ฉันชอบหน้าฝน...รักหน้าฝน...และเกลียดหน้าฝน


เมื่อจู่ๆ เส้นทางที่เดินมาตลอดก็ถึงทางตัน

อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลเมื่อต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วหันหลังกลับ

จำใจต้องวางภาระทุกอย่างที่เคยแบกไว้ด้วยความเต็มใจลงเสียที

จะให้ทำยังไง ทั้งๆที่อยากจะไปต่อ แต่ว่ามันไปไม่ได้อีกแล้ว

ฝากคำขอโทษไปถึงคนที่รักทุกคน ที่จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีการวิ่งหนีอย่างคนขี้ขลาด




ชอบหน้าฝน...

เพราะหน้าฝนเป็นฤดูกาลที่ก่อให้เกิดการเริ่มต้น

เมื่อเมล็ดพันธ์ที่กำลังจะแห้งเหี่ยวได้รับความชุ่มฉ่ำจากน้ำ

มันก็เริ่มเติบโต

ก้าวแรกของฉันบนถนนสายนี้ ก็เริ่มต้นในวันที่ฝนตก


รักหน้าฝน...

ฉันไม่กลัวเปียก เพราะหยดน้ำที่ไหลลงมาอาบแก้มของฉันนั้นเป็นน้ำที่มาจากท้องฟ้า ไม่ใช่จากดวงตา

ฉันไม่กลัวการเป็นหวัด เพราะมันทำให้รู้ว่าฉันรักและห่วงใยใครบางคนเพียงใด เท่าๆกับที่ได้รับรู้ถึงความรักจากคนๆนั้น

ฉันไม่กลัวฟ้าร้อง เพราะเสียงดังของมันบ่งบอกว่านางเมขลายังคงรักการหยอกล้อกับคู่ปรับอย่างรามสูรอย่างไม่รู้เบื่อ

และตอนเย็นของวันที่ฉันประสบความสำเร็จที่สุดบนถนนสายนี้ ฝนก็ได้โปรยปรายลงมา


เกลียดหน้าฝน...

ทุกครั้งที่ลมพายุพัดแรง ฉันเหงาจับใจ

บางครั้งความเยือกเย็นก็เป็นการบีบคั้นที่รุนแรงเกินไป

แม้อยู่ในความมืด ฉันก็ยังสามารถมองเห็นได้ด้วยแสงไฟ

แต่กลับมิอาจมองเห็นหนทางข้างหน้าได้ หากตกอยู่ท่ามกลางห่าฝนเพียงลำพัง

วันนี้สานส์ส่งข่าวร้ายปลิวมาด้วยแรงของสายลมหน้าฝน

เมื่ออ่านจบ

สายฝนก็ร่วงหล่นลงมาตอกย้ำ พร้อมๆกับที่น้ำตารินไหล

ถนนสายนี้สิ้นสุดลงในหน้าฝน ฤดูกาลที่ฉันรักที่สุดนี่เอง







Create Date : 29 พฤษภาคม 2550
Last Update : 29 พฤษภาคม 2550 6:42:59 น.
Counter : 632 Pageviews.

5 comment
บ่นๆๆๆ เหงามากวันนี้

ทำไมวันนี้มันเหงาอย่างนี้ล่ะคะ เราไม่อยากทำงานเลย คิดถึง thesis ก็เครียดทุกที เพื่อนๆก็นอนกันหมดแล้ว (ใครจะอยู่เป็นนกฮูกได้อย่างเธอเล่า)

ตั้งแต่เปลี่ยน thesis ใหม่ ก็ไม่ได้มาอัพบล็อกเลย เพลงก็ไม่ได้เอามาลง กะว่าเดี๋ยวจะจัดเพลงของพี่โด่ง (AF3) มาลงให้ครบเลย 555

thesis ใหม่สนุกดี มันเป็นหัวข้อที่ขึ้นอยู่กับตัวเองล้วนๆ ทำได้ดีก็จะได้ชมตัวเอง ทำแย่แปลว่าเราเองที่ห่วย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ชีวิตต้องขึ้นอยู่กับโรงงานๆๆ แล้วก็อาจารย์ๆๆ แต่ตอนนี้มันเกิดปัญหาซะแล้วล่ะ ดันแก้โปรแกรมไม่ได้นี่สิ งานไม่เดินมาสองเดือนแล้ว ทำไปเท่าไหร่เหมือนมันสูญเปล่า

วันนี้ดูพี่โด่งในตีสิบ เฮ้อ คนอะไรน่ารักจัง ตอนเด็กๆก็เคยฝันอยากเป็นนักร้องนะ แต่เจียมตัวว่าตัวเองไม่สวย สมัยนั้นนักร้องต้องสวยๆหล่อๆ ประก่งประกวดอะไรก็ไม่มี นี่ถ้าเกิดช้ากว่านี้ซักสี่ห้าปีคงจะดี พ่อคงดีใจ เพราะพ่อก็เป็นนักร้อง เห็นพ่อบอกว่าตอนหนุ่มๆเคยได้อัดแผ่นเสียงขายด้วย แต่ไม่ดัง ไม่รู้จริงรึโม้ 555 พ่อช้านนน

คิดถึงตอนเด็กๆจัง นอนหลับอยู่ข้างเวทีเกือบทุกวัน ที่กินข้าวเย็นประจำคือศาลเจ้าที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โต๊ะจีนซะด้วย มีพ่อเป็นนักร้องก็ดีอย่างงี้แหละ พ่อหวังมากเลยนะว่าลูกคนนี้จะเดินตามรอยพ่อ แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง ลูกดันจะไปเป็นวิศวกร ไปเป็นสาวโรงงานซะแล้ว

บ่นอะไรนี่ชั้น ดึกดื่นไม่ยอมนอน งานก็ทำไม่ได้ ไม่มีกำลังใจ ไม่เป็นไร บ่นๆไว้นี่แหละ ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่ได้มาอ่านคงรู้สึกดี







Create Date : 27 กันยายน 2549
Last Update : 27 กันยายน 2549 3:17:42 น.
Counter : 355 Pageviews.

2 comment

ด้วยรักและปลาทู
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]