ฮัลโหลสาวๆ ฝนมีโอกาสได้ไปร่วมงานพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งสูตรใหม่จาก นีเวีย มาค่ะ ซึ่งบรรยากาศในงานก็เป็นกันเองมากที่สำคัญเลยทางแบรนด์เชิญผู้ใช้จริงที่เคยใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ตัวเก่าให้ได้มาลองพิสูจน์ สูตรใหม่ นีเวีย ไมเซล่า วอเตอร์ไปพร้อมกันด้วย

ว่ามั้ย? ช่วงนี้มี Micellar Water ออกมาใหม่ให้เราลองเยอะมาก เลือกไม่ถูกกันเลยใช่มั้ยล่ะ ตัวที่ฝนจะพูดถึงและเล่าให้ฟังไม่ใช่ตัวใหม่หรอกค่ะ แต่เป็นตัวที่ NIVEA ปรับสูตรมาจากตัวเดิมของเค้า ซึ่งแน่นอนค่ะประสิทธิภาพดีขึ้นแน่นอน

ตัวที่พูดถึงคือ NIVEA Micellar Water สูตรใหม่จะมีทั้งหมด 3 สูตรค่ะ

1. NIVEA Micellar Water Extra Bright (สีชมพู) สูตรเอ็กซ์ตร้าไบร์ท สำหรับผิวธรรมดา หมองคล้ำ

2. NIVEA Micellar Water White Oli Control (สีเขียว) สูตรออยล์คอนโทรล เพื่อผิวผสม – ผิวมัน

3. NIVEA Micellar Water Acne Care (สีม่วง) สูตร แอคเน่แคร์ เพื่อผิวมัน มีปัญหาสิว

ลองเขียนเล่นและลองเทสในงานกันเลย!!!

ตัวที่เขียนมีทั้งเมคอัพที่กันน้ำและแบบธรรมดาค่ะ แค่ 3 สเตป “ชุบ แช่ เช็ด”

อื้มหืม!!! สะอาดหมดจดเลย

กล่องที่ได้กลับมาจากงานจะมี Eye Make up Remover มาด้วย แต่ฝนจะเน้นรีวิวตัว NIVEA Micellar Water นะคะ ส่วนกล่องนี้ได้กลับมาจากงานค่ะเป็นสูตร NIVEA Micellar Water White Oil Control (สีเขียว) เป็นสูตรสำหรับสาวผิวผสมถึงผิวมัน  ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ ไม่มัน ผิวเด้งใสไกลสิว และกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมขจัดความมันส่วนเกินด้วยส่วนผสมของ Carnitine ด้วยค่ะ

มาทำความรู้จักกับ NIVEA Micellar Water นีเวีย ไมเซล่า วอเตอร์ กันก่อน ว่าทำไมถึงเป็นคลีนซิ่งสูตรน้ำที่เช็ดเครื่องสำอางและล้างเมคอัพกันน้ำได้ อีกทั้งยังทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดและอ่อนโยนด้วย นวัตกรรมไมเซล่าสามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดไม่แพ้ผลิตภัณฑ์แบบน้ำมัน แต่อ่อนโยนเพราะใสบริสุทธิ์เหมือนน้ำเปล่า ทำให้ไม่เป็นคราบมัน หลังใช้ยังคงความชุ่มชื้นไว้บนผิว ซึ่งตัวไมเซล่านี่แหละค่ะที่ทำหน้าที่ดักจับพวกคราบเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก รวมถึงความมัน ทำให้ประสิทธิภาพการเช็ดทำความสะอาดมันดีเยี่ยมขึ้น และเป็นสูตรออกซิเจน บูสท์ ที่ช่วยเติมออกซิเจนให้กับผิวหน้า เพิ่มการส่งผ่านออกซิเจนระหว่างเซลล์ผิว เหมือนเติมออกซิเจนทุกครั้งที่ใช้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ คงความชุ่มชื้น นุ่มนวล เรียบเนียน กระจ่างใส ไม่แห้งกร้าน

อ่อนโยนกับผิวด้วยสูตร 0% แอลกอฮอล์ ตัวการสำคัญที่ดึงน้ำมันและความชุ่มชื่นออกจากผิวทำให้รู้สึกดีในระยะแรกๆ แต่พอใช้ไปนานๆ หน้ายิ่งกร้านเสีย ตัวนี้ไม่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและอุดตัน ได้แก่ พาราเบน , สีสังเคราะห์ , ซิลิโคน และ น้ำหอม  มีค่า pH เท่ากับน้ำเปล่า ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและจักษุอีกด้วยค่ะ

บำรุงเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น 10 ชนิด และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ อย่างสารสกัดเมล็ดองุ่น น้ำมันอันล้ำค่าที่ช่วยลดความแห้งตึงและหยาบกร้านของผิวจึงทำให้หลังใช้ ผิวยังคงนุ่มไม่แห้งตึง

แต่งหน้าแน่นๆแล้วมาลองลบกัน

เพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆ

1. ชุบ > ไมเซล่า วอเตอร์ให้ชุ่มสำลี

2. แช่ > วางสำลีลงบนผิวสักครู่เพื่อให้พลังไมเซล่าดูดซับเมคอัพ

3. เช็ด > เอาสำลีลูบเบา ๆ ไปตามผิวและเช็ดเบาๆ ให้ทั่วหน้า

เพียงแค่นี้ก็จะสามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้าได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำร้ายผิวอีกด้วย หลังใช้ทันที ฝนล้างตามด้วยน้ำเปล่าแล้วซับให้แห้งโดยที่ไม่ได้ทาครีมใดๆเลย  

หลังผ่านสงครามกันมา!!! ใช้ NIVEA Micellar Water เช็ดทั่วทั้งหน้า สะอาดหมดจดตั้งแต่คิ้ว ตาปาก และทั้งหน้าเลยค่ะ

จบแล้ว!!! สรุปว่า NIVEA Micellar Water นีเวีย ไมเซล่า วอเตอร์ สูตรใหม่ เป็นคลีนซิ่งสูตรน้ำที่เช็ดเครื่องสำอางและล้างเมคอัพกันน้ำได้ดี ยังทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดและอ่อนโยนด้วยเพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งผิวบอบบางแบบฝนให้ ผ่าน!!!! ใช้มาแล้ว 2 อาทิตย์ รอด!!!!

ขอทิ้งท้ายไว้หน่อยนะจ๊ะ แต่งหน้าแล้วก็ต้องดูแลเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้ากันด้วย การรักษาผิวหน้าไม่ได้ทำกันวัน สองวันแล้วจะเห็นผลเลย ของแบบนี้ต้องทำทุกวัน ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะไม่มีแรงเลยถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย จงดูแลรักษาผิวหน้าเหมือนรักษาเงินในกระเป๋า ฮ่าฮ่า ขอบคุณสำหรับการรับชมค่ะ

ใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ //bit.ly/NewNIVEAMicellarWater

#NIVEAMicellarWater

Her Highness

Instant Bright Hydrating Tone-up Cream with Royal Jelly SPF50 UVA UVB PA++

ความฟิน! ของตัวนี้ คือทาแล้วหน้ามันไบรท์โกลว์ขึ้นมาทันทีเลย ดูเปล่งปลั่งมาก ผิวเปลือยแต่สวย แถมยังช่วยให้หน้าใสขึ้นด้วย ถ้าใช้เป้นประจำอย่างต่อเนื่อง เพราะมันมีทั้งอัลฟ่าอาร์บูติน กลูตาไธโอน และวิตามินซี ซึ่งสาวๆ ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าส่วนผสมพวกนี้เป็นไวท์เทนนิ่ง ให้ความชุ่มชื้นมากๆ เค้ายังใส่นมผึ้งเข้มข้น (รอยัลเจลลี่)ด้วยนะ เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นสีขาว ทาแล้วไม่เหนอะหนะคะ แต่ก็ไม่ถึงกับซึมเข้าไปในผิวทันที เพราะเค้าไม่ใส่แอลกอฮอล์ แต่โดยรวมแล้วถือว่าซึมไวอยู่ นอกจากนี้ โทนอัพครีมยังมี SPF สูงถึง 50 พร้อม PA+++ อีกด้วย ถือว่าสะดวกมากจริงๆ คือตัวเดียวจบเลย สำหรับคนที่ไม่ชอบทาครีมหลายๆชั้นและไม่ชอบกันแดด สำหรับคนหน้ามันเป็นสิวง่าย ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี เพราะ โทนอัพครีมไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันของสิว และมี Witch Hazel Extract ด้วย ซึ่งช่วยลดความมันบนใบหน้า และกระชับรูขุมขน

ข้อดีสำหรับคนผิวแพ้ง่ายอย่างฝนเลย ตัวนี้เป็นสกินแคร์ปลอดภัย ปราศจากสารฟอกสีที่ทำร้ายผิว สเตียรอยด์ น้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และสารกันเสียพาราเบนด้วยค่ะ

เวลาใช้ ปั๊มออกมาแค่ทีเดียว เนื้อครีมเข้มข้น แค่นี้ก็ใช้ได้ทั้งใบหน้าแล้ว

สรุปคุณสมบัติของ Tone-Up cream SPF50 PA+++ Royal Jelly นะคะ

●      ปรับผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใสพร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอในทันที

●      ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำลดรอยฝ้ากระจุดด่างดำปรับสีผิวให้สม่ำเสมอกระชับรูขุมขน

●      ลดเลือนริ้วรอยพร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก

●      ปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB และมลภาวะด้วยSPF50 PA+++

●      เนื้อครีมบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ

หลังใช้ ด้านซ้ายจะปรับสีผิวให้สว่างขึ้น เป็นธรรมชาติ โดยไม่วอก ชุ่มชื้น แต่ไม่ปกปิดรอยสิวนะคะ

ทาโทนอัพครีมทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกวัน เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงก่อนการแต่งหน้าค่ะ

สำหรับใครที่ไม่ได้มีรอยศึกสงครามที่หนักหนามากๆ จะออกไปไหนแค่ใกล้ๆ บอกเลยใช้ใช้ตัวนี้ตัวเดียวจบเลย! เพราะเป็นทั้งครีมบำรุง ปรับสีผิวให้ใสโกลว์ อีกทั้งยังมีกันแดดในตัว เป็นครีมหน้าสดเลยก็ว่าได้ อิอิ

หลังลงครีมบำรุงตัวนี้ ฝนก็ขอเติมหน้านิดนึงด้วยแป้งและแต่งหน้าเพิ่ม ส่วน ใครจะตามด้วยแป้งพัฟ แป้งฝุ่น หรือกลัวหน้าไม่แน่นพอก็จัด BB Cream หรือรองพื้นตามได้เลย เหงื่อออกยังไงก็ไม่เป็นคราบให้กวนใจ ไปเที่ยวต่อได้สบายมาก

จบแล้ว! เป็นยังไงกันบ้างคะ ฝนมารีวิวเอาไว้เป็นอีกทางเลือกให้กับสาวๆที่ชอบทางลัดในการบำรุงผิว หวังว่าจะชอบกันนะคะ ง่าย สะดวก สวยในกระปุกเดียวเลย

ราคาตัวนี้ 890 บาท

ใครสนใจสามารถหาซื้อได้ที่ Eve and Boy, Beauty Market, Beautrium, TrueSelect, Miss Beauty, Lazada, Konvy, Shoppee

Sena Marine Plankton Water Serum Concntrate

ราคา 1,150 บาท

Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate เซรั่มเนื้อน้ำ ส่วนผสมสำคัญคือ Marine Plankton Stemcell Complex หรือที่เรียกว่าสารสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล 8% เป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากทะเล ที่มาจากทั้งแพลงก์ตอนพืชอย่างสาหร่ายทะเลสีแดงและสีน้ำตาล ตัวนี้ช่วยคืนความชุ่มชื่น ช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอยต่างๆ รอยแดง กระชับรูขุมขนที่เห็นชัดให้ดูเลือนลง ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวให้เนียนนุ่ม เติมความชุ่มชื่นให้กับผิวลดความแห้งกร้าน ปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้ผิวอิ่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอและรักษาระดับปริมาณน้ำในผิวด้วยค่ะ

Lancome ÉNERGIE DE VIE Smoothing & Plumping Pearly Lotion

ราคา 2,000 บาท

ตัวนี้เป็นเนื้อโลชั่นอัดแน่นด้วยประกายมุกโปร่งแสง คือตอนเทออหมาเนี่ยจะเห็น texture แบบกากเพชรประกายมุกจริงๆ แต่พอทาลงไผบนผิวก็จะหายไปค่ะ ตัวนี้ให้ความรู้สึกบำรุงแบบออยล์ แต่ไม่มันพร้อมให้ความสดชื่นเหมือนเติมน้ำให้ผิว ซึมง่ายไม่เหนียว ใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ตัวนี้ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ พร้อมคุณค่าแอนตี้อ็อกซิแดนท์ เพื่อผิวที่ได้รับการฟื้นคืนความมีชีวิตชีวา สดใส เปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพดี

ประกอบด้วยส่วนผสม 3 ชนิด ซึ่งสกัดจากพืชสมุนไพร

เฟร้นช์ เมลิสา (French Melissa ) 30 ใบ

Lancome ÉNERGIE DE VIE Overnight Recovery Sleeping Mask

ราคา 3,500 บาท

สลีปปิ้งมาสก์ เนื้อครีมเนียนละเอียด เนื้อดูหนัก แต่ทาแล้วเบาสบายผิว ช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ชุ่มชื่น และอิ่มน้ำ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวดูมีสุขภาพดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้หลังจากวันอันแสนวุ่นวาย หรือเมื่อต้องการฟื้นบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน ช่วยลดอุณหภูมิผิวลงให้ความรู้สึกสดชื่นถึงขีดสุด ฝนใช้ทาในวันที่รู้สึกว่าหน้าเจอมลพิษหรือเหนื่อยล้ามากๆ ตัวนี้ทาก่อนนอนเนื้อครีมเวลาทาดูหนักเหมือนเอาไพรเมอร์มาฉาบไว้ แต่สักพักจะแตกเป็นละอองน้ำไม่เหนียวเลย ตื่นเช้ามาเหมือน refresh ได้ผิวใหม่เลย

อีก 3 ตัวต่อไปจะอยู่ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ KOHAKU HADA ซึ่งคุณสมบัติจะเหมือนกันเลย แตกต่างที่สูตรที่ให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน ฝนขอเขียนรวมๆไปเลยนะคะ ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อความอ่อนเยาว์ ใหม่ล่าสุดจากบริษัท Yamano จากประเทศญี่ปุ่น มีส่วนผสมจากสารสกัดจากอำพันที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อใช้เป็นประจำ มีน้ำมัน 3 ชนิดด้วย Olive Oil, Jojoba Oil, Macadamia nut Oil ปราศจาก สารกันเสีย (Paraben), Alcohol, น้ำหอม, และ สีผสม

ด้วย Kohaku Extract ที่ไม่เพียงซึมซาบลงสู่ผิวแต่ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในส่งผลให้การบำรุงของส่วนผสมต่าง ๆ กับผิวอย่างต่อเนื่อง คุณจึงรู้สึกได้ถึงผิวที่ดูกระชับอย่างน่าอัศจรรย์ โดยผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ

• ผิวที่เนียนนุ่ม ด้วยน้ำมันสกัดจากพืชถึง 3 ชนิดที่มีอยู่ใน Kohaku Hada จะซึมซาบลงสู่ผิวให้ความชุ่มชื้น ให้ผิวคุณรู้สึกเนียนนุ่ม

• กักเก็บส่วนผสมแห่งอำพันไว้ในผิว Ceramide ที่มีส่วนประกอบเสมือนกับของเหลวที่ไหลเวียนระหว่างเซลล์ผิวแต่ละเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่ในการช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นดุจสัมผัสแห่งไหมที่ช่วยให้สารสกัดจากอำพันบำรุงผิวจากภายใน

• ช่วยการไหลเวียนของสารสกัดจากอำพันดียิ่งขึ้น เมื่อส่วนผสมสามารถไหลเวียนในผิวได้ดีขึ้น สารสกัดจากอำพันจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการผลิต Hyaluronic acid และ ช่วยการการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
  
  

   

มาดูตัวแรกกัน

ด้วยเนื้อสัมผัสของโลชั่นเข้มข้นชุ่มชื้นแต่เบาสบายให้ผิว

ช่วยเรื่องความกระชับและความชุ่มชื้น

โลชั่นที่ช่วยกักเก็บสารสกัดจากอำพันไว้ภายในผิว ให้ผิวรู้สึกตึงกระชับที่รู้สึกได้แม้ในเช้าวันต่อมา

มาส์กครีมที่จะช่วยรักษาสารสกัดจากอำพันไว้ในผิวเพื่อการบำรุงตลอดวัน เป็นได้ทั้งบำรุงตอนเช้าและบำรุงตอนกลางคืน

Aqua+ Series Multi Peptide Rejuvenating Mask

ราคา 930 บาท

ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงและมาส์กผิวหน้า ฝนใช้ก่อนนอนสลับกับตัวอื่นๆค่ะ ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และมอบความชุ่มชื่นเพียงข้ามคืน ด้วยนวัตกรรมที่ได้รับการออกแบบเพื่อเสริมสร้างความสมดุลของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่น สีผิวแลดูสม่ำเสมอ และมีสุขภาพดี

Aqua+ Series Purifying Cleansing Water

ราคา 950 บาท

ตัวนี้เป็น Cleansing Water ช่วยขจัดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก อ่อนโยนพร้อมส่วนผสมจาก Ac.net ที่จะช่วยดูแลผิวและลดการอักเสบที่ก่อให้เกิดสิว พร้อมขจัดความมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผิวแลดูสวยใสเป็นธรรมชาติ เช็ดออกทั้งเครื่องสำอางกันน้ำ รองพื้น รวมไปถึงลิปสติกด้วยจ้า

หมดแล้ว!!! สำหรับสกินแคร์ทั้ง 6 เดือนที่ผ่านมา หวังว่าสาวๆที่หน้าแห้ง ผิวขาดน้ำจะได้ประโยชน์จากรีวิวนี้นะคะ ก่อนตัดสินใจซื้ออย่าลืมดูดีๆก่อนนะว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวไหน

#จงไปลองด้วยตัวเอง #ดีหรือไม่ดีชอบหรือไม่ชอบตัวคุณเองเป็นคนตัดสินใจ

เจอกันใหม่รีวิวหน้า บายจ้า

ฮัลโหลลลล สาวๆ กลับมาเจอกันอีกแล้วกับ ฝน Rainyseasons ครั้งนี้ฝนจะมาลองผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางตัวใหม่แบบ first impression ไปพร้อมๆกัน ถ้าพูดถึงการเช็ดเครื่องสำอาง สาวๆจะนึกถึงเนื้อสัมผัสแบบไหนบ้าง เช่น แบบเจล แบบน้ำ แบบน้ำมัน หรือแบบแผ่นเช็ดทำความสะอาด แน่นอนว่าก่อนเลือกใช้ก็ต้องดูสภาพผิวของตัวเองกันก่อนนะจ๊ะ

ก่อนจะไปลอง มาดูสภาพผิวหน้าของฝนตอนนี้กันก่อนค่ะ ผิวแห้ง-ผิวผสม ช่วงนี้หน้ามีความมันช่วง T-Zone แพ้ง่ายมีสิวนิดหน่อย

สำหรับตัวที่พูดถึง คือ Garnier micellar cleansing water (การ์นิเย่ ไมเซลลาร์ วอเทอร์) ซึ่งถือว่าเป็นการพลิกโฉมของการ์นิเย่เลยก็ว่าได้ เพราะเค้าออกตัวเช็ดเครื่องสำอางมาเป็นตัวแรก

Garnier micellar cleansing water มีตัวเลือกสองสูตรนะคะ

สีชมพู สำหรับผิวธรรมดา-ผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย

สีฟ้า สำหรับผิวมัน-ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย

วันนี้ฝนหยิบตัวสีชมพูมาลองค่ะ ไปลองพร้อมกันเลย

เนื้อคลีนซิ่งเป็นน้ำใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงนะคะ

ขวดใหญ่ 400 ml ราคาก็ดีด้วย 249 บาทเท่านั้น

แพคเกจ ฝาเปิด-ปิด ออกแบบมาใช้งานง่าย เปิดง่ายไม่แข็งไม่เจ็บมือค่ะ

มาลองเทสที่แขนกันก่อน ฝนลองปาดรองพื้น อายแชโดว์ อายไลเนอร์กันน้ำ ลิปสติก เทตัวคลีนซิ่งแล้วแปะทิ้งไว้ หลังจากนั้นรูดเลยค่ะ ทีเดียวออกง่ายมาก ไม่ต้องถูหลายครั้งเลย

ลองที่แขนแล้ว ก็ต้องมาลองที่หน้า จะได้รู้ว่าเมคอัพจะออกจริงไหม แล้วเนื้อสัมผัสจะระคายเคืองกับผิวหน้าหรือเปล่า?

- เช็ดเมคอัพได้หมดจด ทำงานคล้ายกับแม่เหล็ก ที่ดูดเอาเมคอัพออกจากผิวเลย

- จบในขั้นตอนเดียว เช็ดได้ทั้งหน้า คิ้ว ตาและปาก ปาดทีเดียวไม่ต้องถูๆ ขัดๆ ให้ระคายเคืองผิวหน้าเลย

- สะอาด 100% ในขั้นตอนเดียว

- อ่อนโยนเพราะไม่ต้องขัด ถู ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวเหี่ยวย่น

- คลีนซิ่งเป็นแบบน้ำก็จริง แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แถมยังรู้สึกเพิชุ่มชื่นด้วย

ลองเช็ดเทียบกันไปเลยหลุดออกหมดจริงๆ

คราบศึกสงครามที่เช็ดออกมา นี้แค่หน้าข้างเดียวนะ!!!

ขั้นตอนเดียวจบเลย เช็ดได้ทั้งหน้า คิ้ว ตา ปาก สะอาดครบทั้งหน้า ดูดเครื่องสำอางกันน้ำ ดุจแม่เหล็กโดยไม่ต้องถูให้หน้าระคายเคือง

ผลลัพธ์ที่ลองใช้ครั้งแรก Garnier Micellar Water แตกต่างจากยี่ห้ออื่นยังไง

ฝนว่าด้วยเนื้อคลีนซิ่งที่มาในรูปแบบน้ำแต่พลังในการเช็ดเมคอัพดีมาก จากที่อ่านด้านหลังเห็นว่าเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Micellar technology ซึ่งก็คือการรวมกลุ่มของ surfactant ให้เป็นโมเลกุลกลุ่มให้มีพลังในการดูดจังสิ่งสกปรกมากขึ้นกว่าโมเลกุลเดี่ยวนั้นเองค่ะ ทำงานคล้ายกับแม่เหล็ก ที่ดูดเอาเมคอัพออกจากผิวเลย คือแค่แปะทิ้งไว้แล้วค่อยๆ รูดออก สะอาดหมดจด ไม่ต้องใช้ eye remover เช็ดส่วนตาปละปากก่อน ไม่ยุ่งยากด้วย หลังใช้ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แถมยังชุ่มชื้นขึ้น ที่สำคัญขวดใหญ่บึ้มขนาดนี้ ราคา 249 บาท ใช้ได้ยาวๆเลย

สำหรับสาวๆที่กลัวว่าผิวหน้าแบบฉันจะใช้ได้ไหม ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะว่า เค้ามีตัวเลือกสองสูตร

สีชมพู สำหรับผิวธรรมดา-ผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย

สีฟ้า สำหรับผิวมัน-ผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย

หวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกให้กับสาวๆที่กำลังมองหาคลีนซิ่งตัวใหม่ไซส์ใหญ่บึ้ม ราคาถูก คุณภาพดี

ใครผิวหน้าแบบไหน ลองเลือกสูตรให้ตรงกับปัญหาผิวหน้ากันนะคะ สำหรับวันนี้ขอบคุณสำหรับการรับชมค่ะ