Group Blog
 
All blogs
 

Slow life in Southern Lao : Part 3

 

น้ำตกหลี่ผี

เส้นทางการมาน้ำตกหลี่ผีต้องผ่านการเดินทางแบบหลากหลาย  คือจากนั่งรถ แล้วมาต่อเรือ ตามด้วยรถห้าแถวอีก  และเดินอีกนิดหน่อย  พอบอกว่ารถห้าแถว ก็ทำให้เป็นปริศนาอีกว่ารถห้าแถวหน้าตาเป็นแบบไหน 

หลี่ คือเครื่องมือดักจับปลา 

ผี ก็คือ ศพ

ที่มาของคำว่า"หลี่ผี"ก็คือปกติหลี่ไว้ดักจับปลา มีเรื่องเล่าว่าในยุคสงครามอินโดจีน  มีศพของทหารจำนวนมากลอยมาติดในหลี่จับปลาทุกวันเลย  ก็เลยเป็นที่มาของคำนี้ 

ท่าที่จะลงเรือ



 

 อายุ้ยกับรถห้าแถว

 

ต้องบอกว่าดูน้ำตกหลี่ผีจากรูปไม่สวยเท่ามองความอลังตรงหน้า พร้อมกับฟังเสียงกระทบจากสายน้ำไปด้วย

 

 

 

 

........ออกนอกเรื่องนอกราว ... แต่ไม่นอก"ลาว"......

 

ระหว่างเดินทางกลุ่มคณะก็ถามขึ้นมาว่าจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แล้วลาวยังมีเจ้าหรือเคารพเจ้าไหม

คุณนิดเล่าให้ฟังว่า ศักดินาเจ้าถือว่าไม่มีแล้ว  แต่คนรุ่นก่อนก็อาจจจะยังให้ความเคารพอยู่   เชื้อพระวงศ์ส่วนหนึ่งก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส  บางท่านก็ยังอยู่ที่วังเก่านั่นแหละ เพียงแต่เป็นคนธรรมดา และไม่มีสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สินสถานที่ที่เคยเป็นเจ้าของ

คุณนิดพูดถึงเจ้าองค์หนึ่ง และบอกว่าหลวงวิจิตรวาทการได้แรงบันดาลใจจากเจ้าองค์นี้และนำมาแต่งนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง "ดอกฟ้าจำปาศักดิ์"

อาศัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนครจำปาศักดิ์เมื่อปีพ.ศ. ๒๓๖๒ เป็นเค้าโครง และใช้วีถีชีวิตของเจ้าหญิงพระองค์นี้ที่เป็นพระธิดาในเจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์เป็นตัวดำเนินเรื่อง

เจ้านางสุดาจันทร์ ณ จำปาศักดิ์

 ในครั้งนั้นนครนี้ยังขึ้นอยู่กับไทย เจ้าหญิงได้ไปศึกษาที่กรุงเทพ และในช่วงนั้นเกิดสงครามขึ้นมา จึงต้อง
เดินทางกลับเพราะเกรงจะมีภัย

ที่นี่คือที่ที่ท่านใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างเรียบง่าย 

(ขอบคุณภาพที่ได้มาจาก//stillness.diaryis.com)

เล่มนี้ พ.ศ. 2492

 

เล่มนี้เป็นรุ่นใหม่ ถ้าโชคดีอาจพอหาเจอในงานสัปดาห์หนังสือ

 

ระหว่างฟังคุณนิดเล่า เราเองก็ได้รับแรงบันดาลใจและอยากอ่านหนังสือเล่มนี้มาก

กลับมาเมืองไทย เข้าร้านซีเอ็ด พนักงานบอกว่าหนังสือส่งกลับสำนักพิมพ์แล้ว ถามร้านนายอินทร์  ก็ได้รับคำตอบแนวเดียวกันคือหนังสือมันเก่าแล้ว ไม่มีแล้ว

แวะร้านหนังสือเก่ามือสองที่ตลาดจตุจักร คนขายบอกหนังสือของหลวงวิจิตรวาทการหายาก  มีคนมาถามหาบ่อย

เศร้า อดอ่าน

 

....รัชชี่....

 
https://www.youtube.com/watch?v=maAT_25p3Nc

เพลง "ดวงจำปา"

แต่งโดยอุตมะ จุลมณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลาว

โอ ดวงจำปา เวลาชมดอก
คิดถึงบ้านช่อง มองเห็นหัวใจ
เฮานึกขึ้นได้ในกลิ่นเจ้าหอม

เห็นสวนดอกไม้บิดาปลูกไว้ตั้งแต่ใดมา
เวลาหงอยเหงา ยังช่วยบรรเทาให้หายโศกา

โอ ดวงจำปา คู่เคียงเฮามาแต่ยามน้อยเอย

กลิ่นเจ้าสำคัญ ติดพันหัวใจ
เป็นตาฮักใคร่ แพงไวเชยชม
ยามเหงาเฮาดม เอ๋ยจำปาหอม

เมื่อดมกลิ่นเจ้า ปานพบเพื่อนเก่าที่ได้พรากจากไป
เจ้าเป็นดอกไม้ที่งามวิไลตั้งแต่ใดมา
โอดวงจำปา มาลาขวัญฮักของเรียมนี่เอย

โอดวงจำปา บุบผาเมืองลาว
งามดังดวงดาว ชาวลาวปลื้มใจ
เมื่อตกอยู่ในแดนดินลานช้าง
 
เมื่อได้พลัดพรากอดีตพลัดจากบ้านเกิดเมืองนอน
ข้อยจะเอาเจ้าเป็นเพื่อนร่วมเหงา เท่าสิ้นชีวา
โอดวงจำปา มาลางามจริง มิ่งเมืองลาวเอย

ใช้ “ดอกจำปา” หรือดอกลั่นทม ที่ชาวลาวนิยมปลูกแต่ในอดีต เป็นสื่อบอกถึงความรักแผ่นดินถิ่นเกิดของชาวลาว  หลังจากการปฏิวัติม่วนซื่นในลาวเสร็จสิ้นลงเมื่อปี 2518 ท่านผู้นำลาวทั้งหลายก็ได้พร้อมใจกันเลือก ดวงจำปาเป็นดอกไม้ประจำชาติ








 




 

Create Date : 25 มกราคม 2557    
Last Update : 25 มกราคม 2557 20:21:56 น.
Counter : 2021 Pageviews.  

Slow life in Southern Lao : Part 2

   


น้ำตกตาดเยือง

จากที่เขียนในบล็อกที่แล้วว่าน้ำตกในลาวส่วนใหญ่จะดูได้แต่ตา เพราะอยู่ไกลจุดที่ยืน  น้ำตกตาดเยืองถือว่ามีจุดที่สามารถสัมผัสน้ำได้  ช่วงที่ยืนตรงบริเวณนั้นได้ไอละอองความเย็นจากสายน้ำ  รู้สึกสดชื่นทีเดียว

 

....อาหารการกินในลาวใต้....

ตอนที่ไปหลวงพระบางก็ไม่มีปัญหากับอาหารการกิน  แต่พอเป็นลาวใต้ชักไม่แน่ใจ เพื่อความไม่ประมาทเลยเตรียมมาม่าคัพไว้ 3 ชุดเผื่อว่าอย่างน้อยใช้วันละชุด  โชคดีที่อาหารในลาวไม่มีปัญหา  เจริญอาหารทุกมื้อ  สรุปว่ามาม่าคัพเลยต้องขนกลับบ้าน

 

ระหว่างรออาหาร  แต่ละคนก็จับภาพตะวันตกดินกันคนละมุม

การเดินทางในครั้งนี้   พบว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากการท่องเที่ยวเมื่อก่อนคือพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนจะมีมากขึ้น    โดยเฉพาะเห็นชัดเมื่อกลับถึงโรงแรม  ไม่เฉพาะกลุ่มตัวเอง  กลุ่มอื่น ๆ ก็เช่นกันคือเข้า wifi

กล้วยทอดเมืองลาว

 

มาอ่านป้ายภาษาลาวกันค่ะ  

มันก็ดูมีเสน่ห์นะคะ

 

 

    

น้องปุ้ย ไกด์ชาวลาวเล่าให้ฟังตอนนั่งรถตู้ถึงตัวอักษรภาษาลาว ฟังแล้วขำ น่ารักดี ประทับใจกับบางตัว เช่น น.นก  ห.ห่าน  ม.แมว  ฝ.ฝน 

พอเจอ ก.ไก่ ข.ไข่ ภาษาลาวเล่มนี้เลยสอยมาซะเลย

อ้อ! เกือบลืมเล่า ไปเจอวุฒิศักดิ์คลีนิกที่ปากเซด้วย   คุณนิดเล่าให้ฟังว่ามีคำโฆษณาภาษาบ้านเขา (จำไม่ได้แล้ว) สรุปแล้วว่า"ความสวยรอไม่ได้" 

….รัชชี่….  

 

 




 

Create Date : 05 มกราคม 2557    
Last Update : 5 มกราคม 2557 20:24:38 น.
Counter : 2344 Pageviews.  

Slow life in Southern Lao : Part 1

   




กลับมาเยือนลาวอีกครั้งหลังจากไปหลวงพระบาง ทางเหนือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว  หลังจากที่กลับมาคราวนั้นเพื่อนร่วมทริปบอกว่าอยากไปเที่ยวลาวใต้ต่อ    แต่ก็ยังไม่ได้ไปสักที

คราวนี้เป็นอีกทริปที่เราตัดสินใจเร็วมาก  หัวหน้าทัวร์ส่งเมลล์มาชวน น่าจะตัดสินใจภายในครึ่งวันตอบตกลงแบบงง ๆ

คือจริง ๆ แล้วถ้าถามถึงโปรแกรมทัวร์ที่เห็นก็ยังไม่โดนเท่าไหร่

มีคนบอกว่าการท่องเที่ยวแบบนี้ไม่ใช่แนวของเรานัก

แต่ว่าที่ไปน่าจะเป็นเพราะ"ตัวละคร"ที่ไปด้วยน่าสนใจ

คือมีทั้ง entertainer ประจำกลุ่มและจัดการเรื่องทุกอย่างให้หมด

ทั้งจองตัวเครื่องบิน  ติดต่อทัวร์  รวมถึงจองโรงแรมที่อุบลในคืนแรก

คือเดิมทีตามโปรแกรมทัวร์เป็น 3 วัน 2 คืน บินจากกรุงเทพไปอุบลตอนเช้า

แล้วราว 8 โมงไกด์จะมารับเราข้ามช่องเม็กเพื่อไปลาวใต้ต่อ

แต่เราขอว่าอย่าเลยมันจะเหนื่อยไปนะ เพราะเดินทางแต่เช้า ก็คือต้องตื่นแต่เช้ามาก ๆ

ดูชีวิตมันเร่งรีบเกินไป แล้ววันแรกก็จะเหนื่อย

ดังนั้นบินไปถึงอุบลในวันก่อนหน้าแล้วพักโรงแรมที่อุบลคืนหนึ่งก่อนดีกว่า

 

รถตู้มารอรับที่สนามบินและพามาส่งที่ร้านอาหารและไปส่งที่โรงแรมต่อ

นัดกันว่าเช้าถัดไปจะมารับ

คุณนิด คนขับรถตู้ประจำทริป (ซึ่งจริง ๆ เราว่าเขาเป็นไกด์ได้เลยนะ เพราะว่ารู้เรื่องราวในลาวเยอะมาก รวมถึงเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยได้สนุกเลย) 

เท่าที่ทราบถ้ากรุ๊ปทัวร์มี 4 คนขึ้นไปเราจะต้องมีไกด์ลาว 1 คนไปด้วย

และคราวนี้เราก็ได้น้อง"ปุ้ย" หรือชื่อจริงว่า "คำวิไล"

ซึ่งเป็นการทำงานในฐานะไกด์ครั้งแรกของเธอ

น้องปุ้ยจบการท่องเที่ยว จากมหาวิทยาลัยจำปาศักดิ์ 

เธอบอกว่าอ่านหนังสือไทยได้  เพราะรายการทีวีในลาวก็มีรายการของไทยก็เยอะ

แต่ถ้าเขียนหนังสือไทยนี่เขียนไม่ได้   

ทำเอาเรารู้สึกว่าที่ว่าคนไทยเรียนภาษาอังกฤษมา 20 ปีแต่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้สักที  บางทีถ้ามีทีวีช่องภาษาอังกฤษ แล้วเปิดฟัง ๆ บ่อย ๆ จนเป็นความเคยชิน หลักการนี้ก็น่าจะทำให้คนไทยเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมาได้บ้างนะ

 จากอุบลไปช่องเม็กประมาณ 80 กม.  และใช้เวลาอีกไม่นานมากกว่าจะไปถึงเมืองปากเซ

ขอบคุณภาพแผนที่จากอินเตอร์เน็ต 

เห็นแผนที่ทำให้เห็นภาพชัดว่าสถานที่บางจุดในแผนที่ที่เราไปเที่ยว

มันไม่ไกลมากเลย

ปราสาทวัดภู น้ำตกตาดฟาน น้ำตกหลี่ผี น้ำตกคอนพะเพ็ง

 

ไกด์เล่าว่าที่มาของชื่อ"ปากเซ" หมายถึงเมืองนี้อยู่ตรงปากแม่น้ำเซพอดี

อ๋อ! เข้าใจละ  เวลาที่ได้รู้ว่าชื่อแต่ละชื่อมีความเป็นมาอย่างไรแล้วรู้สึกดี

เมื่อใกล้ถึงตัวเมือง รถพาข้ามสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ระยะทาง 1,380 เมตร

สถานที่ท่องเที่ยวหลักในลาวใต้น่าจะเป็นน้ำตกนี่แหละ

เพราะทรัพยากรในลาวยังมีอยู่มาก  ตอนแรกก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับการมาน้ำตก

แต่พอเห็นน้ำตกของเขาจริง ๆ แล้วก็พบว่าสวยจริง

แต่จุดที่แตกต่างจากน้ำตกบ้านเราคือ ปกติเวลาไปเที่ยวน้ำตกไหน ๆ มักจะต้องเดินเยอะหน่อย  ขึ้นไปหลาย ๆ ชั้น เมื่อถึงที่แล้วก็สามารถเล่นน้ำได้ หรือไม่ก็ล้างหน้าล้างตาให้ชื่นใจกับความเย็นของน้ำ

แต่น้ำตกที่นี่ (ได้ไปเที่ยวน้ำตก 5 แห่ง) ส่วนใหญ่จะเดินไม่ไกลมาก

จากจุดจอดรถ 

และมักจะ

"ดูได้แต่ตา"

คือว่าจะอยู่ไกลจากจุดที่ยืน เล่นน้ำไม่ได้ เพราะอันตราย

อาจจะเป็นด้วยธรรมชาติแบบนี้มั้ง  สถานที่ท่องเที่ยวของเขาจึงยังดีอยู่

ไกด์เล่าว่าส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวจะให้สัมปทานผู้ที่เข้ามาทำ  ให้มีสถานที่สะดวก มีน้ำไฟเข้าถึง ทำถนนทางเข้า บางทีก็ให้สัมปทานกับคนต่างชาติก็มี เช่น คนไทย  คนเวียดนาม

จริง ๆ แล้วลาวใต้ยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกเยอะ แต่ว่ายังไม่สะดวกที่จะเข้าไป และยิ่งถ้าไม่มีสาธารณูปโภคพร้อม  คนก็เลยยังไม่ค่อยอยากไป ต้องรอคนบุกเบิกเข้าไปทำสัมปทานก่อน

...........................

"น้ำตกผาส้วม"

สารภาพว่าตอนที่ได้ยินชื่อน้ำตกนี้ฟังแล้วรู้สึกว่าชื่อแปลก ๆ  คือ

มันนึกถึงห้องส้วมน่ะ

แต่พอมาฟังไกด์เล่า "ส้วม"ในภาษาลาวแปลว่า "ห้องหอ"

เดินข้ามสะพานตรงนี้ไป 

 

 


 

ป้ายที่พบเจอ

น้ำตกผาส้วมได้รับการพัฒนาโดยคุณวิมล บำรุงกิจ คนไทยที่ได้รับสัมปทานในการเข้าไปพัฒนา (อย่างที่กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่าสถานที่ท่องเที่ยวปัจจุบันของลาวมักเกิดจากการให้สัมปทาน)

เขาเร่ิ่มต้นสำรวจพื้นที่โดยมีอุปกรณ์ เข็มทิศ สมุดบันทึก ขวาน

ได้รับสัมปทานจากลาว 15 ปี

เขาใช้เวลาสำรวจพื้นที่นี้ 2 ปีโดยใช้เครื่องทุ่นแรงเท่าที่หาได้ เช่น ช้าง แรงงานคนท้องถิ่น

น่าเสียดายที่เมื่อโครงการเรียบร้อย  เขาไม่สามารถมองเห็นโครงการที่สร้างมากับมือได้เพราะก่อนหน้านั้นเขาเป็นไข้มาเลเรีย หมดสติโคม่าไปหลายวัน และส่งผลให้ตามองไม่เห็น

 

"น้ำตกตาดฟาน"

คุณนิดเล่าว่า "ตาด" แปลว่า "น้ำตก"

"ฟาน" แปลว่า "เก้ง"

คงจะเป็นน้ำตกที่มีเก้งเยอะ

 

 

มาเล่าเรื่องปั๊มน้ำมันในลาวกันสักหน่อย

ก็เห็นอยู่ไม่กี่แบรนด์ แต่ที่เห็นบ่อยที่สุดน่าจะเป็น PV Oil หรือ PetroVietnam

คุณนิดบอกว่าเป็นปั๊มของเวียดนาม

ที่ถ่ายรูปมาถือว่าเป็นปั๊มใหญ่ทีเดียว (ปกติที่เห็นทั่วไปจะขนาดเล็กกว่านี้)

พอดีคุณนิดแวะเติมน้ำมันที่นี่ 

ราคาน้ำมันช่วงนี้อยู่ที่ระหว่าง 9,100 - 9,800 กีบ

คิดเป็นเงินไทยราว 36-39 บาท

ด้านหลังปั๊มจะมี Mart รวมถึงร้านขายสินค้าของที่ระลึก เช่น เครื่องเงิน ผ้า

ส่วนอาคารใหญ่ด้านข้าง  เป็นมุมขายสินค้าแบรนด์เนมแบบ Copy

พนักงานขายบอกว่าเปิดมาราว 1 ปีแล้ว

แอบเดิน ๆ ดูราคาเล่น ๆ เช่น

กระเป๋า Louis Vitton รุ่น Neverfull ขนาด MM ราคาประมาณ 3,500 บาท

นาฬิกา Rolex น่าจะราว 4-6,000 บาท

 

 

Mart และที่ขายของที่ระลึก

อาคารนี้ขายของแบรนด์เนม Copy

ความคาดหวังต่อทริปนี้ก่อนไป : 7/10

ความพึงพอใจต่อทริปนี้เมื่อไปแล้ว : 10/10

Factor : เพื่อนร่วมทริป . การเดินทางแบบ slow life . จำนวนสถานที่แต่ละวันไม่ต้องมากแต่ดื่มด่ำจริง ๆ กับแต่ละที่ . อากาศกำลังสบาย

 

....รัชชี่....



ความรู้สึกก่อนไป : เนื่องด้วยช่วงหลังรู้สึกตัวว่าร่างกายไม่ค่อยเฟิร์ม ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย  อ่านโปรแกรมทัวร์ผ่าน ๆ ว่าส่วนใหญ่ไปน้ำตก นึกถึงน้ำตกบ้านเราที่มักเดินเยอะกว่าจะถึง  ทำเอาไม่ค่อยมั่นใจว่าเราจะไปทำความลำบากหรือล่าช้าให้คนอื่นหรือเปล่า   เรื่องอากาศ เป็นเดือนธันวาคม หน้าหนาวแล้ว คิดว่าลาวซึ่งน่าจะเป็นประเทศสดกว่าบ้านเรา อากาศอาจจะหนาวกว่าบ้านเรา กลัวไม่ไหวอีกเพราะเป็นคนขี้หนาว 

ความรู้สึกขณะอยู่ที่นั่น : fresh ทุกวัน นอนราว 4 ทุ่มกว่า  รู้สึกตัวก่อนนาฬิกาปลุก ตื่นก่อนตีห้าครึ่งทุกวัน   ทัวร์ไม่เร่งรีบ  ใช้สายตาในการมองและซึมซับกับบรรยากาศ  โชคดีที่เจออากาศกำลังดี เย็นสบาย  (อาจจะเริ่มร้อนในช่วงบ่าย) เป็นการเดินทางที่ชาร์จแบตในตัวได้ดีทีเดียว


 




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2556    
Last Update : 15 ธันวาคม 2556 22:58:16 น.
Counter : 1892 Pageviews.  

เยือนปักกิ่งช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ตอน 4




พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน อุทยานที่ใหญ่ที่สุดของจีน สร้างขึ้นราว 800 ปีก่อน
มีทะเลสาบคุนหมิงที่ขุดขึ้นด้วยแรงงานคนล้วน

ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 22 เมื่อปี พ.ศ. 2541


ระหว่างทางเข้า เห็นร้านขายของที่ระลึกสวยดีเหมือนกัน แต่ไม่ได้เดินเข้าไปดู





ที่ประทับของพระนางซูสีไทเฮา






ความร่มรื่นภายใน









แอบถ่ายชาวจีน




ไกด์บอกว่าเป็นระเบียงที่ยาวที่สุด เดินไปจินตนาการไปถึงเหล่านางใน พระสนม เดินชมนกชมไม้ในสมัยโบราณ







เรือหินอ่อน เคยได้รับโปสการ์ดรูปเรือหินอ่อนเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นเข้าใจว่าเรือหินอ่อน สามารถล่องเรือไปไกลได้

เรือหินอ่อนกลายเป็นสัญลักษณ์ของพระราชวังฤดร้อน เอาเป็นว่าใครมาถึงแล้วไม่เห็น เหมือนยังมาไม่ถึง

เรือนี้เคยถูกทำลายไปในช่วงสงครามฝิ่นด้วย พระนางซูสีไทเฮาสั่งให้สร้าง
ขี้นมาใหม่

ไม่แน่ใจว่าฟังจากไกด์หรืออ่านจากที่ไหนว่าพระนางซูสีไทเฮาเมาเรือ เลยให้สร้าง
เรือหินอ่อนเพื่อที่เวลาต้องการชมวิว ก็ออกมานั่งเรือเล่น (จริงเท็จประการใดไม่ทราบ)







ชอบลวดลายที่พื้น





....รัชชี่....






 

Create Date : 15 มกราคม 2555    
Last Update : 15 มกราคม 2555 12:02:16 น.
Counter : 2092 Pageviews.  

เยือนปักกิ่งช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ตอน 3



สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ได้เห็นผ่านตาแล้วคือปิรามิดที่อิียิปต์
โคลอสเซี่ยม และหอเอนเมืองปิซ่าที่อิตาลี


ครั้งนี้ก็จะเป็นอีกครั้งที่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง

กำแพงเมืองจีน สิ่งมหัศจรรย์หนึ่งในเจ็ดของโลก มีความยาวถึง 6,000 กม. สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัย 2,000 ปีก่อนโดยจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้


ไกด์เล่าว่าทางขึ้นกำแพงมี 3 ด้าน มีประโยคในอดีตว่า
“ไปปักกิ่งแล้ว ไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ไม่ใช่คนกล้า”
สมัยก่อนคงไปลำบาก

ช่วงทางขึ้นมีของที่ระลึกเป็นเสมือน Certificate ว่ามาถึงแล้ว ราคาก็แปรตามขนาดของ จะสลักชื่อเราไว้ ก็ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว สั่งกับเขาเสียหน่อย

ที่คนมุงเยอะ ๆ นั่นแหละค่ะ กำลังสั่งจองของอยู่
เราจะกลับมารับของตอนขาลงมา



ช่วงเริ่มต้นของทางขึ้นนึกว่ามาเที่ยวเกาหลีอยู่ (ยังไม่เคยไปหรอกนะ) เพราะมีการคล้องกุญแจสายยูเป็นทางยาว









ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่เสมอ




เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก



สภาพของกำแพงเมืองจีนในขณะนี้ รายงานผลการสำรวจของนักอนุรักษ์เมื่อปี 2004 กล่าวว่า ขณะนี้ กำแพงเมืองจีนที่ยาว 6,350 กิโลเมตร เหลือให้เห็นเพียง 1/3 เท่านั้น และกำลังสั้นลงเรื่อยๆ ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากการขาดการดูแลและอนุรักษ์



เป็นที่รวบรวมหลายชนชาติมาสัมผัสกำแพงเมืองจีน



กำแพงเมืองจีนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2530



พบระหว่างทาง มาปักกิ่งงวดนี้เขาสะอาดพอตัวทีเดียว



เดินเหนื่อย ๆ เสร็จแล้วก็ไปชิมสุกี้มองโกลกัน สังเกตดูส่วนใหญ่เนื้อสัตว์ที่เขาให้มาจะเป็นเนื้อสัตว์ติดมัน ซึ่งปกติแบบนี้ไม่ค่อยทานแบบนี้ เลยทำให้ส่วนใหญ่จะทานผักมากกว่า

ไกด์จัดเตรียมน้ำจิ้มสุกี้ "พันท้ายนรสิงห์" ไปด้วย ช่วยทำให้สุกี้มื้อนี้อร่อยขึ้น เพราะไม่ค่อยชอบน้ำจิ้มต้นฉบับที่เขาให้





....รัชชี่.....











 

Create Date : 17 ธันวาคม 2554    
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 20:49:12 น.
Counter : 1396 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

รัชชี่
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




พี่มานิต ประภาษานนท์ เป็นผู้ชักชวนเข้าสู่วงการการเขียนบล็อก ด้วยประโยคว่า
“จ๊ะเขียนบล็อกซี"

เริ่มเขียนบล็อก : 24 ก.ย. 51




สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก






Setting program for counting visitors since 7 Nov. 2009
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add รัชชี่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.