|
ซังกะบ๊วยจริงๆ / เ ชิ ญ ด่ า สุรยุทธ์
คนไทยขอโทษแอ้ด"รบกวนเวลานอนยาวๆ" ถ้าย้อนเวลาได้ไม่อยากให้เป็นนายกฯ คนไทยขอโทษแอ้ด"รบกวนเวลานอนยาวๆ" ถ้าย้อนเวลาได้ ไ ม่ อ ย า ก ใ ห้ เ ป็ น น า ย ก ฯ
กรุงเทพฯ - คนไทยทั่วประเทศรู้สึกผิด อยากปูผ้ากราบขอโทษ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่รบกวนเวลานอน-เวลาพักผ่อนที่เสียเวลางีบไปตั้ง 17 เดือน ชี้ถ้าย้อนอดีตได้คงไม่ให้ท่านมาเป็นนายกฯ วัยอย่างท่านสมควรต้องพักผ่อน หลังจากที่ท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ ผู้นำรัฐบาลขิงแก่แช่ฟรีซ กล่าวอำลาเหล่าข้าราชการก่อนจะพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้ฝากฝังให้สานต่อเรื่องการทำงาน ถักทอนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลขิงแก่ได้วางรากฐานเอาไว้ พร้อมกล่าวคำขอบคุณข้าราชการทุกคนที่ช่วยกันตั้งหน้าตั้งจาทำงานอย่างขยันอดทนในช่วงที่บ้านเมืองวิกฤตตลอดเวลาปีกว่าๆ ที่ผ่านมา พากันเสียสละทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ แม้จะอยู่ในสภาวะที่กดดันแต่ก็ไม่ย่อท้อ จนจัดให้มีการเลือกตั้งและเปลี่ยนผ่านให้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ กลับมาเหมือนเดิม เมื่อกล่าวอำลาและกล่าวขอคุณเหล่าข้าราชการน้อยใหญ่เสร็จสรรพ ผู้สื่อข่าวก็ได้มะรุมมะตุ้มเบียดเสียดกันสัมภาษณ์ พร้อมยิงคำถามจ่อในระยะเผาขน ผู้สื่อข่าว : ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ช่วงไหนหนักใจที่สุด และช่วงไหนมีความสุขที่สุด พล.อ.สุรยุทธ์ : ช่วงเวลาที่หนักใจที่สุดก็คือ ช่วงที่ต้องมารับผิดชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องออกชี้แจงพบปะกับผู้นำต่างชาติ ต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในชาติ อีกทั้งเรื่องปัญหาปากท้อง ความมั่นคงของชาติ ปัญหาของพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนที่ใต้ และอีกจิปาถะปมปัญหา ยาวเป็นหางว่าว โอ๊ยเยอะมาก "แต่สำหรับช่วงที่มีความสุขก็คือ ช่วงที่ได้พักผ่อนยาวๆ มีหมอนสักใบ เสื่อสักผืนได้เหยียดกายนอนราบคลายเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ยิ่งได้รับลมห่มฟ้า ตากอากาศที่เย็นชุ่มฉ่ำแถวเขายายเที่ยงละก็ นั่นแหละพ่อยอดขมองอิ่มเอ๋ย คือสุขสุดยอด ขออนุญาตถอนหายใจสัก 3 ครั้ง...ซี้ด...โอว แต่หากย้อนเวลากลับได้ ผมจะไม่ขอเป็นนายกฯ เพราะต้องมีเรื่องรับผิดชอบมากมาย แหม! ตอนแรกนึกว่าเหมือนเล่นขายของ คิดว่าใส่สูตรผูกไทให้สัมภาษณ์นักข่าวช่องนั้นช่องนี้ให้ดูดีแต่นั้นก็พอ แต่แม่เจ้าโว้ยมันไม่ง่ายเหมือนที่คิด ตั้งแต่มาเป็นนายกฯหัวใจสูบฉีดไม่เป็นจังหวะ รักษาเขายายเที่ยงไว้ได้ก็เป็นบุญโขแล้ว แหม! เกือบเสียเขายายเที่ยงไปแล้วมั้ยล่ะ" ท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ ตาวาวป้าด ถอนหายใจเสียงดังเฮือก พลันให้สัมภาษณ์จบยังไม่ทันได้ข้ามคืน เหล่าคนไทยทั่วประเทศต่างคลานต้วมเตี้ยมออกมาขอโทษขออภัย ต่างรู้สึกผิดที่ให้ท่าน พล.อ.สุรยุทธ์มาเป็นนายกฯ มาเป็นหัวหอกในการแก้วิกฤตของประเทศชาติ เห็นเป็นชายชาติทหารหวังว่าจะใช้ความกล้าหาญมาทำสิ่งที่ผิดให้มันถูกต้อง เพื่อสร้างมาตรฐานให้แก่อนุชนรุ่นหลัง นำคนผิดที่โกงชาติกินเมืองมาดำเนินคดี แต่กลับใส่เกียร์ว่าง หรือก็ใส่เกียร์ถอยหลัง จนประเทศชาติแทบจะถอยหลังลงคลอง อำนาจเก่ากลับคืนมาเหมือนเดิม โดยที่ไม่ได้ให้ความรู้ ข่าวสารที่ถูกต้องกับประชาชนได้ทั่วถึง ประเทศชาติสูญเสียโอกาสไปปีกว่าๆ นโยบายหวยบนดินจะกลับฟื้นคืนชีพ โครงการโคล้านตัวก็กลับมา โครงการสนตะพายชาวบ้านหมู่บ้านละล้าน นโยบายประชานิยมจะกลับมาเฟื่องฟูเช่นเดิม เหล่าคนไทยต่างพากันยกนิ้วประนมมือ ปลายนิ้วจดหน้าผากกราบขอโทษว่า"พวกเรารู้สึกผิดมาก หากแม้นย้อนเวลากลับได้คงไม่ให้ท่านมาเป็นนายกฯ มารับภาระอันยิ่งใหญ่และหนักอึ้งแบบนี้แน่นอน คงไม่รบกวนเวลาพักผ่อนหย่อนน่องของท่าน รู้ยังงี้จะพากันบริจาคเสื่อผืนหมอนใบ หรือที่นอนนุ่มๆ ให้ไปพักผ่อนยาวๆ ให้สุขกายสบายใจที่เขายายเที่ยงโน่นแหละ" เหล่าคนไทยพากันขอโทษ สะอื้นโฮก
_________________________________________________________
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551 | | |
Last Update : 11 มิถุนายน 2552 23:25:10 น. |
Counter : 1503 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
-●- คำขอโทษของอาจาร์ย ปราโมทย์ นาคทรรพ -●-
คำขอโทษ? โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ 11 กุมภาพันธ์ 2550 19:33 น. ::://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000016962CommentComment:::
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ปู่ผมชื่ออุ้ย มีพระราชทินนามครั้งสุดท้ายว่า อดุลยเดช สยาเมศวรภักดีพิริยพาหะ เมื่อยังเยาว์คุณปู่เป็น เด็กรับใช้ อยู่ในพระบรมมหาราชวัง สมัยรัชกาลที่ 5 พ่อผมเป็นนักเรียนแพทย์ปริญญารุ่นแรก เป็นศิษย์คนโปรดของสมเด็จพระบรมราชชนก ผมต้องไปเกิดที่เชียงใหม่ เพราะพระอาจารย์รับสั่งไว้ว่า แกต้องไปเชียงใหม่ เพื่อทำให้การแพทย์สมัยใหม่เป็นที่ยอมรับ พ่อผมเลยไม่มีโอกาสปรนนิบัติดูแลปู่ซึ่งชราภาพและป่วยอยู่ที่อุดรธานี ผมเคยทำงานใกล้ชิด (ที่สุด) กับอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ท่านอาจารย์เคารพในหลวง และพูดว่า ถ้าในหลวงสั่งให้ไปตาย ก็จะไปตาย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวที่เกิดมาเป็นข้าของราชวงศ์จักรี แต่นั่นมิใช่เหตุสำคัญที่ทำให้ผมเป็นห่วง ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ความเป็นห่วงอย่างลึกซึ้งของผมเกิดขึ้น เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์สังคม ผมได้วิเคราะห์ดีแล้วว่าการปกครองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย คือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การปกครองดังกล่าวกำลังเสี่ยงต่อการถูกทำลาย โดยบุคคลที่ต่อสู้กันอยู่ 2 กลุ่มที่เป็นเจ้าของวาทกรรมที่ผมเรียกว่า หน่ายกษัตริย์-กำหนัดเลือกตั้ง ฝ่ายหนึ่ง กับ หน่ายเลือกตั้ง-คลั่งกษัตริย์ อีกฝ่ายหนึ่ง คนส่วนใหญ่ที่มิได้สังกัดและไม่เห็นด้วยคนทั้งสองกลุ่มนี้ ถ้าหากเป็นคนขี้เกียจคิดและไม่รู้จักติดตาม ก็จะกลายเป็นแนวร่วมมุมกลับ หรือเป็นเครื่องมือให้กับคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะทำให้อันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพิ่มขึ้น ผมเป็นคนไม่เห็นด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ผมเป็นคนเขียนบทความ การล้มล้างรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในทัศนะพุทธ ในผู้จัดการเมื่อ 9 ธ.ค. 48 และเรื่อง การล้มล้างรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมในทฤษฎีสัญญาประชาคม เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 ผมเห็นว่าการกระทำของคณะทหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ชอบแล้วกับทฤษฎีในบทความทั้ง 2 แต่ถ้าหากในกาลปัจจุบัน คมช.พลาดไป ปล่อยให้คนไทยส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของพวกวาทกรรมทั้ง 2 ก็จะเป็นเรื่องที่สุดแสนเสียดาย ผมเห็นว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแล้ว เราจะพลาดไม่ได้ ตามปกติ ผมไม่มีเวลาจะไปติดตามอ่านปฏิกิริยาของท่านผู้อ่าน แต่คราวนี้มีผู้ตระหนกตกใจรีบมาบอกผมให้รีบขอโทษ คำขอโทษนั้นพูดไม่ยาก แต่จะมีประโยชน์อะไร ท่านผู้อ่านที่มีความรู้สึกโกรธขึ้งผมอย่างรุนแรง สู้เอาพลังงานของท่านไปติดตามนักวิชาการชั้นนำของประเทศที่กำลังเขียนและกำลังพิมพ์วาทกรรมประเภทที่ 1 อยู่อย่างแข็งขันจะไม่ดีกว่าหรือ คนพวกนี้เขาเขียนเก่ง ทำตัวเป็นเจ้าทฤษฎีที่สอดคล้องและโดนใจฝรั่ง พวกที่เอะอะอะไรก็จะเลือกตั้ง ให้เวลาผมไปแก้อวิชชาให้กับนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวชาวต่างประเทศที่หลงคารมพวกนี้จะไม่ดีกว่าหรือ ลองไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ เพื่อขอซื้อหนังสือชื่อ ฟ้าเดียวกัน มาอ่าน แล้วมาช่วยผมคิดจะดีกว่า ผมไม่เห็นด้วยที่ศูนย์หนังสือจะ ไม่ยอมขายหนังสือเล่มนั้น ผมเคารพเสรีภาพของบุคคลที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง ผมเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ของนักวิชาการเหล่านี้ เขียนในคราบของวิชาการ มีการอ้างประวัติศาสตร์และทฤษฎี ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเลื่อมใส แต่ถ้าพิสูจน์กันจริงแล้วก็จะบิดเบือนทั้งประวัติศาสตร์และทฤษฎี แถมทฤษฎีต่างประเทศที่นำมาอ้างก็ยังจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง นำมาอธิบายสถาบันกษัตริย์ของไทยไม่ได้ ผมอยากจะบอกนักวิชาการที่ปักใจคุมแค้นด้วยว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมเคย ร้อนตัว ไปเข้าเฝ้า พระองค์รับสั่งว่าจะเดือดร้อนไปทำไม นี่ (หมายถึงพระองค์) อยู่เฉยๆ ยังถูกกล่าวหาว่าทำโน่นทำนี่นับไม่ถ้วน ผมอยากจะกล่าวว่าการที่มีคนนำไปอ้าง ในหลวงทรงมีโอกาสที่จะรับหรือปฏิเสธเหมือนกับคนอื่นๆ หรือ พระมหากษัตริย์ไทยมิใช่ เทวราชา อย่างพระเจ้าแผ่นดินที่อื่นๆ ทั้งตะวันออกและตะวันตก แต่เป็น ธรรมราชา ซึ่งทรง ทศพิธราชธรรม ขึ้นมาได้และอยู่ได้ด้วย อเนกนิกรสโมสรสมมติ เหนือกว่าทฤษฎีการเมืองใดๆ ของตะวันตก ผมอยากจะเรียนท่านผู้อ่านด้วยความจริงใจมิใช่โอ้อวด ผมเข้าใจวัฒนธรรมและความคิดของผู้นำทางการเมืองและวิชาการของฝรั่งดี ผมเคยนั่งแถวหน้าและสั่งสอนพวกนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ความไม่เดียงสาเรื่องเมืองไทยจะทำให้พวกนี้ตกเป็นเหยื่อ ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ(ไทย) ของทักษิณได้ง่ายๆ โดยอาศัยวาทกรรมหน่ายกษัตริย์- กำหนัดเลือกตั้งของนักวิชาการเหล่านี้เป็นเครื่องอ้างอิง ท่านผู้อ่านจำได้หรือไม่ว่าเอกอัครทูตอเมริกันมาเรียกร้องให้เรารีบร่างรัฐธรรมนูญจะได้เลือกตั้งเร็วๆ อเมริกาเขาไม่มีกษัตริย์ เขามีแต่ผลประโยชน์เป็นอภิมหาอำนาจทุนนิยม เวลาฟังทักษิณกับนักวิชาการอรหันต์พวกนี้เขาจึงขานรับทันที ผมได้เขียนเรื่องพระราชอำนาจมาแล้วร่วม 40 ปี ไม่ใช่เพิ่งมาพูด ผมได้เห็นคนที่แสดงอาการ คลั่งกษัตริย์ มานับไม่ถ้วน จำต้องตั้งข้อสังเกตอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกรักในหลวงแต่ปากเหล่านี้แหละ มีทั้งพวกที่จงใจและพวกที่จะทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียโดยไม่รู้ตัว คำว่า คลั่งกษัตริย์ เป็นคำที่นักวิชาการกำหนัดเลือกตั้งนำมาด่าผมทั้งในที่ลับที่แจ้ง โดยส่วนตัวผมไม่ถือและไม่เจ็บร้อน เพราะผมเคารพในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกัน ผมก็ตาไม่บอดจนกระทั่งมองไม่เห็นว่ามีคนอีก 2 พวก พวกหนึ่งเป็นพวกที่จาบจ้วงคิดทำลายสถาบันแต่ทำทีเป็นจงรักภักดีถึงขนาด คลั่ง และอีกพวกหนึ่ง คือสมุนของอำนาจนิยมที่ไม่ยอมรับการมีส่วนร่วมของประชาชน อ้างว่าประชาชนโง่ ไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้ การเลือกตั้งและนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งไม่เหมาะสมกับการเมืองไทย พวกเผด็จการที่แอบอ้างพระมหากษัตริย์ ก็อาศัยเสียงของพวกนี้ ผมมิได้เป็นต้นตำรับ ราชประชาสมาสัย ผมบอกไม่รู้กี่หนแล้วว่า เจ้าตำรับคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ กับ ดร.ชัยอนันต์ แต่ผมเห็นด้วยกับท่านทั้งสองว่า สมควรใช้เอกลักษณ์ของประเทศและสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นเครื่องสร้างระบอบประชาธิปไตยของไทย ผมจึงพยายามไป ถอดรหัส เพื่อจะเสนอในบทความตอนจบว่า ทำอย่างไรหรือมีกระบวนการและขั้นตอนอย่างไรบ้าง จึงจะเกิด ได้ และ เป็น ราชประชาสมาสัย บังเอิญผมป่วยเสียก่อน และมีคนโทร.มาจี้จุดให้ผมต้องเขียนเรื่อง กำหนัด หรือหน่ายเลือกตั้ง ขึ้นมา ถ้าคณะบุคคลที่หน่ายหรือกำหนัดเลือกตั้งนั้น จะไม่เล็งเป้าหมายหรือกระทบกระเทือนถึงสถาบันกษัตริย์ ผมก็คงไม่ต้องเขียนอะไร ผมเขียนอย่างนั้น ก็เพื่อจะเตือนพวกเราที่มิใช่ทั้ง 2 พวกนี้ ให้รีบลุกขึ้นมาคิด ลุกขึ้นมาทำ มามีส่วนร่วมในการสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ถ้าอยู่เฉยๆ เราจะตกเป็นแนวร่วมมุมกลับของพวกที่ทำลายสถาบันโดยไม่รู้ตัว ถ้าจะต้องขอโทษ ผมอยากจะขอโทษที่ผมยังเขียนไม่ทัน ยังเขียนไม่พอ และยังเขียนไม่หมดเปลือก ทำให้ท่านเข้าใจผิด ผมขอโทษด้วยที่ทำให้พวกแนวร่วมมุมกลับลุกฮือขึ้นมา ผมขอโทษด้วยที่ไม่สามารถชี้แจงให้พวกเราเข้าใจ ปล่อยให้ตกไปเป็นแนวร่วมมุมกลับของพวกเขาโดยมิได้ตั้งใจ กลับมาร่วมกันเถิดครับ เรามาช่วย คมช.สร้างราชประชาสมาสัยและประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขกันดีกว่า อย่าหลงกระแสการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรง และอย่ากำหนัดการเลือกตั้งที่จะเป็นการบั่นทอนสถาบันกษัตริย์นักเลย รู้ไว้เถิด คลื่นใต้น้ำระลอกนี้ใหญ่หลวงนัก
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2550 | | |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2550 4:03:56 น. |
Counter : 732 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
-●- C T X - ทุจริต ซี ที เอ็กซ์ -●- ค ลิ ป วี ดี โ อ
7:30 นาที
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550 | | |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 2:52:23 น. |
Counter : 592 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ย า ม เ ฝ้ า แ ผ่ น ดิ น 1 กุมภาพันธ์ 2550 -●- รัฐบาลขมิ้นอ่อนชุบแป้งโกกิ
:: - ค ลิ ก ที่ นี่ - :: รายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" : 1 กุมภาพันธ์ 2550 -●- รั ฐ บ า ล ข มิ้ น อ่ อ น ชุ บ แ ป้ ง โ ก กิ
__________________________________________________________
:: - ค ลิ ก ที่ นี่ - :: ย า ม เ ฝ้ า แ ผ่ น ดิ น ครั้งที่ 3 / 31 มกราคม 2550 -●- ตำรวจ - ทักษิโณมิกส์ __________________________________________
เปลวสีเงิน ทักษิโณมิกส์-เศรษฐกิจพอเพียง 31 มกราคม 2550 กองบรรณาธิการ :://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=31/Jan/2550&news_id=137279&cat_id=200::
"คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ" หรือ คมช.ประชุมระดับแกนนำกันพร้อมเพรียงวานนี้ การประชุมบ่อยๆ ประชุมพร้อมกันและเลิกพร้อมกัน
พระพุทธองค์ตรัสว่า นี่คือ ๑ ในอีกหลายหัวข้อที่บ่งถึง "ความแข็งแกร่ง" ขององค์กร-ของหมู่คณะนั้นๆ
ถ้าเป็นในสมัยที่มีการศึก-การสงครามชิงบ้านชิงเมืองกัน ท่านก็บอกว่า บ้านเมืองใดที่หมู่มุขอำมาตย์ยังหมั่นประชุมกันเนืองนิตย์
ใครก็จะมารบหักชิงเอาบ้าน-เอาเมืองไม่ได้ เพราะยังสามัคคีกันเหนียวแน่นดีอยู่!
แต่ผมฟัง "พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" โฆษก คมช.แถลงหลังการประชุมแล้วก็ไม่แน่ใจว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุม "ประแป้ง-แต่งตัว" เสริมบทให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ?
หรือเป็นการกอดเข่าเจ่าจุกประชุม "ปรับทุกข์" กัน ด้วยความไหวหวั่นกับความเคลื่อนไหวในตลาดข่าวสารโลกของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"?
ตามที่แถลง ก็เห็นมีแต่ "ความเป็นเลิศ" ของ พล.ต.อ.โกวิท ในด้านฝีมือดมตามตูดโจร และเรื่องความคืบหน้าใน "ความล้มเหลว" ของการทำคดี "บึ้มกรุงเทพฯ" เมื่อ ๓๑ ธันวา.
ซึ่งเป็นผลงานที่ คมช.ดูจะปลาบปลื้ม ถือเป็นการได้หน้า-ได้ตาในการ "อุ้มพวก" เอาการอยู่!
แต่ที่สะดุดหู-สะดุดใจผม ไม่ใช่ประเด็นนี้ จะเป็นประเด็นไหน เรื่องอะไรนั้น ผมขอยกประโยคที่ พ.อ.สรรเสริญแถลงมาให้อ่านกันก่อน ดังนี้
"ทั้งนี้หลังจากศึกษาแล้วพบว่า อดีตนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทล็อบบี้ยิสต์ในต่างประเทศ และจากนั้น มีบทความตีพิมพ์ในนิตยสารต่างประเทศ ๓ ฉบับ ที่ทราบคือ หนังสือพิมพ์ เอเชี่ยน วอลล์สตรีท เจอร์นัล หนังสือพิมพ์อีโคโนมี และหนังสือพิมพ์นิวสวีก โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารด้านเศรษฐกิจของอดีตนายกรัฐมนตรี และเ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง ว่ า
ระบบทักษิโณมิกส์ ได้รับความเชื่อมั่น เชื่อถือจากประเทศต่างๆ มากกว่า เพราะได้รับการพิสูจน์แล้ว ก า ร วิ พ า ก ษ์ วิ จ าร ณ์ ว่ า ป รั ช ญ า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ ป็ น ป รั ช ญ า ที่ ยั งไม่ได้รับการยอมรับ จ า ก ห ล า ย ป ร ะ เ ท ศ และคงมีประเทศไทยประเทศเดียว ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และไม่ทราบรายละเอียดความเป็นเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง
ซึ่งเรื่องนี้ คมช.มองว่า มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยทั้งโดยรวม และเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่หวังดีของอดีตนายกฯ ทักษิณ"
ผมขอจับประเด็น "เป็นความเข้าใจ" เอาตามที่ท่านแถลงนะครับ ก็คงสรุปได้ว่าท่านต้องการบอกประชาชนให้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปให้สัมภาษณ์นิตยสารเหล่านั้น โจมตีนโยบาย "เศรษฐกิจพอเพียง"
และบังอาจยกระบบ "ทักษิโณมิกส์" ของตัวเองขึ้นมาเปรียบเทียบ "นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง" ให้บรรดานิตยสารฟัง เพื่อเอาไปเขียนรายงานว่า
"ทักษิโณมิกส์ดีกว่า เหนือกว่านโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับการยอมรับ ได้รับความเชื่อถือจากประเทศต่างๆ มากกว่า เพราะเป็นระบบที่ผ่านการพิสูจน์ให้เห็นผลมาแล้ว
ผิดกับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง มีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวที่ยอมรับ ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่ให้การยอมรับ"
ครับ..นี่คือประเด็นที่ผมบอกว่าสะดุดหู-สะดุดใจ และตรงนี้ทาง คมช.ประชุมกันแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่า
พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจให้สัมภาษณ์กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และเศรษฐกิจโดยรวม นับว่าเป็นความไม่หวังดีต่อบ้าน-ต่อเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ!
และที่ผม "เดาใจ" คมช.อย่างหนึ่ง ซึ่งทาง คมช.อาจนึกอย่างนั้น แต่ไม่ได้พูดออกมาให้ปรากฏ ก็คือ
"ไม่พอใจอย่างมากที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ในเชิง "ไม่เคารพ" แถมดูแคลน "นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง"
และบังอาจยกระบบทักษิโณมิกส์ คือ "ตัวเอง" ขึ้นเหนือนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นแนวทางตามพระราชดำริของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
ผมคงไม่มีความเห็นอะไร "เฉพาะจุด" นี้ แต่อยากจะบอกกว้างๆ ตามนัยของโลกที่กว้างว่า
๑.) อย่าไปให้ความสำคัญกับทักษิณมากนัก วันๆ มีแต่ชื่อทักษิณออกจากปาก คมช.นั้น แสดงว่าลึกลงไปในใจ "ชื่อของคน-เงาของไม้" มันยังใหญ่ มีอิทธิพลกดทับจิตใจ "ขี่กันไว้" ขั้นหนึ่ง
ยังไม่ทันรบก็ "แพ้ใจ" เขาไปแล้ว!
๒.) เรื่องนโยบาย เป็นเรื่องของทฤษฎี เป็นเรื่องการคิดค้นด้วยปัญญาเลิศของแต่ละมนุษย์เพื่อมนุษยชาติ ถือเป็น "สมบัติสากล" ไม่มีทฤษฎีไหนผิด แต่ที่เห็นว่าผิด เพราะคนที่นำไปใช้-ใช้ผิดเอง
ผิดอะไร?
ผิดกาลเทศะ ผิดสถานที่ ผิดบุคคล ผิดโอกาส ผิดภูมิประเทศ ผิดที่คนนำไปใช้ยังไม่เข้าใจ ยังเข้าไม่ถึง และยังทำไม่ถึง "แก่น" ของทฤษฎีนั้นๆ
๓.) เรื่องทฤษฎี หรือนโยบาย ต้องแยกออกจาก "ความเป็นบุคคล" เพราะนี่คือ "สมบัติปัญญาสากล" เพื่อมนุษยชาติ ไม่ผูกขาดเพื่อชาติใด-ชาติหนึ่ง ฉะนั้น ต้องไม่อยู่เหนือการวิพากษ์-วิจารณ์
นั่นคือ อย่านำทฤษฎีหรือนโยบายใดๆ ไป "ใส่พาน" ไว้กราบไหว้
ต้องนำมา "ใส่ใจ" แล้วนำไปปฏิบัติ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม!
และเมื่อปฏิบัติแล้ว เป็นเรื่องแน่นอนที่จะต้องมีเงื่อนไข-แง่มุมใหม่ๆ เกิดเป็นมุม "วิพากษ์-วิจารณ์" เพื่อแตกปัญญา นำไปสู่การพัฒนาที่สมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ
๔.) นโยบาย "เศรษฐกิจพอเพียง" ก็เช่นกัน เพื่อการตั้งสติ-ดำรงทิศทางในการรับรู้ "ให้ถูกทาง" เราต้องมองแยก-คิดแยก-ปฏิบัติแยก ออกจากกัน ระหว่าง
"ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง"
กับ..
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่นานาอารยประเทศในโลก ยอมรับและชื่นชมในพระอัจฉริยภาพหลายๆ ด้านของพระองค์ รวมทั้ง "ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง" นี้ด้วย
คอยดูเถอะ ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงนี้ สุดท้ายของ "สงครามบริโภควัตถุ"
โลกจะต้องหันกลับมาตั้งต้นเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์แห่งมนุษยชาติกันใหม่ด้วย..ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง!
ระบบทุนนิยม วัตถุนิยม สังคมนิยม ประชาธิปไตยนิยม อะไรต่างๆ นานานั้น มันไม่ใช่ระบบ "ดั้งเดิมแท้" ของมนุษยชาติ มันเป็นระบบปรุงแต่ง แต่งรส แต่งสี แต่งกลิ่น มันก็ไปกันได้ "หายคัน" พักหนึ่งเท่านั้น
แล้วก็ต้องหมุนกลับมาตั้งต้นตรงจุดเดิมกันใหม่ คือ "จุดอมตะ" ของมนุษยชาติ นั่นคือ
ระบบ "ธรรมนิยม" หรือพูดให้ยาวครบประโยคก็คือระบบ "สูงสุดคืนสู่สามัญ"
"สามัญ" นั่นคืออะไร..ก็คือ "ธรรมชาติ" นั่นเอง!
วงรอบ "จิตเดิมแท้" ของความเป็นมนุษย์และสัตว์ จะเคลื่อนมาบรรจบเป็นวงแหวนแห่งวัฏฏะ กับภาวะ "เป็นอยู่จริง-มีอยู่จริง" อันเรียกว่า "ภาวะธรรมชาติ" ณ เอกภพหนึ่งๆ
เช่นนี้แล้ว จะไปนอนสะดุ้งจนเรือนไหวทำไมกับ "ไอ้ลูกอ๊อด" ที่หางยังไม่งอก แล้วเที่ยวยกทฤษฎี "ทาสทุนตะวันตก" คือระบบทักษิโณมิกส์ไปเบ่งพองอยู่ริมทุ่ง-ริมหนองให้เป็นที่ทุเรศ สมเพชเวทนาของปัญญาชนชาวโลกเขา!
นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง นั้น เป็น "คัมภีร์กู้โลก" ในอนาคตอันใกล้ไปแล้ว สหประชาชาติได้แปลเป็นภาษาต่างๆ เพื่อเผยแพร่ให้สังคมที่ไวต่อ "ทิศทางใหม่" ของโลก นำไปปรับใช้เพื่อ "ความอยู่รอด" ในยุควิกฤติข้างหน้าไปแล้ว
ผมจึงว่าโลกนี้กว้าง ฉะนั้น เราอย่าเอาทางแคบมาใช้ ให้ทักษิณเขาพูดไปว่าระบบทักษิโณมิกส์เขาวิเศษ เราก็ยกตัวอย่างอันเป็น "ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้ว" ให้ชาวโลกเขาเห็นซี
ค ว า ม อั ป ย ศ อ ด สู ที่ "ส น า ม บิ น สุ ว ร ร ณ ภู มิ " นี่ ไง คือ ๑ ใน ๑๐๐ ค ว า ม บั ด ซ บ จาก "ร ะ บ บ ทั ก ษิ โ ณ มิ ก ส์ " ที่ต่างประเทศเชื่อมั่น!
เราควรรู้นะครับว่า โลกตอนนี้ถูกครอบงำด้วย "กลุ่มทุนโลก" แล้วสื่อต่างๆ อย่างที่ยกมานั้น ส่วนใหญ่คือสื่อของกลุ่มทุนที่ปั่นโลกอยู่
ตระกูล Rotschild
ตระกูล Warburg และ
ตระกูล Rockefeller
กลุ่มทุนยุโรปและสหรัฐ ๓ ตระกูลนี่แหละที่ "ปั่นโลก" อยู่ด้วยเศรษฐกิจระบบทุนนิยมภายใต้องค์กร Council on Foreign Relations ด้วยเป้าหมาย "๑ โลก ๑ ระบบ และ ๑ คำสั่ง"
ทักษิณในระบบ "ทักษิโณมิกส์" เปรียบก็แค่ "หมาลากเลื่อน" กลางทะเลหิมะ แล้วเราจะมานั่งขยายให้เป็น "หมียักษ์" หลอกตัวเองอยู่แต่ละวัน..เพื่ออะไร?
ไม่ต้องไปสนใจที่สื่อต่างประเทศจะโปรทักษิณ เพราะสื่อเหล่านั้นคือ "เครือข่าย" ของระบบทุนอยู่แล้ว ในเมื่อทักษิณเป็นสมุนคอย "เปิดประตูบ้าน" ให้เขาเข้าครอบ แล้วทำไมเขาจะไม่เลี้ยงทักษิณไว้ใช้ แล้วโจมตีนโยบาย "เศรษฐกิจพอเพียง" ที่ขัดขวางระบบทุนสามานย์โดยตรงล่ะ เป็นเรื่องที่ไม่ยากจะเข้าใจ ฉะนั้น..ควรเข้าใจซะ.
__________________________________________
::://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000012053OpinionOpinion::: "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ครั้งที่ 2 เข้มข้น สนธิเฉ่งยับ"ทนายรับจ้าง"
_______________________________________________________________
::://www.manager.co.th/Multimedia/ViewVideo.aspx?NewsID=9500000010500&BrowseNewsID=6023::: สนธิ ฟันธง เลวบวกชั่วทำ สุวรรณภูมิ วิบัติ-ใบเสร็จเช็กบิล แม้ว
"สนธิ" ชี้"เลวบวกชั่ว"ต้นเหตุทำให้"สุวรรณภูมิ"วิบัติในทุกวันนี้ พร้อมหนุนเปิดโปงให้ต่างชาติได้รับรู้ ระบุเป็นใบเสร็จสำหรับเชิกบิล"ทักษิณ" ได้ชัดเจนที่สุด ย้ำสมควรปิดสนามบินแล้วไปใช้ดอนเมืองแทน ท้าคนที่บอกว่ายังซ่อมได้ ออกมารับประกันความเสียหายในอนาคต
ความคิดเห็นที่ 51 บางครั้ง การทำงานก็ควรจะมีความลับบ้าง ครม.ชุดที่แล้ว"พัง"เพราะ"ปากพล่อย"พันธุ์ชินวัตร
ท่านคงจำวันที่19กย.49ได้ ทหารเข้าปฏิวัติรัฐประหาร โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
ในความเงียบ เราท่านอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรเลย
แต่ ......ในความเงียบ อาจจะมีอะไรที่เราไม่รู้ก็ได้
ซึ่งทางคมช.อาจจะต้องทำงานอยู่อย่างเงียบๆ
แต่ อย่าลืมว่าทักษิณคอยสืบข่าวตลอด มันเองก็คงมีสปายสายลับ มันจึงรู้ตัวว่ามันจะต้องพบกับอะไรบ้างจึงออกมาเต้นเป็นเจ้าเข้าเร่าๆ ร้อนตัวอยู่ทุกวันนี้ และมีอาการแผลงๆเช่น วางระเบิดงานส่งท้ายปีเก่า
ความเงียบอาจจะซ่อนบางอย่างไว้
There might be something in the silent.
ถึ ง พ ว ก ที่ ไ ม่ ห วั ง ดี (พลพรรคทักษิณ) ที่ ไ ม่ ห วั ง ดี ต่อ ร บ. แ ล ะ ค มช . ชุ ดนี้ ก็ทราบดีว่าเขาต้องโดนดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคาดหมายว่าจะเป็นการลงโทษที่สาสมกับความผิดต่อชาติ
ณ นาทีนี้ เราขอเอาใจช่วยรัฐบาลที่มีจิตใจดี อ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอ เข้มแข็งมันคงในความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
การทำงานที่นับมาได้4เดือนเศษคงคืบหน้าอยู่ในความเงียบก็เป็นไปได้ ใช่ไหมท่าน? มันมักจะเป็นเช่นนั้นเสมอ ......ในความเงียบ :://www.manager.co.th/daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000011807:: ทำไม โกวิท เหนียวหนึบ!? โดย สำราญ รอดเพชร 30 มกราคม 2550 16:53 น.
__________________________________________
1833/1109/56528/010207
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550 | | |
Last Update : 11 มิถุนายน 2552 23:27:44 น. |
Counter : 460 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|