ้นของญี่ปุ่นด้วย

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทรุดตัวลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ความเสียหายของแบริ่งก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขาขาดทุนมากกว่า 50 ล้านดอลล่าร์ในเวลาอันสั้นเพียงแค่ช่วงเวลาอาหารเที่ยง และในขณะนั้นเจ้านายของลีสันต้องการที่จะพบเขาเพื่อสอบถามถึงเรื่องตัวเลขอันตรายในงบดุลของธนาคารแบริ่ง

ดังที่ลีสันได้เขียนไว้ในอัตชีวประวัติของตัวเขาเองเรื่อง “Rogue Trader” ว่านี่คือ “เวลาเผ่น”

ณ รีสอร์ทสุดหรู

ช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีในปี 2538 ลีสันได้ผละจากออฟฟิซและจับเที่ยวบินว่างถัดไปมุ่งหน้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์พร้อมกับลิซ่าภรรยาของเขา จากนั้นได้เข้าพักในโรงแรมห้าดาวชื่อรีเจนท์

ในเวลาเดียวกันในอีกซีกโลกผู้บริหารอาวุโสของธนาคารแบริ่งในกรุงลอนดอนได้กำลังเริ่มต้นค้นหาขอบเขตของความเสียหาย

เรื่องถูกตีแผ่ออกสู่สาธารณชนในหนังสือพิมพ์ British Sunday ฉบับเช้า ธนาคารพานิชที่เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษกำลังจะล้มละลายจากน้ำมือของเทรดเดอร์หนุ่มซึ่งหายตัวไป

ในไม่ช้าข่าวลือก็แพร่สะพัดออกไปว่าลีสันได้เผ่นหนีข้ามประเทศไปยังมาเลเซียด้วยรถสปอร์ตปอร์เช่คันหรูของเขา หรืออาจหลบไปโดยเรือยอชท์

แต่ในความเป็นจริงทั้ง 2 คนหลบอยู่ในรีสอร์ทสุดหรูในมาเลเซีย

หลังจากที่อ่านข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับธนาคารแบริ่งล้มละลายจากร้านหนังสือแถวนั้น พวกเขาก็วางเส้นทางการหนีกลับไปยังประเทศอังกฤษเพื่อหลบเลี่ยงการตามล่าของเจ้าหน้าที่จากสิงคโปร์

แต่ในวันที่ 2 เดือนมีนาคม ลีสันก็ถูกจับกุมที่สนามบินแฟรงเฟิร์ท และปฏิบัติการตามล่าสุดขอบฟ้ากับเทรดเดอร์ผู้หายตัวไปก็ได้สิ้นสุดลง

ต่อมาลีสันได้ถูกส่งตัวกลับไปที่สิงคโปร์ตามกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน และได้ถูกพิพากษาให้จำคุกกว่า 6 ปีในเรือนจำชางกิ

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์

ไม่กี่วันหลังจากที่นิค ลีสันโดนจับที่แฟรงเฟิร์ท ธนาคารแบริ่งอันเก่าแก่ได้ถูกขายให้กับธนาคารและประกันภัยยักษ์ใหญ่สัญชาติดัชนามว่า ING ด้วยมูลค่าแสนถูก นำไปสู่การล่มสลายของธนาคารที่มีประวัติยาวนานกว่า 230 ปี

แบริ่งได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ING Baring ในตอนแรก แต่ในปัจจุบันไม่มีชื่อแบริ่งติดอยู่บนป้ายชื่อของธนาคารในสิงคโปร์และสาขาอื่นทั่วโลกอีกต่อไปแล้ว เพราะ ING ได้เปลี่ยนชื่อให้เหลือเพียง ING เท่านั้น

เรียบเรียงจาก: “Leeson's legacy lives on in Singapore”
ผู้เขียน: Malcolm Borthwick
BBC World Asia Business Report editor in Singapore
Last Updated: Wednesday, 23 February, 2005



Create Date : 30 กรกฎาคม 2548
Last Update : 30 กรกฎาคม 2548 7:32:11 น. 4 comments
Counter : 4116 Pageviews.

 
สวัสดีครับ...แวะมาอ่าน นิค...


โดย: **mp5** วันที่: 30 กรกฎาคม 2548 เวลา:8:40:55 น.  

 


โดย: .. IP: 58.64.110.28 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:10:34 น.  

 
เราเคยดูหนังเรื่องนี้ด้วยล่ะ รู้สึกว่าฟิวเจอร์เนี่ยน่ากลัวยังไงไม่รู้


โดย: asset backed securities IP: 203.113.32.6 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:08:55 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: 2 IP: 110.168.194.46 วันที่: 6 สิงหาคม 2556 เวลา:18:40:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

roadtrip
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add roadtrip's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.