All Blog
**Review** The Coincidence of Callie and Kayden - Jessica Sorensen


The Coincidence of Callie and Kayden
by Jessica Sorensen



Title : The Coincidence of Callie and Kayden (The Coincidence #1)
Author : Jessica Sorensen
Genre : NA / Romance
Published : December 13th 2012

เรื่องย่อ : 

สำหรับเคเดน การเจ็บปวดอยู่เงียบๆเป็นหนทางเดียวที่จะมีชีวิตรอด หากวันไหนโชคดี เขาก็จะก้มหน้าก้มตาทำตามที่ถูกสั่ง และรอดตัวไปอีกหนึ่งวัน แต่แล้วเมื่อคืนหนึ่งที่โชคชะตาและชีวิตของเคเดนเหมือนกำลังจะมาถึงจุดสิ้นสุด อยู่ๆก็มีนางฟ้าชื่อ แคลลี่ มาช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน

แคลลี่ไม่เคยเชื่อในโชคชะตา ไม่..ตั้งแต่วันเกิดอายุ 12 เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถูกพรากไปจากเธอ หลังจากที่เหตุการณ์เลวร้ายจบลง เธอก็เก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้เสมอ และตั้งใจว่าจะไม่มีวันเล่าเรื่องนั้นให้ใครฟัง จนกระทั่งตอนนี้ หลังจาก 6 ปีผ่านไป เเคลลี่ก็ยังต้องทนทุกข์อยู่กับความลับอันแสนเจ็บปวดที่คอยหลอกหลอนเธอตลอดเวลา

เมื่อโชคชะตาพาให้แคลลี่และเคเดนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เคเดนสัญญากับตัวเองว่าจะต้องรู้จักสาวสวยที่เปลี่ยนชีวิตเขาให้ได้ ในขณะแคลลี่ก็ยังคงกลัวที่จะปล่อยให้ใครเข้ามาในโลกของเธอ แต่เคเดนมั่นใจว่าต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างแน่ๆที่ทำให้เขาและเธอได้เจอกันอีกครั้ง และยิ่งเขาเข้าใกล้เธอเท่าไหร่ เคเดนก็ยิ่งตระหนักได้ว่า ครั้งนี้..เป็นแคลลี่ต่างหากที่ต้องการความช่วยเหลือ...

รีวิว + สปอยล์ :

แคลลี่ บังเอิญไปเจอเคเดน เด็กหนุ่มนักกีฬาของโรงเรียน กำลังถูกพ่อแท้ๆซ้อม เธอยื่นมือเข้าช่วยเขา แม้ว่ามันจะขัดกับนิสัยไม่ชอบเป็นจุดสนใจของเธอก็ตาม แคลลี่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอนั้นมีผลต่อเคเดนมากแค่ไหน แต่ก่อนที่จะได้สานต่อความสัมพันธ์ ทั้งคู่ก็ต้องแยกย้ายกันไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรั้วมหาลัยเสียแล้ว

อาจเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตาที่ทำให้ทั้งสองคนได้เจอกันอีกครั้ง แรกเริ่ม เคเดนจำแคลลี่ไม่ได้เลยสักนิด เพราะจากเด็กสาวที่ชอบสวมเสื้อตัวโคร่ง  ตัดผมสั้นไม่เป็นทรง และทาอายแชโดว์สีดำน่ากลัว เธอกลับกลายเป็นหญิงสาวผมยาวสวย และชอบหัวเราะคิกคักกับเพื่อนสนิท

ทันทีที่ลุค เพื่อนสนิทของเคเดนยืนยันว่าหญิงสาวคนนั้นคือแคลลี่ เขาก็แทบจะตรงเข้าไปขอบคุณเธอสำหรับเรื่องในคืนนั้น เพราะหากแคลลี่ไม่ช่วยเขาไว้ เขาคงจะต้องตายด้วยมือของพ่อเป็นแน่

เกิดเหตุการณ์มากมายที่ทำให้ทั้งคู่รู้จักกันและกันมากขึ้น แคลลี่เปิดใจยอมให้เคเดนเข้ามา แม้ว่าฝันร้ายในอดีตจะยังคงตามมาหลอกหลอนเธออยู่ตลอดก็ตาม ในขณะที่เคเดนเองก็ไม่อาจไปไกลจากเธอได้ ทั้งที่เสียงในใจกำลังร่ำร้องไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้ เพราะเขาไม่เคยชินกับการรักใครมาก่อน เลยทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองขึ้นมา

ยิ่งแคลลี่ดำเนินความสัมพันธ์ทางกายกับเคเดนมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งวันที่ความสัมพันธ์ไปไกลกว่าที่เคย แคลลี่เกิดตื่นกลัวขึ้นมาเพียงเพราะเคเดนชมว่าเธอสวย คำพูดของเขาทำให้เธอหวนนึกถึงคนๆนั้น คนที่เธอเคยไว้ใจที่สุด แต่ก็ข่มขืนเธออย่างเลือดเย็นที่สุดด้วยเช่นกัน

เคเดนไม่ได้รู้สึกรังเกียจแคลลี่ แต่กลับรู้สึกเจ็บแค้นและอยากปกป้องเธอมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นั่นทำให้แคลลี่รู้สึกผิดคาด และยอมรับในตัวเขาในท้ายที่สุด 

ในช่วงวันหยุดคริสมาสต์ เคนเดนจำใจต้องกลับบ้าน เพราะเขาเองก็ไม่มีที่ไปที่อื่นอีก ด้านแคลลี่ เมื่อถามแม่จนแน่ใจแล้วว่าคนๆนั้นจะไม่กลับมาเที่ยวช่วงหยุดยาว เธอจึงยอมตามเคเดนกลับบ้านด้วยกัน แล้วก็เหมือนทุกครั้ง เคเดนผิดใจกับพ่อ เพราะไม่ยอมไปซ้อมวิ่งตามตาราง เขาถูกพ่อซ้อมหนักกว่าที่เคย จนยับเยินไปทั้งตัว แคลลี่ทนเห็นเขาในสภาพนี้ต่อไปไม่ไหวจึงเอ่ยปากชวนเคเดนมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของเธอ แต่ในระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นมาเสียก่อน เมื่อพี่ชายและเคเลบ เพื่อนของพี่ชายกลับบ้านมาด้วย แคลลี่แสดงอาการผิดปกติออกมาอย่างชัดเจน และเคเดนก็เดาถูกว่า เคเลบ คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

ตอนม.ต้น แคลลี่เป็นเด็กสาวที่ร่าเริง สดใสตามวัยเหมือนเด็กทั่วๆไป แต่เมื่อถูกเคเลบข่มขืน เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าตัวโคร่ง หั่นผมตัวเองทิ้งแบบลวกๆ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ยอมพูดจากับใคร จนเธอกลายเป็นเป้าที่โดนเพื่อนๆแกล้ง โดยเฉพาะเดซี่ แฟนเก่าของเคเดน

เคเดนโมโหจนตามไปซ้อมเคเลบที่ปาร์ตี้ เขาเกือบจะฆ่าเคเลบตายคามือ โชคยังดีที่มีตำรวจมาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เสียก่อน เคเดนถูกขังที่สถานีตำรวจเพราะปฏิเสธไม่ให้พ่อมาประกันตัว แต่เนื่องจากพ่อของเขาเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองนี้ ชอบบริจาค และช่วยเหลืองานการกุศลตลอด ใครๆต่างก็รู้จัก ตำรวจจึงติดต่อให้พ่อเขามาประกันตัวจนได้

เมื่อกลับถึงบ้าน เคเดนก็ถูกซ้อม แต่คราวนี้เขาสู้กลับ เขาไม่ยอมถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนเช่นเคย และนั่นก็ทำให้พ่อของเขาโมโหจนยั้งไม่อยู่ เผลอใช้มีดแทงเคเดนเข้า และวิ่งหนีไป

เคเดนเคยคิดว่า วันที่แคลลี่มาช่วยเขาไว้จะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต เขาจะยอมให้พ่อซ้อมจนตาย เพราะเขาเหนื่อยเหลือเกินกับการต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัวแบบนี้ แต่แคลลี่ก็เข้ามาซื้อเวลาให้เขา จนกระทั่งเหตุการณ์ในวันนี้ เคเดนรู้สึกเจ็บปวดจนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาจึงใช้มีดที่หล่นอยู่ตรงนั้นกรีดข้อมือของตัวเอง และหวังว่าความเจ็บปวดนี้จะจบลงเสียที

“In the existence of our lives, 
there is a single coincidence that brings us together 
and for a moment, our hearts beat as one.”

การเล่าเรื่อง : เล่าในมุมมองของเเคลลี่ และเคเดนสลับกันไป มีคำหยาบ sex scene และความรุนแรงในครอบครัว ผู้ปกครองควรคิดให้ดีก่อนซื้อให้บุตรหลาน 555+

ภาษา : ศัพท์ง่ายมากๆ

ความรู้สึกหลังอ่าน : อืมมมม ก็สนุกดีนะ อ่านได้เรื่อยๆ แต่พล็อตเดาง่ายไปหน่อย อ่านแค่สองบทก็เดาได้หมดละ คือไอ้อดีตแสนเจ็บปวดสำหรับตัวละครหญิงก็มีอยู่แค่เรื่องเดียวล่ะนะ ส่วนความลับของเคเดน ผู้เขียนก็บอกอ้อมๆอยู่แล้ว ไม่ต้องเดาอะไรมาก ตอนอ่านก็แค่ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะได้กันสักที 55555

ผู้เขียนพยายามจะทำให้ปมของตัวละคร เป็นประเด็นหลักของเรื่อง แต่เราว่าพล็อตอ่อนมาก ก็แค่เล่าเรื่องรักโรแมนติก ที่ตัวละครมีปม แต่ไม่ได้เจาะลึกถึงปัญหานั้นๆ ความรู้สึกเหมือนอ่านนิยายตามอินเตอร์เนตบ้านเรานี่แหละ ผิดหวังๆ สำหรับใครที่อยากอ่านนิยายต่างประเทศแล้วได้สาระ เราแนะนำให้อ่าน YA หรือ adult fiction ไปเลย เพราะเท่าที่อ่านมา YA มักเจาะลึกกับธีมเรื่องได้ชัดเจนกว่า NA มากกกก

คะแนน : 2.5 - 3/5 อ่านเอาสนุก แต่ไม่ได้สาระอะไร

Smiley



Create Date : 10 พฤษภาคม 2559
Last Update : 10 พฤษภาคม 2559 23:01:08 น.
Counter : 843 Pageviews.

2 comment
**Review**Before I Fall - Lauren Oliver


BEFORE I FALL
by Lauren Oliver



Title : Before I Fall
Author : Lauren Oliver
Genre : YA / Paranormal
Published : February 14, 2010
เรื่องย่อ :

สมมุติว่า คุณหลือเวลาอีกแค่วันเดียว คุณจะทำอะไรบ้าง
คุณจะจูบใคร และอีกไกลแค่ไหนกว่าที่คุณจะรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้

ซาแมนท่า คิงส์ตัน มีทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ชื่อเสียง และแฟนหนุ่มที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็ค ในวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ควรจะเป็นวันๆหนึ่งในชีวิตที่เหมือนราวกับต้องมนตร์ของเธอ แต่แล้ว..มันกลับกลายเป็นวันสุดท้ายไปเสียอย่างนั้น

ซาแมนท่า ตื่นขึ้นในเช้าวันถัดไป และใช้ชีวิตในวันเดิมๆถึง 7 ครั้ง เธอจะต้องคลายปมยุ่งยากที่เกี่ยวข้องกับการตายของเธอ และค้นพบคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งที่เธอกำลังจะสูญเสียไปจากการตายครั้งนี้

รีวิว + สปอยล์ :

แซมประสบอุบัติเหตุจนตัวเองเสียชีวิต เธอคิดว่าวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายของเธอ แต่แท้ที่จริงแล้ว..มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด...

ภาพเหตุการณ์ในอดีตหวนคืนกลับมาในขณะที่แซมกำลังจะหมดลมหายใจ เธอเคยคิดเสมอว่าภาพสุดท้ายก่อนที่คนเราจะตาย ควรจะเป็นภาพความทรงจำที่เรามีความสุขที่สุด แต่ภาพที่เธอเห็นกลับเป็นเรื่องราวสมัยมัธยมต้น แซมและเพื่อนสนิทมักคอยกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมชั้นเสมอ ทั้งด่าทอและพูดจาว่าร้าย เธอไม่เคยเข้าใจว่าการกระทำนั้นส่งผลต่อคนอื่นแค่ไหน จนกว่าเธอจะได้เรียนรู้มันด้วยตัวเอง

แซมตื่นขึ้นมาในวันศุกร์ที่12 อีกครั้งโดยเข้าใจว่าอุบัติเหตุนั้นเป็นแค่ความฝัน เธอไปโรงเรียนตามปกติ คิดเพียงว่าคืนนี้จะไปปาร์ตี้ที่ไหน และครั้งแรกกับแฟนจะให้ความรู้สึกยังไง แม้ว่าเธอจะสงสัยสิ่งรอบข้าง แต่เธอก็สรุปเอาเองว่าเป็นแค่เดจาวูเท่านั้น จนกระทั่งเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าภาพที่เธอเห็นไม่ใช่ความฝัน แต่เธอได้ตายไปแล้วจริงๆ

แซมตื่นขึ้นในวันเดิมอีกครั้ง เธอคิดว่าการที่เวลาย้อนกลับมาอาจเป็นเพราะว่าเธอได้รับโอกาสให้แก้ไขอดีต แล้วสุดท้ายเธออาจจะไม่ต้องตายก็ได้ เพราะงั้นวันนี้เธอจะหลีกเลี่ยงปาร์ตี้คืนวันศุกร์ที่บ้านเคนท์ แล้วอุบัติเหตุก็จะไม่เกิดขึ้น และนั่นหมายความว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างปกติสุข แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีโทรศัพท์มากลางดึกบอกว่า จูเลียทเด็กสาวที่เธอเคยแกล้ง ซ้ำยังตามไปด่าเธอกับเพื่อนถึงงานปาร์ตี้ว่า นังแรด เด็กคนนั้นได้ระเบิดสมองตัวเองทิ้ง โดยทิ้งข้อสงสัยไว้ว่า สาเหตุน่าจะมาจากลินเซ่เพื่อนสนิทของแซม

คืนที่ผ่านมา แซมไม่ตาย แต่เธอก็ย้อนกลับมาวันเดิมเหมือนเช่นเคย เธอโมโหลินเซ่ที่เป็นหัวโจกแกล้งจูเลียท แต่คนที่ต้องตายกลับเป็นเธอ วันนั้นทั้งวันแซมจึงเลี่ยงไม่เข้ากลุ่มเพื่อน และบังเอิญได้คุยกับแอนนา เด็กสาวที่ใครๆต่างก็ล้อว่า ร่าน ซึ่งแท้จริงแล้วเธอนิสัยดีกว่าที่แซมคิด

คืนนั้นแซมไปปาร์ตี้โดยเลี่ยงที่จะไม่เจอจูเลียท เธออยากจะลืมเรื่องทั้งหมดไปเสีย เธอแอบนั่งร้องไห้เสียใจกับความตายและการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง โดยมีเคนท์ เพื่อนสมัยเด็ก คอยปลอบใจ ทั้งที่แซมเอาแต่ตั้งท่ารังเกียจเคนท์ต่างๆนาๆ แต่เขากลับดีกับเธอไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อตอนเด็กเลย และความอ่อนโยนของเขาก็ทำให้เธอสามารถหลับได้อย่างปกติสุขในคืนนั้น

แซมตื่นขี้นมาในวันเดิมซ้ำๆอีกหลายครั้ง เธอพยายามแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่เธอเคยทำไว้กับคนรอบข้าง เธอบอกรักพ่อแม่ เธอให้สร้อยคอกับน้องสาว และเสียใจที่จะไม่ได้เห็นน้องโตเป็นผู้ใหญ่ เธอมอบหนังสือศิลปะให้แอนนา เธอบอกเลิกแฟนหนุ่ม เพราะเธอสามารถยอมรับได้แล้วว่าเขาไม่เคยรักเธอเลย และที่สำคัญ เธอขอบคุณเคนท์สำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อเธอ และยังเชื่อในตัวเธอเสมอ แซมคิดว่าการที่เธอได้ย้อนเวลากลับมานั้น ไม่ได้ต้องการให้เธอกลับมาช่วยเหลือใคร แต่เป็นตัวเธอต่างหากที่ควรได้รับการช่วยเหลือ ในคืนวันศุกร์ ครั้งที่ ขณะที่จูเลียทกำลังออกวิ่งไปให้รถชน แซมตรงเข้าผลักเธอให้พ้นทาง และเป็นตัวแซมเองที่ถูกรถชน และเธอสาบานเลยว่าเห็นวงแหวนของนางฟ้าลอยอยู่เหนือหัวจูเลียท

ผู้คนมักบอกว่าก่อนที่เราจะตาย เราจะได้เห็นทั้งชีวิตของเราสะท้อนอยู่ในดวงตา แต่สำหรับแซมแล้ว เธอได้เห็นเฉพาะช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต สิ่งที่เธออยากจดจำ และถูกจำ เธอตระหนักได้ว่า เหตุการณ์ในชั่วขณะหนึ่งนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าหลังจากที่ตายและถูกฝังไปแล้ว ชั่วขณะนั้นก็จะยังคงอยู่ตลอดไป เพราะว่าพวกมันมีความหมายสำหรับเธอ และแซมไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด ชั่วขณะหนึ่งของความตายเต็มไปด้วยเสียง ความอบอุ่น และแสงสว่างที่เติมเต็มเธอ และถ้าพวกคุณอยากรู้ ก็ต้องหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง

"Maybe you can afford to wait. Maybe for you there's a tomorrow. Maybe for you there's one thousand tomorrows, or three thousand, or ten, so much time you can bathe in it, roll around it, let it slide like coins through you fingers. So much time you can waste it.

But for some of us there's only today. And the truth is, you never really know."

ภาษา : ศัพท์ง่ายมาก

ความรู้สึกหลังอ่าน : พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เฮ่อออ ตอนอ่านอารมณ์หลากหลายมาก ต้นเรื่องจะเล่าถึงความชั่วร้ายของพวกนางเอก คือนางเป็นพวก perfect mean girl วันๆสนใจแต่เสื้อผ้า หน้า ผม ความป๊อบของตัวเอง และคอยดูถูกคนอื่นที่อยู่ต่ำกว่า โดยที่นางไม่รู้สึกผิดะไร เพราะคิดว่าใครๆก็ทำกัน อืมมม.. บอกเลยว่าเราเกือบไม่อ่านต่อแล้วนะ คือเกลียดนางมากกกกก สมควรแล้วที่โดนด่าว่า bitch ตายๆไปเถอะค่ะ 555+ แต่เสียตังซื้อมาแล้วก็ต้องอ่านต่อล่ะนะ งกค่ะ 55 

พอช่วงกลางเรื่อง นางเริ่มสำนึกได้ เรานี่ก็บ้า ร้องไห้ตามเลยจ้า สงสารนาง ลุ้นว่าสุดท้ายนางจะได้กลับมามีชีวิตเหมือนเดิมมั้ย สงสารเคนท์อีกคน ได้คุยกับนางเอกนิดหน่อย นางเอกก็ชิงตายไปอีกละ -*- เฮ่ออออ

ที่จริงพล็อตแบบนี้มีให้เห็นเยอะมาก แล้วส่วนใหญ่จะเล่าเหตุการณ์เดิมซ้ำๆจนน่าเบื่อ แต่เรื่องนี้นางเอกเลือกทำสิ่งแตกต่างจากเดิมในแต่ละวัน เรื่องเลยน่าติดตามขึ้นเยอะเลย ส่วนตอนจบก็นะ  ทำเราเงิบไปหลายวันเลย เราคิดว่านางคงไม่ได้กลับไปแก้ไขอะไรในโลกความเป็นจริงหรอก สิ่งที่เปลี่ยนไปคงมีแค่นางเอกที่รับรู้ เฮ่อออ 

หนังสือเล่มนี้มีสัญลักษณ์หลายอย่างแทรกอยู่ แต่เราก็ยังอ่านไม่แตกเท่าไหร่หรอกนะ แต่พอสรุปได้ว่า ผู้เขียนต้องการให้เรามองเห็นคุณค่าของการมีชีวิต คอยทำดีกับคนอื่นไว้ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง และตระหนักในการกระทำของเราเสมอว่า มันอาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อคนอื่นก็ได้นะเออ อีกอย่างนึง เราลองเสริ์ชดูเห็นว่า เขาจะทำเป็นหนังด้วย ลองไปหาอ่านดูกันนะ สนุกดีๆๆ

คะแนน : 4/5




Create Date : 04 เมษายน 2559
Last Update : 4 เมษายน 2559 18:40:17 น.
Counter : 8877 Pageviews.

4 comment
**Review**ใต้เงาคำสาป - มิซึดะ ชินโซ

禍家

(ใต้เงาคำสาป)



Title : Magaya (ใต้เงาคำสาป)
Author : Shinzo Mitsuda
Genre : Horror
Published : 2009

เรื่องย่อ : 

ทันทีเมื่อย่าพาโคทาโรย้ายมาบ้านหลังใหม่ในเมืองเล็ก
เด็กชายกำพร้าถูกจู่โจมด้วยความรู้สึกคุ้นเคยยากจะบรรยาย
ตามด้วยคำพูดน่าสะพรึงจากชายชราประหลาด
‘หลานชาย... ขอต้อนรับกลับบ้าน’
...ครืด ครืด ครืด
วันแล้ววันเล่า เด็กชายต้องหวาดผวากับเสียงฝีเท้าเดินไล่หลัง
ซ้ำยังมีเรื่องลี้ลับคอยหลอกหลอน มาพร้อมลางสังหรณ์มรณะ
บีบให้เขาสืบหาปริศนาของบ้านและเมืองลึกลับ
โดยมีเบาะแสเป็นตำนานบ้านผีสิงจากเด็กหญิงเพื่อนใหม่
ป่าเจ้าที่แถวบ้าน และชื่อของชายปริศนาซึ่งเชื่อมโยงสู่เหตุร้ายในอดีต

รีวิว + สปอยล์ :

มุนากาตะ โคทาโร่ ย้ายมาอาศัยอยู่กับย่าในบ้านเช่าหลังใหม่หลังพ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เด็กชายรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้มากจนตัวเองยังแปลกใจแต่ก็สรุปว่าคงเป็นเพียงแค่เดจาวูเท่านั้น

ตั้งแต่ย้ายมาโคทาโร่ต้องพบเจอเรื่องแปลกประหลาดไม่เว้นแต่ละวันทั้งเสียงชวนขนลุก และภาพวิญญาณน่าสยดสยองเด็กชายตั้งสมมติฐานว่าบ้านหลังนี้อาจเคยเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นก่อนหน้านี้ก็เป็นได้และเมื่อได้รับคำยืนยันจากเรนะ เด็กสาวบ้านใกล้เคียง ว่าบ้านหลังนี้คือบ้านผีสิงที่เขาร่ำลือกันโคทาโร่จึงตัดสินใจค้นหาความจริงเบื้องหลังของบ้านหลังนี้

โคทาโร่กับเรนะช่วยกันค้นหาข้อมูลจากห้องสมุดประชาชนและความจริงที่พวกเขาอยากรู้ก็แผ่หลาอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ (สปอยล์) เคยมีครอบครัวถูกฆาตกรรมที่บ้านหลังนั้นจริงๆ แต่มีเพียงคนเดียวที่รอดมาได้และคนๆนั้นก็คือ มุนากาตะ โคทาโร่

โคทาโร่ ช็อกกับความจริงตรงหน้า แต่พอตั้งสติได้เด็กชายก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด แท้ที่จริงแล้วคนที่ถูกฆ่าคือพ่อ แม่พี่สาว น้องชาย และยายของเขา ส่วนพ่อแม่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุนั้นเป็นน้องชายและน้องสาวของพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาซึ่งรับเขามาเลี้ยงหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น

โคทาโร่ต้องการทราบความจริงมากกว่านี้จึงไปสอบถามเอาจากชายชราโคคุโบที่พูดจาแปลกๆกับเขาตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาชายชราเล่าว่าฆาตกรคือ งุนจิ เด็กเพี้ยนที่นับถือพระเจ้าประจำตระกูลอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดตั้งตัวเองเป็นศาสดามาแล้ว แต่เมื่อเขาสอบตก เขากลับโทษว่าเทพเจ้าทรยศเขาด้วยความโกรธแค้น งุนจิจึงทำลายศาลเทพเจ้าในป่าทิ้งและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของคำสาป

บ้านทุกหลังที่อยู่ตรงมุมของทางเดินซิกแซ็กในป่าจะต้องมีคนตายซึ่งก็รวมถึงภรรยาของชายชราโคคุโบที่แขวนคอตายใต้ต้นพลับหน้าบ้านงุนจิล่วงรู้ถึงคำสาป และคาดการณ์ว่าบ้านของตนจะเป็นรายถัดไปเขาจึงคิดที่จะโกงความตาย เช้าวันหนึ่งงุนจิตรงเข้ามาฆ่าสมาชิกครอบครัวมุนากาตะถึงในบ้านทีละคนแต่เขาไม่รู้ว่ายังเหลือโคทาโร่อีกหนึ่งคนงุนจิกลับมาที่บ้านมุนากาตะอีกครั้งเพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้นแต่เขาก็ถูกตำรวจวิสามัญไปเสียก่อน

พรุ่งนี้ก็จะครบรอบ 10ปี ของเหตุฆาตกรรมครั้งนั้นโคทาโร่คิดว่าวิญญาณของงุนจิคงต้องกลับมาเอาชีวิตของตนเป็นแน่เด็กชายจึงขอความช่วยเหลือจากชิมิเอะ ครูสอนพิเศษที่มีสัมผัสพิเศษหญิงสาวให้โคทาโร่ใช้หุ่นฟางแทนตัวเขาเพื่อหลอกล่อวิญญาณร้ายโดยให้โคทาโร่แอบซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าเหมือนเมื่อสิบปีก่อนหากรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติก็ห้ามส่งเสียงเด็ดขาด

ตกเย็นวันนั้น โคทาโร่เห็นเงาดำมืดตรงมาทางบ้านของตนเด็กชายจึงรีบหนีไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าตามแผน เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนมาหยุดตรงหน้าเขา เงาดำนั้นถือมีดทำครัวแน่น แล้วกระหน่ำจ้วงแทงไปที่หุ่นฟางโคทาโร่คิดว่าเรื่องคงจบแล้ว แต่เมื่อเงาดำจางหายเขากลับพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือชิมิเอะ

หญิงสาวเล่าว่าเป็นคนจัดฉากเรื่องทั้งหมดขึ้นมาตั้งแต่จัดการฆ่าพ่อแม่บุญธรรมของโคทาโร่จนเขาต้องย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้และตีสนิทกับเรนะ ที่ทำไปนี้ก็เพื่อสานต่อภารกิจที่ยังไม่เสร็จของพี่ชายใช่แล้ว..ชิมิเอะก็คือน้องสาวของงุนจินั่นเอง

ชิมิเอะจัดการล็อกประตูและหน้าต่างจนโคทาโร่ไม่มีทางหนีนอกจากจะต้องกระโดดจากหน้าต่างห้องนอนของเขา เด็กชายวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเหตุการณ์ดำเนินไปเหมือนเมื่อสิบปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยน อีกนิดเดียวเขาก็จะถูกจับได้และคงต้องตายอย่างน่าเวทนาเหมือนพ่อแม่ พี่น้องของเขาแน่ๆแต่อยู่ๆก็มีเสียงร้องให้เขาหมอบลง และตามด้วยเสียงปืนกระหน่ำยิงมาชิมิเอะนอนจมกองเลือดอยู่เบื้องหลังเขานี่เอง

ที่โคทาโร่รอดมาได้ก็เพราะวันนั้นเรนะได้ให้โทรศัพท์มือถือกับเขาไว้และในขณะที่หลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า เด็กชายได้โทรหาเรนะอยู่ก่อนแล้วซึ่งเธอก็ได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ และคงไม่ได้แต่งงานกับเด็กสาวที่เคยอยู่เคียงข้างเขาในคราวนั้น

ความรู้สึกหลังอ่าน : เรื่องนี้น่ากลัวอะ ทำเรานอนไม่หลับเลย Smiley ที่จริงเนื้อเรื่องก็คล้ายๆบ้านผีสิงแบบหนังฝรั่งอะนะ แต่การเล่าเรื่องทำให้ดูตื่นเต้น วางไม่ลงเลย ชอบที่บรรยายความคิดของโคทาโร่ที่เปลี่ยนไปมาเรื่อยๆ เพราะกำลังสับสน มันดูสมจริงดีนะ พวกผีวิญาณก็สยองดี ชอบๆ ช่วงนี้เรากำลังอยากอ่านอะไรโหดๆแบบGOTHพอดี หูยยย หยิบมาอ่านได้ถูกจังหวะเลย อยากอ่านแนวนี้อีกจัง รู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีนิยายญี่ปุ่นโหดๆ จิตๆเลยนะ เฮ่ออออ Smiley

คะแนน : 5/5







Create Date : 23 มีนาคม 2559
Last Update : 23 มีนาคม 2559 15:30:47 น.
Counter : 1460 Pageviews.

1 comment
**Review** We Should All Be Feminists - Chimamanda Ngozi Adichie
We Should All Be Feminists 
by Chimamanda Ngozi Adichie



Title : We Should All Be Feminists
Author : Chimamanda Ngozi Adichie
Genre : Non-Fiction / Essay
Published : 2014

รีวิว :

หนังสือเล่มนี้มีความยาวแค่ 40 กว่าหน้า ผู้เขียนอธิบายถึงความหมายของคำว่า Feminism ที่คนสมัยนี้เข้าใจผิดว่า พวกเธอเกลียดผู้ชาย แท้ที่จริงแล้ว เธอไม่ได้เกลียด และมีความสุขดี ที่เธออยากแต่งตัวสวย ใส่มินิสเกิร์ต ทาลิปกลอส นั่นเป็นเพราะเธอชอบ ไม่ได้ทำเพื่อดึงดูดผู้ชาย หรือเพื่อให้ใครมาชอบ 

ผู้เขียนเกิดและเติบโตที่ประเทศไนจีเรีย เธอเห็นการกระทำที่ไม่เสมอภาคระหว่างชายหญิงมาตั้งแต่เด็ก ครูที่โรงเรียนไม่ให้เธอทำหน้าที่สำคัญเพราะเธอเป็นผู้หญิง แม้ว่าเธอจะสอบได้คะแนนที่ดีที่สุด และเด็กผู้ชายที่ได้คะแนนรองจากเธอจะไม่ได้อยากทำหน้าที่นี้เลยก็ตาม เมื่อเธอโตขึ้น การเลือกปฏิบัตินี้ก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น เธอเคยไปพบคนในโรงแรมแห่งหนึ่ง ธอถูกซักถามอย่างละเอียด เพราะพวกเขากลัวว่าเธอจะมาขายบริการทางเพศ ในขณะที่ผู้ชายกลับไม่โดนเช่นเธอ เธอไม่เข้าใจว่า เหตุใดเขาถึงไม่โฟกัสว่า หากไม่มี demand ก็คงไม่มี supply

ผู้เขียนยังเล่าเรื่อง เพื่อนชาวอเมริกันของเธอว่า เพื่อนคนนี้ทำงานได้ดีเช่นเดียวกับผู้ชาย แต่เธอกลับได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า หรือเพื่อนอีกคนที่ทำงานเข้มงวด เหมือนหัวหน้างานชายคนก่อน แต่เพื่อนร่วมงานกลับบอกว่า รับไม่ได้ที่จะทำงานร่วมกับเธอ ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า คนเรามักยอมรับหากการกระทำเช่นนี้ เกิดจากผู้ชาย และผู้หญิงควรจะมีความอ่อนหวานมากกว่านี้

เคยมีคนเตือนผู้เขียนว่า งานเขียนของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ เธอยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง 
เพราะเรื่องเพศในสมัยนี้ สื่อให้เห็นถึงความอยุติธรรมอันน่าอดสู เธอโกรธ และทุกคนก็ควรจะโกรธเช่นเธอ และเธอหวังว่า ด้วยความสามารถของมนุษย์นี้จะทำให้อะไรๆดีขึ้นได้

ผู้เขียนเล่าว่า เธอเคยพูดเรื่อง Feminism แต่คู่สนทนาไม่ว่าจะชายหรือหญิง กลับเลี่ยงไม่อยากคุยเรื่องนี้ เธอคิดว่าผู้หญิงเราควรได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ไม่ใช่สิ่งที่สังคม หรือวัฒนธรรมคาดหวังว่าเราควรจะเป็น

ผู้เขียนเล่าถึงคุณทวดของเธอว่าเป็น Feminist เช่นเดียวกัน คุณทวดหนีจากงานแต่งงาน และไปแต่งกับผู้ชายที่คุณทวดเลือกเอง เธอทั้งปฏิเสธ ต่อต้าน และลุกขึ้นพูด เมื่อเธอถูกยึดทรัพย์เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง ในตอนนั้น คุณทวดไม่รู้จักคำว่า Feminist ด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ใช่ และคำนิยามของ Feminist ของผู้เขียน คือ ใครก็ตาม ไม่ว่าชายหรือหญิง ที่ยอมรับว่า  ทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องเพศเกิดขึ้นจริงๆ และเราควรจะต้องแก้ไข และทำให้มันดีขึ้น

All of us, women and men, must do better.

ภาษา : ศัพท์ไม่ยาก อ่านได้เรื่อยๆ แปบเดียวจบ

ความรู้สึกหลังอ่าน : บอกเลยว่า เราเป็นคนนึงที่ไม่ได้สนใจเรื่อง Feminism เลยซักนิด พอมีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาจะนึกถึงเพลงของ ปาน ธนพร ตลอดเลย 555+ รู้สึกว่ามัน sexism ยังไงไม่รู้ แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาว่า ทำไมเราควรถึงใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น เพราะมันมีความลำเอียง อคติอยู่ในสังคมจริงๆ ทั้งที่จริงเราควรจะทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ (โดยที่ไม่เดือดร้อนใคร) แต่บางทีก็อาจถูกบรรทัดฐานของสังคมปรามไว้ว่า เฮ้ย เธอเป็นผู้หญิง ทำแบบนั้นไม่ได้นะ ต้องเรียบร้อย ห้ามนั่งอ้าขา หรือ คุณเป็นผู้ชายควรจะเข้มแข็ง ห้ามแสดงความอ่อนแอออกมานะ พอลองมานั่งคิดดูแล้ว ก็จริงอย่างที่ผู้เขียนเขาว่า เราควรจะต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ อย่างน้อยก็ควรจะเปิดใจมากขึ้น ดูที่ความสามารถหรือปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่องเพศ หรือฐานะทางสังคม ถ้าทุกคนทำได้ โลกคงจะน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิมเยอะ ;)

คะแนน : 4/5



Create Date : 21 มีนาคม 2559
Last Update : 21 มีนาคม 2559 22:16:40 น.
Counter : 1702 Pageviews.

0 comment
**Review** Be With You - Takuji Ichikawa
Be With You
by Takuji Ichikawa




Title : Be With You (แล้วฉันจะกลับมา)
Author : Takuji Ichikawa
Genre : Fiction / Romance
Published : 2003

เรื่องย่อ :


     ทาคุมิแทบไม่เชื่อสายตา เมื่อภรรยาของเขากลับมา จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง? หรือเธอจะอยู่ที่นี่แค่เพียงชั่วคราว หรือว่าความรักจะเอาชนะความตายได้ เมื่อทาคุมิเริ่มต้นหาคำตอบของคำถามพวกนั้น เขาได้ค้นพ้นความลับของการปรากฏตัวของภรรยาที่เกี่ยวพันไปถึงอดีต..และอนาคต

รีวิว + สปอยล์ :

     หลังจากมิโอะตายไป ทัคคุงและยูจิต้องจมอยู่กับความเศร้า ทัคคุงต้องพยายามเป็นทั้งพ่อและแม่ของยูจิ ถ้าเป็นพ่อคนอื่นคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับทัคคุงแล้ว มันยากเกินความสามารถของตัวเขามากมายนัก สองคนพ่อลูกพยายามจะเดินหน้า แต่ชีวิตในแต่ละวันก็เเค่เลยผ่านไป

     จนวันที่ฤดูฝนมาเยือน มิโอะกลับมา แต่เธอจำสองพ่อลูกไม่ได้เลยสักนิด ทัคคุงและยูจิตกลงกันว่าจะไม่พูดเรื่องที่มิโอะเคยตายไปแล้ว และแสร้งทำเป็นว่าเหมือนไม่เคยมีเรื่องนั้นเกิดขึ้น

     มิโอะสงสัยที่สองพ่อลูกทำตัวแปลกๆ จนเธอเจอสมุดโน้ตของทัคคุงเข้า เนื้อหาในนั้นอธิบายการปรากฎตัวของเธอ และเธอจะได้อยู่กับพวกเขาเพียง 6 แค่สัปดาห์ และเมื่อฤดูฝนสิ้นสุดลง มิโอะต้องกลับไปในที่ที่เธอจากมา

     มิโอะเป็นห่วงว่า หากเธอไม่อยู่แล้ว สองพ่อลูกจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไง เธอจึงเริ่มหาวิธีช่วยทัคคุงเมื่ออาการป่วยกำเริบ และสอนยูจิทำงานบ้าน และฝากเขาดูแลทัคคุงด้วย

     แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ 6 สัปดาห์  แต่มิโอะก็ตกหลุมรักทัคคุงอีกครั้ง เธอไม่เสียใจที่เลือกใช้ชีวิตร่วมกับเขา เธอดีใจที่ได้มีลูกชายน่ารักๆแบบยูจิ ต่อให้เธอสามารถเลือกได้อีกครั้ง เธอก็ยังเลือกที่จะมาหาทัคคุงเหมือนดิม

     หลังมิโอะจากไปอีกครั้ง ทัคคุงได้รับจดหมายของเธอที่เขียนไว้ก่อนตาย ในจดหมายบอกเล่าเรื่องราวว่าเหตุใดเธอถึงกลับมา และเธอมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้อยู่ข้างๆเขา...


It's time.
I have to go...
At the station by the lake, he's waiting for me. I'm sure.
With my wonderful future.
Wait for me, will you, my boys?



Now, I'm coming to be with you...


ภาษา : ศัพท์ง่ายมากๆจ้า

ความรู้สึกหลังอ่าน : งืมมมมม เราว่าเวอร์ชันภาพยนตร์สื่ออารมณ์ได้ดีกว่านะ ตอนอ่านสะดุดตรงภาษามากๆ มาแบบเป็นกลุ่มคำ ไม่ค่อยเป็นประโยคยาวๆ คิดว่าน่าจะเพราะแปลมาจากภาษาญี่ปุ่น รำคาญนิดนึงตรงยูจิกับทัคคุงชอบพูดว่า 'really?' คือมันเยอะไป แล้วก็ที่มาของอาการป่วยของทัคคุงไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ แต่โดยรวมก็ดีนะ ชอบที่มิโอะกับทัคคุงแทบจะไม่ได้คุยกันเลยตอนม.ปลาย แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พยายามเข้าหากันและกัน มันดูเป็นความสัมพันธ์ที่ดีอะ รู้สึกได้ว่าสองคนนี้รักกันจริงๆ ตอนที่มิโอะบอกว่า 'เธอมีความสุขที่ได้อยู่กับทุคคุง มันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วในโลกนี้' โอยยยย อิจฉา อยากมีแบบนี้มั่ง 55+ ลองหาอ่านกันดูนะ เราว่าเป็นหนังสือ clean ที่หาไม่ค่อยได้ในสมัยนี้ *ปรบมือ*

คะแนน : 4/5






Create Date : 07 มีนาคม 2559
Last Update : 7 มีนาคม 2559 0:49:45 น.
Counter : 1300 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Caymen51
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



Hi guys! My name is Geegee. I'm a book lover. Feel free to add me on goodreads. Let's be friends!

ฝากร้านหนังสือหน่อยจ้า https://goo.gl/e1jVlt
SHOPEE : shopee.co.th/palalees?smtt=0.0.9

G.'s bookshelf: read

In the Shadow of Blackbirds
really liked it
4.5/5
tagged: fantasy and own
The Bunker Diary
really liked it
3.5/5 SHIT! The ending was too heartbreaking. I couldn't stand it!
tagged: own and contemporary
Malice
really liked it
tagged: japanese and own
Practice Makes Perfect
liked it
3.5/5 This was a funny and fluffy story with two guys who have a secret agreement. Their relationship started with with an awkward situation which surprisingly turned out to be hilarious. I really like geeky Dev. I think it's cute when...
tagged: contemporary
Strangers
liked it
tagged: japanese and own

goodreads.com