Group Blog All Blog
|
เงาดำๆใน Cockpit ลงทุนนั่งรถเมล์ไปซื้อนะเนี่ย อีตาคนขับก็ดันขับคนละทางกับทางเดิม กว่าจะได้เมล่อนมากระแทกปากพยาธิในท้อง ก็นั่งรถไปๆกลับๆ 3 ชั่วโมงครึ่งหมดอารมณ์กินเลย เรื่องค่าจ้างตอนนี้ก็กระจ่างมากขึ้น แต่จะได้ของเก่าทั้งหมดเต็มจำนวณเมื่อไหรนั้นไม่สามารถจะตรัสรู้ค่า กว่าจะได้เรื่องก็ต้องกระจายกำลังกันไปสาธยายกับนายใหญ่กันถึงไคโรทีเดียว กว่าผู้จัดการการเงินตัวปัญหาทางเมืองไทยจะยอมรับวิธีคิดเงินแบบที่ตกลงในสัญญา ไฟล์ที่ผ่านมาเดี๊ยนก็โดนงับหัวอีกเช่นเคย แหมน้ำลายเต็มหัวอีกแล้วค่ะท่านๆ โดนหน้าด้วย ขอบอก แหวะ คราวซวยของเดี๊ยนเองที่ดันมาทำพลาดทั้ง 2 ครั้งกับหัวหน้าลูกเรือคนเดิม ที่แย่กว่านั้นก็กับกัปตันดำมืดเจ้าปัญหาคนเดิม บอกได้คำเดียว "โคตรซวย" ก่อนบินก็เฮฮาสนุกสนาน โดยเฉพาะหญิงซันนี่ ที่มีกัปตันชาฮิล หัวเหม่งรูปหล่อ ใบหน้ากระเดียดไปทางยุโรปผสมเลบานีส เดินตามมาคุยด้วยตลอดจนกระทั่งตามติดมานั่งท้ายรถลูกเรือด้วยกัน ผิดวิสัยนายทั่วไปที่มักจะแยกโซนไปนั่งด้านหน้า และก็ไม่ได้มาคุยสนิทสนมออกนอกหน้ามากมายหนาดนี้ ผลพลอยได้ตกมาถึงเดี๊ยนก็ตรงที่ก.ต.รูปหล่อจ่ายทิปเผื่อเดี๊ยนและซันนี่ด้วยน่ะสิฮะ แหม ไม่ได้อยากจ่ายให้เดี๊ยนหรอกแต่ให้คนเดียวมันน่าเกลียดอ่ะดิ รู้หรอก ทุกครั้งที่ขึ้นรถลูกเรือทั้งทีมจะต้องเรี่ยรายเงินคนละ 1 ดอลล่าห์ให้กับคนขับรถที่ยกกระเป๋าให้นะคะ อันนี้เป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติทุกไฟล์ กัปตันเรียกเดี๊ยนมานั่งด้วย คุยพอเป็นพิธีก็โดนเดี๊ยนจิกกัดพอเรียกเสียงฮา ฉับพลันก็โดนสั่งให้เปิดเสียงเอ็มพี 4 เครื่องโปรดให้ดังๆ เพราะคุณพี่โคแก่จะได้เล็มน้องซันนี่ของเดี๊ยนได้ตามบาย ไรวะ ไม่เจือกก็ได้ ไปฟัง Buddha bless ต่อดีกว่า ไฟล์ขาไปลูกเรือดีเลิศ เดี๊ยนก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร เจอท่านผู้โดยหน้าเดิมๆอีก ก็เข้ามาจับมือเดี๊ยนทักทายเฮฮา อบอุ่นดีนะฮะ และแล้วนรกก็เข้ามาเยือนตอนมาถึงปักกิ่ง อย่างที่เล่าให้ฟังตอนแรกเรื่องเจ้านายทั้งหลายบนกำปั่นที่เดี๊ยนต้องเผชิญ พูดถึงลูกเรือแต่ละนายแต่ละนางดีๆแบบผิดคาดจริงๆ ซี้ๆกันมาจากไฟล์แรกเมื่อ 3 วันที่แล้ว คราวนี้ก็มาเจอกันอีก ทีมนี้มีอยู่นายนึงหน้าตาเด้งดึ๋งโดดออกมาจากชาติพันธ์ชาวยิปต์ที่เดี๊ยนและซันนี่แอบมองน้ำลายไหลเชียว ซันนี่บรรยายว่าเคยพบตาคนนี้มาแล้วบนไฟล์ไคโร-ลอนดอน สมัยเป็นแอร์ฝึกหัด ต๊ายยย ฟังดูหรูล่ะสิ แต่คงไม่ได้บินไฮโซขนาดนั้นแล้วล่ะ เดี๊ยนทั้ง 2 พอมาเจอบนไฟล์ก็ขอแกมบังคับให้ถ่ายรูปคู่ แล้วก็ตีซี้จนพ่อรูปหล่อหลุดปากว่าครั้งนึงที่เคยบินมาเมืองไทยเกือบโดนสาวเทียมหลอกฟัน เฮียยังเข็ดมาถึงทุกวันนี้ แต่วันนั้นก็ยอมให้สาวนายนั้นนอนในห้องจนถึงเช้าเพราะกลัวเป็นข่าวจากลูกเรือชาติเดียวกันลือไปทั่วบริษัทว่า........แอบ เสียเครดิตหนุ่มอาหรับว่างั้นเหอะ บางส่วนก็บินกลับไปก่อนเพราะไม่มีตารางต้องแวะปักกิ่ง ซี้หายไปหลายนาย แต่ก็มีสาวแอร์อาหรับดีๆที่นานๆเจอทีมาแบ่งกันใช้ครีมวิคตอเรียซีเครตทากันระหว่างไฟล์ แล้วก็ปลอบใจเดี๊ยนเรื่องการโดนด่าตลอดไฟล์ หายเซ็งไปได้อักโข ลุงเพอเซอร์ท้องมานอารมณ์เสียเรื่องที่เดี๊ยนและซันนี่ออกไปนอกเครื่องโดยที่ไม่ได้ขอแกก่อน ก็ผิดแหละค่าที่ติดนิสัยขอกราวสต๊าฟมาหลายเดือนโดยไม่ได้รายงานนักบินกับเพอเซอร์ เหตุที่พวกแกมักจะบอกว่า I DON"T KNOW แทบทุกครั้งที่ถาม และลงท้ายด้วยการถามทางพนักงานภาคพื้น สาวสวยอายุอานามไล่เรี่ยกับเดี๊ยนชื่อว่า เสี่ยวหยุน สาวที่มักจะชื่นชอบเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทยซะเหลือเกิน หล่อนก็เม้าท์กับพวกเดี๊ยนเป็นประจำที่ สเตชั่นปักกิ่ง เจอหน้าทีไรหล่อนก็จะถามว่าไม่ออกไปกินกาแฟสตาบั๊คเหรอวันนี้ เดี๊ยนก็อย่างเคย แก้วใหญ่ 27 หยวนสูบคนเดียว แบ่งซันนี่บ้างเล็กน้อย มันแพงนี่คุณพี่ เดี๊ยน Need Energy นะเนี่ย เรื่องที่ 2 ก็เรื่องประกาศบนเครื่องที่ทำช้า เพราะล่าสุดดีเลย์ 1 ชั่วโมง ครั้งแรกกัปตันพูดไรฟังไม่ออก กว่าจะถามลูกเรือและกว่าจะแปลเป็นภาษาสวยหรูทั้ง 2 ภาษาแถมยังต้องจัดรถเข็นน้ำบริการผู้โดยสารไม่ให้หงุดหงิดอีก ลุงเพอเซอร์ก็เกิดอาการรมณ์เสียเพราะกัปตันไม่พอใจที่ช้า เดี๊ยนเลยถูกขู่ฆ่ากินเนื้อในคาร์โก้ แถม I HATE YOU ตลอดไฟล์อีก ไรวะ อีแอร์ก็สวนกลับ This time you hate me but next time you will LOVE me. ก็ปากดีไปงั้นแหละค่า ก็โดนด่ากลับมาอีกละ หุบปากดีกว่ากรู เรื่องที่ 3 สืบเนื่องมาจากไฟล์แรกก็คือ ลุงเพอฯ อารมณ์บ่จอยอีกแล้วที่เดี๊ยนไปประกาศพีเอบนเครื่องตอน Turbulence หลังแกพูด แกให้โทรมาขอก่อนพูด ซึ่งตามจริงก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ปกติมีขอกันซะที่ไหน แต่อีตาลุงนี่ดอดพีเอชั้นธุรกิจกับชั้นเฟริสคลาสทีหลัง แถมใส่ซะ 3 ภาษาทั้งอารบิค อังกฤษ และฝรั่งเศส อันหลังนี้ไม่รู้ให้เป็ดที่ไหนฟัง ไม่เห็นมีผู้โดยคนไหนหน้ากระเดียดไปทางประเทศแถบนี้เลย กรูละงง อันสุดท้ายเดี๊ยนก็โดนเรียกไปว่าเรื่องไม่แปลที่กัปตันพูด แหม ก.ต.คนนี้บ่นมันเหลือเกิน น่าจะจับไปเป็นดีเจมากกว่านักบินนะ บินแรกๆเดี๊ยนก็แปลหรอกค่า แต่ไปๆมาๆลูกเรือซีเนียร์บอกว่าไม่จำเป็นต้องแปล ให้ฟังและแปลที่เพอร์เซอร์พูดอย่างเดียว ตกลงให้ กรูทำไงเนี่ย บินจนเป็นกิ้งก่าอยู่แล้ว ต้องคอยเปลี่ยนสีตามที่นายชอบ วันนั้นทำงานไปซะ 15 ชั่วโมงกว่าจะถึงดอนเมืองอีกครั้ง ตาก็แดงเป็นแวมไพล์เชียวคุณๆ ใส่แว่นดำอย่านึกว่าเดี๊ยนกระแดะขอร้อง ดูดีกว่าเปิดตาค่า รอรับกระเป๋าจากรถตอนถึงโรงแรมก็ต้องรีบเผ่น เพราะคุณชายกัปตันดำทะมึนมายืนข้างๆ สัญชาติญาณบอกว่า "เสร็จละมึง คราวนี้เสร็จละมึง โดนด่าอีกยกแหงๆ" เดี๊ยนก็ทิ้งซันนี่ไว้พร้อมกับข้อความแล้วโกยอ้าวเผ่นไปรอหน้าโรงแรมเรียกแท๊กซี่กลับบ้าน โอ๊ยยยยยย ชีวิตสุดถึกของนังแอร์จบลงอีกวัน กุ้งที่มิ้วไปกินมันแกะไว้หั้ยอยู่แล้วค่ะ หัวข้อเรื่องวันนี้ออกแนวน่ากลัวจัง
โดย: Milk IP: 82.194.62.23 วันที่: 5 สิงหาคม 2549 เวลา:8:43:12 น.
แหะๆลืมใส่link //milkynaka.diaryclub.com
โดย: Milk IP: 82.194.62.23 วันที่: 5 สิงหาคม 2549 เวลา:8:45:40 น.
|
Uki no Kimono
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อดีตสาวแอร์แดนทะเลทรายที่ผันตัวเองไปเป็น office lady และกลับไปเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนเช่นเคย ขอแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินชีวิตแบบชีพจรรองเท้าจากที่เคยผ่านมาทั้ง ๔ ทวีปให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจนะคะ Friends Blog
Link
|
ชีวิตแอร์แสนทรหด