|
~ผี...มือ...ถือ...อิ๊ๆๆ...~
.....เมื่อซักสามอาทิตย์ก่อน ตอนไปทานข้าวด้วยกันเพื่อนดิฉันเล่าว่าโทรศัพท์มือถือเธอดังตอนประมาณตี 4 กว่าๆ เธอกดรับ แต่ไม่ได้ยินเสียงคนพูด มีแต่เสียงก๊อกแก๊ก กุกกักกับเสียง"สิ่งแวดล้อม"...เธอวางสายไปแล้วก็หลับต่อ จนตื่นมาตอนเช้าถึงมากดดูเบอร์ที่โทร.เข้า แล้วเธอก็บอกว่าเป็น...เบอร์แม่ดิฉัน...o_O!
ตอนแรกเพื่อนดิฉันตกใจนิดหน่อย แต่พอตั้งสติได้ก็นึกได้ว่า พ่อดิฉันเอาโทรศัพท์แม่ไปใช้ตั้งแต่ตอนที่แม่ป่วย เพราะโทรศัพท์ของพ่อเสีย ซึ่งตัวดิฉันเองก็เคยผวากับเรื่องนี้มาแล้วตอนที่แม่อยู่ในicuแล้วโทรศัพท์ของดิฉันมันโชว์ว่า "แม่" โทร.มา
หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันมือถือของเพื่อนก็ดังอีกในเวลาเดิม แต่คราวนี้เธอไม่ได้ตื่นมารับสาย มาดูเบอร์miss callทีหลังก็เป็นเบอร์แม่อีก เธอก็เลยมาเล่าให้ฟัง ตอนแรกดิฉันก็คิดว่าพ่อคงบังเอิญไปกดปุ่มอะไรเข้า แต่พอนึกอีกที...พ่อเอามือถือแม่ไปใช้ก็จริง แต่ตอนหลังก็เอาซิมการ์ดอันเก่าออกแล้วเอาซิมการ์ดของพ่อใส่แล้วนี่นา จะมีเบอร์เพื่อนดิฉันอยู่ในนั้นได้ไง?...
พอดิฉันบอกไปอย่างนั้น เพื่อนก็ดูหวาดผวาไปเล็กน้อย ดิฉันก็เลยบอกว่า...แม่เค้าคงอยากฝากให้แกดูแลฉันมั้ง?...
แต่ก็มีโทรศัพท์ครั้งที่ 3 ตามมา คราวนี้เธอหน้าตื่นมาหา บอกว่าแม่โทร.มาอีกแล้ว ดิฉันก็หัวเราะแล้วบอกว่า "ยังไม่ชินอีกเหรอ?" เพื่อนก็ยืนยันว่า..."จริงๆนะเว้ย แม่โทร.มาจริงๆ แกไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ?" แล้วเธอก็กดให้ดูเบอร์ที่โทร.เข้ามา ดิฉันก็ตอบว่า "จะตื่นเต้นทำไม เค้าโทร.หาแกนี่ ไม่ได้โทร.หาฉัน"
พอเธอยื่นโทรศัพท์ให้ดูเบอร์ที่โทร.เข้ามา ดิฉันก็จำไม่ได้หรอก เพราะไม่เคยจำเบอร์ใครเลย แต่รู้ว่าคล้ายเบอร์แม่ก็เลยกดดูเบอร์แม่ในเครื่องตัวเอง (ทำไมดิฉันยังไม่ลบเบอร์แม่ออกไปก็ไม่รู้?)
ดิฉันรู้แล้วล่ะว่าเบอร์ที่โทร.ไปหาเพื่อนนั้นไม่ใช่แม่หรอก แค่ 4 ตัวหน้าเหมือนกัน ตัวเลขที่เหลือก็คล้ายๆ เพื่อนดิฉันคงสับสน...
แต่...ดิฉันจะยังไม่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนหรอก คิดว่าจะปล่อยให้เธอเข้าใจว่าแม่ฝากให้ดูแล ให้เธอทำตัวน่ารักๆกับดิฉัน ไม่ชวนไปเตร็ดเตร่เถลไถลที่ไหนไปซักพักก่อนดีกว่า...อย่างนี้ไม่ผิดศีลใช่มั้ยคะ?
~...จุ๊...จุ๊...รู้แล้วก็เหยียบไว้นะคะ อย่าไปบอกเธอล่ะ...~
Create Date : 29 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 1 มกราคม 2551 20:21:55 น. |
Counter : 466 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
~...ทำดีที่สุดแล้ว...จริงหรือ?...~
.....คุณเคยทำอะไรซักอย่างไม่สำเร็จมั้ย?.....
คุณคิดว่าได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทุ่มกำลังจนหมดแรงแล้ว แต่...มันก็ไม่สำเร็จ! แล้วสุดท้ายคุณก็อาจจะร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น , ใช้วิธีอื่นที่ง่ายกว่า หรือเลิกทำมันไปเลย...
เมื่อวันเสาร์ดิฉันซื้อลำโพงสำหรับคอมพิวเตอร์มาใหม่ เพราะตัวเก่าที่แถมมากับเครื่องมันไม่ดัง แต่พอเอาอันที่ซื้อมาใหม่มาต่อ...มันก็ไม่ดังเหมือนกัน! เลยลองให้เพื่อนเอาไปต่อกับคอมของเค้า กลับใช้ได้ปกติ...
เมื่อไม่มีทางเลือก ดิฉันก็เลยลองเอาลำโพงอันเก่ามาซ่อมดู จริงๆก็เคยซ่อมเองมาครั้งนึงแล้วล่ะ ก่อนหน้านี้ลำโพงข้างนึงมันไม่ดัง พอแกะออกมาดู ปรากฏว่าสายไฟข้างในขาด ก็จัดการตัดต่อเรียบร้อยก็กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม
แต่วันนึงเจ้าลำโพงข้างนั้นมันก็เกิดไม่ดังขึ้นมาซะอีก คงเป็นเพราะสายที่ต่อไว้หลุด เพราะดิฉันชอบทำมันตกบ่อยๆ แต่คราวนี้ขี้เกียจซ่อม ก็เลยปล่อยมันไว้ ฟังเสียงด้วยลำโพงข้างเดียวก็ได้... วันดีคืนดีเจ้าลำโพงข้างที่เหลือมันคงจะน้อยใจว่าต้องทำงานอยู่คนเดียว เลยหยุดส่งเสียงซะเลย...คราวนี้ก็ต้องลงมือซ่อมแล้วล่ะ
ลองซ่อมข้างที่ยังไม่เคยซ่อมก่อน พยายามไขน๊อตเพื่อจะเปิดดูข้างในยังไงก็ไขไม่ออก น๊อตตัวเล็กๆ ต้องใช้ไขควงเล็กทำให้จับไม่ถนัด พยายามไขอยู่นานมากจนเจ็บมือเลยเอาไปให้คนงานที่บ้านช่วยไขให้ เค้าก็ไขไม่ออกเหมือนกัน...ก็เลยคิดว่าช่างมัน ซื้อใหม่ก็ได้เพราะอีกข้างก็ซ่อมมาแล้วครั้งนึง...
แต่พอซื้ออันใหม่มาแล้วก็ใช้ไม่ได้อย่างที่เล่า วันอาทิตย์ว่างๆ ดิฉันก็เลยไปเอาอันเก่ามาซ่อม... เหมือนเดิมค่ะ เริ่มด้วยการพยายามไขน๊อตทั้ง 3 ตัวให้ออกก่อน แต่คราวนี้รู้แล้วว่าลำพังใช้มือจับด้ามไขควงเล็กๆนั่น ไขไม่ออกแน่นอน เลยเอาประแจเลื่อนมาหนีบที่ด้ามไขควง จับที่ประแจเลื่อนแล้วออกแรงหมุนอีกที ลองอยู่ซักพักค่ะ แล้วมันก็ไขออกจนได้...
ดิฉันดีใจค่ะ แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว แล้วมันก็มีความคิดแว้บเข้ามาว่า ~...ถ้าเราพยายามจริงๆ ก็ทำได้นี่ เอ...แล้วที่ผ่านมาล่ะ อะไรที่เราคิดว่าได้พยายามแล้ว ทำเต็มที่แล้ว ทำดีที่สุดแล้ว...มันเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ? เราทำจนสุดความสามารถแล้วจริงๆเหรอ?...~ ความคิดนี้ก็วนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลาที่นั่งซ่อมลำโพง...
วันนี้ดิฉันทำงานไปพร้อมกับฟังเพลงจากลำโพงคู่เก่าที่ดิฉันซ่อมเอง ...วันจันทร์เป็นวันที่ยุ่งและเหนื่อยมากค่ะ แต่ดิฉันกลับคิดว่า ~...ไม่หรอก เรายังทำได้ เราอดทนกับความเหนื่อยได้มากกว่านี้ นี่มันยังไม่สุดความสามารถของเราหรอก... ~ แล้ววันนี้ดิฉันก็ยังมีแรงมาเล่าเรื่องนี้ให้คุณฟัง โดยไม่เหนื่อยตายซะหน่อย...เห็นมั้ย? ^^~
~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~ มาทำท่าเรียกพลังโนบูตะกันดีกว่า...
เริ่มจากท่าเตรียมพร้อม ยืนแยกขาเท่ากับความกว้างของไหล่ มือทั้งสองข้างท้าวเอว(ถ้ามี)
ขั้นต่อมา ชูนิ้วเป็นตัว " V " แล้วชูแขนขึ้น พร้อมเปล่งเสียง "NOBUTA POWER"
ลดแขนลงมา ให้มืออยู่ระดับสายตา พร้อมบิดสะโพกไปทางซ้าย...ตามภาพ...
ชักศอกพร้อมบิดสะโพกกลับมาทางขวา ส่งเสียงว่า..."จงมา!"
เอาล่ะ...ลองทำอีกที ต่อเนื่องกันไปเลยนะคะ...
นึง...ส่อง...ซ่ำ...
"NOBUTA POWER จงมา!"
~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~
ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...เพราะงี๊แหล่ะ ดิฉันถึงไม่ยอมบอกเพื่อน , ญาติ หรือคนรู้จักคนไหนๆว่าดิฉันเขียนblog...
Create Date : 26 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 1 มกราคม 2551 20:22:14 น. |
Counter : 1750 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"พี่ครับ...พี่นอนในตู้เย็นจริงๆเหรอ...(o_O)?!?"
เมื่อหัวค่ำไปทานข้าวแล้วเพื่อนจะซื้อตู้เย็นใหม่ ก็เลยไปเดินดูกัน เพื่อนดิฉันสนใจรุ่นที่กลับเอาช่องแช่แข็งลงมาไว้ข้างล่าง แล้วเอาช่องแช่ธรรมดาไว้ด้านบน มีพนักงานขายเดินตามคอยอธิบายรายละเอียดต่างๆให้ฟัง แต่ดิฉันกับเพื่อนคุยกันแบบนี้ค่ะ...
"6 คิวเล็กไปมั้ย"
"แกนอนดิ้นหรือเปล่าล่ะ"
"งั้นอันนี้ล่ะ 8.5 คิว นอนสบายกว่า"
"นี่ๆ รุ่นนี้ใหญ่ดี เปิดประตูได้ 2 บาน นอนได้ 2 คนเลย เข้าออกง่าย"
"ไม่เอาอ่ะ ฉันชอบนอนคนเดียว"
พนักงานขาย "..........(O_O)a........."
แล้วเราก็เดินดูไปเรื่อยๆ โดยมีพนักงานขายเดินตามแบบงงๆ...
"เฮ้ย!...รุ่นนี้ช่องแช่แข็งเป็นลิ้นชัก มี 2 อันแน่ะ"
"งี๊ก็ต้องแยกชิ้นส่วนก่อนแช่อ่ะดิ...ไม่เอาหรอก ขี้เกียจล้างเลือด"
พนักงานขาย "..........(o_O)!?!........"
ฮ่า...ฮ่า...มุขตู้เย็นนี่แนะนำให้กลับไปอ่านเรื่อง ~...โถ!...ตู้เย็นที่น่าสงสาร...~ ค่ะ
สุดท้ายเพื่อนก็ตกลงใจว่าเอารุ่นที่ช่องแช่แข็งอยู่ข้างล่างนั่นแหล่ะค่ะ พอไปทำเรื่องจ่ายเงินและนัดแนะวันส่งของเรียบร้อย น้องพนักงานขายคงยังไม่หายข้องใจ ตอนที่เราจะลุกออกมาเค้าก็ถามว่า...
"พี่ครับ...พี่นอนในตู้เย็นจริงๆเหรอ?"
ดิฉันกับเพื่อนมองหน้ากัน ทำหน้าแปลกใจ แล้วก็ถามเค้ากลับไปว่า...
"อ้าว! ที่บ้านน้องไม่ได้นอนในตู้เย็นเหรอคะ?"
ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...
.....กลับมาถึงบ้าน ก็มานั่งพิมพ์เล่าเรื่องนี้ ตอนแรกคิดว่าจะไม่วาดรูปประกอบ แต่มันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง ก็เลยคิดว่าวาดอะไรใส่ไปหน่อยดีกว่า
ระหว่างวาดรูปก็คิดว่า ~ทำไมเราต้องทำอะไรมากกว่าคนอื่นๆด้วย แล้วถ้าblogนี้ไม่มีรูปวาด จะยังมีคนเข้ามาอ่านอยู่มั้ยนะ?~
~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~ ~update...สถานการณ์ตู้เย็นวันที่แม่ไม่อยู่แล้ว...และพ่อไปอยู่บ้านพี่ชาย~
น้ำเปล่า : 4 ขวด...ดีขึ้นนะเนี่ย เมื่อก่อนมีแค่ 2 ขวด
น้ำส้ม : 2 กล่อง
ไข่ไก่ : ไม่มี
cold pack : เอ...หายไปไหนหว่า?
แอ๊ปเปิล : 3 ลูก
ฝรั่ง : ไม่มี...กำลังหาอยู่...(^o^)โฮะ...โฮะ...~
dark chocolate 'swiss delice' Noir 72% Cacao : 1 ห่อ (ตั้งแต่ปีที่แล้ว)
ในช่องแช่แข็ง : ว่างเปล่า!
ลิสเตอรีน : แช่เย็นๆ เวลาอมสนุกดี...อ้า~
~หมดแล้ว...สถานการณ์ไม่ดีขึ้นเลยแฮะ!~
~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~
Create Date : 22 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 1 มกราคม 2551 20:22:36 น. |
Counter : 709 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
( ^o^)~...สุขสันต์วันบ๊ะจ่าง...~
เช้านี้เพื่อนบ้านดิฉันเอาบ๊ะจ่างมาให้ 3 ลูก แล้วก็บอกว่าวันนี้เป็น "วันไหว้บ๊ะจ่าง"
ดิฉันไม่ใช่คนจีนค่ะ แต่ดิฉันชอบบ๊ะจ่างและชอบวันนี้จังเลย...^^~
...สุขสันต์วันบ๊ะจ่างค่ะ...(@^ ^@)~
~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~
วันนี้ฟังเพลงจีนกันดีกว่า ชอบทำนอง , เสียงร้อง ดนตรีด้วยค่ะ เพราะว่าฟังเนื้อเพลงไม่ออก(ฮา)...
ชื่อนักร้อง : 萧贺硕 feat. 古皓
ชื่อเพลง : Hello, my friend!
hello, my friend! it's me again. 不知不觉来到你的门前 我知道见到你会有温热的泪 走在迷宫般的城市让人有点疲惫
hello, my friend! i see, i care. 为你准备最幽默的语言 我会耐心听你说让你吐吐苦水 就算肩膀微微颤动 还有我在身边
dear friend, dear friend 常忘了对你说声谢谢 默契总妙不可言 一个眼神就了解 尽情搞笑聊天 常常忘了时间
dear friend, dear friend 感谢你总陪伴在我身边 自然率真的一面 才不怕被你看见 约定到八十岁 还要唱这首hello, my friend
hello, my friend~
~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~*+..+*~
Create Date : 19 มิถุนายน 2550 | | |
Last Update : 1 มกราคม 2551 20:22:57 น. |
Counter : 1636 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|