|
อนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล
ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เราได้นั่งคุยเล่นกับเพื่อนที่มหาลัย ในร้านกาแฟเล็กๆน่ารัๆแห่งหนึ่ง คุยเรื่อยเปื่อย แต่แล้วหัวข้อการสนทนาของพวกเราก็มาหยุดที่ เพื่อนบอกเราว่า เรากำลังจะไปเรียนต่อโทที่ญี่ปุ่นนะ เราก็งงว่าอะไรนะ เหลือเวลาอีกปีครึ่งจะเรียนจบ แต่ว่ามันวางแผนชีวิตไว้แล้วงั้นเหรอ พวกเราเริ่มคุยถึงอนาคตของตัวเอง เพื่อนจะเรียนต่อเพื่อจะได้หางานทำได้ง่ายขึ้น นั่นคืออีกเหตุผล แต่เหตุผลหลักของมันคือต้องหาแฟนเป็นเด็กญี่ปุ่น (เห้ยไม่ใช่ๆ เพื่อนเสียหายหมด) มันวางแผนชีวิตตัวเองไว้เป็นอย่างดีว่า จบแล้วจะทำอะไรต่อไป 1ปีครึ่ง ว่าจะมากก็มาก ว่าจะน้อยก็น้อย แต่เราก็คิดว่า 1 ปีครึ่ง มันกำลังพอดีสำหรับคนที่เตรียมตัวไว้ก่อน ไม่ว่าจะยังไง ถ้าเราหัดเตรียมตัวไว้ก่อน เมื่อเวลานั้นมาถึงมันก็จะไม่ยากอีกต่อไป (นั่นสินะ แล้วตัวเราเองล่ะ หลังจากนั้นจะทำอะไรต่อไป) เราคิด ความสับสนปนวิตกเริ่มเข้ามาแทนที่ จบแล้วจะหางานทำได้มั้ยว่ะ จะรอดมั้ยว่ะ ฯลฯ แต่ที่คิดได้ตอนนี้ก็คือ ยังไงก็ต้องได้ภาษาอังกฤษก่อนแหละว่ะ ถ้าจะทำงานสาขาที่เรียนมายังไงภาษาอังกฤษก็ต้องได้ ถ้าจบไปแต่ไม่ได้ภาษาอังกฤษยังไงก็ทำด้านนี้ไม่รุ่ง เราเริ่มคิดว่าจะเอายังไงต่อไป เหลือเวลาอีกเพียงปีครึ่งเท่านั้น สักพักก็นึกขึ้นได้ ความฝันที่บางทีก็ลืมๆมันไป เพราะไม่มีใครเตือน จู่ๆ มันก็ผุดขึ้นมาในหัว ความฝันของเราก็คือ ต้องไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศสัก 1 ปี เพื่อจะได้ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น แต่ความฝันจริงๆของเราก็คือ (ไปหาเด็กๆฝรั่งหน้าตาน่ารักๆ มาเป็นแฟน เอ๋ พูดอะไรออกไป เง้ออ กล้าเล่นมุขเดิมซ้ำไม่อายเลยช้าน) เราอยากไปใช้ชีวิตด้วยตัวของเราเอง อยากไปเปิดหูเปิดตาดูประเทศอื่นๆบ้าง ว่าเขาเป็นยังไงกันบ้าง ก้าวหน้าไปขนาดไหน แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้น อยากเห็นประเพณี วัฒนธรรม ศิลปะ ต่างๆที่แตกต่างกัน อยากออกไปดูโลกกว้าง และก็ที่สำคัญที่สุด เราอยากตามหาตัวเอง เราอยากรู้ว่าเราต้องการทำอะไรกันแน่ แปลกไหม? ที่บางคนจะหาตัวเองไม่พบ แต่ก็พยายามก้าวออกจากจุดที่ตัวเองเคยอยู่ และคุ้นชิน เพื่อไปที่ๆ ไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย เพื่อหวังว่าจะเจอตัวเองสักวันหนึ่ง เพราะคิดว่า การที่เราอยู่ในสถานที่ๆต่างออกไปนั้น จะสามารถมองเห็นตัวเองได้ชัดเจนมากกว่า หลังจากที่เซิร์จอินเตอร์เน็ตหาประเทศที่อยากไป แล้วจดลิสสั้นๆไว้นั้น ก็เกิดความคิดบางอย่าง หรือว่าเราจะเรียนต่อป.โทดี แต่คิดแล้วก็เครียดกว่าเดิมเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีปัญญาเรียนจนจบได้นี่สิ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด แต่เราก็ตัดสินใจที่จะปล่อยมันไว้ก่อน ตอนนี้ทำสำคัญที่สุดคือหาที่ๆจะไปให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาคิดทบทวนอย่างจริงจังว่าจะทำอะไรต่อไป ระหว่างที่นั่งรถไปดูบ้านใหม่ทำกำลังตกแต่งอยู่นั้น พ่อก็พูดอะไรบางอย่างขึ้นมา ที่เราไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากพ่อง่ายๆเช่นนี้ พ่อถามว่า อยากไปเรียนต่อต่างประเทศมั้ยลูก เราคิดในใจว่านี่มันอะไรกันเนี่ย กำลังคิดว่าจะไป จู่ๆ พ่อก็อนุญาตอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก็เลยบอกพ่อไปว่า ไปสิพ่อ ตอนนี้กำลังหาอยู่ ว่าจะไปที่ไหนดี แต่ว่าหนูขอไปเรียนภาษาเฉยๆนะ ไม่เรียนต่อโท พ่อบอกว่า ถ้าเรียนภาษาเฉยๆก็ไม่ต้องไป อ้าวกำ ถ้าเรียนโท จะเอาตัวรอดกลับมาได้รึเปล่าล่ะเนี่ย ตอนนี้กำลังดำเนินการทางความคิดอยู่ เมื่อถึงเวลาเราก็คงจะได้คำตอบ ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป
Create Date : 28 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 28 ตุลาคม 2551 22:41:53 น. |
|
3 comments
|
Counter : 506 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ออฟ IP: 202.28.12.49 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:0:55:48 น. |
|
|
|
โดย: Khuntop (KhunTop ) วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:2:13:58 น. |
|
|
|
โดย: พี่จิตร IP: 124.121.223.98 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:10:40:39 น. |
|
|
|
| |
|
|
คนเราเชื่อว่าทำได้ ก็จะสำเร็จ
พี่ จิก ประภาสฯ บอกไว้ว่าคนเราต้องมี ศรัทธา และทัศนคติมองโลกในแง่ดี
เป็นกำลังใจให้ๆ สู้ล่ะ