บันไดมนุษย์ images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
ทริปเวียดนาม วันที่สี่ Dec 5: Sapa trekking

วันนี้ผมมีนัดไปเดินสำรวจหมู่บ้านชาวเขา โดยที่จอง Trip นี้กับโรงแรมที่ผมพักในราคาคนละ $9 โดยที่เค้าไม่ได้เป็นคนนำไปเอง แต่ส่งไปในกับอีกที่หนึ่ง แต่ผมก้ไม่ได้ถามว่าโรงแรมที่จัด trip ไปนั้นเท่าไร คิดว่าไม่น่าจะต่างกันมาก

โรงแรมที่จัดนำทัวร์สำรวจหมู่บ้านครั้งนี้ จริงๆถ้าจองทัวร์กับที่นี่อาจจะถูกกว่าก็ได้ ไม่แน่ใจ


อันนี้เป็นแผนที่เมืองซาปาครับไม่เกี่ยวกับทัวร์นี้


การเดินทางครั้งมีนัดกันตอน 9 โมงเช้า รวมไกด์ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้แล้วมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน รายละเอียดของการเดินทางคือ เดินไปหมู่บ้าน Lao Chai และหมู่บ้าน Ta Van ใช้เวลา 1 วันไม่ได้ค้างแรมที่ไหน ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชม พักกินข้าวกลางวันระหว่างทาง นอกจากนี้เค้ายังมีทัวร์แบบ 2 วัน 1 คืน หรือมากกว่านั้นก็มีครับ จะพัก home stay กับชาวเขา สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยสนใจที่จะพัก home stay เนื่องจากว่าอาจจะไม่ได้พิศสมัยกับวิธีชีวิตพวกเค้ามาก

แผนที่การเดินทางวันนี้


แต่ถึงจะเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างสั้น สภาพอากาศในวันนี้ก็ยังไม่ดี อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มอุปสรรค ทดสอบความอดทนให้กับพวกเราอีกด้วย

ต้นทางของการเริ่มต้นปกคลุมไปด้วยหมอกหนา


ข้างทางเป็นที่ของชาวเขา เอาไว้ปลูกผัก


อากาศที่ยังคงหนาว เต็มไปด้วยละอองน้ำ ไม่สามารถที่จะแลเห็นถึงสิ่งแวดล้อมข้างหน้าได้


เมฆหมอกในครั้งนี้ ก็มิอาจทำให้เสน่ห์ของการเดินทางลดลง


ไม่แน่อีกหน่อยจะมีเส้นทางปูนให้เดินก็ได้


ดอกไม้ก็สามารถขึ้นมาให้ชมได้เหมือนกันแฮะ


ใช่ว่าจะเดินกันสบายๆงานนี้ เส้นทางเฉอะแฉะ และลื่นเดินลงเขานั้นทำให้ต้องระวังในแต่ละก้าวเหมือนกัน


บางครั้งก็มีต้นไม้สูงๆให้ชมด้วย


แต่ละคนระมัดระวังในการเดินแต่ละก้าวเป็นอย่างยิ่งแถวนี้


พบหมูที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ตามทางที่เดินไปด้วยครับตลกดี


ในบางครั้งจะพบกับเด็กชาวเขา จะเอาไม้ไผ่มาขายใช้เป็นไม้ค้ำยันระหว่างการเดินทาง อันนี้สำหรับบางคนช่วยได้ครับ มีหลายคนในกลุ่มที่อุดหนุน


เนินเขาที่พวกเราเดินลงผ่านมา


พื้นที่เนินเขาถูกเปลี่ยนไปเป็นนาขั้นบันได ต้นไม้ใหญ่หายไปถูกเปลี่ยนไปเป็นแหล่งทำมาหากิน


นาขั้นบันได สิ่งที่เมืองไทยไม่มี


อยากจะเห็นตอนที่มีต้นข้าวขึ้นจังเลย


ทั้งเนินเขามีแต่ขั้นบันได


เมื่อพวกเราเดินทางผ่านพ้นบรรดาเหล่าที่นาทั้งหลาย เราก็รู้สึกว่าอากาศจะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องถอดเสื้อกันหนาวที่มีอยู่ออกเกือบทุกคน ทั้งนี้เกิดจากความเหนื่อยและร้อนจากการเดิน เสื้อกันหนาวหลายหลากสีสันกับเป็นสิ่งไร้ค่าเกินความจำเป็น ซ้ำยังเพิ่มภาระให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

บางช่วงของเส้นทางเราก็พบกับเส้นทางน้ำที่เอาไว้หล่อเลี้ยงพื้นที่ด้านล่าง


น้ำตกสายน้อย


จากแม่น้ำสายน้อยรวมเป็นสายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ


ลงสู่พื้นสักพักเพื่อที่จะเดินขึ้นเขาบ้าง


พวกเราต้องเดินข้ามสะพานสลิงสีแดงนี้


ประปาภูเขา ใช้ไม้ไผ่มาทำเป็นท่อส่งน้ำจากลำธารสู่พื้นที่เกษตรกรรม


เป็นการประยุกต์เอาน้ำมาใช้ตำข้าวให้เป็นแป้ง


เครื่องมือช่วยตำข้าวของชาวม้ง พลังงานจากน้ำทั้งนั้นไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเลย


ได้พบโรงเรียนอยู่บนภูเขาด้วย แต่วันนี้ไม่มีการเรียนครับ


สภาพห้องเรียน


พวกเราพักกินข้าวเที่ยงที่นี่ ที่ๆเต็มไปด้วยเหล่าชาวม้งมาขายของให้กับนักเดินทาง


อาหารเที่ยงคือ ขนมปังกับไข่เจียว ใส่แตงกวา มะเขือเทศ ไม่มีใครบ่นกับอาหารมื้อนี้ครับ เพราะว่ากว่าพวกเราจะเดินมาถึงที่นี่ก็ปาเข้าไป 01.30 หิวมากๆ


อีกรูปของการประยุกต์ใช้ไม้ไผ่มาทำเป็นท่อน้ำ


จากที่พักกินข้าวเที่ยงพวกเราก็ต้องข้ามสะพานกันอีกแล้ว


โบสถ์คริสต์แห่งเดียวของชาวม้งหมู่บ้าน Lao Chai ปรกติแล้วชาวม้งไม่ได้นับถือศาสนายกเว้นแต่ที่นี่ ศาสนาคริสต์ถูกนำเข้ามาที่นี่ ตอนที่ฝรังเศสเข้ามายึดครองเวียดนาม


อีกหน่อยที่หมู่บ้านด้านล่างจะมีไฟฟ้ามาถึงครับ


ชาวม้งเค้าใช้น้ำมาปั่นกระแสไฟฟ้าครับ


แอบถ่ายนักเรียนชาวม้งที่หมู่บ้าน Lao Chai


ชิงช้าของชาวม้งที่หมู่บ้าน Ta Van ที่นี่เค้ามี Home stay อยู่หลายหลังเลยครับ


หลังจากที่พวกเราผ่านหมู่บ้าน Ta Van แล้วก็เป็นอันสิ้นสุดทริป 1 วันสำหรับพวกที่อยู่มากกว่า 1 วันก็จะค้างกันที่นี่ ส่วนพวกเรานั้นมีรถตู้มารับกับไปที่ Sapa รถมารออยู่แล้วไม่ต้องเสียเวลารอเลย

รองเท้าที่ผ่านการลุยมากสำหรับวันนี้


คืนนี้นั่งจิบเบียร์ยี่ห้อ Lao Cai ดีกรีแค่ 3.5% เอง ขวดใหญ่มาก


สรุป
  • ผมมีอันต้องเสียเวลาอย่างมากในการต้องล้างรองเท้าที่เต็มไปด้วยโคลน จากการเดินทัวร์หมู่บ้านในวันที่อากาศหม่นหมอง

  • เส้นทางอันนี้ไม่ยากมากสำหรับผู้ที่จะสนใจ แต่ว่าจะยากยิ่งถ้ามีฝน หรือเหมือนกับผม เพราะว่าจะต้องเดินลุยโคลน บางช่วงพวกเราต้องเดินไปตามแนวของนาขั้นบันได

  • พวกที่ไม่ชอบเลอะ หรือไม่อาจจะเลอะได้ในกรณีใดๆก็ตามควรจะหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่อากาศแย่ๆ

  • จะเห็นว่าผมเน้นเรื่องอากาศมาก เพราะว่าคนไทยไม่ค่อยคุ้นกับอากาศที่หนาว ฝนตก ชื้นแฉะในเวลาเดียวกัน แค่เครื่องกันหนาวงานนี้ไม่พอครับ มันต้องมีอุปกรณ์กันฝนด้วย

  • คำพูดที่ผมใช้บ่อยที่สุดกับชาวม้ง "No thank you" พูดจนเมื่อยเลย

  • ถ้าอากาศนี้กว่านี้หรือมาในฤดูร้อนคงจะสวยกว่านี้ครับ



Create Date : 17 ธันวาคม 2549
Last Update : 17 ธันวาคม 2549 15:49:27 น. 3 comments
Counter : 2853 Pageviews.

 








แวะมาทักทายค่ะ มีความสุขมาก ๆน่ะค่ะ


โดย: icebridy วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:19:01:12 น.  

 
น่าสนุกคะชอบลุย ๆ มันส์ ๆ


โดย: nakwan6 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:21:17:07 น.  

 
ชอบหมอกของ sapa มากๆ
(มันเยอะจนสาแก่ใจดี)


โดย: yuth IP: 58.9.150.194 วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:21:42:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลานสน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ตราบที่ยังมีความฝัน ตราบนั้นก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไป
Custom Search
Friends' blogs
[Add ลานสน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.