Group Blog
 
All blogs
 

น้ำพริกกะปิ ปลาย่าง ไข่เจียวชะอมปลอม

เมื่อคืนอยากกินของแซ่บๆ(อยากกินตลอดเวลาแหละ)
ก็เลยทำกับข้าวดีกว่า
ในตู้เย็นมีปลาอยู่สี่ตัว ก็เลยเอามาย่างใส่เตาอบ
ไฟ 550 องศา ปอกกระเทียม หอมแดง
เอาไปคั่วในกะทะ
กะปิสองช้อนโต๊ะพูนๆ คั่วในกะทะเช่นกัน
แล้วใช้แรงงานคนที่บ้านช่วยตำให้
เพราะเราตำเองไม่ได้ มันกระเทือนคอและหลัง เดี๋ยวจะเจ็บ

แล้วก็บีบมะนาว ใส่น้ำตาลปีบ แต่ไม่มีกุ้งแห้งเลยไม่ได้ใส่
ไม่มีมะเขือพวงของโปรด ก็ไม่ได้ใส่เหมือนกัน
ออกมาที่ข้นๆ เพราะว่าใส่หอมแดงกับกระเทียมเยอะมาก

ที่บ้านไม่มีชะอม จริงๆตามร้านเวียดนามจะมีชะอมแช่แข็ง
แต่ว่าราคาแพง เคยซื้อมาหลายเหรียญเลยห่อนึง กินได้ทีสองที(ทอดไข่ได้แค่ไม่กี่ฟอง)ก็หมดแล้ว
เลยใช้ผักที่มีอยู่ พอดีมีผักกาดหอมเหลือ ก็เลยเอามาซอยๆ
แปลงร่างเป็นชะอมปลอม เวลากินก็ได้textureของผักบ้าง
แต่ไม่มีกลิ่นกับรสชาติที่เหมือนชะอมเลยค่ะ

ออกมาได้ดังนี้ รอดตายไปอีกหนึ่งมื้อ



น่ากินบ่?




กะปิใช้แค่สองช้อนโต๊ะเอง แต่ว่าได้น้ำพริกมาเยอะเลย กินได้หลายมื้อ ดีใจไม่ต้องทำบ่อยๆ อิอิ




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2550 1:55:31 น.
Counter : 613 Pageviews.  

แกงไก่นายห้าง

ไม่ใช่ลูกชิ้นนายฮั่ง
แต่เป็นแกงไก่นายห้าง



เมนูนี้ คิดว่ามีกินได้เฉพาะบ้านเราและบ้านป้า(คนที่สาม)เท่านั้นเอง
และมีคนชอบกินอยู่ไม่กี่คน
ฉะนั้น หากจะลองทำ ก็ต้องปรับรสชาติกันเอาเองน้า อิอิ
สไตล์อาหารทางบ้านนี้ก็จะต่างจากทางบ้านย่าที่เป็นคนไทย

ที่มา
เรามีคุณตาบุญธรรมเป็นคนอินเดียที่ทำธุรกิจในไทย

ตาก็จะชอบกินอาหารกินอะไรเหมือนคนฝรั่ง
(คงเพราะอินเดียโดนอังกฤษครอบงำมาก่อน)
เช่นตอนเช้า ก็กินคูสคูสผัดกระเทียมและหอมแดง หรือข้าวพองๆแป้งๆอะไรส้กอย่างคั่วๆในกะทะ
เวลาตอนบ่ายตาไปตีกบกลับมาก็จะมีหนมปังเนย มาฝากและกินกับชาใส่นมเป็นกิจวัตรเลย
เราก็ไม่รู้ คิดว่าคนแก่ต้องกินชาใส่นมทุกวัน แต่พอโตมาเลยพอเกทว่าคงเป็นวัฒนธรรมที่ติดมา
อาหารเย็นที่บ้านทำก็จะต้องมีจานของตาที่ทำเพิ่มมา
เช่น ถั่วอบ ผักคลุกเกลือ มะระขี้นกผัดกับหอมแดง
(ฟังดูไม่น่าอร่อยนะ แต่จานหลังนี่อร่อยมาก)

และก็มีเจ้าแกงไก่นี้ ที่ทำบ่อยๆ กินได้ทุกคน เราก็ชอบมาก
แม่บอกว่าเป็นแกงไก่อินเดียที่ตาบอกให้ทำแบบนี้ๆ
แต่ปกติที่กินที่บ้านจะให้พี่เลี้ยงทำ
พูดแล้วก็คิดถึงตา

ช่วงหนึ่งอาทิตย์หลังแต่งลูกเขยเข้าบ้าน พ่อเราก็บอกว่า ให้เราหัดทำกับข้าวให้สามีกินบ้าง เราก็คิดว่าจะทำอะไรดี
ก็ทำ แกงไก่สุตรตา
ปรากฏว่า แหลกไม่ล่ายย ลูกเขยพ่อไม่ชอบฮ่ะ -_-''

สมัยอยู่ทางมิดเวสท์ แม่ก็มาเยี่ยมและก็ทำแกงไก่นี้ให้กิน ปรากฏว่าสามีก้เริ่มจะชอบ (สงสัยเพราะแม่ยายเป็นคนทำ) น้องที่เป็นลูกของป้าสามก็บอกว่า ที่บ้านป้าสาม
ก็ไม่มีใครกินแกงนี้เลย(พวกพี่ชายทั้งหมด) มีแต่น้องและป้าคนที่สามเท่านั้นที่กิน

มาคราวนี้เราก็ทำกินอีกเพราะว่าบังเอิญมีน่องไก่ จริงๆชอบกินแต่ไม่ค่อยจะอยากทำเพราะเครื่องมันต้องเตรียมเยอะง่ะ เหนื่อย


วิธีทำ
กระเทียมสับ เยอะมากๆๆๆๆๆๆ
หอมแดงซอย เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พริกแห้งแช่น้ำ และนำมาฉีกๆๆๆๆๆๆ
มะเขือเทศหั่นๆ
น่องไก่ หรือไก่ส่วนต่างๆ
หัวหอมหั่นเป็นแว่นๆ
มันฝรั่ง(ถ้ามีก็ใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ ใส่แล้วน้ำข้นขึ้น)

ผัดกระเทียมกับหัวหอมในน้ำมัน และพริกแห้งที่ฉีก พอมีกลิ่นและพอให้ฉุนๆจามๆ
ผัดหัวหอมแดง
เอาน่องไก่ลงไปผัดให้ตึงๆ คล้ายๆทำสตูว์
พอน่องไก่ตึงบ้างก็ใส่น้ำต้มๆ ใส่มันฝร่ัง
และก้เคี่ยวไปเรื่อยๆๆ ใส่มะเขือเทศ
ปรุงรสด้วยเกลือ
ถ้าเผ็ดไม่พอก็ใส่พริกเพิ่ม
จะดีถ้ามีน้ำสต๊อคไก่ หรือใส่คนอร์ก็ได้ถ้าอยากได้รสเค็มๆหน่อย
แต่ว่าเคี่ยวไปเรื่อยๆ หรือกินวันรุ่งขึ้นก็จะเข้าเนื้อและอร่อยกว่าค่ะ

หลังจากแต่งงานมาสี่ปี คนที่บ้านชอบเมนูนี้แล้วล่ะ
นับว่ามีพัฒนาการด้านรสนิยมทางอาหารให้เข้ากับเราได้ดีมาก
อิอิ




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 15 กรกฎาคม 2550 11:52:21 น.
Counter : 377 Pageviews.  

(กุ้ง)แช่...แต่เช้า ตามคำเรียกร้อง

โพสท์ตามคำเรียกร้องของบีท

ใครที่หนิดๆหรือคุยกับเราหรืออ่านบล็อคเราบ่อยๆ
(ทั้งที่ multiply, wordpress) ก็คงจะรู้ดี

ว่าเราชอบ กุ้งแช่น้ำปลา มากกกกกกแค่ไหน

สืบเนื่องมาจากว่า ในวัยเด็ก พ่อแม่ก็จะไม่ให้กินของเผ็ด ของดิบ
อะไรที่โดนห้ามไม่ให้กิน พอโตแล้วก็ปีกกล้าขาแข็งมากินใหญ่เลย อาจเพราะเราไม่ได้กินกุ้งแช่น้ำปลาตอนเด็ก
จึงเป็นความฝังใจในวัยเยาว์ เราก็หมายมั่นปั้นมือว่า
โตมาต้องกินให้ได้

กุ้งแช่น้ำปลาที่เห็นหรือได้กินตามร้าน เราก็ไม่รู้ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร...
คือเราก็มาได้กินเอาตอนโตแล้ว ก็เห็นมันทำเป็นประเพณีกุ้งแช่น้ำปลา เหมือนกันทุกสถาน

นั่นคือจะกินแนมกับมะระที่ฝานเป็นวงๆและสะระแหน่(บางที่ก็ไม่มี) มีพริกขี้หนูกระเทียมสับน้ำมะนาวคล้ายกับปลานึ่งมะนาว กุ้งก็จะแช่น้ำปลา(หรือเขาอาจผสมน้ำตาล น้ำอื่นๆลงไปก็สุดแล้วแต่)

แต่กุ้งแช่น้ำปลาที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆเวลาพ่อทำ จะไม่เหมือนกับกุ้งแช่น้ำปลาที่ได้มากินตอนโตแล้วตามที่ต่างๆเลย กินตามร้านเราจะยังรู้สึกถึงความคาวของกุ้ง และเราก็คิดว่านั่นไม่ใช่กุ้งแช่น้ำปลาเลย มันคือกุ้งดิบราดน้ำจิ้มซีฟู้ดมากกว่า

เราคิดว่าถ้ากุ้งแช่น้ำปลา ก็ต้องแช่หรือหมักมาในน้ำปลา
หรือน้ำปรุงรสจริงๆ ถึงจะได้เข้าเนื้อและมีรสที่กลมกล่อมมากกว่า แต่ก็เป็นได้ว่าที่ร้านอาจจะขี้เกียจน่ะนะ หรือไม่คนส่วนมากก็ชอบกินรสชาติแบบนี้ แต่บ้านเราก็รสนิยมประหลาดเองก็ได้
ที่บ้านเราจะทำกินเวลามีเพื่อนๆพ่อมาที่บ้าน หรือมีจัดงานก็จะต้องมีเจ้ากุ้งแช่น้ำปลาทุกที สงสัยผู้ใหญ่จะชอบนะ เรารู้สึกว่าถ้าเป็นกุ้งตัวเล็กบาง จะกินอร่อยกว่ากุ้งตัวใหญ่เนื้อหนาบึ้กๆนะ

วิธีการของพ่อก็คือจะผสมน้ำปลากับน้ำมันหอย สัดส่วนพอๆกัน (กะเอาจากความเหนียวที่ได้ของตัวน้ำราด) และก็ราดกุ้ง ส่วนกุ้งนี้หลังจากทำความสะอาดแล้วก็จัดเรียงและแช่ในตู้เย็นไว้สักพักพอให้เย็นๆ แล้วค่อยเอาออกมาราดน้ำ พอราดกุ้งแล้วแช่ตู้เย็นต่ออีกสักพัก
(ตรงนี้อย่าแช่นานเพราะอาจเค็มไป)

ส่วนมาก บ้านเราเวลาจะทำอาหารที่เผ็ดๆเปรี้ยวๆแซ่บๆเช่นพวกต้มข่าไก่ ต้มยำ จะทำน้ำแยกต่างหาก ไม่ปรุงในหม้อไปเลย กริยานี้เคยได้ยินป้าศรีเรียกครั้งแรกว่า “ยำ”
(เขาคงเรียกกันมานานแล้ว แต่ว่าไม่ค่อยได้ยิน)

อย่างต้มข่าไก่ ก็ต้มข่ากับกะทิและเครื่องอื่นๆในหม้อไปจนสุก แต่พวกน้ำปลา มะนาว พริกขี้หนู จะมาแบ่งไว้่ต่างหาก ไม่ผสมน้ำยำไว้ก่อนด้วยซ้ำ เมื่อจะกินก็ค่อยปรุง ยำเป็นชามๆ เป็นมื้อๆไป ที่บ้านถ้าวันไหนพ่อทำกับข้าวและทำพวกต้มยำทำแกง
ก็จะทำแบบนี้ เพราะติดมาจากที่บ้านย่านั่นเอง เราก็เลยติดวิธีนี้มาด้วยเหมือนกัน
ซึ่งเราคิดว่าเป็นวิธีที่ดีและเราก็ชอบนะ ดูพิถีพิถันเอาใจใส่ในรสชาติดี


ดังนั้น การทำกุ้งแช่น้ำปลาของบ้านเรา ก็จะ “ยำ” ต่างหากเหมือนกัน



สำหรับเครื่องเคียงก็มี

- กระเทียม จะสับหรือไม่สับก็ได้ จริงๆถ้าเป็นกระเทียมไทยกลีบเล็กๆก็ไม่ต้องสับ แต่กระเทียมที่นี่กลีบเท่านิ้วโป้งเท้าได้ เลยต้องสับอะนะ

-สะระแหน่

-พริกขี้หนู เช่นกัน พริกขี้หนูที่เมืองไทยก็เล็กๆ อยู่แล้วไม่ต้องหั่น ส่วนที่นี่ก็ถ้าอยากหั่นก็หั่นเพื่อความงาม แต่เราก็หมับไปเลยเข้าปาก เพราะว่ามันไม่เผ็ดเท่าที่เมืองไทย เราก็ไม่หั่น แต่ถ้าใจไม่กล้าพอก็หั่นเล็กๆก็ได้เหมือนกัน

-มะนาวหั่นเป็นซีกๆเล็กๆ

วิธีกิน

ตักกุ้งมาใส่จาน บีบน้ำมะนาวใส่กุ้งตัวนั้นเล็กน้อย วางกระเทียม พริกขี้หนู ใบสะระแหน่ แล้วเข้าปาก เคี้ยวให้ละเอียด กลืน อาจกินกับข้าวก็ได้ ฮ่าาา อร่อยยยย


option

อาจบีบมะนาวลงไปในกุ้งจานรวมเลยก็ได้ ถ้าขี้เกียจ(บางทีเราก็ขี้เกียจบีบทีละคำๆนะ) แต่ว่าถ้าจะบีบมะนาวลงไปในจานรวม ต้องเฉพาะเวลาเสริฟวางบนโต๊ะแล้วนะ อย่าใส่รวมไปกับตอนน้ำราด มันจะเซ็ง



อันนี้ เป็นรูปกุ้งตอนราดน้ำหมักแล้ว แต่ยังไม่ได้คลุกเคล้า
สังเกตว่าน้ำจิ้มจะมีความข้น เนื่องมาจากน้ำมันหอยที่ใส่นั่นเอง



พร้อมหม่ำ เครื่องเคียงสมุนไพรมีเพียบ เพิ่มลดได้ตามความชอบ customized เอาเองนะคะ




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 4 กรกฎาคม 2550 11:51:30 น.
Counter : 447 Pageviews.  

หนึ่ง นึง นึง นึ้ง ปลา

ตอนเช้าวันนี้ไปหาหมอมา ด้วยความดีใจที่หมอให้ทำกายภาพต่ออีกรวมเป็นหกอาทิตย์
ก็เลยไปซื้อของมาทำกับข้าวและนอนกลางวัน
(อารมณ์ดีใจต้องฉลอง)

ตื่นมาก็ทำกุ้งแช่น้ำปลาไปตอนเย็น แต่ว่าต้องทำของไม่ดิบอีกอย่าง
เพราะเดี๋ยวที่บ้านจะไม่มีไรหม่ำ
ได้ซื้อปลาค็อดมาด้วย ก็เลยเอามาอบในเตากับซีอิ์วขาวนิดหน่อย
ใช้ไฟ 450 องศา
แล้วก็ทำยำต่างหากด้วยเครื่องที่เหลือจากทำกุ้งแช่น้ำปลา
เพราะเราไม่ค่อยชอบนึ่งพวกกระเทียมน้ำมะนาวและพริกขี้หนู รู้สึกมันแฉะๆ
ยกเว้นถ้าเป็นปลานึ่งขิงอบขิงก็ว่าไปอย่างนะ
แต่ถ้ามีคนอื่นทำให้กิน เราก็กินหมด อิอิ










 

Create Date : 29 มิถุนายน 2550    
Last Update : 29 มิถุนายน 2550 11:55:26 น.
Counter : 237 Pageviews.  

เปิดห้องครัว ด้วย..กุ้งกระเบื้อง

ได้สูตรมาจากบล็อคของพี่กัซซี่
กุ้งกระเบื้องก็เป็นอาหารจานโปรด

ที่ไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้นะ

แต่ก็ต้องเตรียมการซักนิด
จุดที่ยุ่งยากสำหรับเรา คือการปั่นมันหมู
เพราะเครื่องปั่นที่บ้านโลวเทคมากๆ

เราใช้วิธีทอดแบบใช้น้ำมันเยอะปานกลาง
ไม่ได้ใช้ขนาดท่วมท้นเหมือนเวลาทำ deep fry
เลยทอดทีละด้านค่ะ
แต่ก็ออกมาอร่อย บางกรอบ และตัวไส้ก็เด้งดึ๋งพอสู้ฟันใช้ได้
เยๆ

เวลาเสิรฟก็ไม่ได้หั่นให้เป็นสามเหลี่ยมค่ะ เราใช้แป้งทั้งแผ่นและพับครึ่งไปเลย
ก็เลยใหญ่เต็มจาน (รู้สึกคล้ายๆขนมเบื้องญวน)

น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยก็พลาดลืมซื้อ ก็เลยเอามายองเนสญี่ปุ่น(คิวพี) มาจิ้มแทน ทำให้รสชาติคล้ายๆกับ กุ้งทอดครีมสลัด เวลาไปกินติ่มซำนะคะ เลยถึงบางอ้อว่า สงสัยตัวไส้จะใช้วิธีคล้ายกัน โดยเฉพาะกลิ่นน้ำมันงาทำให้ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนกันเลย
ไว้เผื่อลองทำแบบกุ้งทอดครีมสลัดดูบ้าง









ลองทำกันได้นะคะ ดูวิธีจากบล็อคพี่กัซซี่ค่ะ





 

Create Date : 26 มิถุนายน 2550    
Last Update : 26 มิถุนายน 2550 1:57:09 น.
Counter : 404 Pageviews.  

1  2  

Superfunkycalifragisexy
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Although I am an architect by trainning, I consider myself as a designer focusing on educational aspects and had joined many organizations and programmes.

My interests in education has been supported by my family. I hope to use my design ability to enhance the learning experience of people especially children.


Friends' blogs
[Add Superfunkycalifragisexy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.