ปากกาไฮไลท์สีแดง
Group Blog
 
All Blogs
 
ความทรงจำ (ที่ไม่อยากให้กลายเป็นสีจาง)

2-6 พฤษภาคม 2551

ไม่อยากเขียนยกยอ หรือชื่นชมใครจริงๆนะ แต่เราอยากขอบคุณหนังสือเล่มนี้ “โตเกียวไม่มีขา” หนังสือเล่มแรกที่ทำให้เราก้าวสู่โลกแห่งหนังสือเล่มอื่นต่อๆมา มันช่างเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีจริงๆ เราจำไม่ได้ว่าเรามาอ่านหนังสือเล่มอื่นๆต่อจากเล่มนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่เมื่อรู้ตัวอีกที กลับกลายเป็นว่าเราไปร่วมกิจกรรมกับนักเขียนหลายกิจกรรมด้วยกัน อย่างไม่รู้ตัว (จริงๆนะ) แบบมีก็ไป (ตลอด)
ครั้งนี้ก็ให้เขียนใบสมัครเพื่อทำกิจกรรม
1. ปลูกป่า
2. ฝังไทม์แคปซูล
3. คนที่ไปจะมีชื่อลงหนังสือเล่มต่อไปของนักเขียน 3 คนนี้แน่ๆ

แน่นอนว่าคนที่ชอบอยู่เบื้องหลังชนิดไม่ก้าวผ่านมาด้านหน้าอย่างเรา ย่อมไม่ค่อยอยากมีตัวเองปรากฏอยู่เบื้องหน้าแน่ๆ เพราะฉะนั้นเหตุผลที่ 3 ไม่ใช่เหตุผลหลักที่เราจะไปแน่ๆ

การฝังไทม์แคปซูล ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ติดที่ว่า ไม่รู้จะฝังอะไรดีนี่สิ พยายามหาแล้ว แต่ก็ไม่เจอ (ขอโทษจริงๆนะที่ชีวิตนี้ไม่มีของอะไรสำคัญแบบจะเอาไปฝังได้จริงๆ) แต่จะให้ฝังอะไรที่อยากลืมก็ไม่ฝังแน่ๆ ฝังเพื่ออีก 10 ปีจะเปิดขึ้นมาเจอมันอีกงั้นเหรอ? หลังจากคิดว่าจะเอาหนังสือเล่มแรก (เล่มที่กล่าวข้างต้น) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้มางานครั้งนี้ไปฝัง ก็เปลี่ยนใจ เพราะกลัวว่านักเขียนจะน้อยใจ (เนื่องจากไม่รู้จักกัน) สุดท้ายก็คิดที่จะเอาอะไรง่ายๆไปฝัง(ไม่ขอบอกว่าเป็นอะไรละกัน) เนื่องจากรู้สึกแย่กับตัวเองอย่างที่สุด รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าที่สุดในชีวิต เพราะเราไม่มีอะไรจะไปฝังจริงๆนะ เรากลับมาถึงบ้าน ก็คิดว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะเอาอะไรมาฝัง เราก็ยังคงหาคำตอบไม่เจออยู่ดี มันคงเหมือนกับความฝันของเราล่ะมั้ง ที่ไม่ว่าใครๆในทริปถาม เราก็จะตอบว่า หาไม่เจอจริงๆ................ น่าเศร้าจัง

เมื่อกลับมาแล้วคิดว่าตัวเองทำอะไรงี่เง่าลงไป แต่เราก็คิดไปว่า อย่างน้อย อีก10 ปีข้างหน้า เมื่อเราเปิดมันขึ้นมาดู เราก็จะเข้าใจว่า 10 ปีก่อนหน้านั้น เรางี่เง่าได้ขนาดไหน และถ้า 10 ปีข้างหน้า เรายังเป็นแบบเดิม ก็แย่มากแล้ว อย่างน้อยเราก็จะได้เข้าใจว่า 10 ปีก่อนหน้านั้น ความคิดมันเด็กขนาดไหน งี่เง่าขนาดไหน จะไปเครียดกับมันทำไม มันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งที่แย่ ก็แค่นั้น

แปลกที่ปกติ ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองทำเรื่องงี่เง่าขนาดนี้ เราคงนั่งโทษตัวเองอยู่เป็นอาทิตย์ แต่เรากลับแค่รู้สึกแย่นิดหน่อยเท่านั้น แต่กลับคิดได้ว่า เราดูถูกตัวเองมามากพอแล้ว อย่าให้มากไปกว่านี้เลย หรืออาจเป็นเพราะว่าทริปนี้มันทำให้เราเห็นอะไรที่มีค่ามากกว่าการมานั่งโทษตัวเองก็เป็นได้

การตอบคำถามบางอย่าง เรากลับรู้สึกว่าเราตอบไม่ดีเลย ของคนอื่นตอบดีกว่าเราอีก แต่ก็น่าแปลกอีก ที่อีกหลายคนก็คิดเหมือนกันว่า การตอบคำถามของคนอื่นดีกว่าของตัวเอง เราก็เลยคิดว่า ตัวเราเองไม่เคยภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำเลย ..........
แต่ทริปครั้งนี้ กลับทำให้เรา ภูมิใจที่สุดในชีวิต ภูมิใจจริงๆค่ะ ภูมิใจที่ได้ไป

ไม่ว่าพี่พี่นักเขียนทั้ง 3 คนจะเลือกเราไปเพราะอะไรก็ตาม เราไม่สนอีกต่อไป จากตอนแรกก็อยากรู้ว่าทำไมถึงเลือกเรา แต่ตอนนี้เหตุผลอะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เราไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว

เราแค่รู้สึกว่า เราดีใจจริงๆที่ได้ไป และถ้าไม่ได้ไปก็คงจะเสียใจมาก

หนังสือ “อัจริยะสร้างได้” ของคุณ หนูดี ที่บอกว่า อย่าเลือกเพราะคิดว่าทำสิ่งนั้นได้ดีที่สุด แต่ให้เลือกที่คิดว่าถ้าไม่ได้ทำแล้วจะเสียใจที่สุด (ไม่ตรงทีเดียวแต่ประมาณนี้)

ขอบคุณประโยคนี้มากที่ทำให้เราตัดสินใจส่งใบสมัคร เพราะเราแค่รู้สึกว่าโคตรอยากไปเลย และทริปนี้ก็เป็นทริปที่ทำให้เราเข้าใจประโยคนี้ได้ดีที่สุด

ใช่แล้วค่ะ เราไม่เสียใจเลยที่ได้ไปทริปนี้ และถ้าเราไม่ได้ไปทริปนี้เราคงจะเสียใจที่สุดในชีวิต

เราไม่ใช่เข้าใจแค่ประโยคนี้มากขึ้น แต่เรายังเข้าใจ อัฉริยะภาพด้านเกี่ยวกับธรรมชาติได้ดีขึ้น อีกด้วย

ใครจะรู้ว่าการถอนผักบุ้งของพวกเราเพียง 1 แปลง จะทำให้เรามองเห็นอะไรที่มากกว่าผัก เราเห็นอัธยาศัยอันดีของชาวบ้าน ที่แม้ว่าเราจะถอนผักบุ้งมากเกินไป จนเค้าอาจจะขายไม่หมด หรือเราถอนผักบุ้งที่ไม่มีรากไปซะหลายอัน หรือช้ำไปก่อน แต่เค้าก็ไม่บ่น ให้พวกเราช่วยถอน ขอบคุณที่ทำให้เราได้ทำอะไรแบบนี้ครั้งแรก

เมื่อพวกเราช่วยถอน สิ่งที่ลุงยื่นกลับมาให้กลับเป็นผักบุ้ง 3 กำใหญ่ๆ ที่ไปขายได้กำละ 5 บาทเท่านั้น ใช้เวลาปลูก 45 วัน แต่ขายได้กำใหญ่ๆ กำละ 5 บาท แม้ว่าพวกเราจะเกรงใจ แต่ก็รับมา ผักบุ้ง 3 กำ 15 บาท แต่กลับรู้สึกดีใจกว่าได้เงินที่จำนวนมากกว่านั้นหลายเท่านัก มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ

เมื่อใครๆถามว่าประทับใจอะไรที่สุดในทริป “เราตอบได้เต็มปากว่าเก็บผักบุ้ง” เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ทำอะไรแบบนี้ ได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านจริงๆ ชาวบ้านที่ปลูกผักขายเลี้ยงปากท้อง ชาวบ้านที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบ ไม่มีการล้อมรั้ว เดินเล่นได้ตามสบายเหมือนเป็นบ้านตัวเอง ชาวบ้านที่เมื่อเห็นคนแปลกหน้ามา ก็ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง และยังให้ช่วยถอนผักบุ้งอีก

การถอนผักบุ้งไม่ใช่แค่ให้เราได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้าน (ที่เด็กเมืองอย่างเราไม่เคยเห็น) มากขึ้น แต่มันยังทำให้พวกเราที่ไปถอนรู้จักกันมากขึ้นอีกด้วย อย่างน้อยมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการรู้จักกันล่ะน่า

ทริปนี้มันมีความประทับใจ มากมาย จนบรรยายออกมาเป็นคำพูด ให้คนอื่นอิน หรือเข้าใจตามได้ยากมาก คงไม่มีใครเข้าใจเท่าพวกเราที่อยู่ในเหตุการณ์อีกแล้วแหละ

ใครจะรู้ว่าบางสิ่งที่เราลังเลว่าควรทำรึเปล่า แต่วันหนึ่งเมื่อเราได้ทำมัน เรากลับเพิ่งได้รับรู้ความรู้สึกว่า “ไม่เสียดายเลยที่ทำมันลงไป” เพิ่งเข้าใจว่ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ใครจะไปรู้ว่าจากการที่เราอยากปลูกต้นไม้ ร่วมทำกิจกรรมดีๆ กับนักเขียนที่ชื่นชอบ จะกลายเป็นความทรงจำที่เรียกได้ว่า ประทับใจที่สุดในชีวิต

ใครจะรู้ว่าวีดีโอที่แค่จะไปถ่ายเก็บไว้ดูเล่นๆ และให้พี่ลิปดา กับพี่นก ที่ไม่ได้ไปด้วยดู เพราะรู้ว่าพี่ๆก็คงอยากไปด้วย ในวันหนึ่ง มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เป็นครั้งแรกที่เราตอบได้อย่างเต็มปากว่า “เราภูมิใจว่ะ ที่ได้เรียนฟิล์ม” เราเพิ่งรู้ว่า ฟิล์มก็ให้อะไรได้มากกว่าหนังเหมือนกัน

สัญญาที่ว่า วันฉัตรมงคล ปี 2561 พวกเราจะเจอกันเวลาเที่ยงตรง ณ ที่นัดหมาย มันมีความหมายมากว่าอะไรทั้งนั้น อย่างน้อย มันก็ทำให้เรามีจุดมุ่งหมายว่า เราจะก้าวในวันต่อๆไปเพื่ออะไร

จากตอนแรกที่คิดว่า ข้อที่ 3 มีตัวเราปรากฏในหนังสือ เป็นข้อที่เราไม่สนใจมากที่สุด และคิดว่าไม่มีก็ได้ แต่ตอนนี้ ขอเปลี่ยนใจได้มั้ยค่ะพี่ๆ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ แม้จะมีเพียงแค่ 1 บรรทัด หรือ 1 ประโยค แค่ให้เราได้มีส่วนร่วมบางอย่าง เพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ มันก็มากเกินพอ


ปล. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะพี่หมอบอกว่า “ตับแข็งจริงๆนะ”
จริงๆแล้วมันมีเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นมากมาย ก็คือ อีก 10 ปีข้างหน้าเราต้องยังมีชีวิตอยู่
ต่อจากนี้ไป อีก 10 ปี มันสำคัญสำหรับเรามาก


ขอใส่เพลงให้น้องจิ๊บ ที่อยากร้องมากๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อง


วันเวลาดี ๆ เหล่านั้น
เธอยังคงจำมันได้ไหม
วันที่เคยร่วมทุกข์และสุขจนล้นหัวใจ
วันที่เราได้ผ่านมาด้วยกัน

แต่ว่าเวลาที่ผ่านพ้นไป
อาจจะทำให้ใจของใครลืมสิ่งนั้น
อยากจะมีเพลง เพลงนึง
ถ่ายทอดเรื่องราวเป็นพัน ๆ ให้เธอรู้

ให้ทุก ๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้
ก็ขอให้รู้ ที่แห่งนี้นั้นยังมีรักอยู่
เคยเป็นยังไงในตอนนี้ขอให้รู้
จะไม่มีเปลี่ยนไป

และทุก ๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้
ก็ขอให้รู้ที่ตรงนี้ไม่ว่าจะนาน เท่าไหร่
เราจะมีกันและกัน เป็นหนึ่งในดวงใจตลอดไป
ก็เพราะหัวใจเราผูกกัน

วันที่เราไม่เคย ย่อท้อ วันที่เราต่างมีความฝัน
และทำทุก ๆ สิ่งด้วยหัวใจเดียวกัน
เธอยังคงจำมันได้ใช่ไหม

แต่ว่าเวลาที่ผ่านพ้นไป
อาจจะทำให้ใจของใครลืมสิ่งนี้
อยากจะมีเพลงเพลงนึงตอบเรื่องราวที่ดีดีเตือนให้รู้

ให้ทุก ๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้
ก็ขอให้รู้ ที่แห่งนี้นั้นยังมีรักอยู่
เคยเป็นยังไงในตอนนี้ขอให้รู้
ว่าจะไม่มีเปลี่ยนไป

และทุก ๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้
ก็ขอให้รู้ที่ตรงนี้ไม่ว่าจะนาน เท่าไหร่
เราจะมีกันและกัน เป็นหนึ่งในดวงใจตลอดไป
ก็เพราะหัวใจเราผูกกัน

ให้ทุก ๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้
ก็ขอให้รู้ ที่แห่งนี้นั้นยังมีรักอยู่
เคยเป็นยังไงในตอนนี้ขอให้รู้
ว่าจะไม่มีเปลี่ยนไป

และทุก ๆ ครั้งที่ได้ฟังเพลงนี้
ก็ขอให้รู้ที่ตรงนี้ไม่ว่าจะนาน เท่าไหร่
เราจะมีกันและกัน เป็นหนึ่งในดวงใจตลอดไป
ก็เพราะหัวใจเราผูกกัน

เราจะมีกันและกัน เป็นหนึ่งในดวงใจตลอดไป
ก็เพราะหัวใจเราผูกกัน





Create Date : 16 พฤษภาคม 2551
Last Update : 16 พฤษภาคม 2551 2:25:39 น. 8 comments
Counter : 534 Pageviews.

 
ความรู้สึกตื้นตันส่งผลมาทันทีที่เราอ่านจบนะจอม ดีใจรู้สึกดีที่จอมพูดหลายๆครั้งหลายๆอย่างในเอ็นทรี่นี้ได้ว่า "เต็มปากเต็มคำ"

ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวในทริปนี้ การได้เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ เรารู้สึกได้เลยว่าจอมภูมิใจและรู้สึกดีขนาดไหนกับสิ่งที่ผ่านพบมากในตอนนี้ เป็นความทรงจำที่มีค่ามากๆเลยนะ

เราก็ขอพูดอย่างเต็มปากเต็มคำเช่นกัน "ดีใจด้วยกับทุกสิ่งอย่างในเอ็นทรี่นี้ของจอม"

ปล.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วจริงๆเหรอเนี่ย ง่าๆ งั้นขอพูดเต็มปากเต็มคำอีกครั้ง

"เสียดายแฮะ"

อิอิ


โดย: แจ็คเก็ตสีแดงโง่ๆ IP: 58.10.65.27 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:18:59 น.  

 
แวะมาทักทายและมาอ่านด้วยค่ะ
มีความสุขมากๆนะค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:25:42 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:32:51 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:47:56 น.  

 
Good



หัวใจผูกกัน เป้นเพลงที่เพราะมาก




อืมมันเข้ากับทุกสถานนการณื





พอลร้องเพลวนี้ไปแล้วนึกถึงสิ่งดีๆ แล้วมันจะคอนตืนช่วยเวลาดีๆเอาไว้





ถ้าคิดมากหรือเดินต่อไปไม่ไหวก้คิดถึงเพลงนี้น่ะ





สู้แล้วๆกัน


โดย: hmoo IP: 58.9.35.218 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:23:26 น.  

 
อ๊อฟ >>> ขอบใจมากมายสำหรับกำลังใจดีๆ และแรงยุว่ะเพื่อน

จริงๆแล้ว เครื่่องดื่มแอลกอฮอล์ดื่มมากมันก็ไม่ดีหรอกนะ ใช่มัั้ยล่ะ?

คุณ whitelady >>> ขอบคุณนะค่ะที่แวะมาอ่าน

คุณโยเกิตมะนาว >>> แม้จะแวะมาทักทาย แต่ก็ขอบคุณนะค่ะที่มาเยี่ยมกัน

คุณ เริงฤดี >>> ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ รู้สึกดีจริงๆค่ะ

hmoo >>> นั่นสินะหมู เพลงนี้ น้องจิ๊บคิดได้ไงก็ไม่รู้ เรากลับคิดถึงเพลง แค่หลับตา ของบอดี้แสลมว่ะ มันเหมือนจะไม่เกี่ยว แต่แค่รู้สึกว่า แค่หลับตาลง ความทรงจำต่างๆ ก็กลับมา รู้สึกดีมากมาย
ขอบคุณสำหรับอีก 1 แรงยุที่ทำให้เราได้เจออะไรดีๆแบบนี้ว่ะหมู ขอบใจแกมากๆ


โดย: ปากกาฯ IP: 125.24.126.169 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:42:28 น.  

 
จอมเก่งกว่าที่จอมคิดถึงตัวเองไว้มากเชียวล่ะน้องเอ้ย

เป็นผู้ใหญ่เกินกว่าวัยและความตั้งใจของตัวเองด้วย(ไม่รู้ตัวล่ะสิ)

โดยเฉพาะการยังจดจำความรู้สึกเมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้อย่างแม่นยำราวกับมันเป็นแค่เมื่อวาน

พี่ก็ได้อานิสงฆ์จากจอมแหละมาจับกล้อง ได้มีเรื่องพูดคุยกับเพื่อนๆในทริป

สำหรับพี่ พี่คิดว่าที่นั่นเหมาะกับการปลูกฝัน อย่างน้อยมันก็ไม่มีแมลงที่กัดกินฝันคนอื่นเหมือนที่ที่เราอยู่ หากจอมและเบียร์ยังไม่รู้ว่าฝันของตัวเองคืออะไร อย่างน้อยการร่วมยินดีกับฝันของคนอื่นและไม่ดูถูกมัน พี่ว่านั่นคือจรรยาบรรณขั้นต้นของคนมีฝันแล้วนะ

งานนี้พี่ได้เพื่อนมาเป็นกระบุงโกย เพื่อนที่พี่รู้สึกว่าที่ผ่านมา(สำหรับบางคน)ยังไม่เคยได้เพื่อนอย่างนี้เลย เราเกาะกันทางกายภาพอย่างหลวมๆแต่ทางด้านความรู้สึกพี่ว่า"หัวใจผูกกัน"คงบรรยายสิ่งนั้นได้ดีอยู่แล้ว

พี่ก็ไม่อยากมีชื่อตัวเองในหนังสือตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ แต่อยากให้ตัวเองได้ไปมีส่วนร่วมกับทริปซึ่งมันก็เป็นจริงแล้ว

ที่สำคัญที่นั่นทำให้คนที่ถอดรองเท้าแล้วอย่างพี่ เท้าอุ่นขึ้นมาได้อีกทีล่ะ


โดย: พี่จิตร IP: 124.120.168.223 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:46:22 น.  

 
ตามคำเรียกร้องของเพื่อนที่ชื่อ จอมครับ
หลังจากโดนคุณเพื่อนยัดหนังสือมาให้เล่มนึง
อ่านแล้ว เออดีว่ะ จอมเด้วจะลองเปลี่ยนแนสอ่านจาก ฆ่ากรรมสืบสวนมาเป็นแนว
แบบที่มีหลักคิดหลักยึดเหนี่ยวดู


โดย: than (ราม-ไทย-จีน ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:46:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปากกาไฮไลท์สีแดง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ปากกาไฮไลท์สีแดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.