บันไดมนุษย์ images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
ทำอย่างไรให้รู้สึกชอบการออกกำลังกาย

ในการลดน้ำหนักนี้ การควบคุมอาหารแต่เพียงอย่างเดียวนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ แต่ว่าถ้าการควบคุมอาหารพร้อมทั้งมีการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนี้ไม่เป็นที่น่าสงสัยแต่อย่างใด ทั้งนี้ถ้าจะลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียว ณ ตอนนี้อาจจะไม่สามารถนำพาไปสู่เป้าหมายได้ วิธีที่จะช่วยให้ลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการออกกำลังกายไปด้วยมีข้อแนะนำคราวๆ 3 อย่างดังนี้

ถ้าปราศจากพลังงานจากอาหารที่เพียงพอแล้ว การออกกำลังกายก็จะกลายเป็นสิ่งที่ยากลำบากแทนที่จะเป็นเรื่องสนุก

การลดน้ำหนักโดยกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตน้อยนี้เป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันมา แต่ว่าถ้ากินคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไปก็จะไม่มีพลังงานเพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย แหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดสำหรับกล้ามเนื้อก็คือกลูโคสซึ่งก็มาจากคาร์โบไฮเดรตนั้นเอง และจะถูกเก็บอยู่ในรูปของไกลโคเจน ถ้าไม่มีไกลโคเจนแล้ว เวลาที่ออกกำลังกายก็จะมีอาการล้าที่กล้ามเนื้อ

ดังนั้นในการออกกำลังกายนี้ ควรที่จะหาอะไรกินเล่นก่อนเพื่อที่จะนำไปเป็นพลังงาน

ให้คิดว่าการออกำลังกายนี้เป็นการฝากเงิน

การออกกำลังกายก็เหมือนกับการฝากเงิน เมื่อเอาเงินฝากธนาคาร ธนาคารก็จะให้ดอกเบี้ยสำหรับเงินต้นนั้น การออกกำลังกายนี้ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็เหมือนกับดอกเบี้ยที่ได้รับจากธนาคาร แต่ธนาคารนี้เป็นธนาคารสุขภาพของเราเอง

ทั้งนี้การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ทำให้พลังงานที่มาจากการกินอาหารถูกใช้ออกไปไม่เหลือให้สะสมในร่างกาย แถมไขมันที่สะสมอยู่ยังถูกนำมาใช้ด้วยเมื่อมีการออกกำลังกายแบบเข้มข้น

ประโยชน์ของการออกกำลังกายนี้ไม่สามารถที่จะวัดเป็นตัวเลขได้

ข้อดีของการออกกำลังกายนี้ ไม่ใช่อยู่เพียงแต่ว่าสามารถที่จะเห็นตัวเลขของจำนวน Calories ที่ถูกเผาพลาญลงไปได้ แต่ข้อดีนี้มันจะเกิดขึ้นจากภายในตัวของเราเองเสียมากกว่า ตัวอย่างเช่นช่วยลดความดันโลหิต ช่วยคลายเครียด ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และอื่นๆอีกมากมาย

จากที่เขียนข้างต้นนี้ การควบคุมน้ำหนัก ไม่ใช่จะใช้การอดอาหารแต่เพียงอย่างเดียว เราควรที่จะใช้การออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ยิ่งเราออกกำลังกายมากและเป็นประจำ เราก็สามารถที่จะกลับไปกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงไปบ้าง ไม่จำเป็นต้องทนทุกข์ทรมาณกับการอดอาหารไปเรื่อยๆ



Create Date : 11 มีนาคม 2552
Last Update : 11 มีนาคม 2552 20:46:24 น. 5 comments
Counter : 8138 Pageviews.

 

การออกกำลังกาย สามารถทำได้หลายอย่าง มีทั้งกลางแจ้ง ในน้ำ ในอากาศ และในร่ม ขอเพียงเป็นการขยับตัวเคลื่อนไหว ให้ไวกว่าการขยับตัวเคลื่อนไหวตามปกติธรรมดา

ซึ่งบางชนิดการออกกำลังกาย จะใช้อุปกรณ์ไปด้วยขณะออกกำลังกาย เช่น ฟุตบอล แบดมินตัน

และหากเป็นกีฬา ก็จะมีกติกามาคอยควบคุมผู้ออกกำลังกาย

ทั้งนี้ เมื่อออกกำลังกายไประยะหนึ่ง เหงื่อจะออก

การลุกขึ้นยืน การเดิน การนั่ง การนอน การก้ม การล้างจาน การอาบน้ำ ไม่ใช่การออกกำลังกาย เพราะขยับตัวเคลื่อนไหวตามปกติธรรมดา

หากจะถามว่า ทำอย่างไรจึงจะชอบการออกกำลังกาย

คำตอบคือ ควรเลือกชนิดการออกกำลังกายที่ตนเองชอบที่ตนเองเล่นเก่ง ตนเองก็จะชอบการออกกำลังกายได้

เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ตนเองทำแล้วมันราบรื่น ไม่ตะกุกตะกัก สนุก ทำได้ดีนั่นเอง

ลองสังเกตตัวเองดูนะครับ ชอบอะไร อะไรที่ตัวเองเล่นได้และเล่นดี

บางคนจะขี่จักรยานได้ดี ถีบคล่องมาก บางคนกระโดดได้สูง เหวี่ยงแขนได้แรง อ๊ะ แบบนี้เหมาะกับวอลเล่ย์บอล

แต่ถ้ากระโดดได้ดี แต่เหวี่ยงแขนไม่ได้แรง งั้น ขอถามว่า ชอบกระโดดไหมล่ะ? ชอบจริงๆเหรอ? งั้น ไปกระโดดเชือกเถิด ...20 นาที ก็เหงื่อออกได้เหมือนกัน

อย่าออกกำลังกายตามผู้อื่น หรือตามกระแส นะครับ

เช่นเขาตีกอล์ฟกัน ก็อยากทำบ้าง โฮะ โฮะ และแล้วโกดังจะเป็นที่เก็บไม้กอล์ฟ หรือเขาไปแคลิฟอร์เนียฟิตเนตกัน ก็เอาบ้าง ไปสมัครบ้าง และแล้วก็ใช้สิทธิ์ไม่ครบ

ที่เขียนเล่ามา นี่เป็นเพียงปัจจัยแรกครับ

ปัจจัยต่อๆไป ก็เช่น อยู่ใกล้สนามกีฬาอะไร สะดวกจะไปสนามกีฬาอะไร ปัจจัยตัวนี้จะได้ไม่เป็นตัวถ่วงการไปออกกำลังกาย

คือ บางคนชอบมากที่จะเล่นบาส เล่นได้ดีด้วย แต่เมื่อจะไปเจอก๊วนของตัวเองแต่ละที โอ๊ย ต้องข้ามครึ่งกรุงเทพ อยู่พระรามสอง ไปเล่นกะก๊วนตัวเองที่ห้วยขวาง งี้

แถวๆ พระรามสอง ลองมองหาโรงเรียน ซิ คงจะมีสนามบาสบ้าง ลองไปนั่งดู นั่งคุยกะเขา แล้วขอร่วมเล่นบาสกะเขา จะได้ไม่ต้องเหาะมาถึงห้วยขวาง

พูดถึงเรื่องก๊วน ใช่บางคนติดก๊วน เล่นบอลก็ต้องก๊วนเดิม ตีกอล์ฟก็ต้องก๊วนเดิม แบบนี้ จะมีอุปสรรค

ควรที่จะเปลี่ยนก๊วนไปเรื่อยๆ อย่างตอนเรียนมหาลัย ก็แน่นอนจะมีเพื่อนซี๊ ก๊วนเดิมอยู่ แต่หากไม่เปลี่ยนเพื่อนเล่น โอ๊ะ เพื่อนๆต้องแยกย้ายไปทำมาหากิน มิใช่เหรอ? แบบจะขอติดก๊วนเดิม โอ๊ย ม่ายด้าย ม่ายด้าย ต้องเปลี่ยนก๊วนแล้ว

การออกกำลังกายที่ไม่ต้องพึ่งพาก๊วนหรือทีม ก็มีหลายอย่างนะครับ

เช่น จักรยาน วิ่ง ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก ฟิตเนส กระโดดเชือก ฯลฯ ทุกอย่างจะให้เหงื่อทั้งนั้น

สำคัญว่า เล่นอะไรได้ดีก็พยายามเลือกแบบนั้น

การออกกำลังกาย ในขั้นเริ่มต้น ไม่ควรจะหักโหมทำ หวังจะทำให้ได้เท่ากับผู้อื่น ทำไม่ได้นะครับ



ลองอ่าน คอมเมนต์ที่ผมเคยตอบเพื่อนบล็อกท่านหนึ่ง นะครับ

เรื่องวิ่งเนี่ย หากไม่เคยชินการวิ่งมาก่อน หรือนานๆไปวิ่งที ผมขอเสนอว่า ให้คุณอ้อเอาเวลาของการวิ่ง เป็นเกณฑ์นะครับ

ส่วนใหญ่หากเริ่มฝึกวิ่ง ควรจะวิ่งประมาณ 20 นาที และวิ่งแบบต่อเนื่อง ห้ามหยุดพัก ตอนนี้จะไม่ค่อยนับระยะทางกัน หรือไม่ค่อยนับรอบสนามฟุตบอลว่ากี่รอบ แต่จะนับระยะเวลาว่าวิ่ง 20 นาทีให้ได้

สามารถวิ่งช้าได้นะครับ แต่คำว่าวิ่งช้านี่ หมายถึง ควรเร็วกว่าเดิน

และหากมีความจำเป็น จะต้องหยุดวิ่งจริงๆ ก็หยุด แต่อย่าหยุดนาน ควรจะพยายามวิ่งต่อ จนเวลาครบ 20 นาทีให้ได้

วิ่ง ไม่ต้องไปวิ่งแข่งกับใครนะครับ ไม่ต้องวิ่งแข่งกับเด็ก ไม่ต้องวิ่งแข่งกับคนแก่ หรือคนที่อ้วนกว่า

คำว่าวิ่งแข่งเนี่ย คือบางทีพอมีเด็กวิ่งแซง คนแก่วิ่งแซง บางคนจะไม่ยอม จะขอวิ่งไปแซงเขากลับคืน แบบนี้ไม่ควรทำ

เชื่อมั๊ย เด็ก คนแก่ คนอ้วนบางคน เขาวิ่งเก่ง เพราะเขาวิ่งมานานนับปีแล้ว

ฉะนั้นหากใครจะวิ่งแซง ก็ให้เขาแซงไปเลย ไม่ต้องไปอายเขา คนเริ่มวิ่ง เขาจะยอมอดทน

คนที่เหนื่อยมาก เมื่อยตัวไปหมดในวันรุ่งขึ้น จนทำให้คนนั้นกลัว หลาบ ไม่ขอวิ่งอีกแล้ว ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน ก็เพราะ...

คนนั้นเริ่มฝึกวิ่ง แบบวิ่งตามคนอื่น อยากจะให้ทันเขา อยากจะวิ่งเก่งให้เหมือนเขา โฮะ โฮะ แบบนี้ ขอบอกว่า อย่า

ควรจะวิ่งตามสปีดถนัดของตัวเองดีกว่า วิ่งต่อเนื่องกันให้ได้ 20 นาที

ขอรับรองว่า เหงื่อจะออก ...และในการฝึกวิ่งวันแรกๆ ก็จะวิ่งกันเพียงแค่นี้ละ

ควรวิ่งแบบนี้ไป บ่อยๆหลายวัน อาจจะนานนับเป็นเดือนๆ ซึ่งเหงื่อก็จะออกทุกวัน พอร่างกายเริ่มปรับตัวดีขึ้น จึงจะสามารถเพิ่มเวลาการวิ่ง เป็น 25 นาทีได้ และวิ่งแบบต่อเนื่องเช่นนี้ทุกวันไปวันละ 25 นาที

จากนั้นจึงค่อยปรับตัวขึ้นไปอีก เป็นวิ่งเวลาต่อเนื่องเป็น 30 นาที แล้วก็วิ่งแบบนี้ไปอีกหลายวันอาจเป็นเดือน

แล้วจึงปรับตัวขึ้นไปอีกเป็น 35 เป็น 40 และเป็น 45 นาทีตามลำดับ

โอ๊ย นาน ไม่ทันใจวัยรุ่น

แต่ก็ต้องยอมทนนะครับ ..คนที่เขาวิ่งเก่ง คนที่เคยวิ่งแซงเรา คนเหล่านี้ทุกคน จะผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาแล้วทั้งนั้น

คือ จะต้องยอมให้ร่างกายค่อยๆปรับตัว ร่างกายของเราจึงจะแข็งแรงสามารถวิ่งต่อเนื่องนานๆได้ โดยร่างกายจะไม่ล้า ไม่เข็ดหลาบ ไม่หายใจหอบถี่ๆ แทบตาย

เรื่องความเร็ว หากไม่อยากปรับ ก็ไม่ต้องปรับหรอก เพราะการปรับความเร็วจะทำให้เหนื่อยหอบเร็ว ซึ่งจะทำให้วิ่งได้ไม่ครบเวลา

ขออย่าต้องอาย หากจะมีผู้อื่นวิ่งแซง แม้คนนั้นจะอ้วนกว่า หรือยังเป็นแค่เด็กประถมอยู่เลย

การมาวิ่ง ควรจะมาพร้อมกับสติ มาเพื่อทำให้จิตใจตัวเองสบาย มาเพื่อวิ่งเอาสุขภาพที่ดี ตะหาก ขอให้คิดเสมอว่า เรามาวิ่งวันนี้ ไม่ได้มาเพื่อจะคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่ง

หากอยากจะวิ่งแข่งจริง... โน่น ต้องรอให้ตัวเราวิ่งนานจนครบ 1 ปีไปแล้ว

ตอนนั้นเราอาจจะวิ่งต่อเนื่องกันได้ถึง 45 นาที โดยไม่ต้องหยุดพัก และคาดคะเนว่าตอนนั้นคงจะวิ่งได้ไกลประมาณ 10 กิโลเมตรแล้ว

โน่นที่ว่า คือไปสมัครวิ่งแข่ง 10 กิโลเมตร วิ่งแข่งกับตัวเองให้ถึงเส้นชัย นะครับ




โดย: yyswim วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:21:47:52 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
เราก็ชอบวิ่ง
ตอนนี้ ยังเป็นเด็กฝึกอยู่
ชิววววว


โดย: พ่อหมีใจดี วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:9:47:45 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่า เลยได้รู้อะไรดี ๆ ด้วย เพราะเราไม่ชอบออกกำลังกาย มันเหนื่อยยยยยย ... ต่อจากนี้ เราจะพยายาม
ขอบคุณนะค้า ทั้งข้อมูลดี ๆ ทั้งที่แวะไปเยี่ยมเยียนกัน
ยินดีที่ได้รู้จักค่า


โดย: manajang (tomajang ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:16:15:59 น.  

 
จะจำไปใช้บ้างค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: chinanod วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:19:32:56 น.  

 

สวัสดีวันใหม่ค่ะ

วันนี้ครัวเปิดแล้วนะคะ มากับ Oatmeal Bread cookies ค่ะ





โดย: praewa cute วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:1:16:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลานสน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ตราบที่ยังมีความฝัน ตราบนั้นก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไป
Custom Search
Friends' blogs
[Add ลานสน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.